จากวิดีโอนั้นเขาบอกได้เลยว่า เฉียวเหลียงห่วงใยใส่ใจเซียวโหรวทุกฝีก้าว จนเข้าข่ายเริ่มจำกัดเสรีภาพของเซียวโหรว ซึ่งอาจทำให้เธออึดอัด! การที่เฉียวเหลียงบอกว่าเขาไม่ได้ต้องการให้เธอมาช่วยชีวิตเขาเลยแม้แต่น้อยนั้น กระทบความรู้สึกเธออย่างมาก ทำให้เธอน้อยใจ และตัดสินใจลงไปทันที เขาบอกได้จากสายตาที่เซียวโหรวมองเฉียวเหลียงว่าเธอรักเฉียวเหลียงมาก ถ้าเขาเป็นเซียวโหรวแล้วเฉียวเหลียงมาพูดแบบนั้นกับเขา เขาก็คงเป็นบ้าไปเหมือนกัน นับประสาอะไรกับเซียวโหรว เขาตรวจสอบเรื่องราวของเซียวโหรวดูแล้ว หลังจากเธอได้เผชิญเหตุการณ์ต่างๆ มากมายเกินกว่าเด็กสาวทั่วไปแบบนั้น เธอย่อมกลายเป็นคนอ่อนไหวมากกว่าคนอื่นเป็นธรรมดา เธอรู้สึกไม่ปลอดภัยและต้องการการปกป้องดูแลด้วยความใส่ใจ 

 

 

คำพูดของเฉียวเหลียงกระทบกระเทือนจิตใจเธออย่างร้ายแรง 

 

 

เฉียวเหลียงกำพวงมาลัยรถแน่น หันมามองฉู่หลิงซึ่งยักไหล่และกล่าวด้วยรอยยิ้ม “ผมไม่เหมือนคุณกับลู่หลีหรอก ผมไม่เคยตกหลุมรักผู้หญิงคนไหน แต่ผมมีแฟนมาหลายคน และผมรู้ว่าผู้หญิงกำลังคิดอะไร ถ้าคุณไม่รังเกียจ ผมให้คำแนะนำเกี่ยวกับวิธีจีบผู้หญิงได้นะ แต่ผมต้องเตือนก่อนว่า คำแนะนำของผมไม่ได้ให้ฟรีๆ” 

 

 

เฉียวเหลียงมองหน้าเขา ถามว่า “แล้วคุณจะคิดเท่าไหร่” 

 

 

ฉู่หลิงเลิกคิ้วมองหน้าเฉียวเหลียงด้วยความสนใจ “ผมไม่คิดเลยว่าคุณจะหลงใหลผู้หญิงคนหนึ่งได้มากขนาดนี้ ผมไม่เคยเห็นคุณมีปัญหาวุ่นวายใจมากอย่างนี้ ตอนที่คบกับแฟนคนก่อน ถังซีที่แฟนคนปัจจุบันของคุณปลอมตัวเป็นเธอน่ะ” 

 

 

เฉียวเหลียงขมวดคิ้ว กล่าวอย่างจริงจัง “ความรักของผมที่มีต่อถังซีเป็นเรื่องจริง” 

 

 

“แล้วทำไมคุณถึงเลิกกับเธอ” ฉู่หลิงเม้มริมฝีปากแล้วกล่าวว่า “คุณอยากเลิกกับเธอเพราะคุณไม่สนใจเธอแล้วตอนนี้ แต่พอเซียวโหรวอยากเลิกกับคุณ คุณทำราวกับว่าเป็นวันโลกาวินาศ ไม่ใช่สิ พูดให้ถูกคือ… เลวร้ายยิ่งกว่าวันโลกาวินาศเสียอีก ผมรู้สึกได้ถึงความสิ้นหวังของคุณ แม้แต่ดูจากวิดีโอ” 

 

 

“ไม่ ไม่ได้หมายความว่าผมไม่สนใจเธอแล้ว” เฉียวเหลียงกล่าว ขณะมองถังซีจากกระจกมองหลัง และเอ่ยเบาๆ “ตอนนั้นผมยังเด็กเกินไป ไม่เข้าใจว่าเธอมีความหมายต่อผมมากมายแค่ไหน เมื่อผมรู้ว่าเธอสำคัญกับผมแค่ไหนก็สายเกินไปแล้ว” 

 

 

โชคดีที่คู่ของเขายังมีโอกาส เขาจึงไม่อยากพลาดอีก เขาจะทะนุถนอมทุกวินาทีที่อยู่ด้วยกัน จะไม่มีวันปล่อยให้ถังซีตกอยู่ในอันตราย และจะอยู่อย่างมีความสุขกับเธอตลอดไป แทนที่จะ… 

 

 

“แล้วในเมื่อคุณรักเซียวโหรว ทำไมคุณถึงทำในสิ่งที่เป็นการทำร้ายเธอ” ฉู่หลิงมองหน้าเขา เม้มริมฝีปากแล้วกล่าวว่า “ในเมื่อคุณรักเธอ คุณก็ควรทำให้เธอมีความสุข ชีวิตสั้นนัก อย่าเสียเวลากับเรื่องโง่ๆ สิ ทำทุกวันให้มีค่า” 

 

 

“อย่าพูดเหมือนคนแก่ไปหน่อยเลย” เฉียวเหลียงมองกลับไปที่ถังซีซึ่งยังคงนอนหลับ เขาเม้มริมฝีปาก แล้วลดเสียงลงถาม “ผมจะขอโทษเธอยังไงดี” 

 

 

ฉู่หลิงหันมาสบตาเฉียวเหลียง แล้วเบิกตากว้างด้วยความประหลาดใจ เฉียวเหลียงกระแอมอย่างเก้อเขิน และส่งสัญญาณให้เขาลดเสียงลง โดยบอกว่า “เดี๋ยวเธอตื่น เอาไว้คุยกันทีหลัง” 

 

 

ครึ่งชั่วโมงต่อมาทั้งหมดก็มาถึงที่หมาย ทันทีที่รถหยุดถังซีก็ตื่นขึ้น เธอเหลือบมองทั้งสองคนอย่างง่วงงุน ฉู่หลิงยิ้มให้เธอแล้วกล่าวว่า “ไปตรวจดูความคืบหน้าก่อน บอกผมได้เลยนะถ้ามีปัญหาอะไร เฉียวเหลียงกับผมจะรอคุณข้างนอก” 

 

 

ถังซีพยักหน้า หันหลังเดินเข้าไปข้างใน โดยไม่มองไปทางเฉียวเหลียงแม้แต่น้อย ขณะที่เขามองตามเธอและขมวดคิ้ว ฉู่หลิงส่ายศีรษะเมื่อเห็นภาพนี้ เขาจุดบุหรี่ ยืนพิงรถ แล้วเลิกคิ้วถาม “เกิดอะไรขึ้น ทำไมเธอถึงอยากเลิกกับคุณ” 

 

 

เมื่อได้ยินคำว่า ‘เลิกกัน’ ดวงตาเฉียวเหลียงก็มีแสงแห่งความหมองหม่น เขาเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นระหว่างเขากับเซียวโหรเมื่อเช้านี้ให้ฉู่หลิงฟัง ฉู่หลิงกลอกตาไปมาแล้วมองหน้าเฉียวเหลียงด้วยความประหลาดใจ ถามว่า “คุณคิดว่าเซียวโหรวไม่ควรออกไปไหน เพราะเธอมีเสน่ห์ต่อผู้ชายมากเกินไป เธอควรอยู่บ้านตลอดทั้งวันอย่างนั้นหรือ ไม่เอาน่า นี่มันศตวรรษที่ยี่สิบเอ็ดแล้ว” 

 

 

เฉียวเหลียงขมวดคิ้วขณะอธิบาย “ผมไม่อยากให้เธอตกอยู่ในอันตราย” 

 

 

“จริงเหรอ” ฉู่หลิงมองเฉียวเหลียงอย่างไม่อยากเชื่อ “เธอก็ปลอดภัยดีไม่ใช่หรือ แล้วทำไมคุณถึงบังคับให้เธอเขียนจดหมายขอโทษคุณ ไม่ได้ทำตัวเหมือนเป็นแฟน แต่เหมือนเป็นครู จดหมายขอโทษหรือ ไร้สาระมาก ไม่มีผู้หญิงคนไหนยอมรับได้หรอก! ถ้าคุณทำแบบนี้กับเธอต่อไป ผมแน่ใจว่าเธอจะไปจากคุณเร็วๆ นี้!” 

 

 

ใบหน้าเฉียวเหลียงหมองลงไปอีกเมื่อได้ยินคำพูดของฉู่หลิง หางตาฉู่หลิงหรี่ลง เขากล่าวต่อไปว่า “เชื่อผมเถอะ ไม่มีผู้หญิงคนไหนทนต่อการครอบครองเป็นเจ้าของจนเธอกระดิกตัวไม่ได้แบบนี้หรอก ไม่โอเคเลย 

 

 

“ผมต้องบอกว่าคุณคิดผิด คุณพลาดโอกาสครั้งยิ่งใหญ่! คุณช่วยเธอจากพวกอันธพาล เธอต้องนึกถึงความดีของคุณอย่างมาก เมื่อคืนนี้น่าจะเป็นคืนที่ดีงามที่สุดสำหรับคุณสองคน และความรักที่คุณมีต่อกันก็น่าจะเป็นความงดงามอย่างที่สุด จริงๆ แล้วคุณสองคนควรมาถึงช่วงเวลาที่หอมหวานที่สุดในชีวิต และเดือนหน้าควรจะเป็นช่วงฮันนีมูนของพวกคุณได้แล้ว แต่คุณทำพลาดไปในโอกาสนี้! คุณช่วยเธอไว้เมื่อคืน แต่วันนี้เธอต้องการเลิกกับคุณ!” 

 

 

ยิ่งพูดรายละเอียดมากเท่าไหร่ ฉู่หลิงก็ยิ่งรู้สึกว่าเฉียวเหลียงเป็นคนโง่เง่าในเรื่องความรัก! 

 

 

เขามองหน้าเฉียวเหลียง ส่ายศีรษะอย่างอ่อนใจ ยกบุหรี่ขึ้นมา ดับก้นบุหรี่ โยนลงถังขยะแล้วกล่าวว่า “ผมไม่เช้าใจว่าทำไมคุณถึงทำตัวเหมือนเด็กขี้โมโหต่อหน้าผู้หญิงที่คุณรัก คุณก็แค่บอกเธอว่าคุณต้องการให้เธอทำอะไร และคุณไม่รู้จะแสดงความรักที่มีต่อเธออย่างไร เท่านั้นเอง” 

 

 

“ถ้าผมรู้เธอคงไม่โกรธผมขนาดนี้หรอก!” เฉียวเหลียงจุดบุหรี่อย่างหงุดหงิด “ตอนนี้คุณแค่บอกผมมาก็พอ ว่าผมควรขอโทษเธอยังไง ผมจะทำให้เธอให้อภัยผมได้ยังไง ผมไม่อยากได้ยินคำว่า ‘เลิกกัน’ จากปากเธออีก! ตอนที่ผมได้ยินคำนี้ผมรู้สึกเหมือนจะเป็นบ้า! และไม่รู้ว่าผมควรจะทำยังไง!” 

 

 

“ง่ายมาก” ฉู่หลิงหัวเราะเบาๆ “สำหรับผู้หญิงส่วนใหญ่ ของขวัญที่จะสร้างความตื่นเต้นดีใจก็คือ มื้อค่ำใต้แสงเทียนกับจุมพิตแสนหวาน แค่นี้ก็เพียงพอแล้ว คุณไม่เคยให้ของขวัญเซอร์ไพรส์เธอเลยใช่ไหม” 

 

 

เฉียวเหลียงขมวดคิ้วมองหน้าฉู่หลิงด้วยความสงสัย ถามว่า “คุณแน่ใจนะ” ทำไมเขาถึงรู้สึกว่าไม่ควรเชื่อฉู่หลิง 

 

 

“และจะไม่น่าประทับใจเลย ถ้าคุณ ‘ซื้อ’ เครื่องประดับให้เธอ แต่ความรู้สึกจะแตกต่างออกไปโดยสิ้นเชิงถ้าคุณ ‘ออกแบบ’ ให้เธอด้วยตัวคุณเอง!”