ตอนที่ 646 รังสีความโกรธที่อธิบายไม่ได้ / ตอนที่ 647 ตอนนี้ฉันไม่อยากเห็นหน้าคุณ

กับดักรักในรอยแค้น

ตอนที่ 646 รังสีความโกรธที่อธิบายไม่ได้  

 

 

“เอาเถอะ ถ้าอย่างนั้นฉันจะดูแลมันก็แล้วกัน” ฉู่เจียเสวียนเอ่ยปากอย่างจนใจ เธอประนีประนอมกับเผยหนานเจวี๋ยครั้งแล้วครั้งเล่าจริงๆ

 

 

ทั้งๆ ที่เขาเป็นคนที่น่ารำคาญขนาดนั้น ทำไมเธอถึงไม่ปล่อยวางนะ ทั้งๆ ที่ถูกเขาทำร้ายขนาดนั้นก็ยังชอบเขาอีก หรือแม้แต่มีความคาดหวังกับเขามากขึ้นด้วยซ้ำ

 

 

ในใจของฉู่เจียเสวียนสับสนเป็นที่สุด การชอบเขาเป็นเรื่องที่แปลกประหลาดมากจริงๆ

 

 

มองไปที่ใบหน้าด้านข้างของเผยหนานเจวี๋ย เธอก็ไม่ได้มองดูเขาแบบนี้มานานแล้ว เวลาที่เขาไม่พูดนั้นช่างสวยงามจริงๆ

 

 

เธอจ้องเขาอย่างเหม่อลอย ชายผู้นี้ช่างเป็นที่รักของสวรรค์จริงๆ หล่อเหลา ร่ำรวย เป็นหนึ่งในทุกๆ ด้าน ไม่น่าแปลกใจเลยที่มีผู้หญิงมากมายชอบและคลั่งไคล้ในตัวเขา

 

 

รู้สึกได้ถึงแววตาของฉู่เจียเสวียน เผยหนานเจวี๋ยปล่อยให้เธอสำรวจเขา ให้เขาได้เพลิดเพลินไปกับสายตาของเธอ

 

 

“เผยหนานเจวี๋ย” ฉู่เจียเสวียนเอ่ยขึ้นเสียงเบา

 

 

“หืม?” เผยหนานเจวี๋ยตอบเสียงเบา เลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อย

 

 

“ครั้งหน้าอย่าใช้เงินสิ้นเปลืองแบบนี้อีกนะ มันไม่คุ้มกัน” ฉู่เจียเสวียนเอ่ย ในสายตาของเธอ พฤติกรรมของเผยหนานเจวี๋ยแบบนี้ช่างสิ้นเปลืองจริงๆ

 

 

เธอไม่อยากให้เขาใช้เงินกับเธอมากเกินไป แม้ว่าเขาจะร่ำรวยและไม่สนใจเงิน แต่เธอก็ไม่ต้องการให้เขาใช้จ่ายมันอย่างนั้น

 

 

“ไม่คุ้ม? หมายความว่าไง” เขาลงแรงไปครึ่งค่อนวันเพื่อต้องการเอาใจเธอ นี่มันก็กลายเป็นเรื่องที่ไม่คุ้มค่าในสายตาของเธอหรือ

 

 

เมื่อก่อนกงจวิ้นฉือก็เคยให้ของมีค่ากับเธอเหมือนกันไม่ใช่หรืออย่างไร ทำไมเธอถึงไม่พูดว่ามันไม่คุ้มค่าล่ะ

 

 

“ฉันก็หมายความว่าห้ามคุณใช้เงินฟุ่มเฟือยแบบนี้อีก ถ้าชอบอะไรฉันจะซื้อเอง” ฉู่เจียเสวียนเอ่ยด้วยสีหน้าจริงจัง เธอไม่ต้องการให้เผยหนานเจวี๋ยใช้จ่ายเงินมากมาย

 

 

“เมื่อก่อนกงจวิ้นฉือก็เคยประมูลสร้อยคอของเจ้าหญิงให้คุณไม่ใช่เหรอ คุณรับของของเขาได้ แต่คุณรับของของผมไม่ได้อย่างนั้นเหรอ?” เผยหนานเจวี๋ยรู้สึกไม่พอใจกับคำพูดนี้ของฉู่เจียเสวียนอย่างประหลาด

 

 

“เผยหนานเจวี๋ย คุณช่วยมีเหตุผลหน่อยได้ไหม ฉันกำลังคิดแทนคุณอยู่น่ะ” ฉู่เจียเสวียนไม่รู้ว่าเผยหนานเจวี๋ยเป็นบ้าอะไรขึ้นมา ทำไมถึงไปลงกับกงจวิ้นฉือได้ล่ะ

 

 

เธอยังพูดไม่ชัดเจนอีกเหรอ? เธอเพียงไม่ต้องการให้เขาใช้จ่ายเงินสุรุ่ยสุร่าย สิ่งที่สำคัญที่สุดคือการใช้จ่ายเงินในสิ่งที่มีความหมาย

 

 

“ผมตั้งใจประมูลของให้คุณ แต่คุณบอกว่าฟุ่มเฟือย ถ้าอย่างนั้นที่กงจวิ้นฉือประมูลให้คุณ คุณรู้สึกว่ามันสมเหตุสมผลใช่ไหม?” เผยหนานเจวี๋ยก็ไม่รู้ว่าตัวเองเป็นอะไร ทั้งที่เขาไม่ได้อยากแสดงออกแบบนี้ แต่เขาดันโพล่งออกไปแบบนั้น

 

 

“คุณนั่นล่ะที่ไม่มีเหตุผล เรื่องนี้มันเกี่ยวอะไรกับจวิ้นฉือด้วย?” ฉู่เจียเสวียนจ้องมองทิวทัศน์ที่แล่นถอยหลังอย่างต่อเนื่องนอกหน้าต่างด้วยความโกรธเคือง

 

 

เธอรู้สึกน้อยใจเล็กน้อย ทั้งๆ ที่เธอหวังดีกับเขา แต่เขากลับพูดจากับเธอแบบนี้

 

 

เผยหนานเจวี๋ยอ้าปากเล็กน้อย หลังจากครุ่นคิดแล้ว ในที่สุดก็ไม่ได้พูดอะไรออกมา

 

 

บรรยากาศในรถเยือกเย็นลงในทันใด คนขับรถตัวสั่นอย่างช่วยไม่ได้ ไม่เข้าใจว่าทั้งๆ ที่ตอนที่พวกเขามายังมีความสุขกันอยู่เลย แต่ทำไมพอกลับแล้วถึงทะเลาะกันเสียล่ะ?

 

 

ไม่ช้ารถก็มาจอดที่คฤหาสน์หลีหยวน ทันทีที่ฉู่เจียเสวียนเปิดประตูก็ต้องการจะจากไปทันที แต่เผยหนานเจวี๋ยรีบลงรถตามลงมา

 

 

“เจียเสวียน” เผยหนานเจวี๋ยไม่อยากให้ฉู่เจียเสวียนโกรธ เขาลงรถแล้วตามไปเธออย่างรวดเร็ว ยื่นมือออกไปคว้าแขนของเธอไว้ไม่ให้เธอไป

 

 

“ปล่อยฉัน” ฉู่เจียเสวียนยังคงโกรธอยู่ น้ำเสียงที่เปล่งออกมาก็ไม่พอใจสุดขีด

 

 

“โอเค เป็นเพราะผมไม่ดีเอง คุณอย่าโกรธเลยนะ” เผยหนานเจวี๋ยเอ่ยเสียงเบา เมื่อครู่เขาอารมณ์อ่อนไหวเกินไปจริงๆ ยิ่งไม่ควรกล่าวถึงกงจวิ้นฉือ

 

 

“ตอนนี้ฉันไม่อยากคุยกับคุณ คุณไปเถอะ” ฉู่เจียเสวียนเงยหน้าขึ้นมองเขาอย่างเย็นชา เธอไม่ใส่ใจแววตาที่วิตกกังวลของเขาเลยแม้แต่น้อย

 

 

 

 

 ตอนที่ 647 ตอนนี้ฉันไม่อยากเห็นหน้าคุณ  

 

 

“เจียเสวียน…”

 

 

“ไปเถอะ ตอนนี้ฉันไม่อยากเห็นหน้าคุณ” ฉู่เจียเสวียนเอ่ยปากเย็นชา ทั้งตัวเย็นเยียบ

 

 

เผยหนานเจวี๋ยเม้มปาก เขามองเธอด้วยแววตาล้ำลึก ทั้งๆ ที่เมื่อครู่นี้ยังดีๆ อยู่เลย ทำไมผ่านไปไม่ถึงครึ่งชั่วโมงพวกเขาถึงกลายเป็นแบบนี้ไปเสียได้

 

 

“ก็ได้ ถ้าอย่างนั้นผมไปนะ” เผยหนานเจวี๋ยกำหมัดแน่น สุดท้ายก็หันหลังเดินจากไป

 

 

หลังจากขึ้นรถมาแล้ว เผยหนานเจวี๋ยก็มองดูฉู่เจียเสวียนที่เข้าบ้านไปโดยไม่หันหลังกลับมาเลยแม้แต่น้อย เขารู้สึกพ่ายแพ้ เขาก็ไม่รู้ว่าเมื่อครู่เขาเป็นอะไรไป

 

 

เวลาที่พูดถึงกงจวิ้นฉือ ทั้งๆ ที่ตอนนี้เธอก็เลิกกับกงจวิ้นฉือแล้วและไม่ได้เป็นอะไรต่อกัน แต่ว่าเขาก็ยังควบคุมความโมโหเอาไว้ไม่ได้

 

 

การที่กงจวิ้นฉือกับฉู่เจียเสวียนอยู่ด้วยกัน มันเป็นเหมือนหนามที่ทิ่มแทงในใจของเขา

 

 

หลังจากฉู่เจียเสวียนปิดประตูแล้ว เธอก็พิงอยู่บนลูกบิดประตูแล้วสูดหายใจเข้าลึกๆ

 

 

เธอเปลี่ยนรองเท้า เข้าห้องนั่งเล่นก่อนจะเห็นซูซานนั่งอยู่บนโซฟา

 

 

“แม่” เธอพูดเสียงเบา น้ำเสียงไร้เรี่ยวแรงเล็กน้อย

 

 

ซูซานเหลือบสายตาขึ้น เมื่อเห็นสีหน้าของฉู่เจียเสวียน คิ้วก็ขมวดเล็กน้อย “เป็นอะไรไป ดูลูกอารมณ์ไม่ดีเลย”

 

 

ฉู่เจียเสวียนส่ายหน้า นั่งลงข้างซูซาน เอนศีรษะพิงบนไหล่ของเธอเบาๆ

 

 

“ลูกทะเลาะกับเขามาเหรอ” ซูซานมองเธอพร้อมเอ่ย บนใบหน้ามีรอยยิ้ม

 

 

“แม่คะ บางทีหนูก็ไม่เข้าใจเขาจริงๆ” ฉู่เจียเสวียนยิ้มออกมาอย่างขมขื่น

 

 

“เจียเสวียน พวกลูกเพิ่งคบกันไม่นานไม่ใช่เหรอ ทำไมออกไปด้วยกันยังไม่ถึงวันก็กลายเป็นแบบนี้ไปเสียล่ะ ไหนเล่าให้แม่ฟังซิ” ซูซานพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน เธอไม่อยากให้ฉู่เจียเสวียนไม่มีความสุข

 

 

ฉู่เจียเสวียนพยักหน้าเหมือนเด็กที่ยังไม่โต ดังนั้นเธอจึงเล่าเรื่องทั้งหมดในวันนี้ให้เธอฟัง

 

 

ในความเป็นจริงแล้ว บางครั้งการที่คู่รักจะทะเลาะกันบ้างนั้นเป็นเรื่องที่ปกติมาก พวกเขาสามารถทะเลาะกันได้แม้กระทั่งสิ่งที่พวกเขากินในวันนี้

 

 

ซูซานฟังฉู่เจียเสวียนเล่า ริมฝีปากก็ยกยิ้มขึ้นน้อยๆ “เด็กโง่ เขาก็แค่อยากให้ลูกมีความสุขเท่านั้น ผู้ชายที่ห่วงหน้าตัวเองขนาดนั้น สุดท้ายเขาก็ยังยอมทิ้งมาดที่มี แต่ลูกกลับเลือกที่จะไม่ใส่ใจ แบบนี้ทำร้ายจิตใจเขามากนะ”

 

 

“แต่ว่า ก็เห็นกันอยู่นี่คะว่าเขาหาเรื่องหนูอย่างไม่มีเหตุผลก่อน” ฉู่เจียเสวียนเอ่ยปาก น้ำเสียงเจือปนความน้อยใจเล็กน้อย

 

 

เธอรู้ว่าเขาเป็นผู้ชายที่ที่สูงส่ง แต่เขาจะมาโกรธโดยไม่มีปี่มีขลุ่ยแบบนี้ไม่ได้

 

 

“เจียเสวียน ต่อไปถ้าพวกลูกคิดจะอยู่ด้วยกัน งั้นลูกจะโกรธเขาเพราะเรื่องนี้ทั้งชีวิตเลยหรือเปล่า ไม่อยู่ด้วยกันกับเขาเหรอ”

 

 

ฉู่เจียเสวียนส่ายหน้า เธอไม่เคยคิดแบบนี้เลย

 

 

“แบบนี้ก็ดีแล้วไม่ใช่เหรอ? เรื่องในวันนี้ลูกก็มีส่วนผิดเหมือนกัน บางทีผู้ชายก็ต้องการหน้าตา ลูกน่ะ ต้องแก้นิสัยนี้นะ” ซูซานหัวเราะเบาๆ มีความเอ็นดูอยู่ในน้ำเสียงนั้ย

 

 

ฉู่เจียเสวียนอดที่จะครุ่นคิดไม่ได้ เธอกลายเป็นคนอ่อนไหวไปแล้วเหรอ? แต่ก่อนเธอก็ไม่เคยโกรธกับเรื่องเล็กๆ น้อยๆ เลย

 

 

เหตุใดตอนนี้ถึงกลายเป็นคนขี้น้อยใจไปได้ล่ะ

 

 

ทั้งๆ ที่เขาอยากทำให้เธอมีความสุข แต่ว่าเธอกลับทำร้ายจิตใจของเขา

 

 

คำพูดของซูซาน ทำให้ดวงตาของฉู่เจียเสวียนร้อนผ่าวเล็กน้อย

 

 

“แม่คะ หนูหิวแล้ว” จู่ๆ ฉู่เจียเสวียนก็เปลี่ยนเรื่อง รอยยิ้มปรากฏอยู่บนใบหน้า

 

 

“งั้นแม่จะไปทำกับข้าว” พูดจบ ซูซานก็ลุกขึ้นแล้วเดินไปยังห้องครัว

 

 

เมื่อเห็นซูซานเดินไกลออกไป รอยยิ้มบนใบหน้าของฉู่เจียเสวียนก็จืดจางลง

 

 

เธอเดินขึ้นไปที่ระเบียง ยืนอยู่ตรงนั้นแล้วปล่อยให้ลมหนาวพัดผ่านใบหน้า

 

 

กลางคืนย่างกรายเข้ามาเงียบๆ พระอาทิตย์ตกดินแล้ว ในเวลานี้ท้องฟ้าเปลี่ยนเป็นสีเทา กลิ่นอายของต้นฤดูใบไม้ผลิยังไม่ชัดเจนพอเนื่องจากความหนาวเย็น