ตอนที่ 524 ผู้อาวุโสสูงสุดแห่งเมืองทหารรับจ้าง

เทพกระบี่มรณะ (Chaotic sword god)

ตอนที่ 524 ผู้อาวุโสสูงสุดแห่งเมืองทหารรับจ้าง

เมื่อเห็นรอยมิติแยกเกิดขึ้นในบ้านเล็ก ๆ ของเขาทำให้บรรพชนถึงกับตกตะลึง เขาได้วางม่านพลังกั้นไว้บนภูเขาแห่งนี้เพื่อแยกที่นี่ออกจากส่วนที่เหลือของโลก แม้แต่เซียนผู้คุ้มกฎเองยังไม่สามารถมาที่นี่ได้โดยไม่ถูกเขาสังเกตเห็น นอกจากนี้แล้วประตูมิตินี่ยังเกิดขึ้นในบ้านเล็ก ๆ ของเขาอีกต่างหาก

เมื่อสายตาของเขามองเห็นเจี้ยนเฉินซึ่งเป็นหนึ่งในสามคนที่มาที่นี่ สายตาของเขาเริ่มเปล่งประกายออกมาและร่างกายของเขาก็เริ่มสั่น เขาลุกขึ้นจากเก้าอี้ทันทีพร้อมกับคุกเข่าลง “ผู้เยาว์ หวงเทียนป้าคารวะผู้อาวุโส” บรรพชนคุมความตื่นเต้นของตนเองไม่ได้จนเสียงสั่นในตอนที่เขาได้พูดออกมา

ลุงเทียนมองไปที่บรรพชนก่อนที่จะหันมาถามเจี้ยนเฉิน “ใช่ชายผู้นี้หรือไม่ ? ” จากภายนอกแล้วลุงเทียนนั้นดูอายุไม่ได้แตกต่างจากบรรพชนเท่าใดเลย และดูไม่เหมือนจะเป็นเซียนผู้คุมกฎอีกด้วย

เจี้ยนเฉินพยักหน้า เขาเห็นท่าทีหลากหลายที่บรรพชนแสดงออกมา เขาได้แต่หัวเราะกับตัวเองแต่ยังคงท่าทีสงบเอาไว้ “ท่านผู้อาวุโส ข้าได้ทำตามที่ท่านขอและพาผู้ที่ท่านขอมาที่นี่แล้ว ท่านพอใจหรือไม่ ? “

ใบหน้าของบรรพชนเปลี่ยนไปทันทีที่ได้ยินคำพูดของเจี้ยนเฉิน เปลี่ยนจากใบหน้าที่แสดงความเลื่อมใสกลายเป็นใบหน้าที่รักใคร่เอ็นดู ดูเหมือนว่าเขาจะกลัวว่าจะทำอะไรให้ผู้อาวุโสอีกคนตรงหน้าเขาหงุดหงิด ด้วยการมีตัวตนสูงส่งขนาดนี้ คนต่ำต้อยอย่างเขาต้องปฏิบัติให้ดีที่สุด

“น้องเจี้ยนเฉินชอบล้อเล่นเสียจริง ข้าแค่พูดเล่นเท่านั้นเอง ข้าไม่คิดว่าน้องเจี้ยนเฉินจะคิดเป็นจริงเป็นจัง ผู้อาวุโส ถ้าผู้เยาว์คนนี้ทำให้ท่านลำบากที่มาที่นี่ ข้าขออภัยด้วย” เสียงของบรรพชนดูตื่นตระหนก สัตว์ประหลาดที่มีชีวิตมากว่า 5,000 ปีเป็นคนที่บรรพชนอย่างเขาไม่กล้าทำให้ไม่พอใจ โดยเฉพาะอย่างยิ่งตระกูลโดดเดี่ยวอย่างตระกูลหวงด้วยแล้ว

ลุงเทียนยังคงไม่เดินไปไหน เขาอยู่ตรงหน้าบรรพชนที่ยังคงคุกเข่าอยู่และเอ่ยว่า ” นี่ไม่ใช่การคุกคามใด ๆ ข้ามาที่นี่เพราะเป็นคำขอของเจี้ยนเฉิน ข้าคิดว่าเจ้าคือคนที่มีปัญหาในเรื่องนั้น”

ด้วยคำพูดแบบนั้นทำให้หัวใจของบรรพชนสั่นระรัว ในตอนนั้นเองฐานะของเจี้ยนเฉินที่เขามองนั้นช่างสูงส่ง เขาเป็นคนที่ส่งฟางเส้นสุดท้ายมาช่วยตระกูลที่ตกอับอย่างตระกูลเขา

เขาไม่กล้าที่จะไม่ตอบรับลุงเทียน เขาตอบกลับไปด้วยความเคารพ ” คำพูดของผู้อาวุโสนั้นฟังดูจริงจังเกินไป ข้าไม่อยากให้ผู้อาวุโสเข้ามาเกี่ยวในเรื่องยุ่งยาก ผู้เยาว์ผู้นี้จะเป็นคนแก้ปัญหานั้นเอง”

“ถ้าเป็นเช่นนั้นก็ดี ข้าไม่ค่อยชอบยุ่งเกี่ยวกับเรื่องผู้อื่นนัก แต่ข้าได้สัญญากับเจี้ยนเฉินไว้แล้วว่าข้าจะช่วย ข้าได้ฟังปัญหาของตระกูลของเจ้ามาแล้ว ข้าจะให้หยกชิ้นนี้แก่เจ้า ถ้าเจ้าอยากให้ข้ามาที่นี่ก็ทำลายหยกในมือนี่ซะ และข้าจะมาภายใน 3 ลมหายใจ ! ” หยกขนาดกำปั้นสีขาวจากมือของลุงเทียนค่อย ๆ ลอยไปหาบรรพชน

ความตื่นเต้นของบรรพชนนั้นมากจนเห็นได้ เขารับหยกขาวนั่นไว้ในมือ “ขอบคุณสำหรับของล้ำค่าจากผู้อาวุโส ! ” การได้รับความช่วยเหลือจากเซียนระดับราชานั้นมีความหมายอย่างมากต่อตระกูลหวง แม้ว่าเขาจะมีโอกาสเพียงครั้งเดียวที่จะใช้มัน แต่มันก็พอที่จะเพิ่มความแข็งแกร่งให้กับตระกูลหวงในการต่อสู้กับเซียนผู้คุมกฎคนอื่น ๆ

บรรพชนลังเลไปสักพักและมองไปที่ลุงเทียนแล้วถามขึ้นด้วยความระมัดระวัง “จะให้ผู้เยาว์ผู้นี้เรียกผู้อาวุโสว่าอย่างไรดี เผื่อว่าวันข้างหน้าเราอาจจะได้ช่วยเหลือกัน”

“ข้าเป็นที่รู้จักกันในชื่อเทียนเจี้ยน ผู้อาวุโสสูงสุดของเมืองทหารรับจ้าง ความช่วยเหลือของเจ้านั้นยังไม่จำเป็นในตอนนี้ ด้วยความแข็งแกร่งที่เจ้ามี รอจนกว่าเจ้าจะได้กลายเป็นเซียนระดับราชาแล้วเราค่อยคุยกัน ! ” ลุงเทียนพูด สำหรับเขาแล้วเซียนผู้คุมกฎนั้นไม่มีค่าอะไร มีพวกนี้อยู่มากมายในเมืองทหารรับจ้าง

เมื่อได้ยินคำว่าผู้อาวุโสสูงสุดของเมืองทหารรับจ้าง ร่างกายของเขาก็ซีดขาว เข่าของเขาทรุดลงไปที่พื้นเหมือนกับว่ามันไม่สามารถทนรับน้ำหนักตัวเองไว้ได้ เขาแสดงท่าทีกังวลออกมาและหัวใจของเขาสั่นระรัวจนแทบจะพุ่งออกมาข้างนอก เมื่อมองไปที่หน้าของเทียนเจี้ยน เขาได้แสดงสีหน้าไม่เชื่อพร้อมกับความกลัวผสมออกมา

ในฐานะเซียนผู้คุมกฎแล้ว เขารู้บางอย่างมาว่าการทำงานภายในของเมืองทหารรับจ้างไม่ได้ทำงานร่วมกัน เขารู้อย่างชัดเจนว่าลำดับชั้นของเมืองทหารรับจ้างว่ามันมีการแบ่งขั้นกันยังไง

เมืองทหารรับจ้างเป็นเมืองก็จริง แต่ไม่ได้อยู่ภายใต้การปกครองของผู้ใด แต่ก็ยังมีความแข็งแกร่งได้เทียบเท่าเมืองอื่น ๆ มี ไม่มีผู้คอยควบคุมเมืองในเมืองนี้เพราะเมืองนี้ไม่จำเป็นต้องมีผู้รักษากฎหมายแต่อย่างใด การฝ่าฝืนกฎเป็นสิ่งที่แม้แต่เซียนผู้คุมกฎยังมิกล้าทำ กลุ่มคนที่คอยถืออำนาจของเมืองนี้แท้จริงแล้วคือกลุ่มของผู้อาวุโส ผู้อาวุโสเหล่านั้นเป็นผู้ที่มีอำนาจสูงสุดในเมืองทหารรับจ้างและในหมู่ผู้อาวุโสพวกนั้น ผู้อาวุโสสูงสุดคือตำแหน่งที่สูงที่สุด

ไม่แปลกเลยที่จะพูดว่าผู้อาวุโสสูงสุดนั้นเป็นผู้ดูแลเมืองนี้ ไม่เพียงแต่พวกเขาควบคุมทั้งเมืองแต่พวกเขายังตัดสินใจว่าผู้ใดมีสิทธิได้เพียงใดอีกด้วย

นอกจากนี้แล้วผู้อาวุโสสูงสุดเหล่านี้ล้วนแข็งแกร่งอย่างมาก พวกเขาอาจจะเป็นกลุ่มคนที่แข็งแกร่งที่สุดในทวีปเทียนหยุนและอยู่ในขั้นสูงที่สุด

แม้ว่าเขาจะฝัน เขาก็ไม่คิดว่าเขาจะได้ผู้อาวุโสที่มีความแข็งแกร่งขนาดนี้มาช่วยเหลือ แค่เพียงคิดก็ทำให้เขากลัวสุดหัวใจ

บรรพชนยืนแข็งทื่ออย่างกับหุ่นไม้ แม้จะเป็นเซียนผู้คุมกฎแต่เขาก็ไม่ต่างอะไรกับมดปลวกเมื่ออยู่ต่อหน้าผู้อาวุโสสูงสุดแห่งเมืองทหารรับจ้าง

เขาเลื่อนสายตาจากผู้อาวุโสไปที่หมิงตง เขายิ้มและพูดออกมา “เด็กน้อย เจ้าควรมากับข้าไปยังเมืองทหารรับจ้างและอยู่ที่นั่นได้แล้ว”

“ลุงเทียน ข้าหวังจะอยู่กับน้องเจี้ยนเฉิน ข้าจะอยู่ที่นี่” หมิงตงตอบกลับ

“ดีมาก ! สิ่งที่เจ้าขาดไปนั้นคือประสบการณ์ การติดตามเจี้ยนเฉินนั้นจะทำให้เจ้าแข็งแกร่งยิ่งกว่าการที่อยู่ในเมืองทหารรับจ้าง” เทียนเจี้ยนพยักหน้า

ทันใดนั้นหมิงตงก็ได้คิดบางอย่างออก “ลุงเทียน ตระกูลชิและตระกูลเจียเต๋อนั้นเป็นศัตรูของพวกเรา พี่น้องร่วมสาบานของพวกเราถูกรังแก ท่านอาจจะจัดการกับปัญหาระหว่างพวกเรากับสองตระกูลนี้ได้ ถ้าผู้นำของตระกูลพวกเขาออกมา เราสองคนคงไม่มีความแข็งแกร่งพอที่จะสู้กับพวกเขาได้”

เทียนเจี้ยนส่ายหน้า “เด็กน้อย เจ้าจะให้ลุงคนนี้แก้ปัญหาทุกอย่างของเจ้าไม่ได้ ถ้าวันหนึ่งที่ข้าไม่อยู่แล้ว เจ้าจะมีชีวิตรอดบนทวีปเทียนหยุนได้อย่างไร ? ตอนนี้เจ้าต้องเรียนรู้วิธีเอาชนะปัญหาเหล่านั้นและเผชิญปัญหานั้นด้วยตัวเจ้าเอง” แม้ว่าคำพูดนั้นจะเป็นการสั่งสอนหมิงตง แต่น้ำเสียงของเทียนเจิ้นนั้นฟังดูโอบอ้อมอารี มิได้กราดเกรี้ยวแต่อย่างใด มันฟังดูเหมือนปู่คนหนึ่งกำลังแนะนำลูกหลานของตนเอง

“ขอรับ ลุงเทียน ! ” หมิงตงพูดขึ้นมาอย่างช่วยไม่ได้และแสดงความผิดหวังออกมา

“ตอนนี้ปัญหานี้ก็ได้แก้ไขแล้ว ข้าจะกลับไปยังเมืองทหารรับจ้างแล้ว นี่เจ้าจะอยู่ที่นี่ในอาณาจักรเกอซุนงั้นหรือ ? ” เทียนเจี้ยนถาม

หมิงตงไม่พูดสิ่งใดออกมาแต่กลับมองไปที่เจี้ยนเฉิน

เจี้ยนเฉินคิดสักพักก่อนจะตอบกลับมา “ผู้อาวุโส พวกเราจะอยู่ที่นี่สักพัก ! “

เทียนเจี้ยนไม่พูดสิ่งใดออกมาแต่กลับยกฝ่ามือขึ้นและเปิดมิติออกอีกครั้ง ภายใน 2 ลมหายใจก็ได้มีสิ่งก่อสร้างใหญ่โตปรากฏขึ้นในอีกด้านของมิติก่อนที่เขาจะหายไป

สายตาของเจี้ยนเฉินแสดงความโหยหาออกมา ความสามารถในการเปิดมิติของเทียนเจี้ยนนั้นเป็นบางอย่างที่อยู่ในระดับสูง ด้วยความสามารถแบบนั้นจะทำให้ผู้นั้นสามาถเดินทางไปที่ใดบนโลกใบนี้ก็ได้โดยมิเสียเวลาหรือเงินทองแต่อย่างใด

ด้วยความแข็งแกร่งของเจี้ยนเฉินตอนนี้ เขาคงได้แต่โหยหาพลังนั่น ความแข้งแกร่งนั่นจะเป็นเป้าหมายสำหรับเจี้ยนเฉินให้ก้าวไปข้างหน้า ถ้าเขามีความแข็งแกร่งขนาดนั้นได้แม้แต่เซียนผู้คุ้มกฎก็ยังต้องก้มหัวให้เขา

บรรพชนได้ดูลุงเทียนจากไปพร้อมกับแสดงสีหน้าตกตะลึง เขาพูดพึมพำออกมาด้วยจิตใจที่ไม่ได้อยู่กับเนื้อกับตัว “นี่คือความแข็งแกร่งของเซียนระดับราชา พวกเขาสามารถเปิดมิติเดินทางในระยะเป็นล้านกิโลเมตรได้ ” ไม่นานหลังจากนั้นบรรพชนก็ได้มองไปที่หยกที่ถือไว้ในมือพร้อมกับแสดงความตื่นเต้นออกมา ยิ่งมองหยกนั่นเท่าไรก็ยิ่งแสดงให้เห็นถึงความล้ำค่าของมัน มันมีค่ามากกว่าสมบัติใด ๆ ไม่มีสิ่งใดสามารถนำมาเทียบมันได้

บรรพชนได้นำกล่องเก็บหยกชั้นเยี่ยมออกมาจากแหวนมิติและค่อย ๆ วางหยกนั่นลงเป็นเพื่อเก็บรักษาเอาไว้ หยกชิ้นนี้ใช้เพื่อเรียกผู้อาวุโสสูงสุดมาจากเมืองทหารรับจ้าง แม้ว่ามันจะใช้ได้เพียงครั้งเดียวแต่มันก็ยังคงล้ำค่าไม่สามารถตีเป็นราคาใด ๆ ได้

หลังจากที่เก็บหยกชิ้นนั้นลงไปแล้ว เขาใช้เวลาอยู่สักพักเพื่อจะสงบจิตใจตัวเองเนื่องจากก่อนหน้านี้หัวใจของเขาได้เต้นสั่นระรัวเกินไป และเป็นตอนนั้นเองที่เขาเพิ่งรับรู้ได้ว่าเขาในตอนนี้นั้นเปียกชุ่มไปด้วยเหงื่อทั้งบนหน้าผากและตามร่างกายของตนเอง

เขาปาดเหงื่อบนหน้าผากของตนเองออกและมองไปที่เจี้ยนเฉินและหมิงตงด้วยท่าทีซับซ้อน แม้ว่าหมิงตงจะอยู่เพียงในระดับเซียนปฐพีแต่หมิงตงต้องเป็นลูกหลานของผู้อาวุโสผู้นั้นเป็นแน่ เขารู้อย่างชัดเจนว่าหมิงตงนั้นเกี่ยวข้องกับเทียนเจี้ยน

แม้ว่าบรรพชนจะแสดงท่าทีตื่นตระหนกอยู่ เจี้ยนเฉินก็ได้หัวเราะและพูดออกมา “ผู้อาวุโส เป็นไปได้หรือไม่ที่ท่านจะยกเลิกการหมั้นระหว่างหวงเอ๋อและตระกูลหวงกู่ ? “

“ได้ ๆ ๆ แน่นอน” บรรพชนรีบตอบกลับไป ตอนนี้บรรพชนได้รู้แล้วว่าเจี้ยนเฉินและหมิงตงนั้นมีคนคอยหนุนหลังคือผู้อาวุโสสูงสุดแห่งเมืองทหารรับจ้าง มุมมองที่เขามีต่อทั้งสองนั้นได้เปลี่ยนไปอย่างมาก แม้แต่ตอนนี้น้ำเสียงเขายังฟังดูนอบน้อมโดยไม่สนใจว่าตนเองมีฐานะเป็นเช่นไร