ตอนที่ 656 ห้องโถงงานแต่ง
“ฉู่เจียเสวียน คุณทำให้ผมเปลี่ยนไปไม่เป็นตัวของตัวเองจริงๆ” เผยหนานเจวี๋ยพูดด้วยอารมณ์หวั่นไหว เขาไม่เคยคิดเลยว่าสักวันหนึ่งเขาจะเปลี่ยนไปเพราะผู้หญิง
เขาจ้องมองใบหน้าอันงดงามของเธออย่างลึกซึ้ง การมองเห็นที่ใกล้ชิดนี้ช่วยให้พวกเขาได้เห็นภาพสะท้อนในดวงตาของกันและกันอย่างชัดเจน ทั้งสองมีลักษณะเหมือนเช่นในอดีต เวลาทำให้ทุกอย่างอบอุ่นขึ้น
“ทำไมตอนนี้คุณถึงกลายเป็นหญิงจู้จี้จุกจิกไปแล้วล่ะ?” ปากของฉู่เจียเสวียนเอ่ยวาจาอย่างรำคาญ แต่ดวงตากลับมีรอยยิ้มวูบผ่าน ตอนนี้เขาทำให้เธอรู้สึกว่าเขาใส่ใจ
“ผมคิดว่าผมสามารถจัดการได้ทุกอย่าง แต่คุณเป็นคนเดียวที่ผมไม่สามารถจัดการได้ เจียเสวียน อย่าจากผมไปได้หรือเปล่า?” เผยหนานเจวี๋ยพูดต่อ เขามีหลายสิ่งหลายอย่างที่อยากจะพูดกับเธอ
“เอาเถอะ ขืนยังไม่ออกไปอีกก็จะค่ำแล้วนะ” ริมฝีปากแดงของฉู่เจียเสวียนยกยิ้ม เธอยิ้มแล้ว เขาทำให้หัวใจของเธอหวั่นไหวอย่างลึกซึ้ง เธอไม่รู้ว่าเริ่มตกหลุมพรางอันอ่อนโยนของเขาตั้งแต่เมื่อไร
“ตกลง” เผยหนานเจวี๋ยพยักหน้า จับมือของฉู่เจียเสวียน คิดจะจูงมือเธอออกไปข้างนอก
“เดี๋ยวก่อน” ฉู่เจียเสวียนดึงมือออกมาแล้วเดินไปที่ระเบียง
“แม่คะ แม่จะไม่ออกไปกับพวกเราจริงๆ เหรอ” ฉู่เจียเสวียนเดินเข้าไปหาซูซาน เอ่ยขึ้นด้วยเสียงแผ่วเบา
ซูซานส่ายหน้า “แม่จะไปทำอะไรกันล่ะ มองดูพวกลูกจีบกันเหรอ? ลูกไปเถอะ ไม่ต้องเป็นห่วง มีอะไรก็โทรบอกแม่”
“ถ้าอย่างนั้นก็ได้ค่ะ พวกเราไปก่อนนะคะ” ฉู่เจียเสวียนกอดซูซาน หลังจากนั้นก็คลายอ้อมกอดออก และเดินไปหาเผยหนานเจวี๋ย
นอกบ้านมีลมหนาวพัดผ่านมา มันขับกิ่งก้านใบไม้ให้โบยบินพร้อมส่งเสียงน่ารื่นรมย์ แสงอาทิตย์อบอุ่นให้ความรู้สึกของวันเวลาที่เงียบสงบ
เผยหนานเจวี๋ยถอดเสื้อตัวนอกออก ขมวดคิ้วแล้วเอ่ยขึ้นว่า “ลมแรง คุณใส่เสื้อผ้าน้อยชิ้นแบบนี้ สวมเอาไว้เถอะ”
ไม่ว่าเวลาหรือสภาพอากาศจะเป็นอย่างไร ธรรมชาติของผู้หญิงที่รักสวยรักงามนั้นมักแสดงด้านที่สวยที่สุดของตัวเองให้ผู้อื่นเห็นโดยเฉพาะต่อหน้าคนรัก
หลายปีมานี้ หัวใจของผู้หญิงที่รักสวยรักงามล้วนมีช่วงราคา ผู้คนสร้างสาวงามต่อหน้าสาธารณชนมากขึ้นทุกที ทุกคนพยายามที่จะต้อนรับโลกใบนี้ด้วยด้านที่สวยที่สุด
ฉู่เจียเสวียนเบือนหน้าหนี แล้วเข้าไปในรถ “ฉันไม่เอาหรอก ในรถอุ่นมาก” เธอไม่อยากสวมเสื้อโค้ตของเขา มันไม่เข้ากับเสื้อผ้าของเธอ ในฐานะนักออกแบบเธอจะยอมรับสิ่งที่มีผลต่อความงามได้อย่างไร แม้ว่าในใจจะรู้สึกประทับใจกับความเอาใจใส่ของเผยหนานเจวี๋ยก็ตาม
เผยหนานเจวี๋ยเข้าไปในรถ ก่อนจะนั่งลงที่นั่งคนขับ หลังจากดูฉู่เจียเสวียนคาดเข็มขัดนิรภัยแล้ว เขาก็สตาร์ทรถและออกตัว
ระยะทางจากหลี่หยวนถึงโรงแรมกรีซนั้นใช้เวลาขับรถน้อยกว่าครึ่งชั่วโมง ต้นสนที่ปลูกทั้งสองข้างทางยืนสูงในอากาศ กิ่งใบของมันพลิ้วไปตามสายลม
ในไม่ช้าอาคารของโรงแรมกรีซก็ปรากฏตัวต่อหน้าฉู่เจียเสวียน เธอเหลือบมองขึ้นไปบนตึกสูง โรงแรมสูงระฟ้ากว่าร้อยชั้นนั้นน่าประทับใจมากจริงๆ
“คุณฉู่ พวกเราเข้าไปกันเถอะครับ” สุภาพบุรุษเผยหนานเจวี๋ยเปิดประตูรถ ยื่นมือให้ฉู่เจียเสวียน
ฉู่เจียเสวียนยิ้มน้อยๆ ยื่นมือออกไปวางบนมือของเขา แล้วก้าวลงจากรถอย่างสง่างาม
ครั้งนี้เขาคงไม่เหมาร้านอาหารทั้งหมดอีกครั้งหรอกนะ ฉู่เจียเสวียนคิดในใจ อดไม่ได้ที่จะเริ่มรู้สึเสียดายกับการใช้เงินของเขาอีกครั้ง
คนทั้งสองเดินอยู่บนพรมแดง มีรอยยิ้มสุภาพปรากฏขึ้นตรงมุมปากของฉู่เจียเสวียน คลื่นอารมณ์ปรากฏอยู่ในแววตา พวกเขาสองคนควงแขนกันแบบนี้ เธอก็มีความรู้สึกราวกับว่าพวกเขากำลังเดินไปห้องโถงงานแต่งงานอย่างไรอย่างนั้น
สามปีก่อนในวันแต่งงาน เผยหนานเจวี๋ยไม่ได้มาเข้าพิธี เขาปล่อยให้เธออยู่ในโบสถ์คนเดียวจนทุกคนหัวเราะเยาะ วันนี้สามปีต่อมาพวกเขาไม่ได้แต่งงาน แต่กลับเดินอยู่บนพรมแดง บางครั้งคุณก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกว่าโชคชะตาเป็นเรื่องมหัศจรรย์จริงๆ
ตอนที่ 657 ชอบ
สายตาของเผยหนานเจวี๋ยหยุดอยู่ที่ฉู่เจียเสวียน เขาเหม่อมองเธอ มองดูใบหน้าด้านข้างที่งดงามของเธอ ทำไมดูเท่าไรก็เหมือนจะไม่พอ เมื่อเห็นบริกรเดินเข้ามาเขาก็เก็บอารมณ์บนใบหน้าและกลับสู่สีหน้าเย็นชาเช่นเดิมทันที เขาเก็บด้านอ่อนโยนให้ฉู่เจียเสวียนดูเท่านั้น
“คุณผู้ชาย คุณผู้หญิง เชิญทางนี้ครับ” บริกรเข้ามาต้อนรับและเอ่ยกับเขาด้วยความสุภาพ นำทางพวกเขาพร้อมผายมือเป็นการเชื้อเชิญ
เมื่อเข้ามาในลิฟต์แล้ว เผยหนานเจวี๋ยมองดูฉู่เจียเสวียนแล้วพูดเบาๆ ว่า “หลับตาสิ”
ฉู่เจียเสวียนขมวดคิ้วน้อยๆ ไม่รู้ว่าเผยหนานเจวี๋ยคิดจะทำอะไร จึงมองดูเขาด้วยความระแวดระวัง สถานที่เช่นในลิฟต์ทำให้เธอรู้สึกไม่ปลอดภัยเป็นอย่างมาก
เผยหนานเจวี๋ยยื่นมือออกมาปิดตาฉู่เจียเสวียน “เชื่อผมนะ หลับตา” กลิ่นอายอันอ่อนโยนบนร่างกายของเขาโอบกอดร่างของฉู่เจียเสวียนเอาไว้
กลิ่นอายที่ไม่เหมือนใครในตัวของเขานั้นทำให้ฉู่เจียเสวียนรู้สึกผ่อนคลายทั้งร่างกายและจิตใจ เธอหลับตาลงช้าๆ รู้สึกปลอดภัยเมื่อมีเขาอยู่ข้างๆ
เขาถอนมือที่ปิดตาฉู่เจียเสวียนออก เห็นเธอหลับลงเล็กน้อย ขนตาสั่นไหวแผ่วเบา ริมฝีปากสีแดงยกยิ้มขึ้น เผยให้เห็นความยั่วยวนใจรางๆ
ฉู่เจียเสวียนลืมตาขึ้น เห็นว่าเผยหนานเจวี๋ยกำลังมองเธออยู่ และเธอยังถูกเผยหนานเจวี๋ยกอดไว้ในอ้อมแขน เธอกะพริบดวงตาที่สดใสคู่นั้น ไม่เข้าใจว่าเขาบอกให้เธอหลับตาเพราะต้องการจะทำอะไรกันแน่?
ผ่านไปเนิ่นนาน ฉู่เจียเสวียนถึงราวกับดึงสติกลับมาได้ เธอเอ่ยปากอย่างอึดอัดว่า “ข้างในมีกล้องวงจรปิดนะ” ทำไมเมื่อครู่นี้เธอถึงปล่อยให้เขากอดเธอได้ล่ะ?
“ถึงแล้ว” เผยหนานเจวี๋ยมองไปที่ตัวเลขชั้นในลิฟต์และพูดขึ้น
“ปล่อยฉันนะ” ฉู่เจียเสวียนพูดพลางพยายามดิ้นรนออกจากอ้อมแขนของเขา
เมื่อเห็นใบหน้าเหนียมอายของฉู่เจียเสวียนแล้ว ริมฝีปากบางๆ ของเขาก็ยกยิ้มขึ้น ค่อยๆ คลายพันธนาการจากเธอ แม้ว่าเขาต้องการจะเก็บเธอไว้ในอ้อมแขนตลอดเวลา แต่เขาก็ไม่ต้องการทำให้เธออึดอัด
เสียง ติ๊ง ดังขึ้น ประตูลิฟต์เปิดออก พวกเขาสองคนออกมาจากลิฟต์ ผมบนศีรษะของฉู่เจียเสวียนยุ่งเหยิงเล็กน้อย เผยหนานเจวี๋ยยื่นมือออกมาอย่างนุ่มนวล เพื่อจัดผมยุ่งเหยิงให้เธอ
การกระทำของเผยหนานเจวี๋ยทำให้ใบหน้าของฉู่เจียเสวียนแดงขึ้นอย่างไม่มีเหตุผล เธอกัดริมฝีปากอย่างแผ่วเบา ในใจเต้นตึกตักๆ มีความรู้สึกราวกับเด็กสาวที่กำลังมีความรักครั้งแรก
เมื่อเงยหน้าขึ้นก็เห็นสายตาอ่อนโยนของเผยหนานเจวี๋ย เขากำลังช่วยเธอจัดทรงผมด้วยสีหน้าจริงจัง การกระทำเล็กๆ น้อยๆ แบบนี้เขากลับทำมันด้วยความจริงจังเป็นอย่างมาก ระลอกคลื่นแห่งความสุขก่อตัวขึ้นภายในใจของเธอ
ทั้งสองยืนอยู่ตรงนั้น บรรยากาศเงียบสงบอย่างน่าประหลาดใจ ฉู่เจียเสวียนสามารถได้ยินเสียงการเต้นของหัวใจของกันและกันอย่างชัดเจน ผู้คนที่เดินผ่านพวกเขาสองคนต่างจ้องมองพวกเขาด้วยความอิจฉา
พวกเขาทั้งคู่กำลังส่องประกาย เพียงการหยุดยืนก็สามารถดึงดูดความสนใจของผู้อื่นได้
“ขอโทษนะครับ คุณเผยหรือเปล่าครับ” บริกรในชุดทักซิโด้สีดำเดินเข้ามาหาพวกเขา
เผยหนานเจวี๋ยพยักหน้าเล็กน้อย รังสีของผู้ชายที่ประสบความสำเร็จแผ่ซ่านออกมาจากร่างของเขา ทุกการเคลื่อนไหวของเขาแสดงออกให้เห็นถึงความแข็งแกร่งที่ไม่สิ้นสุด ผู้คนรอบๆ แอบมองเขาเป็นครั้งคราว
ฉู่เจียเสวียนก้าวเดินไปข้างหน้า เอื้อมมือออกไปควงแขนของเผยหนานเจวี๋ย เธอไม่ชอบที่เผยหนานเจวี๋ยถูกคนมองแบบนี้
เผยหนานเจวี๋ยมีความสุขกับการกระทำของฉู่เจียเสวียนเป็นอย่างมาก ใบหน้าเย็นชาของเขาพังทลายลงอย่างรวดเร็ว แม้แต่เส้นต่างๆ บนใบหน้าของเขาก็อ่อนโยนลง
เผยหนานเจวี๋ยและฉู่เจียเสวียนมาถึงห้องส่วนตัวภายใต้การนำทางของบริกร เมื่อเปิดห้องส่วนตัวแล้ว บรรยากาศภายในก็อบอุ่นเป็นพิเศษ
“ชอบหรือเปล่า” เผยหนานเจวี๋ยเอ่ยถามเสียงเบา
“ชอบค่ะ” ฉู่เจียเสวียนคุ้นเคยกับสภาพแวดล้อมที่งดงามหรูหราอยู่แล้ว เธอชอบความโอ่อ่าที่หาได้ยากประเภทนี้