เมื่อรถรับส่งมาถึงประตู เฉียวเหลียงก็ลงไปเปิดประตูรถเขา และขึ้นนั่งในที่นั่งคนขับ ส่วนฉู่หลิงไปนั่งเบาะหลัง และส่งสัญญาณให้ถังซีไปนั่งข้างคนขับ เมื่อเห็นเช่นนี้เฉียวเหลียงก็ยกนิ้วให้ฉู่หลิงในใจ แต่ถังซีส่ายศีรษะกล่าวว่า “ฉู่หลิง คุณนั่งข้างหน้าได้ไหม ฉันเหนื่อย อยากนั่งงีบหลับข้างหลัง”
ใบหน้าเฉียวเหลียงแข็งทื่อไปทันที และอุณหภูมิภายในรถดูเหมือนจะลดลงหลายองศา ฉู่หลิงกะพริบตาปริบๆ มองหน้าถังซี กล่าวว่า “คุณนั่งงีบหลับข้างหน้าก็ได้นี่ เฉียวเหลียงขับรถเก่งมาก รับรองไม่กระเทือนเลย คุณงีบ…”
ถังซีหันไปมองอาหกซึ่งติดตามทั้งสามมา เธอกล่าวอย่างเย็นชาว่า “อาหก คุณมานั่งรถคันนี้ได้ไหม เอารถคุณมาให้ฉัน”
“อาหก วันนี้ไม่จำเป็นต้องติดตามเรา กลับไปที่สำนักงานสาขา!” เฉียวเหลียงเปิดประตูรถออกมาบอกอาหกด้วยน้ำเสียงเยือกเย็น
อาหกอึ้ง พูดไม่ออก “… ครับ นายน้อย” เขาขึ้นรถอย่างเงียบกริบ แล้วมุ่งหน้าไปสำนักงานสาขา นายน้อยครับ ผมรู้ว่าคุณอารมณ์ไม่ดี แต่ทำไมถึงมาลงที่ผมล่ะครับ พระเจ้า นี่มันไม่ยุติธรรมเลย!
ดวงตาถังซีมีประกายผิดหวัง เธอจ้องมองเฉียวเหลียงที่เหลือบมองเธอ ก่อนจะเดินมาที่รถและตะโกนใส่ฉู่หลิง “ไปนั่งข้างคนขับเลย!”
ตอนนี้ถึงคราวฉู่หลิงอึ้งบ้าง “… มาตะโกนใส่ผมทำไมเนี่ย ก็ได้ๆ ผมจะไปนั่งข้างหน้า!” เขาลงจากรถไปนั่งด้านหน้าข้างคนขับ แล้วคาดเข็มขัดนิรภัย
ถังซียังคงเงียบ “…”
สองนาทีต่อมาถังซีจึงเปิดประตูรถ และขึ้นไปนั่ง
ฉู่หลิงทนไม่ไหวกับบรรยากาศอึดอัดหายใจไม่ออกภายในรถ เขาเม้มริมฝีปากมองถังซีจากกระจกมองหลัง เธอหลับตา ดูเหมือนจะงีบหลับ จากนั้นเขาก็หันไปมองเฉียวเหลียง ซึ่งหันมามองตอบเขาเป็นครั้งคราว แต่ไม่พูดอะไร ฉู่หลิงกะพริบตาปริบๆ ถามว่า “ทะเลาะกันเหรอ”
เฉียวเหลียงส่งเสียงคำรามในลำคอ และขับรถต่อไป
ฉู่หลิงเกือบจะหัวเราะออกมา “ …” เขาหันกลับไปมองถังซีและยิ้มให้เธอ “โหรวโหรว เขาทำให้คุณไม่พอใจใช่ไหม บอกผมสิว่าเขาทำอะไรคุณ ผมจะตีเขาให้ เราต้องช่วยทำให้เขาสำนึกผิด! ตอนนี้บอกมาก่อนว่าเกิดอะไรขึ้น”
ถังซีแสร้งทำเป็นหลับและไม่ยอมตอบ
ฉู่หลิงรู้สึกว่าเขาถูกเมินเฉย “…”
เขาหยิบโทรศัพท์มือถือออกมาอย่างรวดเร็ว เปิดการสนทนากลุ่ม เพิ่มผู้ร่วมสนทนาเข้าไปในกลุ่มสองคน
โรบิน ชู้ด : พวกคุณรู้ไหม ว่าเกิดอะไรขึ้นระหว่างเฉียวเหลียงกับเซียวโหรว ท่าทางทั้งคู่ดูมีอะไรผิดปกติ!
ลู่หลี : เมื่อคืนนี้ เฉียวเหลียงโยนคนหลายคนไปที่ห้องสอบสวนของสำนักงานเราสาขาปารีส ผมตรวจสอบตัวตนของพวกเขา หนึ่งในนั้นคือคลอส เลิฟอันธพาลชื่อดังแห่งปารีส เป็นเพราะเขาหรือเปล่า
โรบิน ชู้ด : โหรวโหรวสาวน้อยคนสวยของเรานอกใจเฉียวเหลียงหรือเปล่า
ลู่หลี : …
คุณเก้า สุดหล่อ : ถามผมสิ ผมรู้ทุกอย่างที่เกิดขึ้นระหว่างทั้งคู่!
ลู่หลี : เกิดอะไรขึ้นเหรอ
โรบิน ชู้ด : ใช่ บอกเราหน่อยสิ!
คุณเก้า สุดหล่อ : ขอร้องผมสิ ผมจะบอก ถ้าพวกคุณขอร้องผม!
ลู่หลี: เออ ช่างเถอะ!
โรบิน ชู้ด : ฝันไปเถอะ!
คุณเก้า สุดหล่อ : พวกคุณนี่น่าเบื่อ!
[วิดีโอ]
ฉู่หลิงรีบสวมหูฟังบลูทูธ แล้วกดปุ่มเปิดวิดีโอ หลังจากดูวิดีโอแล้วฉู่หลิงก็หันไปมองถังซีด้วยสายตาชื่นชม ผู้หญิงคนนี้สุดยอดมาก! เธอดุเฉียวเหลียง และไม่กลัวเขาเลย! น่าประทับใจจริงๆ!
ลู่หลี : ทำไมทั้งคู่ถึงทะเลาะกันล่ะ จดหมายขอโทษคืออะไร
คุณเก้า สุดหล่อ : ถ้าผมเดาไม่ผิด เป็นเพราะเฉียวเหลียงเป็นพวกวิปริต คุณเซียวไม่สามารถทำให้เขาพอใจได้ในบางเรื่อง เขาจึงบังคับให้คุณเซียวเขียนจดหมายขอโทษเขา คุณเซียวยอมรับไม่ได้ เธอจึงอยากเลิกกับเขา!
คุณเก้า สุดหล่อ : [อิโมจิรูปหน้าคนหล่อ] เป็นไง เรียกผมว่าเชอร์ล็อกโฮล์มส์ได้เลยใช่ไหม!
ลู่หลี : …
โรบิน ชู้ด : ทำไมคุณถึงหน้าด้านอย่างนี้
คุณเก้า สุดหล่อ : ไม่เห็นด้วยกับการวิเคราะห์ของผมหรือ ทำไมเซียวโหรวถึงจะอยากเลิกกับเขาล่ะ ถ้าเขาไม่ใช่พวกกามวิปริต ผมคิดว่าเฉียวเหลียงควรพิจารณาความผิดของตัวเองได้แล้ว!
เฉียวเหลียงซึ่งขับรถอยู่ได้ยินเสียงโทรศัพท์ของตนเองดังขึ้น เขามองไปที่หน้าจอ เห็นว่าฉู่หลิงเพิ่มเขาเข้าไปในกลุ่มสนทนา จากนั้นก็มีคนในกลุ่มส่งข้อความมา
คุณเก้า สุดหล่อ : เฉียวเหลียงนี่น่าละอายจริงๆ เขาไปทำอะไรให้สาวน้อยแสนหวานบ้าคลั่งใส่เขาได้ขนาดนี้ เขาสมควรตายสถานเดียว!
เฉียวเหลียงถือพวงมาลัยด้วยมือขวา และดูบันทึกการสนทนาด้วยมืออีกข้าง หลังจากอ่านบันทึกการสนทนา เขาก็ยิ้มออกมาน้อยๆ และส่งข้อความ…
นายน้อย : แล้วคุณล่ะ คุณมีแฟนทีละหลายคนหรือเปล่า
หลินหย่วนซึ่งนั่งอยู่ที่สำนักงานในประเทศ M และกำลังชื่นชมสาวงามคนหนึ่งอยู่ จู่ๆ ก็รู้สึกหนาวสะท้านไปถึงกระดูกสันหลัง เขายกมือขึ้นส่งสัญญาณให้สาวงามที่กำลังรินกาแฟให้เขาหยุดทำก่อน และกล่าวด้วยรอยยิ้มว่า “เจสซิก้าที่รัก ออกไปข้างนอกสักครู่ได้ไหม ผมมีอะไรต้องจัดการนิดหน่อย”
เจสซิก้ายิ้มให้หลินหย่วน แล้วหันหลังเดินออกไปจากห้องทำงาน หลินหย่วนกำโทรศัพท์แน่น จ้องไปที่หน้าจอ มีข้อความอีกข้อความหนึ่งโผล่ขึ้นมา ขณะที่เขากะพริบตาถี่ๆ …
นายน้อย : แล้วนี่คุณไม่มีอะไรทำหรือไง
หลินหย่วนรีบออกจากกลุ่มสนทนา ปิดโทรศัพท์มือถือ และตะโกนออกไปข้างนอก “เจสัน เจสัน จัดตารางเวลาให้ฉัน ฉันจะไปตะวันออกกลาง!”
เจสันวิ่งเข้ามา มองหน้าหลินหย่วนแล้วยักไหล่ อดถามไม่ได้ว่า “คุณเก้าครับ ก็คุณบอกว่าจะไปปารีส เพื่อไปพบผู้ช่วยชีวิตของคุณไม่ใช่หรือครับ ผมจองตั๋วไปปารีสให้คุณแล้ว เป็นวันพรุ่งนี้ แล้วคุณจะไม่ไปหรือครับ”
เจสันอุทานอย่างบ้าคลั่งในใจว่า ‘ทำไมฉันถึงมีเจ้านายที่เอาแต่ใจแบบนี้นะ ทำงานให้เขานี่ยากชะมัด!‘
“ไม่ไป!” หลินหย่วนคำรามใส่เจสัน “เพราะฉันเห็นแก่ชีวิตของฉันน่ะสิ ฉันถึงต้องไปตะวันออกกลาง! แต่ยังไงก็ตาม ตรวจสอบเครื่องบินของเราให้ดีก่อนออกเดินทาง ตรวจสอบอย่างรอบคอบ เข้าใจไหม!”
สมาชิกอีกสามคนเห็น ‘คุณเก้า สุดหล่อ’ ออกจากกลุ่มสนทนา…
ลู่หลี : …
โรบิน ชู้ด : …
นายน้อย : …
ลู่หลี : คุณทำอะไรเขาเหรอ เขาถึงได้กลัวคุณมากขนาดนี้
โรบิน ชู้ด : เก้ากลายเป็นคนขี้ขลาดตั้งแต่เมื่อไหร่ ทำไมเขาถึงหนีทันทีที่เฉียวเหลียงปรากฏตัว ผมไม่เห็นกลัวอย่างเขาเลย ถึงแม้จะนั่งอยู่ข้างเฉียวเหลียง ทำไมเขาถึงกลัวเฉียวเหลียงขนาดนั้น
นายน้อย : แน่นอน ก็เขาเป็นคนขี้ขลาดไง
ลู่หลี : …แล้วตกลงเกิดอะไรขึ้นระหว่างคุณกับเซียวโหรว ช่วยอธิบายสิ่งที่เราเห็นในวิดีโอที่เก้าส่งมาได้ไหม ทะเลาะกันจริงๆ เหรอ
ฉู่หลิงมองใบหน้าด้านข้างของเฉียวเหลียง ซึ่งชำเลืองมองเขา และส่งข้อความ
นายน้อย : ผมกำลังขับรถอยู่ เอาไว้คุยกันทีหลัง
เฉียวเหลียงมองไปที่ถังซีซึ่งเมื่อกี้แกล้งทำเป็นหลับ แต่ตอนนี้หลับไปจริงๆ แล้ว เขาเม้มริมฝีปากและขับรถให้นิ่มที่สุด
ฉู่หลิงมองหน้าเฉียวเหลียง เม้มริมฝีปาก ก่อนจะลดเสียงลงกล่าวว่า “บางครั้ง…ความรักก็ไม่ใช่พันธนาการนะ”