ตอนที่ 648 จะรำคาญคุณได้อย่างไร / ตอนที่ 649 คุณจะยังรักฉันไหม

กับดักรักในรอยแค้น

ตอนที่ 648 จะรำคาญคุณได้อย่างไร  

 

 

ฉู่เจียเสวียนไม่รู้ว่าเธอยืนอยู่บนระเบียงนานเท่าไร จนกระทั่งเสียงของซูซานดังขึ้น เธอจึงได้สติกลับมา หายใจเข้าลึกๆ แล้วเดินไปที่ห้องรับประทานอาหาร

 

 

มองดูกับข้าวเต็มโต๊ะ แต่ฉู่เจียเสวียนกลับไม่มีความรู้สึกอยากอาหารเลย เธอนั่งคุยเป็นเพื่อนซูซานพลางรอให้เธอกินอิ่ม

 

 

ตอนที่กินข้าวเสร็จก็เป็นเวลาสองทุ่มแล้ว ฉู่เจียเสวียนปล่อยให้ซูซานขึ้นไปพักผ่อนเร็วหน่อย ส่วนเธอเองก็กลับไปที่ห้อง

 

 

ฉู่เจียเสวียนอยู่คนเดียวในห้องนอน เธอเดินไปที่หน้าต่างสูงที่ยาวจรดพื้น เปิดหน้าต่างออก สูดอากาศสดชื่นจากภายนอก ลมหนาวพัดผ่านเข้ามา ดอกไม้กิ่งก้านด้านนอกสวนโอนเอนไปตามสายลม

 

 

ดวงตาที่ดำสนิทของฉู่เจียเสวียนมืดมนลง เงยหน้ามองดูท้องฟ้ายามค่ำคืนอันมืดสนิท คืนนี้ท้องฟ้าไร้หมู่ดาว ทำให้มันดูโดดเดี่ยวเป็นอย่างมาก

 

 

ตอนนี้เผยหนานเจวี๋ยจะทำอะไรอยู่นะ เขาจะกำลังมองฟ้ายามค่ำคืนเหมือนกับเธออยู่หรือเปล่า เขายังคิดถึงเรื่องเมื่อตอนกลางวันอยู่หรือเปล่า

 

 

เมื่อคิดถึงตรงนี้ฉู่เจียเสวียนก็หยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมา เธอคิดจะขอโทษเขา เรื่องในวันนี้เป็นเพราะเธอไม่คิดถึงใจคนอื่นจริงๆ และน้ำเสียงก็ดุดันเกินไปแล้ว

 

 

[หนานเจวี๋ย เรื่องเมื่อกลางวันเป็นเพราะฉันไม่มีเหตุผลเอง ขอโทษนะ] เมื่อแก้ไขข้อความเสร็จแล้ว ฉู่เจียเสวียนก็กดปุ่มส่ง เมื่อมองไปที่การแจ้งเตือนว่าส่งข้อความสำเร็จ เธอก็ถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอก เธอรู้สึกไร้กังวลอย่างหาที่เปรียบไม่ได้

 

 

ในคืนที่มืดมิดและเปล่าเปลี่ยว เผยหนานเจวี๋ยนอนไม่หลับอยู่บนเตียงเป็นเวลานาน โทรศัพท์สั่นเล็กน้อย มันดังแสบหูเป็นพิเศษในคืนที่เงียบสงัดแบบนี้

 

 

เผยหนานเจวี๋ยหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมา เขาอ่านเนื้อหาในโทรศัพท์มือถืออย่างไม่อยากเชื่อ ดวงตาของเขาจับจ้องอยู่ที่ชื่อผู้ส่ง หัวใจของเขาไม่สามารถหยุดความปีติยินดีได้

 

 

เขาไม่อยากจะเชื่อว่าฉู่เจียเสวียนจะส่งข้อความถึงเขาเพื่อขอโทษเขา

 

 

เขารีบกดโทรกลับไปทันที

 

 

ริมฝีปากของฉู่เจียเสวียนยกยิ้ม กำลังจะเก็บโทรศัพท์มือถือ ทันใดนั้นเสียงสั่นของมันก็ดังขึ้น เมื่อหยิบขึ้นมาดูก็เห็นว่าผู้โทรเข้าคือเผยหนานเจวี๋ย เธอครุ่นคิดครู่หนึ่งก่อนยื่นมือกดปุ่มรับสาย

 

 

“ฮัลโหล”

 

 

“เจียเสวียน” เสียงคุ้นเคยของเผยหนานเจวี๋ยดังขึ้นที่ปลายสาย ดูดีใจอย่างเห็นได้ชัด

 

 

“หนานเจวี๋ย” เมื่อเทียบกับความตื่นเต้นของเผยหนานเจวี๋ยแล้ว น้ำเสียงของฉู่เจียเสวียนดูเหมือนจะสงบลงมาก

 

 

“เจียเสวียน ขอบคุณนะ” เผยหนานเจวี๋ยรู้สึกว่าคำพูดของตัวเองไม่ค่อยต่อเนื่องกัน เขาไม่เข้าใจด้วยซ้ำว่าทำไมเขาต้องขอบคุณฉู่เจียเสวียนในเวลานี้

 

 

“เผยหนานเจวี๋ย? คุณไม่เป็นไรนะ” ฉู่เจียเสวียนเอ่ยถามอย่างสงสัย รู้สึกฉงนกับคำขอบคุณอย่างฉับพลันของเขา นี่มันเรื่องอะไรกัน

 

 

“คุณไม่ต้องขอโทษผม เป็นผมที่ผิดเอง” เผยหนานเจวี๋ยพูดด้วยความตื่นเต้นเล็กน้อย

 

 

“ขอโทษนะ เพราะว่าฉันหาเรื่องโดยไม่มีเหตุผลก่อน” ฉู่เจียเสวียนเริ่มคิดถึงพฤติกรรมของตัวเอง

 

 

“ผมไม่โทษคุณหรอก เป็นเพราะผมไม่ควรพูดถึงกงจวิ้นฉือ” เผยหนานเจวี๋ยรู้สึกผิดต่อเรื่องเมื่อบ่ายนี้

 

 

ถ้าไม่ใช่เพราะเขาพูดถึงกงจวิ้นฉือขึ้นมาดื้อๆ เธอจะโกรธได้อย่างไรกัน

 

 

ลำบากแค่ไหนกว่าที่พวกเขาจะอยู่ด้วยกันได้ เขาไม่ควรใส่ใจคนอื่นอีก ท้ายที่สุดแล้วคนเหล่านั้นไม่สำคัญสำหรับพวกเขาในตอนนี้เลยแม้แต่นิดเดียว

 

 

“พวกเราอย่าขอโทษกันและกันอีกเลย ตอนนี้พวกเราอยู่ด้วยกันคือสิ่งที่สำคัญที่สุด ต่อไปพวกเราก็อย่าโกรธกันเพราะเรื่องพวกนี้เลยดีไหม? หนานเจวี๋ย คุณรู้สึกว่าฉันงี่เง่ามากหรือเปล่า น่ารำคาญมากหรือเปล่า” ฉู่เจียเสวียนถามด้วยความอึดอัดเล็กน้อย เพราะจู่ๆ เธอรู้สึกรำคาญตัวเองที่ขี้น้อยใจแบบนี้

 

 

“ไม่เลย ผมรักคุณช้าเกินไปด้วยซ้ำ แล้วจะรำคาญคุณได้ยังไง” เผยหนานเจวี๋ยเอ่ยปากอย่างเอ็นดู น้ำเสียงอบอุ่น

 

 

“ตอนนี้แม้แต่ฉันก็รำคาญตัวเองแล้ว คุณไม่รำคาญฉันจริงๆ เหรอ?” ฉู่เจียเสวียนเอ่ยปากถามเขาอีกครั้งอย่างจนใจ ในเวลานี้เธอดูเหมือนเด็กผู้หญิงตัวเล็กๆ ที่ทำอะไรไม่ถูก และกลัวว่าจะถูกทอดทิ้ง

 

 

 

 

 

ตอนที่ 649 คุณจะยังรักฉันไหม  

 

 

“ทำไมคุณถึงกลายเป็นคนไม่มั่นใจไปแล้วล่ะ” เผยหนานเจวี๋ยเอ่ยปาก ยิ้มอย่างทำอะไรไม่ถูก ฉู่เจียเสวียนที่เขารู้จักเป็นเจ้าหญิงที่หยิ่งผยองและมีความมั่นใจในตนเอง เธอไม่เคยเป็นแบบนี้เลย

 

 

“ผมจะไม่มีวันปล่อยคุณไป” เผยหนานเจวี๋ยอยากให้ฉู่เจียเสวียนอยู่ข้างกายเขามากเหลือเกิน อยากลืมตาขึ้นมาแล้วเห็นเธอในทุกวันและต้องการดูแลเธอไปตลอดชีวิต

 

 

คำพูดของเผยหนานเจวี๋ยทำให้ดวงตาของฉู่เจียเสวียนร้อนผ่าว เธอกะพริบตา กล้ำกลืนน้ำตาที่กำลังจะไหลออกมากลับเข้าไป คำหวานของเผยหนานเจวี๋ยทำให้เธออยากร้องไห้

 

 

“หนานเจวี๋ย ทำไมคุณถึงดีกับฉันแบบนี้” ฉู่เจียเสวียนไม่เข้าใจ เมื่อก่อนทั้งที่เขาเกลียดเธอขนาดนั้น ทั้งที่อยากให้เธอตาย แต่ด้วยท่าทีของเขาในตอนนี้ ทำให้เธอตกหลุมลึกจนไม่สามารถถอนตัวได้

 

 

เธอกลัวจริงๆ ว่าทั้งหมดนี้จะเป็นเพียงแค่ความฝัน เมื่อตื่นขึ้นมา เธอกับเผยหนานเจวี๋ยก็ไม่ได้เป็นอะไรกันเลย พวกเขาทั้งสองไม่มีความเกี่ยวข้องกันเลย ทางใครทางมัน

 

 

“เด็กโง่ ก็เพราะว่าผมรักคุณแล้วยังไง ไม่อย่างนั้นคุณนึกว่าผมอยากได้อะไรจากคุณล่ะ?” เผยหนานเจวี๋ยในตอนนี้ก็สามารถสารภาพสามคำนั้นออกมาแล้ว ขอเพียงอีกฝ่ายเป็นฉู่เจียเสวียน คำรักอีกมากมายสักแค่ไหนเขาก็ยอมพูดให้เธอฟัง

 

 

“ฉันไม่โดดเด่นพอ ไม่สวยด้วย อารมณ์ก็ไม่ค่อยดี แล้วคุณจะยังรักฉันไหม” ฉู่เจียเสวียนเป็นเหมือนผู้หญิงที่กำลังตกสู่แม่น้ำแห่งความรัก เริ่มรู้สึกว่าตนเองต่ำต้อยต่อหน้าคนรักของตน

 

 

เธอเกลียดตัวเองที่เป็นแบบนี้มาก เธอรู้สึกว่าเธอยิ่งเหมือนตัวเองในสามปีก่อนขึ้นทุกที

 

 

“ทุกข้อเสียของคุณน่ารักหมดในสายตาของผม ผมรักคุณ และผมก็รักทั้งหมดที่เป็นคุณ” เผยหนานเจวี๋ยยังคงพูดด้วยถ้อยคำรักที่หวานชื่น

 

 

เขารักเธอมากจริงๆ รักจนเข้ากระดูก เขาไม่รู้ตัวเลยว่าความรักแบบนี้แทรกซึมเข้าไปในกระดูกของเขาตั้งแต่เมื่อไหร่

 

 

เขาเคยทำเรื่องที่โหดร้ายที่สุดกับเธอมากมายขนาดนั้น ทรมานเธออย่างแสนสาหัส จนกระทั่งวันที่เธอหายไป หัวใจของเขาก็รู้สึกว่าเหมือนขาดอะไรไป และเมื่อได้พบเธออีก หัวใจของเขาก็กลับมาเต้นอีกครั้ง

 

 

เพียงแต่เขาในตอนนั้น เริ่มแรกยังไม่รู้ว่าเขารักเธอตั้งแต่สามปีก่อนแล้ว

 

 

เขาที่เย่อหยิ่งดุจบุตรของสวรรค์จะยอมรับความแตกต่างนี้ได้อย่างไร ดังนั้นเขาจึงไม่ต้องการยอมรับมัน

 

 

จนกระทั่งในที่สุดตอนที่เธออยู่กับกงจวิ้นฉือ เขาจึงค่อยๆ เข้าใจหัวใจของตัวเอง

 

 

ถ้าหากไม่ใช่เพราะการปรากฏตัวของฉู่อีอี บางทีพวกเขาก็อยู่ด้วยกันอย่างมีความสุขแล้ว จะเกิดเรื่องมากมายขนาดนั้นขึ้นในภายหลังได้อย่างไร

 

 

คำพูดของเผยหนานเจวี๋ยทำให้ฉู่เจียเสวียนไม่รู้ว่าจะตอบสนองอย่างไรไปชั่วขณะ เธอพยายามที่จะพูดอยู่หลายรอบ แต่เมื่อคำพูดจะหลุดจากปากก็กลับติดอยู่ในลำคอ ทำอย่างไรก็พูดไม่ออก สุดท้ายเธอจึงพูดขึ้นแผ่วเบา “ราตรีสวัสดิ์ เจอกันพรุ่งนี้นะ”

 

 

พูดจบเธอก็วางสาย เอนตัวนอนลงบนเตียงใหญ่อ่อนนุ่ม พร้อมกับยกริมฝีปากสีแดงยิ้ม

 

 

ลมหนาวพัดผ่านเข้ามาทางหน้าต่าง แต่ตอนนี้มันไม่หนาวอีกต่อไปแล้ว ค่ำคืนที่มืดมนและเดียวดายตอนแรกก็เริ่มมีชีวิตชีวาขึ้นเช่นกัน

 

 

“บางทีการอยู่กับคุณอีกครั้งอาจเป็นทางเลือกที่ดีก็ได้” ฉู่เจียเสวียนนอนพึมพำกับตัวเองอยู่บนเตียง

 

 

ราตรีนอกหน้าต่างยิ่งมืดมนลงเรื่อยๆ ดวงจันทร์เสี้ยวตอนนี้โผล่ออกมาจากเมฆอย่างเงียบๆ ส่องแสงสลัวอยู่บนพื้นโลก

 

 

ฉู่เจียเสวียนห่มผ้าอย่างเรียบร้อย ก่อนจะค่อยๆ เข้าสู่ห้วงความฝัน แสงจันทร์สาดส่องเข้ามาในห้องอย่างละมุนละไม มันสาดส่องอยู่บนเตียงและสะท้อนใบหน้าที่งดงามของเธอ