แดนนิรมิตเทพ บทที่ 799
งานมิตรภาพเทศกาลไหว้พระจันทร์ เป็นการแลกเปลี่ยนความรู้ของนักศึกษาประจำปีของมหาวิทยาลัยหัวหนาน จัดขึ้นทุกปีในช่วงเทศกาลไหว้พระจันทร์ ทางมหาวิทยาลัยจะจัดสถานที่ให้ ส่วนนักศึกษามาร่วมงานตามความสมัครใจ

ถึงแม้ว่าจะเป็นการร่วมงานตามความสมัครใจ แต่โดยพื้นฐานแล้วนักศึกษาทุกคนจะมาร่วมงาน เพราะไม่มีนักศึกษาคนไหนอยากพลาดโอกาสในการแลกเปลี่ยนความรู้กับนักศึกษาทั้งมหาวิทยาลัย

แน่นอนว่าสิ่งสำคัญที่สุดคืองานมิตรภาพเทศกาลไหว้พระจันทร์มีรายการพิเศษ นั่นก็คืองานเต้นรำ

นักศึกษาชายทุกคนสามารถเชิญนักศึกษาหญิงไปเต้นรำกับตนเองได้ และแน่นอนว่านักศึกษาหญิงก็มีสิทธิ์ที่จะปฏิเสธเช่นกัน

เพียงแต่ในสถานที่สาธารณะเช่นนี้ โดยเฉพาะต่อหน้าทุกคนแล้ว นักศึกษาหญิงที่ปฏิเสธนักศึกษาชายนั้นมีน้อยมาก

เพราะมันเป็นแค่การเต้นรำเพลงเดียวเท่านั้น การปฏิเสธนั้นทำร้ายน้ำใจคนอื่นมากเกินไป

งานมิตรภาพเทศกาลไหว้พระจันทร์คราวนี้ ยังคงจัดขึ้นที่สตูดิโอซ้อมเต้นของมหาวิทยาลัยเหมือนเมื่อเดิม

หลังจากทานอาหารเย็นแล้ว นักศึกษาเริ่มทยอยมาที่สตูดิโอซ้อมเต้นแล้ว

สมาชิกของหอพักห้อง 306 ไม่มีข้อยกเว้นเช่นกัน

หลังจากทานอาหารเย็นแล้ว จี๋ต๋าจิ่วตูเริ่มตะโกนว่า “ไป ตอนนี้นักศึกษาไปที่สตูดิโอซ้อมเต้นมากมายแล้ว พวกเราก็ไปกันเถอะ ถ้าไปถึงเร็วก็จะได้ที่นั่งดี ๆ”

ห่าวเจี้ยนถามทันทีว่า “ไอ้อ้วน เสี่ยวถิงมาหรือยัง?”

จี๋ต๋าจิ่วตูเบิกตากว้าง “ไสหัวออกไป!”

เหวินถิงอี้ถอนหายใจและกล่าวว่า “เฉินโม่ยังไม่กลับมาเลย ดูเหมือนว่าเขาจะมาไม่ทันงานมิตรภาพเทศกาลไหว้พระจันทร์แล้ว”

กู่หลินเฟิงกล่าวอย่างครุ่นคิด “บางทีเขาอาจมีบางอย่างจนทำให้ล่าช้า”

เจี่ยจวินซื่อกล่าวว่า “งั้นพวกเราก็ไม่ต้องสนใจเขาแล้ว พวกเราไปสนุกกันเถอะ”

“ถูกต้อง พวกเราไปสนุกกันเถอะ เพราะถ้าไอ้เบื๊อกเฉินอยู่ เขาจะแย่งซีนพวกเราอีกแน่นอน การที่เขาไม่อยู่มันก็ดีแล้ว!” จี๋ต๋าจิ่วตูกล่าวด้วยรอยยิ้มชั่วร้าย

ห่าวเจี้ยนกล่าวว่า “นายกล้ายิ้มแบบนี้ต่อหน้าเสี่ยวถิงไหม?”

จี๋ต๋าจิ่วตูหุบปากแล้วจ้องห่าวเจี้ยนด้วยสายตาดุดัน

ตอนนี้พวกเขาเดินมาถึงสตูดิโอซ้อมเต้นแล้ว และตอนที่พวกเขาอยู่ที่ประตู พวกเขาได้พบมู่หรงยานเอ๋อร์ที่สวมชุดสีขาวยาวและผมยาวคลุมไหล่

“ว้าว นั่นคุณหนูยานเอ๋อร์!” ดวงตาของจี๋ต๋าจิ่วตูเป็นประกายขึ้นมาทันที

มู่หรงยานเอ๋อร์เห็นพวกเขาเช่นกัน เธอรีบเดินมาและถามว่า “เฉินโม่ไม่ได้มาพร้อมพวกคุณเหรอ?”

“ครับ” จี๋ต๋าจิ่วตูตอบเบา ๆ “เฉินโม่ไม่ได้มาเรียนหลายวันแล้ว เขาอาจมีธุระบางอย่าง!”

มู่หรงยานเอ๋อร์รู้สึกหดหู่ทันที

“คุณหนูยานเอ๋อร์ คุณจะเข้าไปพร้อมกับพวกเราไหม? บางทีอีกสักครู่เฉินโม่อาจจะมาก็ได้” เจี่ยจวินซื่อกล่าว

มู่หรงยานเอ๋อร์รู้สึกมีความหวัง พยักหน้าและกล่าวว่า “โอเค!”

สตูดิโอซ้อมเต้นตกแต่งไว้ล่วงหน้าแล้ว จัดที่นั่งเป็นวงกลม และเว้นที่ว่างตรงกลางเป็นวงกลม มีไฟกลมกะพริบหลากสีห้อยอยู่ด้านบน

พื้นที่ของสตูดิโอซ้อมเต้นใหญ่พอที่จะรองรับคนได้ทั้งมหาวิทยาลัย

“ดูนั่นสิ เสิ่นเจี้ยนเหวินก็มาด้วย!” จี๋ต๋าจิ่วตูและคนอื่น ๆ ที่นั่งอยู่บนเก้าอี้ มองเสิ่นเจี้ยนเหวินที่สวมชุดทักซิโด้สีขาว เดินเข้ามาพร้อมกับลูกน้องหลายคน
“มาก็มาสิ ถึงแม้เฉินโม่จะไม่อยู่ แต่ก็ยังมีไอ้กู่อยู่ จัดการเขาไม่ใช่ปัญหาอยู่แล้ว” ห่าวเจี้ยนกล่าวอย่างไม่เห็นด้วย
“พวกนายคอยมองว่าพวกเขานั่งที่ไหน”จี๋ต๋าจิ่วตูกล่าว
เสิ่นเจี้ยนเหวินเหลือบมองไปทั่ว จากนั้นเดินตรงไปยังทิศทางที่เล่หรูหั่วนั่งอยู่
“เจ้าหมอนี้ยังไม่เลิกตอแยเล่หรูหั่วอีก? เขาไม่กลัวหยุนเทียนหลิงจะจัดการเขาเหรอ!” ห่าวเจี้ยนกล่าวพึมพำด้วยความไม่พอใจ
“อย่าไปสนใจเขา พวกเราไม่สามารถยุ่งเรื่องนี้ได้หรอก” เจี่ยจวินซื่อกล่าว
หลังจากหยุนเทียนหลิงปรากฏตัวคราวก่อน เจี่ยจวินซื่อได้ใช้พลังอำนาจของตระกูลตรวจสอบสถานะของหยุนเทียนหลิง หลังจากรู้สถานะของหยุนเทียนหลิงแล้ว เจี่ยจวินซื่อก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกกลัวเล็กน้อย
เขาไม่ต้องการให้รูมเมทของตนเองที่ไม่รู้ความจริง ไปล่วงเกินหยุนเทียนหลิง