ตอนที่ 1757

Genius Doctor Black Belly Miss

ตอนที่ 1757  เริ่มการแสดง (5)
  พวกผู้เยาว์จากวิหารมังกรและวิหารมารโลหิตทะเลาะกันต่อหน้าทุกคนในห้องโถงใหญ่ศิษย์ของวิหารจิงหงเริ่มควบคุมสถานการณ์ไม่ได้
  และผู้เยาว์จากวิหารอื่นๆที่มาเกาะติดสถานการณ์ก็หวังให้เหตุการณ์บานปลายใหญ่โตยิ่งใหญ่ก็ยิ่งดี
  สามวิหารเกิดเรื่องเช่นนี้วิหารอื่นก็ได้ประโยชน์โดยไม่ต้องกระดิกนิ้วด้วยซ้ำไม่ใช่หรือ?
  จวินอู๋เสียยังคงซ่อนตัวชื่นชมผลงานของตัวเองถึงจุดนี้นางก็มั่นใจได้แล้วว่ากู่อิ่งไม่สามารถหลุดจากข้อกล่าวหาฐานฆาตกรรมได้ แผนของนางสำเร็จแล้ว
  ภายใต้ความโกลาหลวุ่นวายทั้งหมดร่างหนึ่งรีบวิ่งไปที่ประตูห้องโถงของวิหาร
  จื่อจินมองความวุ่นวายในห้องโถงอย่างตกตะลึงเมื่อนางเห็นกู่อิ่งซึ่งยืนอยู่กลางฝูงชน ถูกพวกผู้เยาว์จากวิหารมังกรรุมด่าทอสาปแช่ง หัวใจนางก็พลันเจ็บปวด
  เกิดอะไรขึ้นที่นี่?
  ระหว่างทางมาที่นี่จื่อจินได้ยินพวกผู้เยาว์จากวิหารอื่นพูดคุยกันเรื่องนี้แล้ว และรู้ทุกอย่างที่เกิดขึ้น แต่ทั้งหมดนั้นไม่ได้เรียบง่ายอย่างที่นางคิดในตอนแรก
  [จูเก๋ออินตายแล้ว……]
  [ตายอย่างลึกลับและทุกคนก็เอาการตายของจูเก๋ออินมากล่าวโทษกู่อิ่ง]
  วินาทีที่นางเห็นร่างของกู่อิ่งจื่อจินรู้สึกเหมือนมีคนสูบเอาเรี่ยวแรงในร่างกายนางไปจนหมด ขาของนางอ่อนปวกเปียกอย่างควบคุมไม่ได้ เมื่อเห็นว่าตัวเองกำลังจะล้ม นางก็จับกรอบประตูห้องโถงเพื่อพยุงตัวไว้
  [จะเป็นแบบนี้ต่อไปไม่ได้!]
  [คุณชายกู่ไม่ได้ฆ่าจูเก๋ออิน!นางต้องช่วยแก้ไขสถานการณ์ให้กู่อิ่ง!]
  จื่อจินสูดหายใจเข้าลึกๆและพยายามเดินเข้าไปในห้องโถงใหญ่ ขณะนั้น ในใจนางคิดอยู่เพียงอย่างเดียวคือช่วยกู่อิ่ง นอกเหนือจากเรื่องนั้น ไม่มีอะไรสำคัญอีกแล้ว!
  ต่อให้ต้องเปิดเผยตัวตนนางก็จะพิสูจน์ความบริสุทธิ์ให้กู่อิ่ง
  แต่ทว่าจื่อจินเพิ่งก้าวเท้าเข้าไปในห้องโถงใหญ่ของวิหารจิงหงได้แค่ก้าวเดียวเท่านั้น ทันใดนั้นก็มีมือที่แข็งแรงข้างหนึ่งเอื้อมมาปิดปากของนางเอาไว้เพื่อป้องกันไม่ให้นางส่งเสียงร้องออกมา แขนแข็งแรงอีกข้างก็คว้าเอวนาง บังคับลากออกไปจากประตูห้องโถง
  ภายในห้องโถงมีเสียงดังเอะอะวุ่นวายไม่มีใครสังเกตเห็นการมาของจื่อจิน และไม่มีใครเห็นนางถูกคนลักพาตัวไป
  สายตาของจื่อจินกวาดมองไปทั่วห้องโถงใหญ่อย่างตื่นตระหนก
  ทันใดนั้นเอง!
  นางก็เห็นจวินอู๋เสียยืนอยู่ที่มุมหนึ่ง
  จวินอู๋เสียกำลังมองมาตรงมาที่นาง
  ดวงตาใสกระจ่างเย็นชาคู่นั้นทำให้นางตกใจมาก!
  นางเห็นจวินอู๋เสียยกมือขึ้นและจรดนิ้วชี้ไว้ที่ริมฝีปากเป็นสัญญาณให้เงียบ
  ดวงตาของจื่อจินเบิกกว้างจ้องมองจวินอู๋เสียที่สงบนิ่งอย่างไม่อยากจะเชื่อสายตา แล้วความคิดที่น่ากลัวก็ก่อตัวขึ้นในหัวของนาง!
  [เป็นเขา!ทั้งหมดนี้เป็นแผนของจวินอู๋มาตั้งแต่แรก!]
  จื่อจินไม่อยากจะเชื่อเลยแต่ความเป็นจริงที่อยู่ตรงหน้าก็บังคับให้นางรู้ว่าการกระทำของนางทุกอย่างไม่เคยรอดพ้นจากสายตาของจวินอู๋เสีย
  จวินอู๋เสียอาจรู้เรื่องที่นางติดต่อกับกู่อิ่งมาตั้งแต่ต้นแล้วและเดาได้ว่านางจะเปิดเผยแผนการให้กู่อิ่งรู้……
  จื่อจินเต็มไปด้วยความกลัวและความวิตกกังวลอย่างมากนางถูกพาตัวออกไปจากห้องโถงใหญ่อย่างเงียบๆ
  จวินอู๋เสียหันหน้ากลับไปมองความวุ่นวายในห้องโถงใหญ่แล้วรอยยิ้มบางๆก็ผุดขึ้นที่ริมฝีปากของนาง
  เพื่อทำให้เรื่องวุ่นวายโกลาหลนี้สำเร็จสมบูรณ์บุคคลสำคัญที่สุดในเรื่องนี้ไม่ใช่นาง แต่เป็นฮัวเหยา
  จวินอู๋เสียมองไปทางฮัวเหยาที่ทำตัวไม่สะดุดตาอยู่ท่ามกลางฝูงชนไม่มีใครคิดเลยว่าจูเก๋ออินที่กู่ซินเยียนเจอนั้น ความจริงแล้วคือฮัวเหยาปลอมตัวมา และเพื่อให้หลุดจากการตรวจสอบของวิหารจิงหง ก่อนที่ฮัวเหยาจะเคลื่อนไหว จวินอู๋เสียได้ให้ฮัวเหยาต่อสู้ครั้งใหญ่กับเฉียวฉู่ต่อหน้าศิษย์ของทั้งสองวิหาร!
ตอนที่ 1758  โง่จนเกินเยียวยา (1)
  หลังจากนั้นเฉียวฉู่และฮัวเหยาก็ต่อสู้กันซึ่งเป็นการต่อสู้ที่ดูเหมือนจะรุนแรงโดยยืมเวทีประลองของวิหารจิงหงมาใช้ พอพ้นสายตาของทุกคน ฮัวเหยาก็ฉวยโอกาสเปลี่ยนร่างและแวบออกไป ทิ้งเฉียวฉู่ให้สร้างเสียงการต่อสู้อยู่ที่เวทีประลองเพียงคนเดียวเพื่อสร้างความสับสนให้กับพวกผู้เยาว์ที่อยู่นอกเวที
  เนื่องจากทั้งสองคนเคย“ต่อสู้” กันมาก่อนในช่วงงานชุมนุมเทพยุทธ์ มันจึงไม่ได้ก่อให้เกิดความสงสัยใดๆเมื่อทำเสียงดังเช่นนี้ขึ้นมา
  เบื้องหลังทั้งหมดนี้ล้วนทำขึ้นเพื่อให้แผนการดำเนินไปอย่างราบรื่นแม้ว่าวิหารมารโลหิตและวิหารมังกรจะทำการตรวจสอบ พวกเขาก็จะไม่มีวันได้คำตอบที่ต้องการ เพราะจวินอู๋เสียได้สร้างสถานการณ์ที่เข้ากันไม่ได้นี้ให้กับพวกเขา ไม่มีทางที่พวกเขาจะแก้ไขได้
  จวินอู๋เสียรู้ว่าเหตุการณ์นี้จะไม่มีข้อสรุปหนามจะฝังลึกเข้าไปในหัวใจของวิหารทั้งสาม
  การตายของประมุขน้อยวิหารมังกรจะไม่ถูกปัดทิ้งและปกปิดไปได้ง่ายๆ
  ความโกลาหลวุ่นวายของสิบสองวิหารจะเริ่มตั้งแต่ตอนนี้เป็นต้นไป
  จวินอู๋เสียไม่สนใจจะดูต่อนางหันหลังกลับอย่างเงียบๆ และมองไปที่กู่อิ่งซึ่งยืนนิ่งอยู่กลางห้องโถงใหญ่เป็นครั้งสุดท้าย
  นี่คือการทวงความยุติธรรมแทนฟ่านจั๋วความแค้นที่ฆ่าพ่อ จะไม่มีวันอยู่ร่วมโลกกันได้!
  ในห้องโถงที่กำลังวุ่นวายไม่มีใครสังเกตเห็นการจากไปของจวินอู๋เสีย
  จื่อจินถูกเย่กูลากตัวกลับเข้ามาในห้องมือของเย่กูปิดปากนางเอาไว้ตลอดทาง ไม่ว่านางจะดิ้นรนแค่ไหนก็ไม่สามารถหลุดจากมือของเย่กูได้
  หลังจากจวินอู๋เสียออกจากห้องโถงใหญ่นางก็ตรงไปที่ห้องของจื่อจิน ภายในห้อง จื่อจินทั้งเตะและทุบตีเย่กูไม่หยุด พยายามที่จะดิ้นให้หลุดจากมือเขา เย่กูเริ่มหน้าเครียด พยายามห้ามตัวเองไม่ให้บดขยี้ชีวิตน้อยๆของเด็กสาวที่รนหาที่ตาย เขาตัดสินใจมัดจื่อจินเอาไว้และผูกผ้าเช็ดหน้าไว้ที่ปากของนาง ทำให้นางขยับตัวไม่ได้ ส่งเสียงก็ไม่ได้
  จื่อจินถูกมัดติดกับเก้าอี้และถูกปิดปากเอาไว้ดวงตาของนางแดงก่ำ เมื่อนางเห็นจวินอู๋เสียเดินเข้ามา นางก็ดิ้นรนอีกครั้ง ปากส่งเสียงอู้อี้ไม่หยุด ความรู้สึกในแววตาที่จ้องมองจวินอู๋เสียเต็มไปด้วยความไม่อยากจะเชื่อ
  จวินอู๋เสียเดินเข้าไปในห้องและปิดประตูตามหลังจากนั้นก็นั่งลงที่เก้าอี้ข้างๆ ดวงตาแดงก่ำของจื่อจินไม่ได้ละสายตาจากร่างของจวินอู๋เสียเลย
  “อื้อ!อื้อ!” จื่อจินยังคงทำเสียงอู้อี้ต่อไป ร่างของนางดิ้นรนและโน้มตัวไปข้างหน้า เย่กูที่ยืนอยู่ข้างหลังนางขมวดคิ้วเล็กน้อย แล้วยื่นมือออกไปเพื่อจะกดตัวนางไว้
  แต่จวินอู๋เสียก็ยกมือขึ้นห้ามเย่กูพร้อมกับพูดว่า “แก้มัดนาง”
  เย่กูชะงักแม้แต่คนโง่ก็ยังดูออกว่าจื่อจินไม่ได้แสดงความเป็นมิตรต่อจวินอู๋เสียเลย ถ้าปล่อยนางตอนนี้ล่ะก็……เย่กูลังเล เขามองไปที่จวินอู๋เหยาซึ่งยืนอยู่ข้างหลังจวินอู๋เสีย หลังจากได้รับการพยักหน้าจากจวินอู๋เหยา เย่กูก็เม้มปาก แล้วจัดการปลดพันธนาการของจื่อจินด้วยความไม่พอใจเล็กน้อย
  “เจ้าคนแซ่จวิน!เจ้าคนต่ำช้าไร้ยางอาย!” ทันทีที่จื่อจินเป็นอิสระ นางก็ลุกขึ้นยืนและกระโจนเข้าใส่จวินอู๋เสียทันทีพร้อมกับยกมือขึ้น เห็นได้ชัดว่ามือนั้นจะฟาดลงไปยังใบหน้าของจวินอู๋เสีย
  แต่ก่อนที่จื่อจินจะได้แตะต้องจวินอู๋เสียพลังอันรุนแรงก็กระแทกเข้าที่หน้าท้องของจื่อจิน ทำให้ร่างนางกระเด็นออกไป
  “ถ้าเจ้าไม่อยากมีชีวิตอยู่แล้วข้าช่วยสงเคราะห์ให้เจ้าสมปรารถนาได้” จวินอู๋เหยาพูดยิ้มๆขณะยืนอยู่ข้างหลังจวินอู๋เสีย หมอกสีดำหมุนวนอยู่บนฝ่ามือของเขาอย่างน่ากลัว