ตอนที่ 654 บุคลิกภาพสำคัญกว่า / ตอนที่ 655 เดตที่รอมาแสนยาวนาน

กับดักรักในรอยแค้น

ตอนที่ 654 บุคลิกภาพสำคัญกว่า  

 

 

เผยหนานเจวี๋ยพยักหน้า ไม่ได้พูดอะไรออกมาอีก ซูซานลุกขึ้นจากโซฟา หมุนกายออกไปที่ระเบียง เธอเกือบลืมไปแล้วว่าวันนี้เธอยังไม่ได้รดน้ำดอกไม้เลย

 

 

เผยหนานเจวี๋ยนั่งอยู่บนโซฟา พลิกอ่านนิตยสารธุรกิจฉบับใหม่ล่าสุด พาดหัวข่าวนั้นสะดุดตา รูปถ่ายขนาดใหญ่รูปหนึ่งยึดครองพื้นที่ของหน้าไปเสียส่วนใหญ่

 

 

มันคือรูปที่เผยหนานเจวี๋ยหันหน้ามองฉู่เจียเสวียนพร้อมรอยยิ้มมุมปาก ดูแล้วใช้ได้ทีเดียว แต่ไม่รู้ว่าใครเป็นคนถ่าย

 

 

เนื้อหาไม่ได้กล่าวถึงฉู่เจียเสวียนเลยแม้แต่น้อย เมื่ออ่านดูเนื้อหาเขาก็วางใจ มองดูใบหน้าของฉู่เจียเสวียนที่ถูกเบลอ ดูเหมือนว่าในที่สุดกลุ่มสื่อที่หยิ่งผยองเหล่านั้นก็ได้รับบทเรียนและเชื่อฟังแล้ว ตอนนี้จึงไม่กล้าก่อเรื่องอีก

 

 

หัวข้อข่าวมุ่งเน้นไปที่การสร้างสถิติใหม่ของเผยหนานเจวี๋ยโดยการบริจาคสองร้อยล้านเพื่อการกุศล และกล่าวว่าเขาดูอ่อนโยนเป็นอย่างมากในวันประมูล เนื้อหาข่าวไม่ได้กล่าวถึงด้านไม่ดีเลย เผยหนานเจวี๋ยยิ้มออกมาด้วยความพึงพอใจ หลังจากอ่านเนื้อหาทั้งหมดแล้วก็นับว่าพวกเขายังมีไหวพริบอยู่บ้าง

 

 

ในนิตยสารมีรูปถ่ายที่เผยหนานเจวี๋ยมองฉู่เจียเสวียนด้วยความอ่อนโยนอีกด้วย ในนั้นยังมีข้อความกำกับโดยเฉพาะว่า ‘ไม่เคยเห็นด้านที่อ่อนโยนและน่ารักเช่นนี้ของท่านประธานเผยเลย นี่เป็นเพียงภาพเดียวที่มีใบหน้าที่ยิ้มแย้มของเขา’

 

 

ปกติแล้วเขาไม่เคยยิ้มในที่สาธารณะจริงๆ เหรอ เผยหนานเจวี๋ยพยายามนึกย้อนถึงภาพลักษณ์ตอนที่เขาปรากฏตัวต่อสาธารณะในช่วงหลายปีที่ผ่านมา

 

 

เผยหนานเจวี๋ยยกข้อมือขึ้นดูเวลา นี่ผ่านไปครึ่งชั่วโมงแล้ว ทำไมเธอยังไม่ลงมาอีก?

 

 

เขายังไม่เคยรอใครนานขนาดนี้มาก่อน วันนี้เขาใช้เวลาทั้งวันเพื่อรอฉู่เจียเสวียน

 

 

ฉู่เจียเสวียนสวมชุดเดรสสีดำอยู่ในห้องนอน และเพื่อให้เข้ากับสีดำนี้ เธอจึงตั้งใจแต่งหน้าไม่หนามาก ไม่ช้า หญิงสาวผู้สูงศักดิ์ก็ปรากฏตัวขึ้นในกระจกบานยาว เธอยกยิ้มมุมปากด้วยความพึงพอใจ

 

 

เปิดตู้เสื้อผ้า หยิบผ้าคลุมไหล่ออกจากตู้เสื้อผ้าแล้วคลุมลงบนตัว

 

 

ตอนที่ฉู่เจียเสวียนปรากฏตัวต่อหน้าเผยหนานเจวี๋ย ดวงตาของเขาก็มีประกายความประหลาดใจ ปกติมักจะเห็นการแต่งตัวที่สง่างามของเธอ นี่เป็นครั้งแรกที่เห็นเธอแต่งตัวมีสไตล์แบบนี้

 

 

แววตาที่ตะลึงงันของเขาทำให้ฉู่เจียเสวียนมีความสุข เขาคิดอยู่ในใจว่าเดิมทีฉู่เจียเสวียนก็เป็นคนที่สวยที่สุดอยู่แล้ว ไม่ว่าจะแต่งตัวแบบไหนเขาก็ชอบทั้งนั้น

 

 

“คุณสวยมาก” เผยหนานเจวี๋ยไม่ลังเลที่จะเอ่ยชม

 

 

“เทียบกับหลี่เซียนเซียนแล้วเป็นยังไงบ้าง” ฉู่เจียเสวียนเอ่ยพร้อมยิ้มอ่อน แววตามีรอยยิ้ม

 

 

“ทำไมถึงพูดถึงเธอ?” เผยหนานเจวี๋ยกล่าวขึ้นด้วยความอึดอัดอยู่บ้าง หากเธอไม่พูดถึงเขาก็ลืมไปแล้วว่าคนที่ชื่อหลี่เซียนเซียนยังมีตัวตนอยู่

 

 

“ฉันจำได้ว่าหนังสือพิมพ์คราวก่อนบรรยายเธอไว้ว่า ‘คนสวย’ ฉันก็ไม่เคยเห็นเธอก็เลยถามคุณว่าสวยมากจริงหรือเปล่า” ฉู่เจียเสวียนไม่พูดยังดีเสียกว่า เมื่อเธอพูดถึงแล้วอารมณ์ดีๆ ของเธอนั้นก็หายไปจนสิ้น

 

 

“หนังสือพิมพ์ใช้คำเกินจริงตลอด คุณก็ใช่ว่าจะไม่รู้ คุณมีบุคลิกดีกว่าเธอเสียอีก” ทันใดนั้นเผยหนานเจวี๋ยก็รู้สึกมึนงงเล็กน้อย ทำไมจู่ๆ เธอก็กัดเรื่องนี้ไม่ปล่อยนะ?

 

 

“อ๋อ? มีบุคลิกดีกว่าเธอ? งั้นก็แสดงว่าไม่ได้สวยกว่าเธอน่ะสิ” ฉู่เจียเสวียนไม่พอใจกับคำตอบของเผยหนานเจวี๋ยเป็นอย่างมาก มีบุคลิกดีกว่าเธออย่างนั้นหรือ? แบบนั้นเขาก็หมายความว่าเธอไม่ได้สวยกว่าหลี่เซียนเซียนใช่ไหม?

 

 

“บุคลิกสำคัญนะ” เผยหนานเจวี๋ยกล่าวต่อ เขาไม่รู้ว่าต้องตอบอย่างไร ทำไมผู้หญิงถึงได้วุ่นวายแบบนี้นะ? ดูเหมือนว่าเขาจะประเมินระดับการให้ความสำคัญที่ผู้หญิงมีต่อความงามไม่ได้ซะแล้ว

 

 

“นี่คุณกำลังบอกฉันว่า ฉันไม่ได้สวยเท่าเธอใช่ไหม?” เผยหนานเจวี๋ยคุณกำลังจะตายแล้ว หรือว่าจะกล่อมเธอสักคำก็ไม่ได้หรือไง พูดว่าเธอสวยกว่าไม่เป็นหรือไง

 

 

 

 

 

ตอนที่ 655 เดตที่รอมาแสนยาวนาน  

 

 

ฉู่เจียเสวียนลอบกัดฟัน มองเขาด้วยสายตาเย็นชา

 

 

“เปล่า” เผยหนานเจวี๋ยมองเธอด้วยความจนใจอยู่บ้าง เมื่อครู่นี้ยังดีๆ อยู่เลยไม่ใช่หรือ ทำไมถึงกลายเป็นแบบนี้ไปเสียได้ หรือว่าผู้หญิงก็เป็นแบบนี้กันทุกคน เมื่อคุยว่าใครสวยกว่าก็ต้องร้อนใจดังไฟลนแบบนี้ด้วยเหรอ?

 

 

“หึ ฉันไม่อยากออกไปแล้ว” ฉู่เจียเสวียนพ่นลมหายใจออกมาอย่างเย็นชา หมุนตัวตั้งใจจะขึ้นไปเปลี่ยนเสื้อที่ชั้นบน

 

 

เธอแทบจะโมโหตายเพราะเขาแล้วจริงๆ มีคนที่เถรตรงขนาดนี้ด้วยหรือ? ก่อนหน้านี้ที่เขาพูดคำหวานก็เห็นได้ว่ารู้จักพูดจานี่นา? ตอนนี้แม้แต่ง้อเธอแค่คำเดียวก็พูดไม่เป็นแล้วเหรอไง

 

 

“ความสวยของเธอไม่เป็นธรรมชาติ ไม่ได้สวยธรรมชาติเหมือนกับคุณ” เผยหนานเจวี๋ยรีบเอ่ยปากขึ้น ยื่นมือออกไปรั้งไม่ให้ฉู่เจียเสวียนเดินจากไป

 

 

“เหรอ? คุณหมายถึงฉันไม่ดีเท่าผู้หญิงที่สวยแบบประดิษฐ์อย่างนั้นเหรอ” ฉู่เจียเสวียนมองเขาด้วยสายตาเรียบเย็น รังสีเย็นชาแผ่ซ่านออกมาจากตัวของเธอ คำอธิบายของเขาทำให้เธอโกรธเข้าจริงๆ

 

 

“ไม่ใช่ ผมไม่ได้หมายความว่าแบบนั้น…” เผยหนานเจวี๋ยรีบเอ่ยปากอธิบาย ทำไมเขาถึงได้รู้สึกว่ายิ่งพูดก็ยิ่งยุ่งเหยิงล่ะ

 

 

ทำไมอารมณ์ของผู้หญิงถึงคาดเดายากแบบนี้? ฉู่เจียเสวียนก็กลายเป็นคนไร้เหตุผลแบบนี้ตั้งแต่เมื่อไร ก่อนหน้านี้เธอก็มีเหตุผลดีไม่ใช่เหรอ

 

 

เขาไม่รู้ว่าจะตอบอย่างไรแล้วจริงๆ พระเจ้า! ใครจะช่วยเขาได้บ้าง เขาเบือนสายตาไปหาซูซานที่กำลังตัดเล็มต้นไม้บนระเบียง สุดท้ายก็พบว่าเธอไม่ได้มองมาที่เขาเลย ยิ่งไม่เห็นแววตาร้องขอของเขา

 

 

“ฉันไม่อยากออกไปข้างนอกแล้ว” ฉู่เจียเสวียนเอ่ยปากอย่างเย็นชา ตอนนี้เธอไม่อยากไปไหนทั้งนั้น เธอไม่มีอารมณ์เลยสักนิด

 

 

“ไม่ได้ คุณรับปากผมแล้ว” เผยหนานเจวี๋ยรีบเดินมาที่ตรงหน้าของฉู่เจียเสวียน ยื่นมือออกไปขวางทางเธอไว้

 

 

ฉู่เจียเสวียนเงยหน้าขึ้นสบกับดวงตาที่ล้ำลึกของเขา ความอบอุ่นในดวงตาของเขาวาดผ่านผิวพรรณของเธอในทุกกระเบียดนิ้วอย่างแผ่วเบา

 

 

ฉู่เจียเสวียนไม่สามารถหาคำพูดอะไรมาหักล้างเขาได้ เพราะอย่างนั้นเธอจึงได้แต่จ้องมองเขา

 

 

เผยหนานเจวี๋ยเอื้อมมือออกไปดึงฉู่เจียเสวียนเข้ามากอดในอ้อมแขน วางคางไว้บนศีรษะของเธอ พูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนเป็นอย่างมากว่า “อย่างอนเลยได้ไหม ผมรอเดตครั้งนี้มานานแล้วนะ” เขาต้องการโอกาสที่จะอยู่กับเธอตามลำพังมากแค่ไหน?

 

 

ผู้ชายที่ปกติแล้วมีสีหน้าเย็นชา ในเวลานี้มีความอ่อนโยนอยู่บนใบหน้า บรรยากาศคลุมเครือล่องลอยอยู่ในอากาศ ทำให้ฉู่เจียเสวียนทำตัวไม่ถูกเล็กน้อย

 

 

“คุณปล่อยฉันนะ” ฉู่เจียเสวียนดิ้นรนอยากจะหลุดออกจากอ้อมแขนของเขา แต่ว่าเขากลับกอดเธอเอาไว้แน่น

 

 

“นอกเสียจากว่าคุณจะรับปากว่าจะออกเดตกับผม” เผยหนานเจวี๋ยพูดด้วยความจริงจัง

 

 

“คุณปล่อยฉันก่อนสิ” ฉู่เจียเสวียนพูดด้วยน้ำเสียงนิ่งเรียบ ที่นี่แม้จะไม่มีคนอื่นอยู่ แต่ว่าซูซานก็เป็นแม่ของเธอ ถ้าเธอมาเห็นภาพที่พวกเขาสองคนยื้อยุดกันแบบนี้จะแย่แค่ไหนกัน?

 

 

“ถ้าอย่างนั้นผมก็ถือว่าคุณรับปากแล้ว” เผยหนานเจวี๋ยเอ่ยปากออกมาอย่างเอาแต่ใจ โอบแขนเธอไว้ไม่เต็มใจที่จะปล่อยไป

 

 

ทันทีที่ได้รับอิสระ ฉู่เจียเสวียนก็ถอยหลังไปสองก้าว กวาดสายตามองเขาด้วยความดุร้าย จากนั้นเสียงเย็นชาของเธอก็ดังขึ้น “พวกเราจะไปไหน” เธอรู้เพียงว่าเผยหนานเจวี๋ยจองห้องอาหารไว้ แต่ไม่รู้สถานที่ที่แน่ชัด

 

 

“โรงแรมกรีซ” เผยหนานเจวี๋ยตอบด้วยรอยยิ้ม

 

 

ขอเพียงเธอตกลงว่าจะไปเดตกับเขา เขาก็ไม่ขออะไรมากอีกแล้ว เขารู้สึกเหมือนชายหนุ่มที่กำลังรอคอยคนรักในความฝันของเขา เขาไม่เคยรอคอยผู้หญิงคนไหนแบบนี้มาก่อน

 

 

ฉู่เจียเสวียนก้มหน้าจัดชุดเล็กน้อย ก่อนเอ่ยตำหนิว่า “คุณทำชุดฉันยับหมดแล้ว!”

 

 

“ผมจะชดใช้ให้คุณตัวหนึ่ง” เผยหนานเจวี๋ยเอ่ยออกมาอย่างไม่แยแส ขอเพียงเธอต้องการเขาก็จะให้

 

 

“ฉันไม่เอาหรอก ฉันอยากได้เสื้อแบบไหนฉันก็ออกแบบเองได้ไม่ใช่หรือไง” ฉู่เจียเสวียนไม่ชอบพฤติกรรมฟุ่มเฟือยของเผยหนานเจวี๋ยแบบนี้ แอบชูนิ้วกลางให้เขาอยู่ในใจ