เฉียวเหลียงมองตาฉู่หลิงด้วยสายตาเป็นคำถาม ฉู่หลิงตบไหล่เขาเบาๆ และกล่าวอย่างจริงจัง “แฟนคุณเป็นนักออกแบบ ถ้าคุณออกแบบสร้อยคอที่สวยงามให้เธอได้ ผมพนันได้เลยว่าเธอจะต้องซาบซึ้งใจอย่างมาก! เชื่อผมสิ ออกแบบสร้อยคอให้เธอ เพื่อสื่อแทนคำขอโทษของคุณ” จบคำพูดเขาก็หันหลังเดินไปทางโรงงาน
เฉียวเหลียงก้มลงจ้องมองเท้าตัวเองขณะไตร่ตรอง ครู่ใหญ่เขาก็เดินเข้าไปในโรงงาน
ถังซีกำลังคุยปรึกษากับหลี่มั่นเหยียนเกี่ยวกับปัญหาการออกแบบ ทันใดนั้นก็เห็นเฉียวเหลียงเดินเข้ามา เธอมองเฉียวเหลียง แต่ยังคงพูดคุยกับหลี่มั่นเหยียนโดยไม่สนใจเขา “ฉันชอบความคิดของคุณ จะดูทันสมัยกว่าถ้าเราตัดชุดนี้ด้วยลูกไม้สีดำ ลองทำตามที่คุณเสนอมา”
หลี่มั่นเหยียนพยักหน้าด้วยรอยยิ้ม “ประธานเซียวคะ ฉันได้ยินมาว่าคุณเป็นหวัดเมื่อวานนี้ รู้สึกดีขึ้นหรือยังคะ”
ถังซีเลิกคิ้ว เธอไปงานแฟชั่นโชว์ของชาแนลเมื่อวานนี้ในตัวตนของถังซี และไม่ได้มาที่โรงงาน ฉู่หลิงคงบอกพวกเขาว่าเธอเป็นหวัดจึงไม่ได้มาที่นี่ เมื่อคิดเช่นนี้เธอก็พยักหน้ากล่าวว่า “ฉันดีขึ้นมากแล้วล่ะ ขอบคุณนะที่คุณทำงานหนัก อนาคตของเดอะควีนขึ้นอยู่กับดีไซเนอร์อย่างพวกคุณ”
หลี่มั่นเหยียนเขินหน้าแดง “ไม่หรอกค่ะ ท่านประธาน พวกเราต้องขอบคุณคุณที่จ้างเรา และให้โอกาสเรา ถึงแม้พวกเราจะเพิ่งเรียนจบจากวิทยาลัยมาก็ตาม…”
“นั่นเป็นเพราะพวกคุณสมควรได้รับสิ่งนี้” ถังซีมองไปทางจิ้นหัน ซึ่งดูเหมือนไม่พอใจที่เธอคุยกับหลี่มั่นเหยียนนานเกินไป เธอยิ้มขณะกล่าวว่า “ไปทำงานของคุณเถอะ ฉันจะไปดูว่าคนอื่นๆ เป็นอย่างไรบ้าง”
ตลอดเวลาที่สนทนาเธอไม่สนใจเฉียวเหลียงเลย
เฉียวเหลียงซึ่งถูกเมินเฉยมองดูเธอโดยไม่แสดงความรู้สึก เขาอยากคอยติดตามถังซี แต่ในเวลานี้โทรศัพท์เขาดังขึ้น เขามองดูชื่อผู้โทรแล้วขมวดคิ้ว ก่อนจะรับสาย ทางปลายสายอีกด้านหนึ่งกล่าวว่า “นายน้อยครับ ตระกูลคลอสกำลังตามหาตัวเลิฟ ซึ่งอาจทำให้คุณเซียวเดือดร้อน ตอนนี้…”
เฉียวเหลียงมองไปที่ถังซี เม้มริมฝีปากแล้วถามว่า “ได้ข้อมูลอะไรที่เป็นประโยชน์จากเลิฟบ้างไหม”
“ยังไม่ได้เลยครับ เขายืนยันว่าคนที่เขาเข้าไปคุกคามเป็นดารา โดยที่เขาไม่รู้ว่าถังซีเป็นใคร”
เฉียวเหลียงขมวดคิ้วกล่าวอย่างเยือกเย็น “ขังพวกมันไว้ในห้องมืด อย่าให้ใครพูดกับพวกมัน และวางนาฬิกาไว้ในห้องมืดด้วย”
อาห้าพูดไม่ออก “…” นายน้อยครับ วิธีนี้มันรุนแรงเกินไปนะครับ
“ได้ครับ ผมเข้าใจแล้ว นายน้อยจะเข้ามาเมื่อไหร่ครับ”
เฉียวเหลียงหันไปสบตาถังซีซึ่งกำลังคุยอยู่กับดีไซเนอร์คนหนึ่ง เขาเม้มริมฝีปากแล้วกล่าวว่า “ฉันจะไปที่นั่นภายในหนึ่งชั่วโมง”
เฉียวเหลียงวางสาย กวาดตามองไปรอบๆ เห็นฉู่หลิงกำลังคุยกับช่างปัก ฉู่หลิงดูเหมือนจะแสดงความคิดเห็นอะไรบางอย่างและดูตื่นเต้น เฉียวเหลียงเดินเข้าไปหาเขา และกล่าวกับเขาเป็นภาษาจีนว่า “ผมฝากพาเซียวโหรวกลับบ้านด้วย พ่อของเลิฟอาจสร้างปัญหาให้เธอ อย่าไปส่งเธอที่อพาร์ตเมนต์ แต่พาไปส่งที่โรงแรม ผมต้องไปเดี๋ยวนี้”
ฉู่หลิงเลิกคิ้วถาม “จะไปออกแบบสร้อยคอเหรอ”
เฉียวเหลียงขมวดคิ้ว เมื่อนึกถึงคำแนะนำที่ฉู่หลิงเพิ่งบอกเขาเมื่อครู่ เขาครุ่นคิด และส่ายศีรษะขณะกล่าวว่า “คนของผมหาเบาะแสที่เป็นประโยชน์อะไรจากเลิฟไม่ได้เลย เขาบอกว่าเขาแค่เข้าไปยุ่งกับดาราเล็กๆ คนหนึ่ง และไม่รู้ว่าถังซีเป็นใคร ผมตัดสินใจจะไปสอบปากคำเขาด้วยตัวเอง”
“บางทีเขาอาจคิดว่าถังซีเป็นแค่ดารา”
เฉียวเหลียงส่ายศีรษะกล่าวว่า “ต้องมีคนทำให้เขาเข้าใจผิด เขาถึงเชื่อว่าถังซีเป็นแค่ดารา ไม่อย่างนั้นเขาจะไม่กล้าคุกคามซีซีในที่สาธารณะ”
“แล้วทำไมคุณถึงให้แฟนคนปัจจุบันของคุณปลอมตัวเป็นแฟนเก่าคุณล่ะ ดูสิว่าคุณสร้างปัญหาอะไรขึ้นมา!” ฉู่หลิงเบ้ปาก แล้วถามเฉียวเหลียง “นี่สรุปว่าแฟนเก่าคุณตายไปแล้ว หรือซ่อนตัวอยู่ที่ไหนสักแห่ง จะเกิดอะไรขึ้นถ้าสักวันหนึ่งเธอปรากฏตัวขึ้นมา แล้วเปิดโปงการโกหกของคุณ ถ้าเป็นอย่างนั้นคุณจะทำยังไง”
เฉียวเหลียงเลิกคิ้วมองไปที่ถังซีแล้วยิ้มมุมปากล่าวว่า “จะไม่มีทางมีอะไรแบบนั้นเกิดขึ้น และการให้เซียวโหรวปลอมตัวเป็นถังซีเป็นวิธีที่ปลอดภัยที่สุด ทำแบบนี้เท่านั้นเราจึงจะสามารถปกป้องทรัพย์สมบัติของตระกูลถังไว้ได้”
“นี่คุณพยายามจะฮุบสมบัติตระกูลถังงั้นหรือ” ฉู่หลิงมองหน้าเฉียวเหลียงและกล่าวอย่างไม่พอใจ “เท่าที่ผมรู้จักคุณมา คุณไม่ใช่คนแบบนั้นนี่นา ทำไมคุณถึงคิดจะทำแบบนี้ แล้วผมก็ไม่เห็นว่าเซียวโหรวจะดูเหมือนคนโลภเลย”
เฉียวเหลียงจ้องมองฉู่หลิงอย่างครุ่นคิด ตบไหล่เขาเบาๆ กล่าวว่า “แล้ววันหนึ่งผมจะให้คำตอบ ตอนนี้ผมต้องไปก่อน ช่วยดูแลเซียวโหรวแทนให้ผมด้วย”
“เฮ้ ทำไมถึงมาโยนปัญหาวุ่นวายนี้ให้ผมล่ะ” ทันใดนั้นฉู่หลิงก็รู้สึกว่าเขาน่าจะแสร้งทำเป็นไม่รู้จักเฉียวเหลียงตั้งแต่ทีแรก เฉียวเหลียงจะได้ไม่ขอให้เขาทำเรื่องยุ่งยากลำบากเหล่านี้ให้! เขารู้สึกว่าเขาตกหลุมพราง! เขาทำพลาดครั้งใหญ่!
เมื่อมองตามร่างเฉียวเหลียงที่กำลังค่อยๆ ห่างออกไป ถังซีก็ขมวดคิ้ว ประกายความโศกเศร้าฉายผ่านดวงตาเธอ เขาจากไปเพียงเพราะเธอไม่สนใจเขา ทำไมเขาถึงไม่พยายามทำให้เธอให้อภัยเขา ท่ามกลางความผิดหวังของเธอ เขาจากไปโดยไม่หันมามองเธอเลย! แล้วทำไมเขาถึงไม่ตกลงเลิกกับเธอไปเสียเลยล่ะ
“เลิกมองเสียทีเถอะ ประตูจะทะลุอยู่แล้วเพราะสายตาคุณ” ฉู่หลิงเข้ามาหาและพูดติดตลก ถังซีหันกลับมามอง เธอหยิบผ้าชิ้นหนึ่งขึ้นมา แสร้งทำเป็นยุ่งอยู่กับการจัดแต่งผ้าผืนนั้น “คุณเข้าใจผิดแล้ว ฉันไม่ได้มองประตูสักหน่อย ฉันแค่กำลังใช้ความคิด”
“อ้อ คุณกำลังครุ่นคิดโดยสายตาจ้องไปที่ประตู อย่างนั้นใช่ไหม” ฉู่หลิงเลิกคิ้ว มองหน้าถังซีและกล่าวว่า “พนักงานพวกนี้มีฝีมือ พวกเขามีประสบการณ์การทำงานมานานหลายสิบปี เพราะฉะนั้นคุณวางใจได้ พวกเขาจะทำเสื้อผ้าออกมาได้ดีกว่าที่คุณจะลงมือทำเอง”
ถังซีพยักหน้ากล่าวว่า “ฉันพอใจกับงานของพวกเขา ทุกคนสามารถสร้างสรรค์ผลงานออกมาได้ตรงตามความตั้งใจในการออกแบบของฉันอย่างสมบูรณ์ ฉันชอบผลงานของพวกเขา”
“ไปทานข้าวกลางวันกันเถอะ” ฉู่หลิงยิ้ม “เรายังไม่เคยทานอาหารด้วยกันเลย ผมจะเลี้ยงคุณเองมื้อนี้ เพื่อขอบคุณที่ช่วยชีวิตผมเมื่อคราวก่อน แม้ว่าตอนนั้นผมเกือบจะหมดสติไปแล้ว แต่ผมก็จำได้ว่าคุณผ่าตัดให้ผม และช่วยชีวิตผมไว้ได้ คุณเป็นหมอหรือเปล่าเนี่ย”
ถังซีหัวใจเต้นแรงเมื่อได้ยินคำถามนี้ เธอยิ้มและบ่ายเบี่ยงไม่ตอบคำถามเขา “รอฉันอีกสักเดี๋ยวได้ไหม แล้วขอเป็นอาหารฝรั่งเศสได้หรือเปล่า”