บทที่1690 – เทือกเขาหมาป่ามังกร พบกับปรมาจารย์ผู้ยิ่งใหญ่
ในตอนนี้ท้องของเธอยังไม่ได้โตขึ้นแม้จะผ่านมาแล้วสามเดือนก็แม้ว่าเธอกับชิงสุ่ยจะเป็นสามีภรรยากันแต่เธอก็รู้ไม่เคยชินทุกครั้งกับคำพูดไรยาอายของชิงสุ่ย ทุกครั้งที่ได้ยินมันเธอทำได้เพียงแค่ส่ายหัวอย่างไร้ประโยชน์เท่านั้น ในตอนนี้เธอเพียงแค่อยากให้คนทั้งสองคนนั้นสมหวัง สำหรับนายหญิงและเธอไม่ใช่คนอื่นไกลเลยสำหรับเจี้ยนเก้อ
ในความเป็นจริงชิงสุ่ยนั้นชัดเจนอย่างมากในจุดยืนของเขาเพียงแค่ว่าเจี้ยนเก้อไม่คิดว่าเขาจะหนักแน่นถึงขั้นนี้ อย่างไรก็ตามชิงสุ่ยก็ยังคงปฏิเสธอีกครั้ง
ในตอนนี้เขาได้อุ้มเธอขึ้นและยกเธอมาไว้บนตักของเขาวันนี้เป็นวันที่มีแสงแดดที่จ้าและกระแสลมที่แรง ถึงแม้ความเย็นและความร้อนจะไม่ส่งผลกระทบต่อพวกเขา แต่อย่างน้อยสภาพอากาศก็ยังส่งผลต่อความรู้สึกของพวกเขา
“เจ้าตัวน้อย เจ้าจะต้องเชื่อฟังท่านแม่ของเจ้านะ”ชิงสุ่ยค่อยๆลูบท้องของเจี้ยนเก้อในตอนนี้
เจี้ยนเก้อยิ้มออกมาอย่างมีความสุขและกล่าว“ข้าพึ่งท้องได้สามเดือน เจ้าคิดว่าลูกของเราจะได้ยินสิ่งที่เจ้าพูดรึ?”
เมื่อมองไปที่ที่หน้าของเธอเขาสามารถบอกได้ว่าเธอนั้นมีความสุขอย่างมาก ในตอนนี้เธอดูผ่อนคลายและเป็นตัวเองอย่างที่สุด ราวกับเธอพร้อมแล้วทีจะเป็นแม่คนในเวลานี้
“ข้าอยากให้เจ้าตัวเล็กออกมาเร็วๆจัง!” เธอพูดด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา ด้วยใบหน้าที่อ่อนโยนของเธอ แม้แต่ชิงสุ่ยก็ยังรู้สึกอิจฉาลูกของเขาที่ได้รับความรักนี้ไป
“ทำไมเจ้ามองข้าแบบนั้นละ?” เจี้ยนเก้อหัวเราะออกมา เมื่อเห็นใบหน้าของชิงสุ่ย ชิงสุ่ยยิ้มออกมาอย่างขมขื่น“นี่ขนาดลูกของเรายังไม่เกิดออกมา เจ้ายังรักเขาได้มากมายขนาดนี้ หากเขาเกิดออกมาเขาจะไม่แย่งความรักของข้าไปหมดอย่างนั้นรึ?”
เจียนเก้อเคาะลงไปที่หัวของเขาโดยตรงด้วยกำปั้นของเธอ“ เจ้านี้มัน เห้อ ข้ายอมแพ้แล้ว เจ้าสามารถหึงได้แม้กระทั้งลูกของตัวเอง!” novel-lucky
……
มันเป็นความจริงที่ในตอนนี้ชิงสุ่ยไม่กล้าจากที่นี่ไปยิ่งไปกว่านั้นเขายังรู้ว่าภัยคุกคามจากพระราชวังหมาป่ามังกรนั้นยังไม่จบลง อีกอย่างในตอนนี้เขายังเป็นห่วงเจี้ยนเก้อที่กำลังตั้งครรภ์อยู่ มันจึงทำให้เขารั้งที่จะอยู่ที่นี่ต่อไป
เขาไม่รู้สึกว่าการรออยู่ที่นี่นั้นน่าเบื่อเพราะเขาได้วางแผนการทั้งหมดเอาไว้หมดแล้ว อีกอย่างหนึ่งการได้อยู่กับคนที่เขารัก เท่านี้ก็ทำให้เขาหายเบื่อแล้ว
ในตอนนี้มันแปลกเกินไปที่พระราชวังหมาป่ามังกรยังคงนิ่งสงบอยู่สิ่งนี้ทำให้ชิงสุ่ยรู้สึกว่ามีบางสิ่งบางอย่างแปลก ๆเกิดขึ้น อย่างไรก็ตามในช่วงนี้นายหญิงก็ได้ให้หน่วยข่าวกรองสืบหาเกี่ยวกับการเคลื่อนไหวของพวกอยู่ในตอนนี้
สิ่งที่เขาได้รับกลับมาสร้างความแปลกใจให้พวกเขาเล็กน้อยนั้นเพราะมีการต่อสู้แย่งชิงอำนาจที่รุนแรงเกิดขึ้นภายในพระราชวังหมาป่า ภายในพวกเขาได้แบ่งออกเป็นสองฝั่ง เนื่องจากการตายลงของปรมาจารย์สาม ทำให้อำนาจตรงกลางพังทลายลงมา จึงทำให้เกิดการแย่งอำนาจกันในเวลานี้
ชิงสุ่ยจำได้ว่าปรมจารย์อันดับที่หนึ่งนั้นเป็นผู้ครอบครองกายาเก้าหยินเอาไว้การตายลงของปรมาจารย์สามของทำให้ฐานอำนาจของฝังนั้นสั่นคลอน แต่เดิมชิงสุ่ยคิดว่าที่แห่งนั้นถูกดูแลด้วยระบบสายเลือด แต่ตอนนี้ดูเหมือนว่าโครงสร้างของพวกเขาจะคล้ายคลึงกับพระราบวังสุริยา ที่ขึ้นอยู่กับเสียงส่วนมาก
ในอีกสองเดือนต่อมาสิ่งที่เกินความหมายของชิงสุ่ยก็ได้ปรากฏขึ้น เขาได้รับบัตรเชิญโดยตรงมาจากปรมาจารย์แห่งพระราชวังหมาป่ามังกร เพื่อขึ้นไปยังหุบเขาหมาป่ามังกร
บัตรเชิญดังกล่าวไม่ได้กล่าวว่าพวกเขาต้องการเชิญชิงสุ่ยไปทำไมเพียงแค่ระบุสถานที่นัดพบเอาไว้เท่านั้น โดยที่จุดหมายก็คือจุดสูงสุดของหุบเขาหมามังกรนั้นเอง
ชิงสุ่ยสงสัยเกี่ยวกับเรื่องนี้อย่างมากมันก็นานมากกว่าห้าเดือนแล้วนับตั้งแต่ที่เขาได้สังหารปรมาจารย์ที่สามลงไป เหตุใดพวกเขาจึงอย่างพบเขาในตอนนี้
ขณะนี้เจี้ยนเก้อได้เดินเข้ามาหาเขาตอนนี้ท้องของเธอเริ่มป่องออกมาแล้ว แต่ก็ไม่ได้มีขนาดใหญ่เท่ากับผู้หญิงคนอื่นๆที่ท้อง
ในตอนนี้ผู้หญิงทั้งสามคนต่างก็จ้องมองไปที่ชิงสุ่ย เพื่อรอการตัดสินใจจากเขา ในตอนนี้ทั้งหมดได้เห็นเนื้อหาคำทั้งหมดเชิญแล้วและรู้ว่าชิงสุ่ยได้รับเชิญจากปรมาจารย์อันดับหนึ่งแห่งพระราชวังหมาป่ามังกรเพียงลำพังในครั้งนี้
“ข้าได้ยินมาว่าปรมาจารย์อันดับหนึ่งแห่งพระราชวังหมาป่ามังกรนั้นเป็นคนที่สุดยอดอย่างมาก” มู่หยุ่นชิงเฉิงหัวเราะ
“ในกรณีนี้ผู้พิทักษ์ของเราจะไปพบนางหรือไม่” นายหญิงกล่าวออกมาในตอนนี้
ชิงสุ่ยรู้ดีว่าผู้หญิงสองคนนี้กำลังล้อเขาอยู่เขาส่ายหัวเล็กน้อยด้วยรอยยิ้มและมองไปที่เจี้ยนเก้อ ถึงจะมีผู้หญิงสามคนอยู่ในที่แห่งนี่ แต่มีเพียงเธอที่เป็นผู้หญิงของเขา ดังนั้นเ-าจึงอยากฟังความคิดเห็นของเธอ
“ทำตามใจเจ้าเถอะ เพียงแค่เจ้าต้องระวังตัวให้มากๆเข้าใจมั้ย?” เธอกล่าวสนับสนุนเขาในเวลานี้
ความรักระหว่างสามีและภรรยาเป็นสิ่งที่ลึกซึ้งอย่างแท้จริงหลายครั้งมันจึงทำให้ผู้คนรอบข้ารู้สึกอิจฉาริษยา
เช่นเดียวกับเจี้ยนเก้อทั้งสองไม่ได้ห้ามเขาเอาไว้เมื่อเห็นเช่นนี้ชิงสุ่ยจึงได้ตัดสินใจที่จะไปพบกับปรมาจารย์อันดับหนึ่งแห่งพระราชวังหมาป่ามังกร เขาต้องรู้ให้ได้ว่าทำไมเธอถึงอย่างเจอเขาและเรื่องของทั้งสองฝ่ายจะจบลงอย่างไร
มันไม่ควรที่จะยืดเยื้อออกไปนานกว่านี้แล้วทุกสิ่งทุกอย่างควรจบลงไปตั้งนานแล้ว
และแล้วเที่ยงวันของวันถัดไปก็มาถึงชิงสุ่ยได้ออกเดินทางไปยังสถานที่นัดหมายในตอนนี้ แม้ว่าเขาจะไม่ใช้ความเร็วสูงสุดเขาก็สามารถไปถึงที่นั้นได้ทันเวลา
ยอดเขาหมาป่ามังกร!
นี่เป็นเทือกเขาขนาดมหึมาที่ซ่อนตัวอยู่ภายใต้รอยแยกขอองทวีปมันนั้นกินวลกว้างกว่า1หมื่นลี้ ในเวลาเดียวกันเทือกเขาแห่งนี้ยังอัดแน่นไปด้วยพลังลึกลับมากมาย
สภาพแวดล้อมของมหาสมุทรที่ดีกว่าในดินแดนอื่นๆอย่างเห็นได้ชั้นไม่ว่าจะพืชไม้ต่างๆก็สามารถเติบใหญ่ได้ในบริเวณฯ ที่แห่งนี้เป็นแห่งทรัพยากรที่มีค่าในโลก ชิงสุ่ยสามารถมองเห็นสิ่งต่างๆนี้ได้เพราะทักษะวชิระวารีของเขาในตอนนี้อย่างไรก็ตามโลกใต้น้ำก็ยังเป็นที่มืดมิดสำหรับคนฝ่ายนอก
ชิงสุ่ยมองไปที่สันเขาที่ทอดยาวไกลสุดลูกหูลูกตาแม้ว่ามันจะไม่งดงามแต่ก็ดูทรงพลัง หนักแน่นและแข็งแกร่ง สมแล้วที่มันเป็นราชาแห่งเทือกเขาในดินแดนนี้
ภูเขาลูกนี้มีความที่สูงประมาณ10,000ลี่ มันใหญ่โตอย่างมาก อีกเพียงไม่กี่หมื่นลี่เท่านั้นมันก็จะสามารถโผล่ขึ้นไปเหนือน้ำได้ เมื่อเขาไปใกล้ๆมันชิงสุ่ยสามารถสัมผัสได้ถึงพลังวิญญาณที่กดดันมาที่ตัวของเขาได้อย่างงัดเจน ราวกับว่ามันกำลังทดสอบเขาอยู่
เนื่องจากที่แห่งนี้เป็นหุบเขาในทะเลจึงทำให้แรงดันวิญญาณของที่แห่งนี้รุนแรงกว่าพื้นที่ข้าบน
ในขณะที่เขามาถึงยอดเขาชิงสุ่ยสัมผัสได้ถึงพลังวิญญาณที่สง่างามเมื่อมองไปที่ต้นกำเนิดชิงสุ่ยได้เห็นสาวงามคนหนึ่งที่ งดงามได้ด้อยกว่าเจี้ยนเก้อเลยแม้แต่น้อย ถึงอย่างไรก็ตามในตอนนี้ชิงสุ่ยสามารถบอกได้ว่าพลังวิญญาณของเธอนั้นไม่สงบเลยแม้แต้น้อย