1713-2 vs 1714 vs 1715 โดย Ink Stone_Romance
ตอนที่ 1713-2
สะดวก?
สะดวกอะไรวะ?
หลินเฟิงฟังด้วยความงุนงง เขารู้สึกว่าคำพูดของอวิ๋นหู่มีนัยยะซ้อนเร้น
“ฉันจะได้ไม่ต้องซื้อไง” อวิ๋นหู่พ่นควันบุหรี่ออกมาเป็นวงอยู่ใกล้ตัว
หลินเฟิงเข้าใจความหมายของอวิ๋นหู่ผิด นึกไปถึงแฟนของอวิ๋นหู่ “ถ้าจะใช้นายก็เอาไปได้นะ”
อวิ๋นหู่เหลือบมองอีกฝ่าย “นายจะใช้ตอนนี้ไหม?”
“ไม่” หลินเฟิงปัดเถ้าบุหรี่ เขาไม่คิดว่าจะได้ประสบกับเหตุการณ์ที่เพื่อนรักจะหยิบของแบบนี้จากเขา
อวิ๋นหู่ก็ตอบเรียบเรื่อย “งั้นตอนนี้ฉันก็ยังไม่ใช้เหมือนกัน”
“อ้อ” หลินเฟิงไม่รู้จะพูดอะไรดี ถ้าเจ้าเพื่อนรักจะไปมีอะไรกับแฟนตัวเองก็ขออย่าได้บอกเขาเลย เพราะรู้สึกทรมานในอก
ถ้าได้สูบบุหรี่สักมวนคงดีขึ้น หลินเฟิงคิดเช่นนี้แหละ
อวิ๋นหู่รู้ตัวเช่นกันว่าเจ้านี่ไม่เข้าใจความหมายของเขา แต่ ช่างเถอะ รอให้แข่งเสร็จก่อนเถอะ เขาจะคุยกับหลินเฟิงอย่างจริงจัง
รถติดมากจริงๆ รอจนมาถึงบ้าน หลินเฟิงกลับคืนสู่ท่าทีคุณชาย เขาวางถุงพลาสติกไว้บนโซฟา “เหนื่อยจะตาย คุณหญิงแม่ครับ ต่อไปขอเชิญคุณหญิงไปซื้อกับข้าวเองได้ไหมครับ?”
“ไม่ได้” คุณแม่หลินสวยเสมอ “ลูกเคยเห็นผู้หญิงสวยๆ ที่ไหนไปซื้อของที่ตลาดบ้าง แม่เพิ่งทำเล็บเอง เกิดพังขึ้นมาจะทำไง ลูกดูหู่เสียบ้าง แล้วหันมาตัวเองนะ ก็ไปซื้อของเหมือนกับลูกไม่ใช่เหรอ”
หลินเฟิง…จริงๆ นะ เขาไม่ใช่ลูกแท้ๆ ของคุณหญิงแม่แน่นอน
“ไหน ขอดูหน่อยซิว่า ลูกๆ ซื้ออะไรมาบ้าง?” คุณแม่พูดพลางรื้อของดู
หลินเฟิงกระโดดพรวดในทันใด ก่อนจะกระชากถุงหนึ่งไปอีกทาง เล่นเอาคุณแม่หลินสงสัย “เอ๊ ลูกคนนี้?”
“อะแฮ่ม” หลินเฟิงกระแอมกระไป “เมื่อกี้อวิ๋นหู่บอกว่าเขาเจ็บคอ แม่ไปทำน้ำลูกพีชให้เขาก่อนเถอะ เดี๋ยวค่อยมาดูกับข้าวนะ”
ถ้าแม่รื้อมาเห็นสิ่งนั้นล่ะก็ เขาตายแน่!
“เจ้าลูกคนนี้รู้จักเป็นห่วงคนอื่นด้วย” คุณแม่จิ้มนิ้วบนตัวเขา ก่อนจะเข้าไปต้มน้ำลูกพีชอย่างสวยๆ
หลินเฟิงตกใจมาก รีบหยิบเจ้าสามกล่องนั่นมายัดลงในกระเป๋ากางเกงตัวเอง ถึงได้โล่งใจ ทว่าอวิ๋นหู่ที่นั่งข้างๆ กลับยิ้มมองเขา ราวกับไม่เห็นเป็นอะไรเลย เขาแค่ตกใจไปเอง
ก็จริง เขาไม่มีประสบการณ์ ส่วนเพื่อนรักมีแฟนแล้ว ย่อมเทียบกันไม่ได้ หลินเฟิงรู้สึกว่า กำของในกระเป๋ากางเกงอย่างทรมาน จึงหาที่ที่เหมาะสมแล้วทิ้งไป แต่พอเดินเจ้าห้องตัวเอง ก็มีคนเดินตามหลังติด ๆ
ประตูถูกผลักออก เขาไม่คิดจะยั้งกิริยาตัวเอง คงเพราะเห็นหมดแล้ว จึงไม่มีอะไรต้องปิดบัง
หลินเฟิงซุกมือลงในกระเป๋ากางเกง สบตาอวิ๋นหู่ด้วยความเฉยชาเย็นยะเยือก ทั้งยังมีแสงพาดผ่านนัยน์ตา ราวกับถูกทำบางสิ่งบาด
“โยนทิ้งทำไม?”
………………………………………………….
ตอนที่ 1714
“เอ๋?” หลินเฟิงเกาศีรษะตัวเอง “คิดดูแล้ว ยังไงก็ไม่ได้ใช้ เดี๋ยวแม่ฉันเห็นเข้าจะกระอักกระอ่วนเลยทิ้งไปเหอะ”
อวิ๋นหู่มองหน้าอีกฝ่าย “ฉันให้นายเก็บไว้ไม่ใช่เหรอ”
หลินเฟิงเก็บกลั้นมานานจนทนไม่ไหว “ถึงเวลานั้นนายกับแฟนก็ไปซื้อใหม่เอาก็ได้ จะให้ฉันเก็บของพรรค์นี้ให้นายทำไม?”
อวิ๋นหู่จ้องเพื่อน เอ่ยช้าๆ “แฟนที่ไหน?”
“อ้าว นายกับผู้ชายคนนั้นเป็นแฟนกันไม่ใช่เหรอ?” หลินเฟิงยื่นมือไปดึงคอเสื้อเพื่อน “นายยังจะมาว่าแฟนที่ไหนอีก? อย่าบอกนะว่านายกับคนที่รู้จักผ่านแอพพลิเคชั่น แค่เล่นๆ กันเท่านั้น”
อวิ๋นหู่เลิกคิ้ว กักร่างเพื่อนไว้ที่กำแพง กำข้อมือของหลินเฟิง “ถ้าฉันแค่อยากเล่นๆ จะรอนายมาตั้งนมนานกันไปทำไม”
คำพูดประหลาดๆ ที่ได้ยิน ส่งผลให้หลินเฟิงหน้าร้อนฉ่า “จะพูดก็พูดดีๆ อย่ามาอยู่ใกล้ฉันขนาดนี้”
เฮ้ย! หลินเฟิงไม่รู้ว่าจะพูดอย่างไรดี ฝ่ายอวิ๋นหู่แนบหน้าเข้าประชิดเสี้ยวหน้าอีกฝ่าย “นายกำลังเขิน”
“เขินบ้าอะไรวะ” หลินเฟิงสูดลมหายใจเข้าไปลึกๆ “ปล่อยมือก่อน”
อวิ๋นหู่ก้มตัว “ไม่ปล่อย”
“เฮ้ย” หลินเฟิงแทบบ้า
อวิ๋นหู่กลับรู้สึกว่าไม่เลว โดยเฉพาะได้มองเห็นความเขินอายที่พุ่งขึ้นมาบนใบหน้าของอีกฝ่าย รู้สึกคันหัวใจเหลือเกิน เหมือนมีแมวกำลังตะกุยหัวใจ “นาย…”
ในระหว่างที่เขากำลังจะอธิบายเรื่อง “แฟน” หลินเฟิงก็เหมือนหาเทพแห่งความช่วยเหลือเจอ สะบัดมืออีกฝ่ายแบบโกรธๆ “หลีกไป มีสายโทรเข้า”
มีสายเรียกเข้าจริงๆ จากท่าทีที่เป็นอยู่ ทำให้อวิ๋นหู่รู้สึกถึงมือถือที่สั่นอยู่ในกระเป๋าเพื่อนเช่นกัน แต่จะทำไงได้ ก็ต้องปล่อยเหยื่อไป
หลินเฟิงเหมือนโดนปลดปล่อย อดถอนใจไม่ได้ สายที่โทรเข้ามาช่างเหมาะเหม็งกับเวลาจริงๆ ทว่าพอเห็นเบอร์บนหน้าจอ เขาก็เปลี่ยนไปทันที รีบกดปุ่มรับสาย “เฮ้ย เจ้าแบล็ก นายต้องบอกมาเสียดีๆ ว่า ตอนนี้นายอยู่ไหน ขอบอกนะ อย่าหาข้ออ้างมาวางสาย!”
ป๋อจิ่วที่อยู่ไกลถึงดินแดนที่กฎหมายเอื้อมไม่ถึง ได้ยินเสียงดุดันราวมังกรกลืนเสือ ถึงกับยิ้มขึ้น “พี่หลิน พี่พลังเยอะขนาดนี้ ฉันก็ไม่วางสายแล้วล่ะ ที่โทรมาก็แค่จะบอกว่า ฉันกับพี่มั่วจะบินกลับวันพรุ่งนี้ บินไปที่เจียงเฉิง ก็เลยอยากหาคนดึงความสนใจ”
“หัวหน้ากับนายเนี่ยนะ” เสียงของหลินเฟิงแทรกไปด้วยความตื่นตะลึง ซึ่งป๋อจิ่วก็ฟังออก เธอคิดอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะตัดสินใจไม่บอกเรื่องที่ท่านเทพสูญเสียความทรงจำกับอีกฝ่าย เพราะทางโน้นคงมีคนตรวจเช็คอยู่ “ค่อยคุยตอนเจอกันนะ ฉันมีรถมาด้วยคันหนึ่ง ต้องให้คนในประเทศช่วยดูแลให้ พี่ช่วยเป็นคนรับประกันให้ฉันที ส่วนเรื่องที่เหลือค่อยว่ากัน”
“รถเหรอ? เออ ได้” คนบื้อแบ๊วก็มีข้อดีตรงที่ไม่ถามให้มากความ
หลังจากวางสาย ป๋อจิ่วก็เงยหน้าขึ้นมาสบตาท่านเทพพอดี เมื่อชายหนุ่มล้างหน้าล้างเสร็จ ร่างก็หอมกรุ่นไปด้วยกลิ่นมินต์ เขากำลังพิงกรอบประตูห้องน้ำจ้องเธอ เดาว่าน่าจะได้ยินในสิ่งที่พูดทั้งหมด นัยน์ตารูปดอกท้อลุ่มลึกเหลือเกิน
ป๋อจิ่วลุกขึ้นยืน สาวเท้าเข้าไปหา “เมื่อกี้โทรไปหาเพื่อนของเราสองคน”
“อ้อ” ฉินมั่วหัวเราะชนิดที่ไม่มีใครรู้อารมณ์ที่แท้จริงของชายหนุ่ม
ประหลาดจริง ป๋อจิ่วรู้สึกว่าเขาไม่เชื่อใจเธออย่างมาก หรืออาจบอกได้ว่าเขาไม่ค่อยสนใจสักเท่าไร…
……………………………………………..
ตอนที่ 1715 พี่มั่ว น้องจิ่ว
ป๋อจิ่วคิดไม่ผิดหรอก เพราะตอนนี้นอกจากเหยื่ออย่างเธอแล้ว ฉินมั่วไม่สนใจใครอีก โดยเฉพาะเมื่อรู้ว่าเธอยังมีเพื่อนอีก เพราะในหัวใจเขา เหยื่อจะต้องมีเขาเพียงคนเพียง จะไปมีเพื่อนอีกได้ยังไง
ฉินมั่วหัวเราะ แต่นัยน์ตาไร้แววรื่นเริง ทว่าเวลานี้เขาย่อมไม่แสดงอาการอะไรออกมา เขาไม่ลืมบทบาทของตนเองว่าจะต้องอ่อนโยนเสมอ
“พวกเราลงไปข้างล่างกันใช่ไหม?” ฉินมั่วหยิบเสื้อกันลม
ป๋อจิ่วมองดูแผ่นหลังตระหง่าน รู้สึกว่าตัวเองมองท่านเทพไม่ออก แต่เข้าใจดีว่าคนที่สูญเสียความทรงจำ จะห่างเหินกับคนอื่นๆ ทว่าท่านเทพกลับต่างไปจากนั้น ทุกอย่างที่เธอพูด ดูเหมือนเขาจะเชื่ออย่างสนิทใจ…
ด้วยเหตุที่ทั้งสองไม่ได้มีสัมภาระติดตัว บริเวณเขตที่ไร้กฎหมายควบคุทม จึงไม่จำเป็นต้องมีบัตรประชาชนก็เข้าพักได้แล้ว การคืนห้องก็ทำได้อย่างง่ายดายเช่นกัน
เมื่อตื่นขึ้น อาการป่วยของท่านเทพก็หายดี ดูไม่ออกเลยว่าเมื่อคืนเขาไข้ขึ้น ซึ่งป๋อจิ่วก็เช่นกัน แต่ไม่ใช่เพราะร่างกายเธอฟื้นฟูเองหรอก หวนคิดดูอีกที สิ่งที่ท่านเทพทำลงไปเมื่อวาน มันพอจะทำให้เหงื่อออกจนไข้ลดได้เลยล่ะ
“เฮียมีน้ำมันรถไหม?” ป๋อจิ่วตัดสินใจที่จะเติมน้ำมันให้เสี่ยวเฮยก่อนออกเดินทาง
ใครจะรู้ว่า พอเฮียเจ้าของโรงแรมเห็นพวกเธอเดินลงมา ท่าทีก็เปลี่ยนไปราวกับเป็นคนรับใช้ที่ต้องต้อนรับเจ้านาย “น้ำมันรถเหรอ? ผมมีรถคันหนึ่งเติมน้ำมันเต็มถังเลย ถ้าคุณลูกค้าอยากได้ ผมจะไปเอามาให้”
เฮียแกรับปาก แต่พอเดินผ่านท่านเทพ กลับหลุดยิ้มที่ไม่เหมือนยิ้มออกมา ทำให้ป๋อจิ่วเห็นแล้วเลิกคิ้วขึ้น ตอนเข้าพักเมื่อคืน เฮียไม่ได้เป็นแบบนี้นี่ ทำไมเช้าวันนี้ถึงเปลี่ยนไป เห็นท่านเทพที เหมือนหนูเห็นแมว ไม่สิ ดูหวาดกลัวว่าเห็นแมวอีก
“พี่มั่ว เมื่อคืนลงมาที่นี่ใช่ไหม?” ป๋อจิ่วถามขึ้นทันที
ฝ่ายถูกถามก็ไม่ปฏิเสธ มุมปากยังยิ้มสว่างไสว “ก็คุยกับเฮียนิดหน่อย ตอนมาเอาแอลกอฮอล์”
ป๋อจิ่วสงสัยหนัก แค่ทักทายงั้นเหรอ?
“ท่าทางป๋าจะไม่เชื่อฉันแฮะ” ฉินมั่วดูสบายๆ “ฉันล่ะคิดว่าเธอจะเชื่อฉันทุกอย่าง ไหนว่าเธอเป็นคนรักของฉันไม่ใช่เหรอ”
ป๋อจิ่วทนได้ที่ไหนล่ะกับการที่ท่านเทพพูดกับเธอเช่นนี้ แม้ท่าทีจะดูเรื่อยเฉื่อย แต่เริ่มรู้สึกผิด “ฉันต้องเชื่อพี่อยู่แล้ว”
“อื้ม” ฉินมั่วหลุบตาลง
ป๋อจิ่วได้เห็นสภาพอีกฝ่าย ก็เข้าไปจุ๊บอย่างอดไม่ได้ “ไม่ว่าพี่พูดอะไร ฉันก็เชื่อหมด”
ฉินมั่วหัวเราะ “เมื่อวานเฮียพูดจาไม่ดี ฉันก็เลยสั่งสอนเขานิดหน่อย”
“ทำได้ดีมาก”
เฮียที่ไปเอาน้ำมันมาให้ ได้ยินคำพูดของป๋อจิ่วเข้าพอดี ก็อยากจะส่งพ่อคุณแม่คุณทั้งสองอออกไปเร็วๆ ไม่รู้หรือไงว่าผู้ชายของตัวเองโหดเหี้ยมขนาดไหน ยังมาโอ๋เอาใจอย่างกับเป็นตุ๊กตากระเบื้อง! แต่ถึงจะโมโหยังไง เฮียย่อมไม่กล้าแสดงออก เพราะเมื่อชายหนุ่มกวาดตามองอย่างไร้อารมณ์แวบเดียว เขาก็รู้สึกหนาวสะท้านไปทั้งตัว
ไม่รู้ว่าเด็กคนนี้มันโง่จริงหรือแกล้งงั่ง ถึงขั้นเอาผู้ชายอย่างนี้มาอยู่ข้างตัว เขารู้ทันคนแบบนี้ที่สุด พวกท่าทางสุภาพอ่อนโยน ราวกับคุณพ่อบ้านที่แสนจะภักดีต่อคุณภรรยา แต่อันที่จริง พอเราไม่ระวังก็จะแว้งกัดเราทันที เหมือนกับปีศาจล่อเหยื่อเพื่อเอามาสูบเลือดจนหมด กิริยาการกินอาหารที่แสนสง่า ซึ่งก็ขึ้นอยู่ว่าชายหนุ่มจะยังสนใจอีกฝ่ายได้นานเท่าไร…
…………………………………………