ตอนที่ 595 ข้าเกรงว่าอายุจะไม่ยืนยาวเสียแล้ว
เฉินยางแม้จะตัวเล็กแต่ก็มีเรี่ยวแรงไม่น้อย นางดึงดันที่จะผลักเฝิงเยี่ยไป๋ออกไปจนสำเร็จ เฝิงเยี่ยไป๋ก็ยอมให้นางผลัก เมื่อโอนเอนไปตามทิศทางที่นางผลักล้มลงไปแล้ว จึงยกมือขึ้นมาจับศีรษะไว้ร้องโอดครวญไม่หยุดว่า “เจ็บเหลือเกิน”
เฉินยางผลักร่างเขาไปตรงๆ ไม่ได้สังเกตว่าศีรษะเขาจะเป็นอย่างไร แต่เมื่อเห็นเฝิงเยี่ยไป๋จับศีรษะเอาไว้พร่ำบอกว่าเจ็บมาก ไม่แค่ร้องตะโกนว่าเจ็บเท่านั้น ยังพลิกร่างไปมาราวกับเจ็บเหลือทน นางถึงกับทำอะไรไม่ถูก คงไม่ได้เป็นเพราะตนเองผลักแรงไปจนเขาเป็นอะไรไปหรอกนะ
“ท่านไม่เป็นอะไรใช่หรือไม่” นางรีบเดินเข้ามาดูเฝิงเยี่ยไป๋ พลิกมือเขาออกเพื่อดูว่ากุมจุดไหนเอาไว้ ทุกอย่างปกติ ก็ไม่มีแผลอะไรเลยนี่ ทำไมอยู่ดีๆ ถึงได้เจ็บขึ้นมานะ
เฝิงเยี่ยไป๋ชี้ไปที่สมอง พุ่งตัวเข้าสู่อ้อมอกนางแล้วบ่นพึมพำ “ก็นี่ไง…เจ็บ เจ็บจนแทบไม่รอด ข้าเกรงว่าจะเป็นโรคร้าย น่ากลัวว่าชีวิตจะไม่ยืนยาวเสียแล้ว”
คราวนี้เฉินยางจึงได้รู้สึกกลัวขึ้นมา โอบศีรษะเขาไว้แล้วนวดอย่างเบามือ “ทำไมอยู่ดีๆ จึงปวดศีรษะขึ้นมานะ ท่านนี่…นี่จะทำอย่างไรกันดีเล่า” นางร้อนใจจนกล่าวเสียงเจือสะอื้น กอดเขาไว้ ไม่รู้จะทำอย่างไรดี “ข้า…ข้าไปตามท่านหมอดีกว่า จะให้ท่านเจ็บถึงเพียงนี้ได้อย่างไรกัน ท่าน…ท่านรอข้านะ ข้าจะไปพาท่านหมอมา…”
เฝิงเยี่ยไป๋เห็นว่าโอกาสนี้นี่แหละเหมาะแล้ว ก็โถมตัวเข้าไปในอ้อมกอดนาง พลิกตัวผลักนางล้มลง กดมือและเท้านางเอาไว้ ไม่รอให้นางได้เอ่ยปากอันใด ตัวเองก็หลับตาแล้วซบนางเอาไว้เต็มรัก “พอเถอะ ข้าไม่สบายจริงๆ นอนกันเถอะนะ พรุ่งนี้ข้าต้องเข้าวังแต่เช้า นี่จะใกล้จะเช้าแล้ว เจ้าให้ข้าได้พักสักหน่อยเถอะ”
เฉินยางถึงได้ฉุกคิดว่าเฝิงเฝิงเยี่ยไป๋ที่แท้เล่นละครหลอกนาง จึงได้ขืนตัวไว้อีกครั้ง เฝิงเยี่ยไป๋จึงแสร้งกรนเสียงดังข้างหูนาง นางอยู่กับเขามาตั้งนานจะไม่รู้เชียวหรือว่าเขาเองไม่มีนิสัยชอบนอนกรนเสียงดัง ถ้าไม่ได้แกล้งทำแล้วจะเป็นอะไรได้เล่า
แต่เขามือเท้าหนักเพียงนี้ เฉินยางเป็นดั่งซุนหงอคงที่ถูกตรึงไว้ใต้ภูเขาห้านิ้วก็มิปาน ดิ้นอย่างไรก็ไม่หลุด จึงต้องเลยตามเลย
เฝิงเยี่ยไป๋แท้จริงแล้วไม่ได้หลับแต่อย่างใด หันหน้าไปฝังคอไว้ที่ซอกคอนาง สูดดมกลิ่นหอมไป ยังแสร้งม้วนตัวกอดนางอย่างไม่รู้ตัว พอสมองปลองโปร่งแล้วจึงได้ผล็อยหลับไป
พวกเขาเมื่อคืนส่งเสียงดังไม่น้อยเลย ซั่งเหมยและบรรดาข้ารับใช้ล้วนได้ยินเสียงทะเลาะในห้องแล้ว แต่หากพวกเขาเข้าไปห้ามปรามก็คงไม่เกิดผล อยู่ข้างนอกได้ยินเสียงอยู่ครู่ใหญ่ จนในห้องค่อยๆ เงียบเสียงไปจึงจะกลับไปนอน เมื่อเช้าตอนเข้ามารับใช้ เฉินยางตื่นก่อนแล้ว ซั่งเหมยปรนนิบัตินางชำระล้างหน้าตาเรียบร้อยแล้ว ก็เหลือบมองไปยังที่นอนแล้วเอ่ยถามเฉินยาง “นายหญิง ไม่ต้องเรียกนายท่านตื่นหรือเจ้าคะ หากช้ากว่านี้แล้วเลยเวลาเข้าวังนะเจ้าคะ”
เฉินยางเหลือบมองไปเสียหนึ่งที พูดด้วยอารมณ์ว่า “ไม่ต้อง ในเมื่อเขาอยากจะออกไปเต็ดเตร่ข้างนอกบ้านได้ ตื่นได้ไม่ได้ก็เป็นเรื่องของเขา ไม่ต้องไปสนใจ”
นั่นไงเล่า นายหญิงยังคงโกรธอยู่กระมัง ซั่งเหมยไม่ค่อยอยากจะก้าวก่ายสักเท่าใด เรื่องของสามีภรรยาคนนอกมายุ่งนักก็ไม่ค่อยเหมาะ เมื่อทำอะไรไม่ได้ ให้พวกเขาจัดการกันเองแล้วกัน
เฝิงเยี่ยไป๋เหนื่อยมาก พอได้นอนหลับไป จนตอนนี้ฟ้าสว่างแล้วก็ยังไม่มีทีท่าว่าจะตื่น ในวังยังคงรอเขาไปรายงานในท้องพระโรงอยู่เลย ฮ่องเต้น้อยส่งคนมาตามหลายหนแล้ว พอเฉาเต๋อหลุนมาบอกเฉินยาง นางก็ยังไม่ใคร่สนใจ แถมยังไม่ให้คนไปเรียกเขาอีก ดื้อดึงราวกับจะรอดูว่าเฝิงเยี่ยไป๋จะนอนไปจนถึงเมื่อไรกัน
เฝิงเยี่ยไป๋หนนี้นอนหลับสนิทนัก เมื่อตื่นมาก็เวลาเที่ยงตรงแล้ว เฉินยางยังคอยแต่ดูแลเสี่ยวจินอวี๋อยู่ห้องด้านข้าง เฉาเต๋อหลุนอาศัยจังหวะที่นางไม่อยู่เข้าไปรับใช้เฝิงเยี่ยไป๋ รายงานเรื่องเมื่อตอนเที่ยงให้เขาทราบ จบแล้วยังรายงานด้วยความกังวลใจว่า “ฝ่าบาทจะไม่อาศัยโอกาสนี้ลงโทษท่านใช่หรือไม่”
ตอนที่ 596 เฝ้าภรรยาตนไว้ให้อายุยืนร้อยปี
ฮ่องเต้น้อยอยากจะลิดรอนอำนาจเขาเสีย แต่เฝิงเยี่ยไป๋ไม่ยินยอม ฮ่องเต้น้อยสีหน้าจึงไม่ยินดีนัก คงจะหาวิธีที่ร้ายแรงยิ่งขึ้นมาจัดการกับเขาเป็นแน่ วันนี้เขานอนเพลินจนเลยเวลาว่าราชการ ฮ่องเต้น้อยคงจะใช้ไม้ตายเสียแล้ว
จุดที่เฉาเต๋อหลุนคิดได้นี้ เฝิงเยี่ยไป๋ก็คิดได้แล้ว แต่เรื่องมาถึงขั้นนี้แล้ว ทางเดียวที่จะแก้ไขได้ก็คือรีบอาศัยช่วงก่อนที่ฮ่องเต้น้อยจะลงมือรีบหาเรื่องอะไรให้ทำเสีย เบี่ยงเบนความสนใจหน่อย ถึงต่อให้ไม่มีเรื่องวันนี้ นี่ก็เป็นเรื่องที่ต้องเกิดขึ้นในเร็ววันอยู่ดี
แต่ตอนนี้ในใจเขาไม่ได้คิดถึงเรื่องนี้ เฝิงเยี่ยไป๋คิดไม่ถึงว่าเฉินยางจะเอาจริงกับเรื่องที่ทะเลาะกันขนาดนี้ เมื่อคืนที่แสดงละครไปใช้ไม่ได้ผลกับนาง กลับกลายเป็นการโกหกนางไปอีกหน ในใจนางคงเกลียดเขามากขึ้นไปอีกขั้น
“รายงานเข้าไปในวัง บอกว่าข้าป่วย วันนี้ไม่เข้าวังแล้ว พรุ่งนี้จะเข้าวังไปขอพระราชทานโทษเอง
เตาผิงในห้องเผาจนร้อนได้ที่ เฝิงเยี่ยไป๋โบกพัดไปมา เอนกายลงนั่งเก้าอี้อย่างเกียจคร้านแล้วมองไปยังเฉาเต๋อหลุนพร้อมเอ่ยถาม “น่าอวี้ไปหรือยัง”
คนที่ทิ้งไว้ในตำหนักล้วนแล้วแต่คัดเลือกมาแล้วทั้งสิ้น เป็นไปไม่ได้เลยที่จะมาพูดจาไร้สาระต่อหน้านาง ที่เหลือก็มีเพียงน่าอวี้เท่านั้น ก่อนไปเป็นไปได้ว่าจะมาพูดจาเป่าหูนางเข้า เฝิงเยี่ยไป๋คิดไปมาก็มีแต่น่าอวี้เท่านั้น
เฉาเต๋อหลุนเอ่ยปาก “กำลังเก็บข้าวของขอรับ เห็นว่าจะไปวันนี้”
“เจ้ารีบไปช่วยนาง ทางที่ดีให้นางไปวันนี้กันให้หมด” เอ่ยจบก็พึมพำ “เป็นคนดีหน่อยไม่ได้เลย ช่วยคนอื่นแล้วตนเองกลับต้องมาถูกทำร้ายเสียนี่”
อยู่มาตั้งหลายสิบปี ครั้งแรกเลยกระมังที่เขาเป็นคนดีตั้งใจทำเรื่องดีๆ แต่คิดไม่ถึงเลยว่าในบ้านตนเองกลับไฟลุกไหม้เสียได้ ต่อไปคงต้องเป็นคนดีให้น้อยหน่อย ดั่งคำใครว่าไว้เชียว คนดีนั้นอายุไม่ยืน แต่ความไม่ดีนั้นยืนยงเป็นพันปี เขาเองต้องเฝ้าภรรยาตนไว้ให้อายุยืนร้อยปี ชาตินี้ถึงจะเรียกว่าเกิดมาไม่เสียเที่ยว
ในเมื่อเฝิงเยี่ยไป๋ให้ความกรุณาเช่นนี้แล้ว ถ้าเช่นนั้นก็ไม่มีเหตุผลใดที่ต้องอยู่ต่อไป เมื่อเก็บของแล้วจึงจะไปเสีย นางเองก็ไม่มีข้าวของอะไรมากมาย ทรัพย์สินของตระกูลนั้นล้วนอยู่กับตัว เครื่องประดับที่เฝิงเยี่ยไป๋จัดหามาให้นางนั้นนางไม่ได้เอาไปแม้แต่ชิ้นเดียว ของที่ไม่ใช่ของนางนางก็ไม่เอาไป ณ จุดนี้นางเองก็มีความทะนงตนเช่นกัน
ตอนจะออกเดินทางได้ยินข้ารับใช้ในเรือนพูดกันว่าเฝิงเยี่ยไป๋กับเฉินยางทะเลาะกันเสียยกใหญ่ และยิ่งเป็นข่าวลือด้วยแล้วถึงกับต้องป่าวประกาศเกินจริงจึงจะมีคนฟัง สองคนนี้ทะเลาะกันขึ้นมาเมื่อใด ก็เกิดข่าวลือไปทั่ว เมื่อข่าวลือมาถึงหูนางก็กลายเป็นว่าเฉินยางนั้นไล่เฝิงเยี่ยไป๋ออกมาจากห้อง เฝิงเยี่ยไป๋เคาะประตูอยู่ทั้งคืน สุดท้ายทนไม่ไหวเลยนอนเฝ้าที่หน้าประตูเสียเลย แม้แต่ออกประชุมราชการเช้านี้ก็ไม่ไปเข้าเฝ้าจนเสียการเสียงานแล้ว
น่าอวี้เห็นเช่นนี้จึงรู้ได้ว่าเฉินยางนั้นเชื่อตน ไหนพูดว่าจะไม่รับฟังที่นางมายุแยงให้แตกหัก นี่กลับไปก็ยังทะเลาะกับเฝิงเยี่ยไป๋เสียยกใหญ่มิใช่หรือ
นางชื่อเกินไป ใครพูดอะไรก็เชื่อ หลอกง่ายเสียจริง หากเป็นอย่างนี้ต่อไปไม่ช้าไม่นานคงถูกหลอกจนไม่เหลืออะไรแน่ ยังนับว่าก่อนนางไปนี้ถือโอกาสสั่งสอนนางเสียหน่อยว่าไม่ว่าใครก็เชื่อถือไม่ได้
เฉาเต๋อหลุนถือเอาคำสั่งของเฝิงเยี่ยไป๋มาส่งนางจากไป ทั้งยังกำชับอีกว่านางยิ่งไปเร็วเท่าไรยิ่งดี ไม่อยากเห็นนางอยู่ต่อแม้เพียงเค่อ [1] เดียว แต่ดีที่ว่าเมื่อเขามาถึงน่าอวี้เองก็เก็บของเสร็จแล้ว ยังนับว่าคล่องแคล่วพอตัว ข้าวของนางมีไม่มาก ออกประตูแล้วขึ้นรถม้ามุ่งหน้าไปทางเหนือต่อ ส่วนที่จะไปหยุดเท้าที่ใด อนาคตข้างหน้าจะเป็นอย่างไรก็สุดแล้วแต่พวกนาง
——
[1] เค่อ หน่วยเวลาของจีน เทียบเท่า 15 นาที