คุณสามี แห่ง ปาฏิหาริย์ บทที่ 791
“แดร์ริล ฉันได้ยินมาว่าคุณเป็นผู้ชนะในการแข่งขันร่ายบทกวีแต่คุณกลับปฏิเสธที่จะรับตำแหน่ง ‘ปราชญ์ดอกชบา’ บอกฉันได้ไหมว่าทำไม?” เดบร้าเอ่ยถามแดร์ริลผ่านผ้าม่านผืนบาง

แดร์ริลตอบด้วยรอยยิ้ม “ฉันลแต่งบทกวีนั้นขึ้นมาเฉย ๆ เมื่อตอนที่ฉันบังเอิญผ่านไปที่นั่น มันจึงไม่สำคัญว่าฉันจะได้รับตำแหน่งหรือไม่”

‘อะไรนะ?’

‘เขาแต่งขึ้นมาเฉย ๆ?’

คำพูดของเขาทำให้ผู้อาวุโสสำนักพรานหลายร้อยคนต่างก็พากันประหลาดใจในขณะที่หัวใจของพวกเขาร้อนรุ่มอยู่ภายใน

ความอ่อนน้อมถ่อมตนเป็นคุณธรรมที่ดีนอกเหนือจากการมีพรสวรรค์

‘เขารู้หรือไม่ว่าเขากำลังคุยกับเจ้าสำนักพราน ผู้หญิงที่เก่งที่สุด!’

ทุกคนต่างก็ตกตะลึงและครุ่นคิดอยู่ภายในใจ ‘แดร์ริลไม่รู้จักกาลเทศะและไม่รู้จักอ่อนน้อมถ่อมตน เขาเป็นชายหนุ่มที่ซื่อบื้อ

ไซม่อนที่ยืนอยู่ข้าง ๆ เองก็เยาะเย้ยอยู่ภายใต้ลมหายใจของเขา

‘แดร์ริลบังอาจพูดกับเจ้าสำนักพรานโดยปราศจากความอ่อนน้อมถ่อมตน’

ไซม่อนก้าวไปข้างหน้าและมองไปที่แดร์ริลด้วยรอยยิ้มแปลก ๆ เขากล่าวขึ้นว่า “นายกำลังจะพูดว่า การเขียนบทกวีนั้นง่ายเกินไปเหรอ? นายรู้หรือไม่ว่ามีนักวิชาการกี่คนที่ต้องการเข้าร่วมในการแข่งขันร่ายบทกวี นายยังมีหน้ามาบอกว่านายได้รับรางวัลชนะเลิศจากการที่นายแต่งบทกวีขึ้นมาเฉย ๆ”

แดร์ริลยักไหล่และขัดจังหวะเขาด้วยรอยยิ้มก่อนที่ไซม่อนจะพูดจบ “มันเป็นความจริง ฉันแต่งบทกวีขึ้นมาเฉย ๆ และฉันก็ทำเช่นเดียวกันในตอนที่ฉันชนะนายก่อนหน้านี้นั่นแหละ”

แดร์ริลรู้ดีว่าไซม่อนต้องการเอาชนะเขา

จีเวลกล่าวเสริม “ใช่แล้ว และคุณก็แพ้ให้กับนายท่านของฉันที่เก่งกว่าคุณ!”

“เธอ!”

ไซม่อนรู้สึกได้ถึงอารมณ์มากมายภายในหัวใจของเขา มันเต็มไปด้วยความโกรธและอารมณ์เสีย เขานิ่งเงียบไปชั่วขณะ ร่างกายของเขาสั่นเทาด้วยความโกรธจนแทบจะกระอักเป็นเลือด

ทุกคนรอบตัวต่างก็ขมวดคิ้ว

‘ชายหนุ่มผู้นี้มันบ้า’

แดร์ริลมองตรงในขณะที่เขายิ้มจาง ๆ และนิ่งเงียบ

ความจริงแล้ว แดร์ริลไม่ได้ต้องการที่จะมีปัญหากับไซม่อน แต่ไซม่อนยังคงคิดที่จะจับผิดเขา ดังนั้น แดร์ริลจะแสร้งทำเป็นว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้นได้ยังไง?

เดบร้ายกมือขึ้นเบา ๆ จากนั้นห้องโถงก็เงียบลงทันที

เดบร้าเองก็รู้สึกว่าแดร์ริลหยิ่งผยองเกินไป

แม้ว่าเขาจะชนะเลิศในการแข่งขันร่ายบทกวี แต่เธอก็คิดว่าแดร์ริลควรจะมีความอ่อนน้อมถ่อมตน

“บทกวีใดที่ชนะเลิศในการแข่งขัน? คุณช่วยร่ายมันให้ฉันฟังได้ไหม?” เดบร้าเอ่ยถาม

แดร์ริลยิ้มบาง ๆ เขาตอบอย่างแผ่วเบา “เมื่อเจ้าสำนักต้องการฟัง ดังนั้น ฉันก็จะร่ายมันให้ดัง ๆ ”

แดร์ริลกระแอ่มและเดินวนไปรอบ ๆ จากนั้นเขาก็ประสานมือของเขาเอาไว้ข้างหลังก่อนที่เขาจะส่ายส่ายหน้าเบา ๆ และร่ายบทกวี

“เหนือต้นไม้ที่ห้อมล้อมไปด้วยเถาวัลย์โบราณและนกกาที่โบยบินในยามเย็น

“ภายใต้สะพานมีกระท่อมและลำธารที่ปรากฏให้เห็น

“บนถนนโบราณภายใต้สายลมตะวันตก ม้าตัวหนึ่งวิ่งผ่านอย่างลำเค็ญ

“ตะวันลับขอบฟ้าทิศตะวันตกในยามเย็น

“เผยให้เห็นคนอกหักในต่างแดน!”

หลังจากที่ร่ายบทกวีจบแล้ว แดร์ริลก็มองไปที่เดบร้าด้วยรอยยิ้ม “คุณคิดยังไงกับบทกวีนี้?”

นี่… บทกวีนี้…

ริมฝีปากสีแดงของเดบร้าแยกออกเล็กน้อยในขณะที่เธอพูดซ้ำเบา ๆ

“เหนือต้นไม้ที่ห้อมล้อมไปด้วยเถาวัลย์โบราณและนกกาที่โบยบินในยามเย็น

“ภายใต้สะพานมีกระท่อมและลำธารที่ปรากฏให้เห็น”

ราวกับว่ามันถูกเขียนไว้ทั่วใบหน้าที่สวยงามของเธอจนเธอหมกมุ่นอยู่กับบทกวี! เถาวัลย์โบราณ ต้นไม้ นกกา สะพานลำธาร…ทั้งหมดนี้เป็นเพียงคำง่าย ๆ แต่เมื่อนำมารวมกัน สามารถทำให้แนวคิดทางศิลปะที่ลึกซึ้งได้อย่างลงตัว

ประโยคสุดท้าย ‘เผยให้เห็นคนอกหักในต่างแดน!’ ช่างน่าเศร้า

เป็นกวีที่ยอดเยี่ยม!

โครงสร้างนั้นหาที่เปรียบไม่ได้!

เดบร้าตัวสั่นเทาในขณะที่เธอจ้องมองแดร์ริลด้วยสายตาที่น่าสนใจ