ภาค 5 ผู้ขี่มังกรสู่ฟากฟ้า บทที่ 416 รุ้งกางเขนในบึงทะเลมายา!

ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี

สวีเฟยส่ายศีรษะ “ข้านับเป็นม้าแก่ชำนาญทางได้อย่างไร ก็แค่เคยผ่านรอบนอกเท่านั้น คิดจะหาม้าแก่ชำนาญทางของบึงทะเลมายาจริงๆ คงได้แต่ต้องหาที่หอคลื่นโหมเท่านั้น”

เยี่ยนจ้าวเกอกล่าวด้วยรอยยิ้ม “อย่างไรก็ดีกว่าคนที่มาแค่ครั้งเดียวอย่างพวกข”

อีกฝ่ายเดินนำหน้า พร้อมกับพูดไปด้วย “เอาเป็นว่าระวังไว้ให้ดี อย่าพลัดหลงกับกลุ่ม

“ในบึงทะเลมายามีโลกมายาดำรงอยู่ สิ่งที่แปลกประหลาดและรับมือยากที่สุดก็คือ ส่วนใหญ่แล้วจะแยกแยะไม่ออกว่าสิ่งไหนจริง สิ่งไหนปลอม”

“บางครั้งเมื่อไปอยู่ในโลกมายาแล้ว ทว่าตนเองกลับไม่รู้ตัว นี่เป็นสาเหตุหลักที่คนส่วนใหญ่ตายอยู่ในโลกมายา เมื่อได้สติตื่นขึ้นมาก็ติดอยู่ในตมเสียแล้ว ทับถมกันยากจะหวนกลับ” สวีเฟยกล่าว “ดังนั้นการช่วยเหลือกันจึงเป็นสิ่งสำคัญยิ่ง”

ชายหนุ่มพยักหน้า “ท่านเปิดทาง ข้าระวังหลังให้”

สวีเฟยขานรับ ก่อนจะดึงเชือกใหญ่เส้นหนึ่งออกมา เขาจับปลายด้านหนึ่ง ส่วนเยี่ยนจ้าวเกอจับปลายอีกด้านหนึ่งไว้ เฟิงอวิ๋นเซิง อาหู่ และอิงหลงถู่จับตรงกลางเชือก

เขาเดินนำหน้าจุดธูปขึ้นดอกหนึ่ง นั่นเป็นสิ่งที่ได้มาจากหอคลื่อนโหม ใช้ขับไล่หมอกลวงในบึงยักษ์

ถึงแม้ไม่อาจแก้ไขการคุกคามจากโลกมายาได้ทั้งหมด แต่ก็มีประโยชน์ไม่น้อย โดยเฉพาะตอนนี้เป็นช่วงเวลาสิบปีพอดิบพอดี โลกมายาอ่อนกำลังอย่างถึงที่สุด

ทุกคนเดินทาง พยายามแยกแยะทิศทางและตำแหน่ง มุ่งหน้าไปยังอาณาเขตที่สายรุ้งกางเขนอยู่

เยี่ยนจ้าวเกอจับปลายสุดของเชือก เดินรั้งท้าย มองรอบๆ และมองพวกเฟิงอวิ๋นเซิง อาหู่ และอิงหลงถู พร้อมกับจับตาดูสภาพแวดล้อมที่อยู่ใกล้ๆ

ในบึงทะเลมายาใช่ว่าจะไม่มีสิ่งมีชีวิตอยู่ สัตว์หายากจำนวนมากดำรงชีวิตอยู่ที่นี่

สัตว์เหล่านี้เคยชินกับโลกมายาในบึงยักษ์มานานแล้ว หลายครั้งมักทำให้คนแยกแยะไม่ออกว่ามันเป็นของจริงหรือของปลอม

นอกจากโลกมายา สัตว์ที่ดุร้ายจำนวนมากก็ส่งผลคุกคามร้ายแรงเช่นกัน โดยเฉพาะเมื่ออยู่ในโลกมายา ก็ยิ่งป้องกันได้ยาก

ชายหนุ่มสำรวจรอบบริเวณ เห็นหมอกสีเทากลุ่มใหญ่แผ่กระจายอยู่ระหว่างฟ้าดิน

เขาเห็นฝุ่นควันสีน้ำเงินม้วนขึ้นมาจากในหนองน้ำรางๆ ผสมเข้ากับหมอกสีเทา ให้ความรู้สึกพิกลนัก

ทีแรกเข้ามาในบึงทะเลมายาก มีการช่วยเหลือจากธูปที่สร้างขึ้นพิเศษของสวีเฟย ทุกคนจึงไม่รู้สึกถึงความผิดปกติใดๆ

แต่เมื่อเวลาผ่านไป หลังจากเดินทางอยู่ด้านในได้สิบกว่าวัน พวกเยี่ยนจ้าวเกอก็รู้สึกได้ยอย่างชัดเจน ว่าหมอกในบึงยักษ์ด้านหน้ายิ่งมายิ่งหนา

ถึงแม้จะเตรียมพร้อมไว้อยู่แล้ว แต่ภาพมายาที่มาในทุกรูปแบบก็เริ่มโอบล้อมทุกคน

สถานการณ์ที่ทุกคนได้เจอแตกต่างกันโดยสิ้นเชิง ยังดีที่เตรียมตัวไว้แต่แรก ระวังหัวระวังท้าย ดูแลซึ่งกันและกัน ช่วยกันประคับประคองก้าวไปด้านหน้า

หลังจากสนทนากันเรียบร้อย เยี่ยนจ้าวเกอก็พบว่าภาพมายาที่ทุกคนเจอ ล้วนมิได้เกิดขึ้นมาเอง แต่เกิดขึ้นในใจ และมีส่วนเกี่ยวข้องกับตัวเอง

ไม่ว่าจะเป็นเยี่ยนจ้าวเกอที่มีพลังฝึกปรือสูงที่สุด หรืออิงหลงถูที่มีพลังฝึกปรือต่ำที่สุด ล้วนมีสถานการณ์คล้ายกัน ภาพมายาเหล่านี้ไม่เลือกว่าใครมีจิตใจบริสุทธิ์ ทุกคนล้วนหลีกเลี่ยงไม่พ้น

ถึงแม้พลังฝึกปรือของหลงเอ๋อร์จะต่ำสุด แต่อย่างไรก็เป็นร่างจิตนภา จิตใจของเขาสะอาดบริสุทธิ์ยิ่ง

แต่ก็ยังถูกก่อกวนเพราะภาพมายา เกิดความรู้สึกหลอนว่าบิดามารดายังมีชีวิตอยู่

ผู้ที่มีระดับฝึกปรือระดับมหาปรมาจารย์ขั้นซ่อนระยะชั้นกลางเช่นสวีเฟย แม้เขาจะมีความตั้งใจแน่วแน่ จิตใจมั่นคง แต่ก็เกิดภาพมายาเบื้องหน้าเช่นกัน

มีภาพที่ตนสิ้นสูญสิ้นทุกอย่าง ออกจากบ้านด้วยตัวคนเดียว ภาพที่ได้พูดคุยกับอาจารย์ผู้มีพระคุณสือเถี่ยก็ปรากฏขึ้นตลอดเวลาเช่นกัน ภาพที่เห็นสือเถี่ยตายในการต่อสู้ อันเป็นความทรงจำที่เจ็บปวดและทุกข์ทนที่สุดในชีวิต ยิ่งปรากฏออกมาอย่างต่อเนื่อง ราวกับมีมีดเล่มแล้วเล่มเล่าเฉือนหัวใจของสวีเฟย จนเลือดสดๆ ไหลริน

ด้านหน้าเฟิงอวิ๋นเซิงยิ่งปรากฏภาพที่ไม่อยากจะนึกถึงมากมาย

ความตั้งใจที่เพิ่งเข้าสำนักสุริยันศักดิ์สิทธิ์ตอนยังเป็นเด็ก รวมถึงการได้รับบาดเจ็บเหนือความคาดหมาย ที่เปลี่ยนแปลงชะตาชีวิตของนาง ณ ปฐพีพิภพ ไปจนถึงการหนีออกจากสำนักเพราะเซียวเซิงและพานป๋อไท่ การต่อสู้ตามทาง รวมถึงการเดินทางนับหมื่นลี้ด้วยตัวคนเดียว

มีภาพมายาบางภาพที่ชั่วร้ายเป็นพิเศษ เพราะสามารถบิดเบือนความทรงจำของคนได้ ก่อให้เกิดภาพที่ตรงข้ามกับความเป็นจริงขึ้นมา แต่ว่าภาพปลอมเหล่านี้สมจริงเป็นอย่างยิ่ง คล้ายกับทำให้คนเจอกับชีวิตอีกชีวิตหนึ่ง

ในภาพมายา เฟิงอวิ๋นเซิงมิได้บาดเจ็บในการทดสอบแห่งจันทรา สุดท้ายนางเอาชนะสตรีทั้งหมดในการทดสอบครั้งแรก ได้สวมมงกุฎจันทราที่เฝ้าปรารถนามาโดยตลอด

ได้เห็นภาพมายาที่ถูกอาจารย์ของตนเองทรยศหักหลัง สุดท้ายถูกพานป๋อไท่จับกุม

ได้เห็นภาพหนีตายหลังจากหนีออกจากสำนักได้ สุดท้ายยังถูกคนในสำนักสุริยันศักดิ์สิทธิ์สับศพเป็นชิ้นๆ อยู่ดี

ได้เห็นภาพมายาที่ถึงแม้จะได้รับการช่วยเหลือจากเยี่ยนจ้าวเกอ แต่จันทรากายก็มิอาจฟื้นกลับมาได้อีก

ภาพมายาอันหลอกหลวงหลากหลาย คล้ายกับถูดยัดใส่ในความทรงจำที่เป็นความจริงหลายช่วงหลายตอนในห้วงสมองของเฟิงอวิ๋นเซิง ทำให้แยกแยกไม่ออกว่าสิ่งไหนคือเรื่องที่ตนเคยเจอมาจริงๆ กันแน่

เยี่ยนจ้าวเกอก็มีสถานการณ์คล้ายกับ แต่หากจะพูดให้ถูกต้อง ภาพมายาที่เกิดขึ้นในสมองของเขาแปลกประหลาดกว่านัก ท่ามกลางภาพมากมาย บางภาพเป็นเรื่องที่ตนปรารถนาแต่มิอาจเป็นจริง มีภาพอันสวยงามที่ทำให้ลุ่มหลงจนไม่อยากจะตื่นขึ้นมา

บางภาพเป็นเรื่องที่ตนกลัวและกังวลที่สุดว่าจะกลายเป็นจริง เพราะมันอาจทำให้หัวใจของเขาแหลกสลาย ยากจะรับได้

เขาสงบจิตใจของตัวเองครั้งแล้วครั้งเล่า กำจัดความคิดฟุ้งซ่าน ดิ้นรนจากพันธนาการและการรบกวนจากโลกมายา

อดีตทับซ้อนกันเข้ามา คนมากมายปรากฏขึ้นเบื้องหน้าตนเอง จากนั้นก็ค่อยๆ หายไป สลับกันไม่หยุดยั้ง

หลังจากสลักภาพปีศาจอัคคีบุรุกที่ทะเลตะวันออก และตนลองใช้ซากมังกรน้ำแข็งสัมผัสกับเจดีย์สีแดง แต่สุดท้ายกลับล้มเหลวจนตนเองถูกสังหารได้แล้ว เยี่ยนจ้าวเกอก็ส่ายศีรษะเล็กน้อย จิตใจกลับคืนสู่สภาพเดิม เขามุ่งไปข้างหน้าต่อ

ขณะที่เดินไปเรื่อยๆ เยี่ยนจ้าวเกอพลันรู้สึกว่าหมอกลวงตรงหน้ายิ่งมายิ่งหนา ยื่นมืออกไปไม่เห็นนิ้วทั้งห้า

แผ่นหลังของอิงหลงถูที่อยู่ใกล้ตนเองมากที่สุดค่อยๆ ลางเรือน ร่างกายสูงใหญ่ของอาหู่ที่อยู่เบื้องหน้าก็ไม่เห็นเงา

เยี่ยนจ้าวเกอขมวดคิ้ว เรียกอิงหลงถู แต่เด็กหนุ่มด้านหน้าไม่ตอบสนอง สักพักหนึ่งร่างก็ถูกครอบคลุมในหมอกลวงโดยสิ้นเชิง มองไม่เห็นอะไรอีก

เชือกที่ตึงมาโดยตลอดพลันคลายลง

ชายหนุ่มก้มหน้าลงมอง เห็นเชือกในมือของตนขาด เหลือแต่เพียงครึ้งสั้นๆ ที่หล่นลงด้านล่างอย่างไร้แรง

“หือ?” เยี่ยนจ้าวเกอไม่สับสน เขาตั้งสติมั่น เดาว่านี่คือโลกมายาอีกครั้ง

แต่ว่าไม่รอให้เขาเตรียมตัว หมอกลวงที่ครอบคลุมบึงยักษ์เบื้องหน้าก็พลันสลายตัว ทั่วบริเวณขาวโพลนในชั่วพริบตา

ขณะที่ฟ้าดินสั่นไหว เยี่ยนจ้าวเกอเงยหน้าขึ้นเห็นมือยักษ์ข้างหนึ่งฟาดลงมา!

ม่านตาของเยี่ยนจ้าวเกอค่อยๆ หดลง

นั่นมิใช่ฝ่ามือทั่วไป

มหาภัยพิบัติที่อยู่ในความทรงจำของเยี่ยนจ้าวเกอ นั่นเป็นฝ่ามือยักษ์ที่ตบใส่วังเทพ!

ดวงตาของเยี่ยนจ้าวเกอสาดประกายสงสัย มองฝ่ามือข้างนี้

ภาพของฟ้าดินเบื้องหน้าโคลงเคลงเบาๆ ฝ่ามือร่วงลงกลางทาง หายไปอย่างฉับพลัน หมอกลวงลอยขึ้นมาใหม่ แต่ไม่ได้หนาเช่นเดิม

เยี่ยนจ้าวเกอมองไป เห็นรุ้งกินน้ำขนาดใหญ่สองสายตัดกันในแนวนอนแนวขวาง ทะลุผ่านฟากฟ้าไป

สายรุ้งกางเขน!