ตอนที่ 786 ฉันจะแข็งแกร่งขึ้นอย่าง แน่นอน

Godly Model Creator

ตอนที่ 786 ฉันจะแข็งแกร่งขึ้นอย่าง แน่นอน

 

“สามคน”

 

ซูฮ่าวยกสามนิ้วขณะที่ชี้ไปที่ซูหมิงฮุ่ยและอีกสองคน “มีเพียงสามคน แม้ว่านี่จะเป็นเดิมพันที่ฉันเป็นคนเสนอ แต่ฉันก็แทบไม่เชื่อ! นี่คือตระกูลชูของเราจริงๆ งั้นเหรอ? หลังจากได้เพลิดเพลินไปกับความสงบมานานกว่าทศวรรษดูเหมือนว่ามันได้ทําให้พวกคุณลืมยุคที่เรา กําลังอาศัยอยู่!”

 

“ถ้ามันเป็นการโจมตีของศัตรูจริงๆ… ในตอนนี้” ซูฮ่าวชี้นิ้วไปที่ฝูงชนทั้งหมด “ทั้งตระกูล คงถูกลบหายออกตั้งแต่การโจมตีครั้งแรก!”

 

ทุกคนลดหัวด้วยความละอาย

 

ใช่…ถ้ามันเป็นการโจมตีจริงๆ ตอนนี้คง…

 

เมื่อคิดถึงเรื่องนี้ พวกเขาใช้เวลากว่าครึ่งชั่วโมงในการลุกขึ้นจากเตียงนอนและลากเท้ามาที่จัตุรัส บางคนกระทั่งยังไม่ตื่น อย่างไรก็ตามไม่ว่าพวกเขาจะอยู่ในสภาพใดหลังจากได้ฟังคําพูดของซูฮ่าวทุกคนก็ตาสว่างทันที!

 

ถ้ามันเป็นการโจมตีของศัตรูจริงๆ …

 

ทุกคนต่างมีเหงื่อเย็นโชกไปทั่วหลัง

 

ซูฮ่าวถอนหายใจ “บางทีพวกคุณทุกคนอาจรู้สึกว่าช่วงเวลาปัจจุบันสงบสุขไร้ซึ่งความเป็นไปได้ที่จะเกิดสงคราม ฉันจะไม่พูดถึงปัญหาปัญหาเกี่ยวกับสัตว์ร้าย แค่เพียงตระกูลเทียนกลับมีผู้อาวุโสที่เป็นสายลับถึงสามคน พวกเขาเฝ้าดูตระกูลซูของเราเสมือนเสือที่คอยมองดูเหยื่อ! และพวกเขาก็แฝงตัวมานานกว่าสิบปี!”

 

“พวกคุณคิดว่าสงครามจะไม่เกิดขึ้นง่ายๆ งั้นเหรอ? ”

 

“ไร้สาระ!” ซูฮ่าวส่งเสียงเย็นชา “ใครจะไปรู้ ไม่แน่ว่าอีกไม่กี่วินาทีข้างหน้าอาจเกิดสงคราม ขึ้นก็เป็นได้! นี่คือยุคความสามารถต้นกําเนิด ช่วงเวลาแห่งความวุ่นวายที่เราอาศัยอยู่! สิ่งที่ฉันและผู้อาวุโสใหญ่อยากมอบบทเรียนให้พวกคุณคือเรื่องในครั้งนี้ ชะตากรรมของคุณจะอยู่ในมือของตัวคุณเอง ถ้าคุณต้องการที่จะอยู่รอด…”

 

“ให้พยายามมากขึ้น”

 

“และตอนนี้ แยกย้าย!” ซูฮ่าวกล่าวจบอย่างใจเย็นและหันจากไปทันที

 

สําหรับเหล่าศิษย์ในลานจัตุรัส พวกเขาหวาดกลัวและรู้สึกผิดในเวลาเดียวกัน ใช่ผู้อาวุโสใหญ่ และผู้อาวุโสของพวกเขาพยายามอย่างหนัก แต่พวกเขาล่ะ?

 

ซูฮ่าวเดินออกจากลาน

 

อย่างไรก็ตามศิษย์เหล่านี้คงนอนกันตาไม่หลับแน่ๆ ในคืนนี้ จากเหตุการณ์วันนี้หลังจากคืนนี้ จิตวิญญาณของคนตระกูลซูทั้งหมดจะถูกปลุกให้ลุกโชน

 

“มันกลับกลายเป็นว่าฉันยอดเยี่ยมถึงเพียงนั้น?” ผู้อาวุโสใหญ่ถูคางของเขาด้วยความสงสัย ดวงตาของเขาเผยรอยยิ้ม เขาต้องยอมรับจริงๆ ว่าคําพูดของซูฮ่าวได้ทําให้เขาเป็นคนที่รักในหน้าตารู้สึกดี เด็กเวรตัวนี้ค่อนข้างดี และสิ่งที่ซูฮ่าวพูดกับเหล่าศิษย์ทั้งหมด ทุกคําล้วนออกมา จากก้นบึงของหัวใจ

 

“ดูเหมือนว่าเขาจะเป็นผู้นําตระกูลที่ดีทีเดียว” ผู้อาวุโสใหญ่ถอนหายใจ

 

มันเป็นเต็มไปด้วยความยุ่งเหยิงและความน่าประหลาดใจ

 

“หากเด็กคนนี้มีความสามารถในการเป็นผู้นำตระกูลของตระกูลชูของเรา ฉันก็สามารถให้อภัยกับการกระทําก่อนหน้านี้ของเขาได้” มุมปากของผู้อาวุโสใหญ่เผยรอยยิ้ม ซูเจิ้งเหวินเห็นสิ่งนี้ แต่ไม่ได้พูดอะไรเพิ่มเติม อย่างไรก็ตามเขามองไปที่ด้านหลังของซูฮ่าวที่กําลังจากไป ปล่อยให้เด็ก คนนี้อยู่ที่นี่ในฐานะผู้นําตระกูล?

 

ย่อมเป็นสิ่งที่แน่นอน?

 

เขาอายุเพียงยี่สิบปี กับได้ครอบครองกฏแห่งพลังแล้ว!

 

เมื่อรวมกับความเกลียดชังที่มีต่อตระกูลเทียน ซูฮ่าวหรือจะไม่สามารถอยู่ที่ตระกูลซูได้?

 

วันต่อมา

 

อย่างที่คาดไว้ทั้งตระกูลซูเปลี่ยนไป

 

ศิษย์ทุกคนก็เต็มไปด้วยพลังชีวิต เพิ่มจิตวิญญาณของทั้งตระกูล แต่ละคนต่างไปฝึกฝนอย่างหนักหน่วงราวกับมีศัตรูกําลังจะโจมตี ผู้อาวุโสทุกคนรู้สึกพอใจที่ได้เห็นฉากนี้ เมื่อพวกเขามองผูอาวุโสใหญ่สายตาของพวกเขาเต็มไปด้วยความเคารพ

 

ผู้อาวุโสใหญ่มองออกมา…

 

“ทั้งหมดก็เพื่อตระกูลซูของเรา” ผู้อาวุโสใหญ่ถอนหายใจและอ้ารับเครดิตทั้งหมดอย่างหน้าไม่อาย

 

เมื่อซูฮ่าวรู้ถึงสิ่งนี้เขาก็ยิ้มอ่อน เขาไม่เคยคิดและคาดไม่ถึงเลยว่าเมื่อเกิดเหตุการณ์นี้ในตระกูลชูความน่าเชื่อถือของผู้อาวุโสใหญ่จะพุ่งสูงขึ้นไปอีกระดับ และสิ่งที่สําคัญที่สุดคือมันช่วยให้ทั้งสองขั้วอํานาจใกล้ชิดกันซึ่งคือผู้นําตระกูลตระกูลซูและคนที่มีอํานาจสูงสุดผู้อาวุโสใหญ่

 

ในปัจจุบันตระกูลซูได้กลายเป็นปึกแผ่นอันหนึ่งเดียวกันแล้ว!

 

แม้ว่าพวกเขาจะไม่แข็งแกร่งนัก แต่สําหรับตระกูลอื่นๆ การที่จะได้รับข้อมูลและสถานการณ์ปัจจุบันของตระกูลซูก็เป็นไปได้น้อยมากยิ่งขึ้น จากนี้ไปตระกูลซูจะกลายเป็นสิ่งลึกลับ

 

อย่างน้อยนั่นก็เป็นเช่นนั้นในสายตาของคนอื่น

 

และนี่คือเป้าหมายของซูฮ่าว

 

ผู้อาวุโสใหญ่เข้าควบคุมสถานการณ์โดยรวมของตระกูลซูในขณะที่ซูหมิงฮุ่ยทำหน้าที่เป็นมือขวาของซูฮ่าวจัดการกับปัญหาทั้งหมดของตระกูลซูในนามของเขา เมื่อมีทั้งสองคนอยู่ซูฮ่าวก็รู้สึก โล่งใจ

 

“ต้องการที่จะออกเดินทาง” เฉินอี้หรานถามด้วยน้ำเสียงอ่อนๆ เธอคอยอยู่กับซูฮ่าวมาตลอดทุกวัน เธอเป็นคนที่คุ้นเคยกับความคิดของซูฮ่าวมากที่สุด ด้วยนิสัยที่ชอบฝึกฝนการบ่มเพาะอยู่ที่ตระกูลซูไม่ใช่สิ่งที่เขาจะอยู่ได้นาน

 

“อืม” ซูฮ่าวตอบอย่างสงบ

 

ในช่วงเวลาที่เขาอยู่ในตระกูลซูเขามีความสุขอย่างมาก

 

ไม่ใช่สิ่งที่พูดเกินจริงเลยหากจะกล่าวว่ามันเป็นช่วงเวลาที่สะดวกสบายที่สุดสำหรับเขาครอบครัวของเขาอยู่อย่างปลอดภัยภายใต้การคุ้มครองของตระกูลซูเขาจึงไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับความปลอดภัย นอกจากนี้เขาสามารถอยู่กับเฉินอี้หรานได้ทุกวัน ด้วยพลังของเขาใครบ้างในตระกู ลซูที่ไม่กล้าฟังคําของเขา จากไม่กี่วันมานี้ หากจะให้อธิบายชีวิตของเขา เขาก็สามารถตอบได้ ว่าเป็นไปอย่างสะดวกสบาย

 

เมื่อมองสถานะปัจจุบันของเขา เขาอาจถูกมองว่ามีชีวิตที่สุดยอดซึ่งหลายๆคนต่างฝันถึง

 

อย่างไรก็ตาม

 

ภายในใจเขารู้สึกแบบนี้จริงหรือไม่?

 

หลี่เตียนเตี่ยน, เสี่ยวเดีย, ปิงหยาง, และ ผีเสื้อฝันสีฟ้า พวกเขาทั้งหมดยังคงหลับไหล ทั้งๆที่ชิหมิงซวนและผู้อยู่อาศัยในอาณาจักรสวรรค์จางหายไป เขายังจะสามารถทําตัวสบายและสนุกไป กับประจําวันได้อีกหรือไม่? กองกําลังลับของสหพันธ์ กองกําลังที่รวมตัวกันระหว่างตระกูลเทียน และตระกูลจาง ด้วยกองกําลังที่ทําตัวลับๆ ซ่อนๆ และโลกที่เต็มไปด้วยความไม่แน่นอนใครจะกล้าที่จะสนุกกับชีวิต?

 

แน่นอนสิ่งที่สําคัญที่สุดคือการบ่มเพาะ!

 

ในตระกูลซูเขาไม่สามารถบ่มเพาะได้

 

แม้ว่าผู้อาวุโสใหญ่จะไม่พูดอะไร แต่เขารู้ดีว่าว่าทรัพยากรที่จําเป็นต่อการปลดปล่อยขีดกําจัด นั้นเป็นสิ่งน่ากลัว การเปลี่ยนพลังงานให้เป็นสมรรถภาพทางกายภาพเขาต้องใช้ทรัพยากร จำนวนเท่าใด?

 

ในเวลาเมื่อเขามาถึงคอขวดที่ 2,999 แต้มซึ่งต้องการเพียงแต้มเดียวเพื่อการทะลวงขอบเขต ไม่ต้องนึกถึงทรัพยากรที่ใช้ในการทะลวงครั้งนั้น เมื่อเขาทะลวงผ่านสมรรถภาพทางกายของเขาก็ พุ่งไปที่ 3,600 แต้มทันที!

 

นี่ไม่ใช่ความต้องการแค่แต้มเดียว แต่เป็น 601 แต้ม!

 

ยิ่งไปกว่านั้น 601 แต้มจาก 2,999 ถึง 3,600 เมื่อเทียบกับ 899 แต้มจาก 2,100 ถึง 2,999 มันมีความต้องการทรัพยากรที่สูงมากกว่า! ด้วยเหตุนี้เหล่าผู้อาวุโสขอบเขคโดเมนที่ทรงพลัง มากกว่าสิบคนจึงถูกซูฮ่าวดูดพลังจนหมดแรง ทําให้ทุกคนต้องการกลับไปรวบรวมพลังใหม่เป็นเวลากว่าหนึ่งเดือน

 

และตอนนี้?

 

4,999 แต้ม…

 

แม้ว่าเขาจะไม่รู้ว่าจุดๆ นี้จะเพิ่มความแข็งแกร่งของเขาได้มากเพียงใด แต่มันชัดเจนว่าเพื่อเพิ่มแต้มๆ นี้เขาจะต้องใช้พลังงานมากกว่าที่เขาเคยใช้มาก่อน! และเขาได้ใช้ทรัพยากรของตระกูลชูไปแล้วกว่าหนึ่งในสาม!

 

หากเขาต้องการใช้ทรัพยากรของตระกูลซูต่อไป…

 

จุดจบของตระกูลซูคงจะเกิดขึ้นจริงๆ

 

แม้ผู้อาวุโสใหญ่จะไม่พูดอะไร ซูฮ่าวก็จะไม่แตะต้องทรัพยากรอีกต่อไป

 

การใช้ทรัพยากรกว่าหนึ่งในสามสามารถพิจารณาว่าเป็นเงินเดือนล่วงหน้าได้ แต่หากเขาใช้ทรัพยากรทั้งหมดแล้วศิษย์ของตระกูลคงจะไม่มีทรัพยากรใดที่จะช่วยฝึก

 

นี่เรียกได้ว่า ฆ่าห่านที่วางไข่เป็นทองคํา!

 

โดยปกติแล้วซูฮวาจะไม่ทําสิ่งที่น่าขบขันเช่นนั้น ดังนั้น…

 

เขาต้องออกเดินทาง

 

ตรงกันข้ามกับผู้อาวุโสใหญ่คาดหวังให้เขาอยู่ที่นี่รับตําแหน่งผู้นำอย่างสงบและเป็นผู้บังคับบัญชาตระกูลของพวกเขา ซูฮ่าวไม่คิดสนใจมันด้วยซ้ำ ในยุคความสามารถต้นกําเนิดนี้มีเพียงมือและเท้าของเขาเองเท่านั้นที่สามารถตัดสินชะตากรรมของเขาได้!

 

ไม่ใช่คนอื่น!

 

สามเดือน

 

ซูฮ่าวอาศัยอยู่ที่ตระกูลซูอีกสามเดือน

 

ในช่วงสามเดือนที่ผ่านมาซูฮ่าวทําเข้าใจและปรับตัวให้เข้ากับความแข็งแกร่งที่เพิ่งเพิ่ขึ้นใหม่ของเขาเพิ่มประสิทธิภาพการต่อสู้ของเขาเพิ่มขึ้นอย่างมาก นี่เป็นเพียงความแข็งแกร่งเท่านั้น หากเขาสามารถเชี่ยวชาญทักษะต้นกําเนิดได้ในระดับเดียวกัน ซูฮ่าวมีความมั่นใจว่าเขาจะสา มารถเอาชนะเอสเปอร์โดเมนสมบูรณ์ได้อย่างง่ายดาย!

 

กล่าวคือความแข็งแกร่งของเขากลับคืนสู่ระดับที่เคยในอดีต

 

แม้ว่าการวิเคราะห์แบบจําลองของเขาจะไม่ได้อยู่อีกแล้ว แต่ความแข็งแกร่งในการต่อสู้ ของเขาได้กลับคืนสู่ระดับก่อนหน้านี้แล้ว หากนับรวมเข็มเงินนั่น…

 

“เกือบจะถึงเวลาแล้ว” ซูฮ่าวมองไปที่ตระกูลซูในปัจจุบันซึ่งมีการเปลี่ยนแปลงอย่างสมบูรณ์ หัวใจของเขารู้สึกสงบเล็กน้อย

 

“อี้หราน เจ้าต้องการออกเดินทางไปกับข้าหรือไม่” ซูฮ่าวกุมมือของเฉินอี้หยาน ไม่ว่าพวกเขาจะอยู่ด้วยกันมากี่วันเมื่อเขาอยู่กับเฉินอี้หยานมันจะเป็นช่วงเวลาที่เขามีความสุขที่สุด แน่นอนว่าสิ่งที่เขาคาดหวังที่สุดคือเขาหวังว่าเฉินอี้หรานจะสามารถติดตามเขาไปได้ตลอดเวลา จะดีกว่าไหมหากทั้งสองคนจะต้องฝ่าฟันมันไปด้วยกัน

 

อย่างไรก็ตามเฉินอี้หรานส่ายหัว

 

“เจ้าจะไม่ไปงั้นหรือ” ซูฮ่าวพูดไม่ออก

 

“ถ้าเจ้าจากไป ข้าจะไปจากตระกูลซูเช่นกัน” เฉินอี้หรานพูดด้วยน้ําเสียงนุ่มนวล “แต่ข้าต้อง ไปหาท่านอาจารย์”

 

“ป้าของข้า?” ขู่เฮาเกาหัวของเขา “ทําไมกัน?”

 

“เจ้าโง่” เฉินอี้หยานจิ้มหน้าผากของซูฮ่าว “เมื่อเดินทางกับเจ้า เจ้าจะต้องคอยปกป้องข้าอยู่เสมอ แล้วข้าจะฝึกฝนได้อย่างไรเล่า ข้าเกรงว่าเจ้าจะไม่สามารถฝึกฝนได้อย่างสงบ นอกจากนี้ยังไม่สะดวกสําหรับการที่เจ้าจะทําสิ่งต่างๆ อีกทั้งยัง…”

 

เฉินอี้หรานหยุดพักหนึ่งวินาทีก่อนที่จะกลับมาพูดต่อ “ถ้ามีครั้งต่อไปที่เราต้องเจอกับสถานการณ์นั้น ข้าอยากจะปกป้องเจ้า มันจะไม่เป็นดั่งครั้งที่แล้ว ข้าที่ทําได้เพียงมองจากข้างหลังอย่าง ไร้ประโยชน์! ไม่แม้แต่จะสามารถตายแทน”

 

ร่างของซูฮ่าวสั่นไหว

 

เฉินอี้หรานคิดอย่างนี้จริงงั้นเหรอ?

 

เงยหน้าขึ้นเขาเห็นใบหน้าที่อ่อนหยาวแต่มีความดื้อดึงในสายตาของเธอ ซูฮ่าวเงียบไป เมื่อนานแล้วเฉินอี้หยานเป็นผู้หญิงเช่นใด? ในสายตาของเขาเฉินอี้หรานยอมทิ้งทุกอย่างเพื่อที่จะได้ อยู่กับเขาอย่างสงบ สิ่งที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้ทําให้เธอค่อนข้างไม่สบายใจ

 

ไร้ซึ่งพลัง เธอสามารถทําได้เพียงมองซูฮ่าวที่ถูกโจมตีด้วยกฏแห่งพลัง

มันจะเจ็บปวดมากเท่าใดกันล่ะ?

 

หลี่เตียนเตี่ยน, เสี่ยวเดีย, ทั้งสองที่มีความสามารถพิเศษเกรด S ได้ใช้เทคนิคต้องห้าม ใช้พลัง ชีวิตของพวกเขาเพื่อชะลอผลของกฎแห่งพลัง

 

สําหรับเธอแล้ว

 

เธอไม่มีเทคนิคต้องห้ามใดๆ

 

แม้ว่าเธอจะเป็นคนที่มีความสามารถพิเศษเกรด S แต่เธอก็ทําได้เพียงดูเท่านั้น!

 

เมื่อมองดูหลี่เตียนเตียนและคนอื่นๆ ที่เสียสละ มองดูซูฮ่าวที่คอยอยู่ด้านหน้าแบกรับทุกอย่าง ความเจ็บปวดแบบใดที่เธอ โจวหวังและหลี่ซินได้ประสพ

 

การถูกดูแลจากผู้อื่นนั้นถือเป็นความสุขอย่างหนึ่ง

 

อย่างไรก็ตามเมื่อมีชีวิตและความตายเข้ามาเกี่ยวข้องมันก็ไม่ได้เป็นสิ่งที่ยอดเยี่ยมนัก อย่างที่ซูวานพูด เธอยังไม่สามารถใช้ความสามารถพิเศษเกรด S ได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ

 

ดังนั้นเธอต้องการที่จะแข็งแกร่งขึ้น!

 

ซูฮ่าวไม่ได้พูดอะไร

 

เขารู้ว่าเฉินอี้หรานมีคุณสมบัติที่จะกล่าวเช่นนี้ หลี่เตียนเตียน เสี่ยวเดีย และ ปิงหยาง ต่างก็มีความสามารถพิเศษที่ท้าทายสวรรค์ การควบคุมเวลาของหลี่เตียนเตียน การควบคุมพื้นที่ของปิงหยาง และพลังจิตของเสี่ยวเดีย เมื่อรวมสองความสามารถมันสามารถทําให้กฏแห่งพลังต้องสลายได้ นั่นแสดงให้เห็นว่าความสามารถพิเศษเกรด S ของพวกเขาไม่ใช่พรสวรรค์ธรรมดา

 

สําหรับเฉินอี้หราน?

 

เธอมีความสามารถระดับ S เหมือนกันและไม่มีผลข้างเคียงใดๆ เฉินอี้หยานย่อมทรงพลัง มากกว่าพวกเขา! อย่างไรก็ตามเนื่องจากเธอเพิ่งเลื่อนขั้นเป็นความสามารถพิเศษเกรด S เมื่อไม่นาน เธอยังไม่สามารถใช้มันได้อย่างเต็มที่ เขาไม่ต้องการให้เฉินอี้หยานต้องมารับความเสี่ยง แต่เมื่อมองดูสายตาที่ดื้อรั้นของเธอ ซูฮ่าวก็ดึงเธอเข้ามากอดเธอ

 

“ครั้งต่อไปฉันจะแข็งแกร่งขึ้นให้มากๆ!”

 

หาก…

 

หากเขาสามารถปกป้องหลี่เตียนเตี่ยนและคนอื่นๆ…

 

ถ้าเขามีพลังมากพอ…

 

ซูฮ่าวกอดเธอแน่นยิ่งขึ้น

 

“อืม” เฉินอี้หรานเอ่ยใต้อ้อมแขนของเขา

 

ความแข็งแกร่งมีไว้เพื่อสิ่งใด? เหตุใดเราจึงต้องแข็งแกร่ง?

 

บางคนต้องการความแข็งแกร่งเพื่อล้างแค้น บางคนเพื่ออํานาจ บางคนเพื่อเงิน บางคนเพื่อความปรารถนา แต่สําหรับซูฮ่าวมันคือ…

 

เพื่อปกป้อง!

 

เพื่อปกป้องคนที่รัก เพื่อนและทุกสิ่งที่เขากังวล!

 

“ฉันจะแข็งแกร่งขึ้นอย่างแน่นอน”

 

ประโยคๆ นี้พิสูจน์ให้เห็นถึงความตั้งใจอันแน่วแน่ของซูฮ่าว