ตอนที่ 1761 โง่จนเกินเยียวยา (4)
จะอยู่หรือตายขึ้นอยู่กับทางเลือกที่จื่อจินเลือก
ไม่มีคำพูดอื่นใดที่สามารถทำให้จื่อจินเจ็บมากกว่านี้ได้อีกแล้วนางยอมอยู่เงียบๆและก้มหน้าจมอยู่กับความเสียใจ
เนื่องจากการตายของจูเก๋ออินความขัดแย้งระหว่างวิหารมังกรและวิหารมารโลหิตยิ่งทวีความรุนแรงมากขึ้นเรื่อยๆ วิหารจิงหงก็ยังไม่สามารถตัดสินใจได้ แม้ว่ากู่อิ่งจะถูกช่วยไปได้โดยกู่ซินเยียนที่นำคนของตนมาปกป้องเขาอย่างเต็มที่ แต่การที่นางทำเช่นนั้นทำให้ศิษย์ของวิหารมังกรยิ่งโกรธแค้นมากขึ้น นำไปสู่ความวุ่นวายโกลาหลที่ปะทุขึ้นในวิหารจิงหง
ศิษย์ของวิหารมังกรเริ่มโจมตีคนของวิหารมารโลหิตอย่างต่อเนื่องและคนจากทั้งสองฝ่ายก็ต่อสู้กันไม่หยุด ขณะที่การต่อสู้ดำเนินไปอย่างดุเดือด มันก็ทำให้พวกผู้เยาว์จากวิหารอื่นโดนลูกหลงไปด้วย บางคนที่มีพลังระดับปานกลางก็ถึงกับเสียชีวิตหรือไม่ก็บาดเจ็บสาหัส
ไม่นานวิหารจิงหงก็นองไปด้วยเลือด ประมุขวิหารจิงหงไม่มีอารมณ์ฉลองวันเกิดอีกต่อไป เขาไม่มีทางเลือกนอกจากระดมกำลังของวิหารจิงหงเข้ายับยั้งหายนะครั้งนี้
หายนะที่เกิดขึ้นทำให้วิหารจิงหงไม่มีทางเลือกนอกจากยุติการเตรียมการทั้งหมดที่วางแผนไว้สำหรับงานฉลองวันเกิดและเริ่มจัดการกับสถานการณ์ที่สิ้นหวัง ศิษย์จากวิหารต่างๆถูกขอให้กลับไปทีละวิหาร และไม่มีใครกล้าอยู่ในสถานที่ที่มีเรื่องเช่นนี้ต่อ โดยเฉพาะอย่างยิ่งวิหารที่มีความแข็งแกร่งน้อย พวกเขาแทบรอไม่ไหวที่จะไปจากที่นี่ให้เร็วที่สุด
และจวินอู๋เสียก็จากไปพร้อมกับคณะเดินทางของนางในวันที่สามหลังจากเกิดความโกลาหลขึ้น
ตอนที่พวกเขาออกจากวิหารจิงหงจวินอู๋เสียนั่งอยู่ในรถม้า นางบังเอิญเห็นกู่อิ่งถูกล้อมรอบด้วยกลุ่มศิษย์จากวิหารมารโลหิต พวกเขารีบวิ่งเข้าไปในรถม้าให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ ขณะที่ศิษย์ของวิหารมังกรก็วิ่งไล่ตามมาด้วยความโกรธแค้น
จวินอู๋เสียมองไปที่กู่อิ่งทางหน้าต่างรถม้ากู่อิ่งเองก็บังเอิญหันมามองพอดี สายตาของคนทั้งสองปะทะกันกลางอากาศ
ทันใดนั้นรอยยิ้มก็ปรากฏขึ้นบนใบหน้าของกู่อิ่งดูชั่วร้ายน่ากลัวราวกับปีศาจ
จวินอู๋เสียกระตุกมุมปากเล็กน้อยและละสายตากลับมา
รอบนี้กู่อิ่งพ่ายแพ้อย่างสมบูรณ์
จวินอู๋เสียและจวินอู๋เหยานั่งอยู่ในรถม้าคันเดียวกันโดยมีท่านแบะแบะและกระต่ายโลหิตที่ไม่สามารถอ้อนจวินอู๋เสียได้มาเป็นเวลานานอยู่ด้วย สัตว์อสูรน่ารักทั้งสองกระโดดเข้าสู่อ้อมแขนของจวินอู๋เสียทันที ทำหน้าตาให้ดูน่ารักมากที่สุดเพื่อขอกอดจากนาง แต่เจ้าแมวดำตัวน้อยกลับซ่อนตัวอยู่ในมุมที่ห่างไกล ขดตัวเป็นลูกบอล แววตายังคงบอบช้ำขณะแอบมองจวินอู๋เหยาที่นั่งอยู่ด้านหนึ่งพร้อมด้วยรอยยิ้มบางๆประดับอยู่บนริมฝีปาก
[เจ้าโง่สองตัวนั้นต้องไม่อยากมีชีวิตอยู่แล้วแน่ดูรอยยิ้มของราชาปีศาจนั่นซิ น่ากลัวโคตร! คืนนี้พวกเจ้าทั้งสองโดนจับตุ๋นแน่!]
เยว่อี้กับเย่เม่ยนั่งอยู่ในรถม้าคันเดียวกันขณะที่จื่อจินถูกเย่ฉาและเย่กูจับตามองอย่างใกล้ชิด รถม้าของวิหารเงาจันทราค่อยๆเคลื่อนออกไปจากประตูของวิหารจิงหง
กู่อิ่งเข้าไปในรถม้าภายใต้การคุ้มกันของพรรคพวกของเขาเสียงการต่อสู้ดังมาจากนอกรถม้า กู่ซินเยียนที่นั่งอยู่ในรถม้าคันเดียวกันขมวดคิ้วเล็กน้อย จากนั้นก็กระตุ้นให้คนขับรถม้ารีบออกรถ
“ครั้งนี้ก่อเรื่องใหญ่โตถึงขนาดนี้กลับไปท่านจะอธิบายกับท่านพ่อยังไง?” กู่ซินเยียนยังคงขมวดคิ้วอย่างวิตกกังวล ไม่ใช่ว่านางจะมองไม่เห็นความแตกต่างที่กู่อี้ปฏิบัติกับนางและกู่อิ่ง เหตุการณ์ครั้งนี้กลายเป็นเรื่องใหญ่มาก แม้ว่านางจะเป็นคนรับผิดชอบ นางก็คิดว่านางจะถูกลงโทษน้อยกว่าคนที่เกี่ยวข้องตรงๆอย่างกู่อิ่งมาก
ตอนนี้สิ่งที่กู่ซินเยียนกังวลมากที่สุดคือสิ่งที่กู่อิ่งต้องเผชิญตอนที่พวกเขากลับไป
แต่ดูเหมือนกู่อิ่งจะไม่ใส่ใจเลยแม้แต่น้อยเขานั่งเท้าคางอยู่ข้างหน้าต่าง มองดูรถม้าที่มีตราวิหารเงาจันทราค่อยๆเคลื่อนที่ห่างออกไปจากสายตา มุมปากยกขึ้นเป็นรอยยิ้มที่ยากจะหยั่งถึง
“ต้องอธิบายอะไร?อยากฆ่าอยากหั่นก็แล้วแต่ท่านพ่อเถอะ”
ตอนที่ 1762 คนบาปไม่อาจอยู่ (1)
หลังจากจวินอู๋เสียออกจากอาณาเขตที่อยู่ในอำนาจของวิหารจิงหงนางไม่ได้เดินทางไปที่วิหารเงาจันทราในทันที แต่กลับหยุดขบวนกลางคันและให้เยว่อี้รออยู่ในป่าโดยมีเย่เม่ยคอยอยู่เฝ้าดูเขา ส่วนนางก็เดินหน้าต่อไปยังภูเขาฝูเหยาพร้อมกับจวินอู๋เหยาและคนอื่นๆ โดยพาจื่อจินไปด้วย
ในวิหารหยกวิญญาณประมุขวิหารหยกวิญญาณนอนเอกเขนกอยู่บนเก้าอี้ยาวอย่างเกียจคร้าน จิบสุราเลิศรส ขณะที่ฟังดนตรีอันไพเราะซึ่งบรรเลงโดยศิษย์ของเขา ชีวิตช่างแสนสำราญเหลือเกิน
ทันใดนั้นประตูใหญ่ของวิหารหยกวิญญาณก็ถูกเปิดออก ประมุขวิหารหยกวิญญาณลุกขึ้นนั่ง สายตามองไปที่ด้านหน้าของห้องโถงใหญ่
ร่างหลายร่างค่อยๆปรากฏขึ้นต่อสายตาของเขา
“คุณชายจวินนี่หมายความว่ายังไง?” หลังจากประมุขวิหารหยกวิญญาณเห็นผู้เข้ามาใหม่อย่างชัดเจน เขาก็ขมวดคิ้วทันที ความเอื่อยเฉื่อยในแววตาหายไป แทนที่ด้วยประกายเฉียบคม
เขาเห็นจื่อจินศิษย์ของตนถูกจับไว้โดยชายคนหนึ่งที่ยืนอยู่ด้านหลังของจวินอู๋เสียเชือกที่มัดอยู่รอบตัวจื่อจินขัดตาเขาเป็นอย่างมาก ใบหน้าของนางซีดขาว ลมหายใจอ่อน เห็นได้ชัดว่าได้รับบาดเจ็บหนัก
ภาพนั้นเป็นภาพที่ประมุขวิหารหยกวิญญาณไม่คิดฝันว่าจะได้เห็น
แม้ว่าภายนอกเขาจะเคยแสดงท่าทางดูแคลนสิ่งที่จวินอู๋เสียทำแต่ลึกๆในใจเขาชื่นชมผู้เยาว์ที่ชาญฉลาดผู้นี้อย่างมาก นั่นเป็นสาเหตุที่เขายอมให้จวินอู๋เสียพักอยู่ในวิหารหยกวิญญาณได้ แม้ว่าใบหน้าจะจงใจแสดงออกว่าไม่พอใจ แต่ในใจเขายอมรับจวินอู๋เสียเป็นพวกของตนแล้ว แต่ประมุขวิหารหยกวิญญาณคิดไม่ถึงว่าการยอมให้จวินอู๋เสียพาจื่อจินไปที่วิหารจิงหงนั้น สถานการณ์จะพลิกกลับในตอนที่พวกเขากลับมา!
“ไม่ทราบว่าจื่อจินทำผิดอะไรถึงทำให้คุณชายจวินปฏิบัติกับนางเช่นนี้?”แม้ว่าประมุขวิหารหยกวิญญาณจะมีสีหน้าไม่พอใจ แต่จากความเข้าใจที่เขามีต่อจวินอู๋เสีย นางจะไม่ปฏิบัติกับจื่อจินเช่นนั้นโดยไม่มีเหตุผลที่ดี
คำถามจากประมุขวิหารหยกวิญญาณทำให้จวินอู๋เสียพอใจมากเดิมทีนางคิดว่าถ้าประมุขวิหารหยกวิญญาณจะตัดสินไปเพียงฝ่ายเดียวและโต้เถียงกับนางโดยไม่แยกแยะถูกผิด การเป็นพันธมิตรระหว่างพวกเขาควรดำเนินต่อไปหรือไม่จะต้องได้รับการพิจารณาอย่างรอบคอบอีกครั้ง
โชคดีที่ประมุขวิหารหยกวิญญาณไม่ได้โง่
จวินอู๋เสียพยักหน้าเล็กน้อยเป็นสัญญาณเย่ฉาผลักจื่อจินลงไปที่พื้นต่อหน้าประมุขวิหารหยกวิญญาณทันที
เหล่าศิษย์วิหารหยกวิญญาณที่นั่งอยู่ในห้องโถงใหญ่เมื่อเห็นศิษย์พี่น้องของตนถูกทำเช่นนั้นก็แสดงสีหน้าโกรธออกมาทันที สายตาทุกคู่มองไปที่จวินอู๋เสียอย่างไม่เป็นมิตร
“พวกเจ้ามัดศิษย์น้องจื่อจินทำไม!”
“ทำเกินไปแล้ว!ปล่อยศิษย์พี่จื่อจินเดี๋ยวนี้นะ!” เหล่าเด็กสาวเริ่มโวยวายใส่เย่ฉาเสียงดังเอะอะ เรียกร้องให้เขาปล่อยตัวศิษย์พี่น้องของพวกเขา
เย่ฉาไม่เหลือบมองพวกนางเลยแม้แต่น้อยเขาแค่จ้องมองจื่อจินที่คุกเข่าอยู่ตรงหน้าประมุขวิหารหยกวิญญาณด้วยสีหน้าเย็นชา
“พวกเจ้าหุบปาก!ท่านประมุขก็อยู่ พวกเจ้าตะโกนเอะอะโวยวายได้ที่ไหนกัน มารยาทไปไหนหมด!” ท่านยายเยว่ผู้สงบนิ่งกระแทกไม้เท้าในมือลงกับพื้น ทำเสียงเข้มข่มเสียงตะโกนของพวกสาวๆ
ทันใดนั้นเหล่าศิษย์ของวิหารหยกวิญญาณก็ไม่กล้าส่งเสียงอีกต่อไป แต่สายตาที่มองจวินอู๋เสียฉายแววไม่พอใจอย่างมาก
“เรื่องที่ว่าเกิดอะไรขึ้นนั้นข้าว่าท่านประมุขถามนางเองจะดีกว่า” จวินอู๋เสียยืนเอามือไพล่หลัง และพยักหน้าให้เย่ฉา
เย่ฉาปล่อยจื่อจินจากพันธนาการและคลายการสกัดจุดใบ้ให้นาง
เมื่อได้รับอิสรภาพคืนจื่อจินรู้สึกไร้เรี่ยวแรงและล้มลงบนพื้น สภาพอันน่าเวทนาของนางทำให้เพื่อนศิษย์วิหารหยกวิญญาณของนางรู้สึกปวดใจ