เดบร้า เกเบิล เจ้าสำนักพรานคนที่ 36! เธอยังคงงดงามถึงแม้ว่าเธอจะมีอายุ 30 ปีแล้ว! ระดับการบ่มเพาะของเธออยู่ในจักรพรรดิยุทธ์ขั้นสาม!

อย่างไรก็ตาม ที่เธอมีชื่อเสียงนั้น ไม่ใช่เพราะพลังของเธอแต่เป็นเพราะพรสวรรค์อันน่าทึ่งของเธอ

เดบร้า เกเบิลเป็นที่รู้จักในฐานะผู้หญิงที่มีความสามารถมากที่สุด เธอมีความชำนาญเกี่ยวกับดาราศาสตร์ ภูมิศาสตร์ หมากรุก ดนตรี ศิลปะ และวรรณคดี ไม่มีอะไรที่เธอทำไม่ได้ ในวัยเดียวกับเธอ ไม่มีใครสามารถเทียบเทียมเธอได้เลย!

แดร์ริลรู้สึกตกตะลึงหลังจากได้การเห็นเพียงแค่ครั้งเดียว เขาไม่สามารถละสายตาจากเธอได้เลย เขาสูดหายใจเข้ายาว ๆ

เดบร้านั่งอยู่บนบัลลังก์ฟีนิกซ์ด้วยผ้าคลุมผืนบางที่อยู่ตรงหน้าเธอ แดร์ริลไม่สามารถมองเห็นใบหน้าของเธอได้อย่างชัดเจน แต่เขาสัมผัสได้ถึงออร่าอันสง่างามของหญิงสาวผู้นี้

“นายกล้าดียังไงถึงไม่ยอมคุกเข่าลงต่อหน้าเจ้าสำนักของเรา?” ไซม่อน ครีเซนต์ ก้าวออกมาข้างหน้าและตำหนิเขา

ไซม่อนตกใจมาก เพราะเขาไม่คิดว่าปราชญ์ดอกชบาปีนี้คือ แดร์ริล!

เขายอมรับว่าแดร์ริลมีพรสวรรค์ด้านบทกวี ตั้งแต่ที่แดร์ริลสามารถเอาชนะเขาในการแข่งขันร่ายบทกวีที่เมืองไห่ได้ อย่างไรก็ตาม ความเป็นจริงที่ว่าภรรยาของเขาจะต้องยอมรับแดร์ริลในฐานะอาจารย์ของเธอต่อหน้าทุกคน มันเหมือนกับการโดนทิ่มแทงลงไปภายในหัวใจของเขา เขาเกลียดแดร์ริลมาก!

“คุกเข่าลงต่อหน้าเจ้าสำนักของเราเดี๋ยวนี้!” ไซม่อนตะโกนขึ้นด้วยดวงตาที่แดงก่ำ

‘คุกเข่าเหรอ?’ แดร์ริลหัวเราะเบา ๆ ในขณะที่เขายังคงยืนตัวตรง

ในเวลาเดียวกัน เสียงของเดบร้าก็เล็ดลอดออกมาจากด้านหลังของผ้าม่านผืนบาง “ท่านผู้อาวุโส แดร์ริลไม่ใช่ลูกศิษย์ของสำนักพราน ดังนั้น จึงไม่จำเป็นที่เขาจะต้องคุกเข่าลงต่อหน้าฉัน”

เสียงของเธอเบาบางแต่เด็ดขาด

“รับทราบครับ ผมขอโทษที่ผมทำเกินไป” ไซม่อนก้มหน้าลงและถอยหลังกลับไป

ในฐานะเจ้าสำนัก พลังของเดบร้านั้นปกครองเหนือพวกเขาทั้งหมด ทุกคำที่เธอเอ่ยออกมาเทียบได้กับพระบัญญัติอันศักดิ์สิทธิ์สำหรับสาวกเหล่านั้น

แดร์ริลสูดหายใจเข้ายาว เขาสรรเสริญเธออยู่ภายในใจอย่างเงียบ ๆ แม้ว่าเจ้าสำนักจะเป็นผู้หญิงแต่เธอก็มีออร่าที่แข็งแกร่งเป็นอย่างยิ่ง

ดวงตาของแดร์ริลจ้องมองไปที่ซัมเมอร์ “ศิษย์ของฉัน เธอเห็นฉันแล้วแต่ทำไมเธอถึงไม่ทักทายอาจารย์ของเธอ?”

‘ฮ่า ฮ่า! ไซม่อน นายอยากจะทำให้ฉันอับอายเหรอ? ถึงตาฉันที่จะต้องเอาคืนนายให้บ้างแล้ว‘

ตามที่คาดการณ์ไว้ ทุกคนต่างก็ตกตะลึงทันทีที่เขาพูดเช่นนั้น

ซัมเมอร์เป็นลูกศิษย์ของเขาเหรอ?

ซัมเมอร์มีทัศนคติที่หยิ่งผยองยิ่งนัก แต่เธอกลับเต็มใจเป็นลูกศิษย์ของเขาได้อย่างไร? เป็นไปได้อย่างไร?

ไซม่อนกัดฟันและกำหมัดแน่นจากความอัปยศอดสู ที่แดร์ริลพูดเรื่องนี้ขึ้นมา

ซัมเมอร์เองก็กัดริมฝีปากของเธอ เธอตัวสั่นด้วยท่าทางที่น่าอึดอัดใจ เธอไม่รู้ว่าควรจะตอบสนองเช่นไร แต่ในที่สุดเธอก็พูดออกมาด้วยความตื่นตระหนก “ทะ…ท่านอาจารย์!”

ใบหน้าที่งดงามของเธอแดงก่ำในขณะที่เธอตะโกนคำเหล่านั้นออกมาด้วยความอัปยศอดสู

เดบร้าที่อยู่ด้านหลังผ้าม่านพูดช้า ๆ “ไซม่อน ซัมเมอร์ พวกท่านทั้งสองคนรู้จักแดร์ริลเหรอ?”

คนอื่น ๆ ต่างก็จ้องมองไปที่ไซม่อนด้วยความอยากรู้อยากเห็น

“นี่… เอ่อ…” ไซม่อนพูดติดอ่างอย่างงุ่มง่าม

เป็นเรื่องน่าอับอายที่จะพูดถึงความจริงที่ว่า เขาแพ้แดร์ริลในการแข่งขันร่ายบทกวีในเมืองไห่ แล้วเขาจะบอกทุกคนว่าอย่างไรดีล่ะ?

ด้วยความเขินอายของเขา แดร์ริลยิ้มเยาะและพูดอย่างช้า ๆ ว่า “ท่านผู้อาวุโสครีเซนต์ มีอะไรให้คุณต้องอายอีก? ก่อนหน้านี้ คุณแพ้การแข่งขันร่ายบทกวีให้กับผมที่เมืองไห่และเดิมพันที่เราวางไว้ก็คือ ภรรยาของคุณจะต้องยอมรับผมเป็นอาจารย์ของเธอ ในฐานะผู้อาวุโสนิกายสำนักพราน ผมค่อนข้างแน่ใจว่าคุณคงไม่ได้มีความจำที่แย่นะ ผ่านไปเพียงแค่ไม่กี่วัน คุณลืมมันไปหมดแล้วเหรอ?”

“แก…” ไซม่อนโกรธเกินกว่าที่จะพูดอะไรออกมาได้ เขาจ้องเขม็งไปที่แดร์ริล เขาโกรธและอับอายในเวลาเดียวกันและสิ่งที่เขาต้องการมากที่สุด คือการขุดหลุมและฝังตัวเองลงไปภายในหลุม

อะไรนะ?

ผู้อาวุโสพ่ายแพ้ต่อชายผู้นี้?

ผู้อาวุโสคนอื่น ๆ ต่างก็งุ่นงงกับคำพูดของแดร์ริล พรสวรรค์ของไซม่อนนั้นเป็นที่ทราบกันดีภายในสำนักพราน ที่แม้แต่เดบร้าเองก็ยังชื่นชม!

นักกวีผู้เก่งกาจเช่นนี้กลับต้องพ่ายแพ้ให้แก่ใครก็ไม่รู้?

จากนั้น พวกเขาก็เข้าสู่การสนทนาที่ดุเดือด