ตอนที่ 1767 วิหารเงาจันทรา (1)
“ข้าผิดไปแล้ว……ข้าขอโทษ……”จื่อจินน้ำตาไหลอาบแก้ม และทันใดนั้น ก่อนที่ใครจะทันตอบสนอง นางก็วิ่งเอาหัวชนเสาหินในห้องโถงใหญ่ของวิหารหยกวิญญาณ!
เลือดสีแดงสดเปื้อนเสาหินและกระเด็นลงบนพื้น…….
“จื่อจิน!”
จวินอู๋เสียลดสายตาลงเงียบๆมองตรงไปยังเส้นทางข้างหน้าขณะที่เดินต่อไปโดยไม่หันกลับไปมอง ไม่เหลือบมองแม้แต่เลือดที่ด้านหลังเลยสักแวบเดียว
……………….
เมื่อก้าวออกจากวิหารหยกวิญญาณจวินอู๋เสียก็เงยหน้ามองดวงอาทิตย์บนท้องฟ้า และออกเดินทางต่อไป
เวลาไม่ได้หยุดนิ่งและจวินอู๋เสียก็ไม่หยุดเดินเช่นกัน
เมื่อถึงจุดนัดพบจวินอู๋เสียได้พบกับเยว่อี้อีกครั้ง เยว่อี้เห็นว่าจื่อจินไม่ได้อยู่กับกลุ่มของจวินอู๋เสียแล้ว แต่เขาก็ไม่ได้ถามอะไรมาก
“เจ้าตั้งใจจะกลับไปที่วิหารเงาจันทรากับข้าหรือ?”เยว่อี้มองจวินอู๋เสีย ตามที่จวินอู๋เสียได้พูดถึงแผนการก่อนหน้านี้ เมื่อกลับจากวิหารหยกวิญญาณ จวินอู๋เสียจะไปที่วิหารเงาจันทรากับเขา
แต่เยว่อี้กลับมองจวินอู๋เสียอย่างกังวล
การกลับไปที่วิหารเงาจันทราไม่เหมือนกับการไปที่วิหารจิงหงคนของวิหารจิงหงไม่รู้ว่าศิษย์ของวิหารเงาจันทราหน้าตาเป็นอย่างไร แต่เป็นไปไม่ได้ที่วิหารเงาจันทราจะไม่รู้
“แต่ใบหน้าของเจ้า……”เยว่อี้กังวลเล็กน้อย
จวินอู๋เสียตอบว่า“ข้าจัดการเรื่องนั้นเอง”
พูดจบจวินอู๋เสียก็เดินไปขึ้นรถม้า ขณะที่เยว่อี้และคนอื่นๆได้แต่รออยู่ด้านนอก หลังจากนั้นครู่หนึ่ง จวินอู๋เสียก็เดินออกจากรถม้าพร้อมหน้าตาที่เปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง เด็กหนุ่มที่หน้าตาธรรมดาในตอนแรกได้เปลี่ยนเป็นเด็กหนุ่มที่หน้าตาหล่อเหลามีเสน่ห์ ในความหล่อนั้นมีความเป็นผู้หญิงปนอยู่
ดวงตาของเยว่อี้เบิกกว้างทันทีหน้าตาของจวินอู๋เสียเหมือนกับศิษย์วิหารเงาจันทราที่ถูกฆ่าตายที่หน้ารถม้าเป๊ะเลยไม่ใช่หรือ?
“เจ้า……”
“ผู้ชายคนนี้ชื่ออะไร?”แม้ว่าจวินอู๋เสียจะไม่สามารถทำได้เหมือนฮัวเหยาที่ลอกเลียนร่างกายและใบหน้าของคนได้อย่างสมบูรณ์ นางไม่สามารถเปลี่ยนรูปร่างและขนาดของกระดูกได้ แต่นางก็มีวิธีอื่นในการปลอมตัว
นางสังเกตเห็นว่าเด็กหนุ่มที่ถูกฆ่าตายนั้นรูปร่างใกล้เคียงกับนางดังนั้นนางก็แค่ปรับเปลี่ยนหน้าตาและสวมเครื่องแบบวิหารเงาจันทราซะ เท่านี้ก็เหมือนตัวจริงแล้ว
เยว่อี้กลืนน้ำลายขณะพิจารณาหน้าตาของจวินอู๋เสียหลังจากนั้นครู่หนึ่งเขาก็ตอบว่า “เขาชื่อฉางฮวน”
ฉางฮวนเป็นแค่ศิษย์ธรรมดาในวิหารเงาจันทราที่มีพลังธรรมดามากเท่านั้นหากโยนเขาลงไปกลางกลุ่มศิษย์ เขาก็ไม่ได้โดดเด่นอะไรเลย แต่ไม่รู้ทำไมผู้อาวุโสอิ่งแห่งวิหารเงาจันทราถึงได้ให้ความสำคัญฉางฮวนมาก เหตุผลที่ฉางฮวนเข้าร่วมทีมที่ไปงานฉลองวันเกิดได้ก็เป็นการจัดการของผู้อาวุโสอิ่งเช่นกัน
“มีใครสนิทกับเขาในวิหารเงาจันทรารึเปล่า?”แม้ว่าจวินอู๋เสียจะปลอมตัวได้อย่างยอดเยี่ยม แต่นางยังไม่สามารถเลียนแบบได้ทุกกระเบียดนิ้ว ใบหน้าอาจจะหลอกคนบางคนได้ แต่ไม่สามารถหลอกคนที่ฉางฮวนสนิทมากๆได้
เยว่อี้ส่ายหน้า“ฉางฮวน……ไม่ได้สนิทกับใครเป็นพิเศษในวิหารเงาจันทรา เขามีนิสัยแปลกๆ ดูเหมือนคนอื่นๆจะไม่ค่อยชอบเขานัก”
แต่เทียบกับเยว่อี้แล้วฉางฮวนก็ยังดีกว่าเล็กน้อย แต่ก็ไม่ได้ดีกว่ามากนัก
จวินอู๋เสียพยักหน้าถ้าเป็นเช่นนั้น นางก็ไม่ต้องกังวลว่าจะมีใครมองการปลอมตัวของนางออก
หลังจากแน่ใจว่าไม่มีปัญหากับการปลอมตัวแล้วจวินอู๋เสียก็ปีนกลับขึ้นรถม้าทันที ครั้งนี้นางนั่งรถคันเดียวกับเยว่อี้ ขณะที่จวินอู๋เหยานั่งรถอีกคันกับเย่ฉาและคนอื่นๆ
เมื่อพวกเขาเข้าไปในรถม้าเย่ฉาเห็นสีหน้าของจวินอู๋เหยาแล้วก็อดไม่ได้ที่จะจุดเทียนไว้อาลัยให้เยว่อี้อยู่ในใจ
ขณะที่รถม้าแล่นไปตามทางจวินอู๋เสียก็ถามเยว่อี้เกี่ยวกับเรื่องต่างๆในวิหารเงาจันทรา เพื่อไม่ให้เกิดพิรุธ นางจำเป็นต้องเข้าใจสถานการณ์ของวิหารเงาจันทราให้มากที่สุดในระหว่างการเดินทางกลับนี้
ตอนที่ 1768 วิหารเงาจันทรา (2)
ขณะที่รถม้าแล่นไปตามทางจวินอู๋เสียก็ถามเยว่อี้เกี่ยวกับเรื่องต่างๆในวิหารเงาจันทรา เพื่อไม่ให้เกิดพิรุธ นางจำเป็นต้องเข้าใจสถานการณ์ของวิหารเงาจันทราให้มากที่สุดในระหว่างการเดินทางกลับนี้
ความแข็งแกร่งของวิหารเงาจันทราอยู่ล่างสุดของสิบสองวิหารสภาพคล้ายกับวิหารจิงหงอย่างมาก ในบรรดาผู้อาวุโสของวิหารเงาจันทรา คนที่ประมุขให้ความสำคัญมากที่สุดคือผู้อาวุโสเยว่ ตามมาด้วยผู้อาวุโสอิ่ง
ผู้อาวุโสอิ่งอยู่ในวิหารเงาจันทราไม่นานเท่าผู้อาวุโสเยว่แต่หากพูดถึงเรื่องพลังเพียงอย่างเดียว ผู้อาวุโสอิ่งเก่งกว่า……
ในอาณาจักรกลางนอกจากกลุ่มอำนาจหลักที่ปกครองดินแดนขนาดใหญ่แล้ว ยังมีตระกูลต่างๆที่ก่อตั้งกันมายาวนาน ตระกูลเหล่านั้นอยู่มานาน สั่งสมมาหลายปี ความแข็งแกร่งที่สั่งสมมาไม่อาจมองข้ามได้
ผู้อาวุโสอิ่งมาจากตระกูลที่เก่าแก่มากตระกูลหนึ่งตระกูลนั้นเคยรุ่งโรจน์มาก่อน แต่เมื่อเวลาผ่านไป พวกเขาก็ลดจำนวนลงอย่างมากและค่อยๆตกต่ำลงเรื่อยๆ ผู้อาวุโสอิ่งเป็นทายาทเพียงคนเดียวของรุ่นปัจจุบัน ในมือของเขามีสมบัติมากมายที่ตระกูลได้สะสมไว้ตลอดหลายปีที่ผ่านมา นั่นคือสาเหตุที่ประมุขวิหารเงาจันทราให้ความสำคัญกับเขาอย่างมาก
แต่ความสัมพันธ์ระหว่างผู้อาวุโสอิ่งและผู้อาวุโสเยว่นั้นค่อนข้างพูดยากอยู่สักหน่อย
แม้ว่าทั้งสองจะไม่เคยมีข้อพิพาทอะไรกันแต่เยว่อี้เคยได้ยินผู้อาวุโสเยว่พูดเรื่องไม่ดีเกี่ยวกับผู้อาวุโสอิ่ง
“ถ้าเจ้าคิดจะทำลายวิหารเงาจันทราก็น่าจะลงมือจากผู้อาวุโสเยว่และผู้อาวุโสอิ่งได้” เยว่อี้แนะนำ ช่วงนี้ประมุขวิหารเงาจันทราสุขภาพไม่ดี ลูกๆของเขาก็ยังเด็กมาก ทุกวันนี้ความรับผิดชอบในเรื่องต่างๆของวิหารเงาจันทราส่วนใหญ่จะแบ่งให้กับผู้อาวุโสทั้งสองดูแล
จวินอู๋เสียพยักหน้าในใจเริ่มวางแผนว่านางจะเล่นเกมกับวิหารเงาจันทราอย่างไร
ความจริงแล้วการเบนเข็มมาที่วิหารเงาจันทราทันทีหลังจากวิหารจิงหงนั้นเป็นสิ่งที่อยู่นอกแผนการของจวินอู๋เสีย ถ้าไม่ใช่เพราะนางได้พบกับเยว่อี้กลางคัน แผนของนางจะไม่เป็นเช่นนี้ แต่ประสบการณ์ที่ขมขื่นของเยว่อี้ทำให้นางอยากเลื่อนแผนการจัดการกับวิหารเงาจันทราให้เร็วขึ้น
ขณะที่พวกเขากำลังจะถึงวิหารเงาจันทราจวินอู๋เสียได้ส่งยาให้เยว่อี้หนึ่งเม็ด เยว่อี้กลืนมันลงไปทันทีโดยไม่ลังเลและไม่ถามอะไรแม้แต่คำเดียว
“เจ้าไม่กลัวว่าข้าจะวางยาเจ้าหรือ?”จวินอู๋เสียเลิกคิ้วถาม พลางคิดว่าเยว่อี้ไม่ระวังตัวกับนางเลยสักนิด
เยว่อี้มองจวินอู๋เสียและพูดอย่างตรงไปตรงมาว่า“ชีวิตข้าเป็นของเจ้าแล้ว ต่อให้เจ้าเอายาพิษให้ข้า ข้าก็จะกินมัน”
จวินอู๋เสียจ้องกลับไปที่เยว่อี้และเงียบไปครู่หนึ่งก่อนจะพูดว่า“นี่จะทำให้อาการบาดเจ็บของเจ้าดูหนักกว่าที่เป็นจริง”
เยว่อี้พยักหน้าพอจะเข้าใจเหตุผลที่จวินอู๋เสียทำเช่นนั้น
มีคนของวิหารเงาจันทราออกไปที่วิหารจิงหงจำนวนมากแต่สุดท้ายก็มีแค่เขากับจวินอู๋เสียที่ปลอมเป็นฉางฮวนกลับมาเท่านั้น ไม่ว่าจะมองยังไงก็แปลก แต่เพราะความวุ่นวายในวิหารจิงหง พวกเขาสามารถอ้างได้ว่าการหายตัวไปของศิษย์คนอื่นๆที่เหลือเป็นเพราะความโกลาหลที่เกิดขึ้นที่นั่น
ต้องบอกเลยว่าความคิดที่ชาญฉลาดของจวินอู๋เสียช่างละเอียดรอบคอบไร้ช่องโหว่ ไม่มีจุดบกพร่องตรงไหนเลย
ในไม่ช้าพวกของจวินอู๋เสียก็เข้าสู่ดินแดนที่อยู่ในอำนาจของวิหารเงาจันทรา เนื่องจากจวินอู๋เสียไม่สามารถหาคนที่จวินอู๋เหยากับคนของเขาจะปลอมตัวได้ และนางก็ไม่คิดว่าจวินอู๋เหยาจะยินดีปลอมตัวเป็นศิษย์คนหนึ่ง นางจึงตัดสินใจปล่อยพวกเขาเดินตระเวนไปตามที่ต้องการ ถึงยังไง ด้วยพลังของพวกเขา จะมีที่ไหนวิหารเงาจันทราที่พวกเขาไม่สามารถไปได้ตามใจชอบด้วยหรือ?
รถม้าคันเดียวได้มาจอดตรงหน้าประตูใหญ่ของวิหารเงาจันทราผู้คุ้มกันสองคนที่ยืนอยู่หน้าประตูก้าวเข้ามาตรวจสอบผู้โดยสารข้างในทันที