ตอนที่ 1759 โง่จนเกินเยียวยา (2)
จื่อจินล้มลงกระแทกพื้นอย่างแรงเลือดไหลออกจากปากนางทันที นางนอนกองอยู่บนพื้นอย่างน่าอนาถ ใบหน้าเปื้อนเลือดของนางค่อยๆเงยขึ้นมา น้ำตาคลออยู่ในดวงตาที่เต็มไปด้วยความเกลียดชังขณะจ้องไปที่จวินอู๋เสียเขม็ง
“ข้ารู้ว่าข้าไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเจ้าแต่จวินอู๋ ผู้คนจะรู้ถึงความต่ำช้าน่ารังเกียจของเจ้าไม่ช้าก็เร็ว คนเช่นเจ้าไม่เหมาะจะเป็นพันธมิตรของท่านประมุขเรา!” จื่อจินไม่กล้านึกถึงภาพด้านหลังที่โดดเดี่ยวของกู่อิ่งในห้องโถงใหญ่
เด็กหนุ่มที่สดใสและอ่อนโยนเช่นนั้นต้องโดนจวินอู๋ทำให้ถูกประณามไปชั่วนิรันดร์ จิตใจที่ร้ายกาจเช่นนี้ทำให้ผู้คนต้องตัวสั่นด้วยความกลัว
“ต่ำช้าน่ารังเกียจ?”จวินอู๋เสียเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อย นางมองจื่อจินที่ยังนอนกระอักเลือดอยู่บนพื้น ได้ยินคำว่ากล่าวที่ออกจากปากจื่อจินเช่นนั้น รอยยิ้มก็ผุดขึ้นที่ริมฝีปากของจวินอู๋เสีย และเสียงหัวเราะเบาๆก็หลุดจากปากนาง
เสียงหัวเราะนั้นทำให้จื่อจินนิ่งอึ้งไป
นางไม่เคยเห็นจวินอู๋เสียหัวเราะนี่เป็นครั้งแรก
“จื่อจินเจ้าลืมสถานะของตัวเองไปรึเปล่า? หรือเจ้าคิดจะกลับไปบอกประมุขของเจ้าว่าเป็นเพราะเจ้าตกหลุมรักประมุขน้อยของวิหารมารโลหิต เจ้าจึงเปิดเผยตัวตนของตัวเองและวิหารหยกวิญญาณโดยไม่ลังเลแม้แต่น้อย และยังทรยศเอาแผนการของข้าไปบอกให้กู่อิ่งรู้ด้วย” จวินอู๋เสียหรี่ตา ความโง่ของจื่อจินนี่น่าขำเกินไปแล้ว
จื่อจินชะงักไปเล็กน้อย
จวินอู๋เสียพูดว่า“จื่อจิน เจ้าเป็นศิษย์ของวิหารหยกวิญญาณ ต้องให้ข้าเตือนไหมว่าทำไมวิหารหยกวิญญาณถึงต้องซ่อนตัวอยู่ในภูเขาฝูเหยาจนถึงทุกวันนี้ ทำไมศิษย์ของวิหารหยกวิญญาณถึงไม่กล้าก้าวเท้าออกไปสู่โลกภายนอก ทำไมพวกเจ้าทุกคนถึงต้องอยู่อย่างหลบๆซ่อนๆในถ้ำ พยายามเอาตัวรอดไปวันๆ”
ขณะที่จวินอู๋เสียพูดนางก็ลุกขึ้นจากเก้าอี้และเดินไปตรงหน้าจื่อจิน แล้วลงนั่งยองๆใช้นิ้วเชยคางของจื่อจิน บังคับให้เงยหน้าขึ้นและมองเข้าไปในดวงตาของนาง
“ศิษย์พี่ศิษย์น้องของเจ้ากี่คนที่ถูกสิบสองวิหารฆ่าตาย?ตอนนี้เจ้ากลับบอกข้าว่าข้าต่ำช้าน่ารังเกียจที่วางแผนเล่นงานกู่อิ่ง? ไม่ยักรู้ว่าเจ้าใจกว้างขนาดนี้ ถึงขนาดสงสารเห็นใจศัตรูของตัวเองด้วย” เสียงของจวินอู๋เสียนุ่มนวลมาก แต่เมื่อจื่อจินได้ยินกลับทำให้นางตัวสั่นทั้งร่างอย่างควบคุมไม่ได้
จื่อจินปากสั่นเล็กน้อยนางเงียบอยู่นานก่อนจะพูดตะกุกตะกักว่า “คุณชายกู่……คุณชายกู่ไม่เหมือนคนพวกนั้น!” พูดจบจื่อจินก็รวบรวมความกล้าปัดมือของจวินอู๋เสียออกไป!
“คุณชายกู่แตกต่างจากคนอื่นๆของสิบสองวิหาร!เขาใจดีและอ่อนโยนมาก ขนาดรู้ตัวจริงของข้า เขาก็ไม่ได้ทำร้ายข้าเลย! เขาอยากปกป้องข้าและช่วยข้าเก็บความลับด้วย!” เสียงของจื่อจินดังขึ้นเรื่อยๆ ดูเหมือนนางพยายามโน้มน้าวจวินอู๋เสีย แต่เหมือนนางกำลังโน้มน้าวตัวเองมากกว่า
คำพูดของจวินอู๋เสียทำให้นางตกใจก่อนหน้านี้นางไม่ได้คิดเลยว่าการเปิดเผยวิหารหยกวิญญาณต่อหน้ากู่อิ่งจะนำหายนะแบบไหนมาสู่วิหารของพวกนาง แต่นางไม่กล้าคิดเรื่องนั้นต่อ นางเชื่อมั่นว่ากู่อิ่งแตกต่างจากคนอื่น นางเชื่อว่ากู่อิ่งจะไม่ทำอะไรที่เป็นอันตรายต่อนางและวิหารหยกวิญญาณอย่างแน่นอน
“ใจดี?อ่อนโยน?” จวินอู๋เสียหัวเราะ นี่เป็นครั้งแรกที่นางได้ยินคนใช้คำที่น่าขำสองคำนี้บรรยายถึงเด็กหนุ่มกระหายเลือดเช่นนั้น
“เจ้าควรออกไปเปิดหูเปิดตาข้างนอกจริงๆรู้ไหมว่าทำไมกู่อิ่งถึงถูกขอให้ออกจากสำนักธาราเมฆในตอนแรก?” จวินอู๋เสียถาม
จื่อจินส่ายหัว
จวินอู๋เสียหรี่ตาและพูดว่า“เพราะตอนที่เขาอยู่ในสำนักธาราเมฆ เขาได้ควักลูกตาของเด็กสาวคนหนึ่งเพียงเพราะว่า……เขารู้สึกว่านางมีดวงตาที่สวยงามมาก”
ตอนที่ 1760 โง่จนเกินเยียวยา (3)
“อะไรนะ……”จื่อจินเบิกตากว้าง ไม่เชื่อสิ่งที่เพิ่งได้ยิน
[ควักตาคน……กู่อิ่งน่ะหรือ?เป็นไปได้ยังไง!?]
“เจ้าโกหกข้า!คุณชายกู่อ่อนโยนมาก เขาจะทำเรื่องน่าสยดสยองเช่นนั้นได้อย่างไร? เจ้าหาข้อแก้ตัวให้ตัวเองชัดๆ!” จื่อจินสั่นเทิ้มไปทั้งร่างขณะเถียงจวินอู๋เสีย
จวินอู๋เสียพูดว่า“ข้าโกหกเจ้าหรือเจ้าโกหกตัวเองกันแน่? คิดว่าวิหารมารโลหิตเป็นสถานที่แบบไหน? มันเป็นความจริงหรือไม่ เจ้าก็กลับไปถามประมุขของเจ้าดู” จวินอู๋เสียรู้ดี แม้ว่าประมุขวิหารหยกวิญญาณจะไม่ได้ก้าวออกจากวิหารหยกวิญญาณเลย แต่ทุกเรื่องที่เกิดขึ้นข้างนอก เขาย่อมมีช่องทางของตัวเองที่จะรู้เรื่องพวกนั้นได้ ส่วนเรื่องที่กู่อิ่งเป็นคนแบบไหนนั้น ก็ไม่ใช่ความลับอะไรในสิบสองวิหาร
“เป็นไปไม่ได้……เจ้าโกหกข้า!คุณชายกู่ไม่มีทาง……” จื่อจินยังอยากดิ้นรน แต่จวินอู๋เสียหมดความอดทนที่จะฟังคำพูดไร้สาระไม่รู้จบของนางแล้ว
เสียงเพียะดังขึ้นอย่างชัดเจนฝ่ามือของจวินอู๋เสียตบลงไปที่ใบหน้าของจื่อจิน!
“ตบนี้ให้เจ้าในฐานะพันธมิตรของวิหารหยกวิญญาณเจ้าจำสถานะของตัวเองไม่ได้และสมรู้ร่วมคิดกับศัตรูโดยไม่คำนึงถึงความปลอดภัยของข้าและของวิหารหยกวิญญาณ จื่อจิน เจ้าหลงใหลงมงายอยู่กับเด็กหนุ่มที่เจ้าชื่นชมจนไม่เหลืออะไรอยู่ในสมองแล้วงั้นหรือ? ถ้าวันหนึ่งวิหารมารโลหิตไปสังหารวิหารหยกวิญญาณของพวกเจ้า จงจำไว้ให้ดีว่าเจ้าเป็นคนนำอันตรายนี้มาสู่พวกเขา” จวินอู๋เสียยืนขึ้น ว่ากันตามจริงแล้ว นางไม่อยากจะเสียเวลาคุยกับคนโง่เช่นนี้ คนโง่ที่มองคนไม่ออก คนโง่ที่ไม่สามารถแยกแยะถูกผิดได้ ไม่ว่านางจะพูดยังไงก็ไม่ช่วยให้เด็กสาวคนนี้หายโง่ได้
“มัดนางไว้และพานางกลับไปที่วิหารหยกวิญญาณให้ประมุขวิหารหยกวิญญาณดูเองให้ชัดๆว่าศิษย์ของเขาโง่แค่ไหน” จวินอู๋เสียพูดกับเย่กูที่อยู่ด้านข้าง
เย่กูเดินเข้าไปดึงตัวจื่อจินขึ้นมาทันทีตอนนั้นเองจื่อจินก็รู้สึกเหมือนวิญญาณนางแทบกระโดดออกจากร่างด้วยความตกใจกลัวคำพูดของจวินอู๋เสีย
“เจ้าโกหกข้า!เจ้าเองก็เลือกเยว่อี้เหมือนกันไม่ใช่หรือ!? เยว่อี้ก็มาจากวิหารเงาจันทราไม่ใช่หรือ!? ทำไมเจ้าเชื่อใจคนของสิบสองวิหารได้แต่ข้าเชื่อใจกู่อิ่งไม่ได้? เจ้าคนแซ่จวิน! เห็นอยู่ชัดๆว่าเจ้ามันใจแคบ ลงมือโหดเหี้ยมไร้เมตตา แต่ทำเป็นพูดจาสวยหรูใหญ่โต! เจ้าฆ่าจูเก๋ออิน! เจ้าใส่ร้ายกู่อิ่ง! เจ้ามันก็แค่ฆาตกร! เจ้าปีศาจ! เจ้าอ้างว่าเป็นพันธมิตรของวิหารหยกวิญญาณ แต่กลับใช้ข้าจัดฉากคุณชายกู่! เจ้าคนต่ำช้าน่ารังเกียจ!” จื่อจินยังอยากจะด่าต่อ แต่เย่กูไม่ให้โอกาสนาง เขาจัดการปิดปากนางเอาไว้และมัดนางไว้อย่างแน่นหนาจนไม่สามารถสร้างความวุ่นวายต่อไปได้
จวินอู๋เสียมองจื่อจินที่ทำตัวราวกับหมาบ้าในแววตาไม่มีความสงสารเห็นใจแม้แต่น้อย
“ใช้เจ้า?”จวินอู๋เสียส่ายหน้า “ข้าไม่เคยขอให้เจ้าไปเปิดเผยแผนการให้กู่อิ่งรู้ ถ้าไม่ใช่เพราะเจ้ามีเจตนาแอบแฝง คิดจะทรยศข้า แล้วกู่อิ่งจะตกหลุมพรางได้ยังไง? ทำเรื่องที่ไร้คุณธรรมก็มีแต่จะนำความพินาศมาสู่ตัวเอง ในเมื่อเจ้ารู้สึกเสียใจแทนเขามาก งั้นก็จำไว้ สภาพที่เขาเป็นตอนนี้ ทั้งหมดเกิดขึ้นด้วยน้ำมือของเจ้า”
จื่อจินรู้สึกเหมือนถูกสายฟ้าฟาดเข้าใส่นางตะลึงนิ่งอึ้งอยู่กับที่
ใช่แล้วถ้านางไม่วิ่งไปบอกกู่อิ่งถึงแผนการทั้งหมด กู่อิ่งจะไปหาจูเก๋ออินทำไม? แผนการของจวินอู๋เสียจะสำเร็จได้อย่างไร?
ที่จวินอู๋เสียพูดทั้งหมดนั้นก็เพราะตั้งใจจะทำการทดสอบจื่อจินเป็นครั้งสุดท้ายนางเสนอทางเลือกให้จื่อจินสองทาง ขึ้นอยู่กับนางว่าจะเลือกอะไร
ถ้าจื่อจินไม่คิดทรยศจวินอู๋เสียทุกอย่างก็จะไม่เกิดขึ้น……