ตอนที่ 579: พลังอํานาจ
ความจริงอี้เทียนหยุนอยากจะฝึกผู้เชี่ยวชาญระดับวิญญาณเที่ยงแท้ออกมาเอง แต่เมื่อเห็นสองพี่น้องเริ่น พร้อมกับค่าความชอบที่มีต่อตัวเขาไม่ต่ำ
ดังนั้นเขาจึงทําการดึงทั้งสองคนเข้ามาทันที เมื่อกลายเป็นแขก ก็จะเท่ากับเข้าร่วมกับวังเทียนหยุนไปโดยปริยาย ทําให้จํานวนที่ต้องการครบในทันที ซึ่งช่องโหว่นี้สามารถนําไปใช้กับผู้ฝึกตนอื่น หรือเหล่าขุนนางทั้งหลายก็ได้โดยไม่มีปัญหา
แต่ภารกิจนี้กลับแยกเป็นหลายขั้นตอน ซึ่งค่อนข้างน่ารําคาญ แต่ดีที่ค่าประสบการณ์ไม่น้อย ดังนั้นยิ่งมีภารกิจมากเท่าไหร่ยิ่งดี เพราะการสําเร็จไปทีละขั้น ก็จะมอบการเก็บเกี่ยวที่ดีให้กับตัวเขา จนเมื่อถึงตอนสุดท้าย ก็จะเท่ากับเขาได้รับรางวัลเป็นสองเท่า
“พี่อี้ ท่านเป็นอะไร?” เริ่นจือโหรวเห็นก่อนหน้านี้อี้เทียนหยุนเผยรอยยิ้มออกมา จากนั้นก็กลายเป็นนิ่งเหมือนไม่มีสติ ไม่รู้ว่ากําลังคิดอะไรอยู่
เดี๋ยวก็ทําตัวเหมือนคนบ้า เดี๋ยวก็ทําตัวไม่ปกติ ไม่รู้ว่าอี้เทียนหยุนกําลังคิดอะไรอยู่กันแน่
“ไม่มีอะไร ก็แค่คิดอะไรนิดหน่อย ไปกันเถอะ” อี้เทียนหยุนต้อนรับขับสู้พวกเขา ตัวเขาเองก็ต้องเตรียมตัวเหมือนกัน
ที่เหลือก็แค่รอฉลองในงานปราบดาภิเษก ซึ่งนี่ก็ไม่จําเป็นต้องให้พวกเขาต้องทําอะไร แค่รออยู่ในวังหลวงก็พอ
หลังจากนั้นไม่กี่วัน ก็มีผู้ฝึกตนหลั่งไหลเข้ามาจากทั่วทุกสารทิศ ส่วนใหญ่มาเพื่อเป็นพยานต่อเหตุการณ์นี้ วังเทียนหยุนจะจัดงานฉลองปราบดาภิเษกให้กับอี้เทียนหยุน และทําการจัดตั้งอาณาจักรเทียนหยุนขึ้นอย่างเป็นทางการ ผู้ฝึกตนจํานวนมากจึงพากันมาเพื่อร่วมฉลองงานครื้นเครง
อาณาจักรอื่นก็พากันมาร่วมเฉลิมฉลอง ในไม่กี่วันนี้ ก็พากันมารวมตัวที่เมืองเทียนหยุนนี้อย่างรวดเร็ว
งานปราบดาภิเษกจะมีขึ้นในวันนี้ ทําให้ทั่วทั้งเมืองเทียนหยุนเต็มไปด้วยความครื้นเครง พร้อมกับเสียงเซ็งแซ่ เมื่อคนมาก ความวุ่นวายก็มาก และที่สําคัญ คือมีผู้เชี่ยวชาญจากอาณาจักรน้อยใหญ่เดินทางมาคารวะ นี่จึงเป็นจุดที่สําคัญที่สุด
ในวันนี้ อี้เทียนหยุนในนั่งอยู่บนบัลลังก์ พร้อมกับมองดูผู้เชี่ยวชาญของแต่ละอาณาจักรเข้ามาทักทายไม่หยุด
“ผู้น้อยมหาจักรพรรดิหลิวหยุนจากอาณาจักรหลัวหยุน ขอคารวะมหาจักรพรรดิเทียนหยุน!”
“ผู้น้อยมหาจักรพรรดิเสวียนหยุนจากอาณาจักรเสวียนหยุน ขอคารวะมหาจักรพรรดิเทียนหยุน!”
“ผู้น้อย…”
มหาจักรพรรดิของอาณาจักรต่างก็มาด้วยตัวเอง แต่ระดับของพวกเขาไม่ใช่ระดับราชาวิญญาณ ถึงยังไงก็เป็นอาณาจักรอันดับท้ายๆ ผู้ปกครองเมืองหลวงก็ไม่ใช่ระดับราชาวิญญาณ แต่อย่างน้อยก็ยังอยู่ในระดับวิญญาณเที่ยงแท้
ซึ่งเรื่องนี้ก็ไม่ใช่เรื่องแปลก ไม่ได้หมายความว่ามีแต่ผู้เชี่ยวชาญระดับราชาวิญญาณเท่านั้นถึงจะเป็นมหาจักรพรรดิได้ ยังไงก็ตาม ระดับบรรพชนของพวกเขาก็คงจะมีผู้เชี่ยวชาญระดับราชาวิญญาณอยู่ เพราะว่าหากไม่มีผู้เชี่ยวชาญระดับราชาวิญญาณคอยควบคุม ก็ยากที่จะสยบขุมอํานาจระดับอาณาจักรเอาไว้ได้
เทียบกับก่อนหน้าแล้ว มหาจักรพรรดิด้านหน้าอี้เทียนหยุนนี้ ล้วนแต่มีระดับราชาวิญญาณด้วยกันทั้งนั้น แต่ก็ยังคงแสดงความเคารพต่ออี้เทียนหยุน อี้เทียนหยุนรู้ว่าที่พวกเขาแสดงความเคารพต่อเขา ทั้งหมดล้วนเป็นเพราะเขากวาดล้างสี่มหาอาณาจักรนั่น ทําให้พวกเขาต้องให้ความเคารพ ไม่อย่างนั้น พวกเขาย่อมไม่มีทางที่จะมาปรากฏอยู่ตรงหน้าเขาอย่างนี้
อย่างมากก็คงจะเป็นขุมอํานาจชั้นสองชั้นสามเท่านั้นที่จะมาร่วมยินดี ส่วนใหญ่คงจะไม่ให้ความสนใจอะไรกับเขา นี่ก็คือความสําคัญของพลัง!
อี้เทียนหยุนเผชิญหน้ากับพวกเขาด้วยรอยยิ้ม เขาไม่คิดจะตบหน้าพวกเขา ในเมื่ออีกฝ่ายมาด้วยความเคารพ เขาก็ย่อมต้องไว้หน้าอีกฝ่าย
แม้ว่ามหาจักรพรรดิของอาณาจักรใหญ่ๆ จะมาด้วยตัวเอง แต่พวกระดับแถวหน้ากลับไม่มา ตัวอย่างเช่นพวกอันดับหนึ่งอันดับสอง ซึ่งก็คืออาณาจักรชื่อหลงและอาณาจักรเฉียนหยวน ทั้งสองอาณาจักรนี้ต่างก็นั่งอยู่ในอันดับหนึ่งและสองมานับพันปี
ได้ยินมาว่าอาณาจักรชื่อหลงมีจักรพรรดิปกครองประเทศมาถึง 5 รุ่นแล้ว ส่วนอาณาจักรเฉียนหยวนนั้นมีอยู่ 4 รุ่น ทําให้ในอาณาจักรพวกเขามีผู้เชี่ยวชาญระดับราชาวิญญาณอยู่เป็นจํานวนมาก
คงมีแต่อาณาจักรชื่อหลงที่มีผู้เชี่ยวชาญระดับราชาวิญญาณถึง 5 คนถึงจะมีสิทธิ์ที่จะทําตัวก้าวร้าวอย่างนี้ อาณาจักรเฉียนหยวนก็เช่นกัน
หากให้เทียบกับอาณาจักรใต้พิภพก่อนหน้านี้คงเป็นได้แค่ขยะ จริงๆ แล้วอาณาจักรใต้พิภพไม่ได้แข็งแกร่งมากนัก แต่ที่แข็งแกร่งคือขุมอํานาจแดนศักดิ์สิทธิ์ที่หนุนหลังพวกเขาอยู่ต่างหาก! ไม่อย่างนั้น ด้วยความก้าวร้าวของพวกเขา ป่านนี้คงถูกอาณาจักรอื่นถล่มจนราบคาบไปนานแล้ว
และบ่อยครั้งก็เป็นอย่างนี้ ท่านไม่จําเป็นต้องร้ายกาจที่สุด แต่ขอแค่มีผู้หนุนหลังที่แข็งแกร่งพอ ก็สามารถที่จะสยบสิ้นทุกสิ่ง
นอกจากสองอาณาจักรนี้ อาณาจักรอื่นตัวจักรพรรดิต่างก็มาเอง เพราะถึงยังไงพวกเขาก็ต่างจากอาณาจักรอันดับหนึ่งและสองนี้มาก ดังนั้นจึงต้องมาแสดงความยินดีอย่างเชื่อฟัง
“มหาจักรพรรดิ นอกจากอาณาจักรชื่อหลงและอาณาจักรเฉียนหยวนแล้ว ตัวแทนจากอาณาจักรอื่นล้วนแต่มาแล้ว” เย่ชิงเสวียนพูดด้วยน้ำเสียงต่ำ
“ข้ารู้แล้ว” พวกเขาไม่มา อี้เทียนหยุนก็ไม่ใส่ใจ ขอแค่พวกนั้นไม่มาหาเรื่องเขา เขาก็จะไม่จัดการพวกมัน
ขณะที่อาณาจักรอื่นต่างก็คิดว่าสองอาณาจักรนี้จะไม่มาแสดงความยินดี ก็พลันได้ยินเสียงประกาศดังมาจากหน้าตําหนัก
“มหาจักรพรรดิเฉียนหยวนมาร่วมแสดงความยินดีแล้ว!”
ข่าวที่น่าตกใจดังมาจากหน้าประตู ทําให้สายตาของเหล่ามหาจักรพรรดิทั้งหลายต่างก็เผยให้เห็นถึงความหวาดกลัว พร้อมกับพากันมองไปยังทางเข้า
และก็เห็นชายวัยกลางคนหน้าตาหล่อเหลาเดินเข้ามา ขณะที่เอามือไขว้หลัง ความเร็วที่เดินนั้น ไม่เร็วแต่ก็ไม่ช้า แต่ละก้าวที่เดิน ราวกับหลอมรวมเข้าไปกับโลก
และในจังหวะนี้ ก็เหมือนกับว่าเขาคือนายเหนือหัวที่แท้จริง พลันดึงดูดความสนใจของทุกคน ขโมยมงกุฎไปจากศีรษะอี้เทียนหยุน ได้ยินชื่อเสียงของอาณาจักรเฉียนหยวนมานานแล้ว แต่ไม่คิดว่าจะต่างอาณาจักรอันดับสามมากขนาดนี้
ตอนแรกก็คิดว่าพวกเขาคงรังเกียจที่จะมา แต่สุดท้ายตัวมหาจักรพรรดิเฉียนหยวนกลับมาด้วยเอง ทําให้ผู้คนทั้งหลายพากันตกใจจนหัวใจหล่นลงไปอยู่ที่ตาตุ่ม ดูเหมือนว่าพวกเขาคงจะหวาดกลัวต่อชื่อเสียงของอี้เทียนหยุนเช่นกันสินะ?
มหาจักรพรรดิเฉียนหยวน : ระดับราชาวิญญาณขั้นที่ 6, สวมใส่ชุดเกราะระดับศักดิ์สิทธิ์ขั้นสูง, และมีสายเลือดเทพโบราณ, ร้ายกาจมาก, ฝึกวิชายุทธ์ ฝ่ามือเฉียนหยวน, เคล็ดวิชาป้าหลิง, จุดอ่อน : ไม่มี, พลังรบ 600 ล้าน, เมื่อสังหารจะได้รับ…”
ระดับราชาวิญญาณขั้นที่ 6 แถมยังมีสายเลือดเทพโบราณอีก?
สายเลือดเทพโบราณเทียบกันแล้วพอๆ กับสายเลือดเผ่ามังกร แต่หากเทียบกับสายเลือดมังกรทั่วๆ ไป แล้ว แข็งแกร่งกว่าหลายเท่า นอกจากจะมีสายเลือดเผ่ามังกรที่แท้จริงถึงจะทัดเทียมกัน
มันมีสายเลือดมากมายบนโลกใบนี้ และสายเลือดเผ่ามังกรก็ถือเป็นอันดับหนึ่ง แต่ก็ยังมีสายเลือดที่ทัดเทียมกับสายเลือดเผ่ามังกรเช่นกัน ตัวอย่างเช่นสายเลือดเทพโบราณนี้
สายเลือดเทพโบราณนี้ถือเป็นสายเลือดเทพชนิดหนึ่ง มันมีความสามารถในการฟื้นตัว ยามเมื่อระเบิดพลังออกมา มันมีความแข็งแกร่งยิ่งกว่าสายเลือดเผ่ามังกร แต่ก็ถือว่าเป็นสายเลือดที่หายากแบบสุดๆ แต่อาณาจักรเฉียนหยวนก็ได้รับสืบทอดมา!
“ขอโทษด้วยที่มาสาย” จักรพรรดิเฉียนหยวนเผยรอยยิ้มคลุมเครือออกมาขณะที่พูด “ไม่คิดว่ามหาจักรพรรดิพระองค์ใหม่จะดูเด็กขนาดนี้ ช่างเป็นเรื่องที่คาดไม่ถึงจริงๆ รุ่นของพวกเรามันแก่แล้ว ดูท่าจะก้าวตามไม่ทัน”
“จะเป็นอย่างนั้นได้ยังไง จักรพรรดิเฉียนหยวนเองก็ยังดูหนุ่มอยู่เลย อายุเพิ่งจะ 40 ปี ก็ทะลวงเข้าสู่ระดับราชาวิญญาณได้ ช่างสมกับเป็นอัจฉริยะที่ยิ่งใหญ่จริงๆ!”
“ใช่แล้ว! มหาจักรพรรดิเฉียนหยวนมีสายเลือดเทพโบราณ ยากที่ใครจะทัดเทียม…”
มหาจักรพรรดิของอาณาจักรอื่นๆ ต่างก็พากันเข้าไปประจบ ปกติแล้วไม่มีทางได้เจอเขาง่ายๆ มาตอนนี้ได้เจอแล้ว จึงต้องรีบพากันไปเสนอหน้า พริบตา ก็เหมือนกับว่านี่ไม่ใช่งานปราบดาภิเษกของอีเทียนหยุน แต่เป็นของมหาจักรพรรดิเฉียนหยวนแทน
อี้เทียนหยุนตาลุกวาว นี่คือความจริงของพลังอํานาจ ทุกคนต่างก็หวาดกลัวต่อพลังอํานาจ! ซึ่งนี่เป็นสิ่งที่พวกเขายังขาดอีกมากนัก