บทที่ 42 ตัวตลกกับตัวตลก โดย Ink Stone_Fantasy
ห้องพักผ่อนเพียงห้องเดียวย่อมจุแขกทั้งหมดไม่ได้ แน่นอนว่าแขกพวกนี้ก็ดูไม่ค่อยอยากคบค้าสมาคมกับคนอื่นๆ ในห้องเดียวกันนัก
ยังดีที่คฤหาสน์แห่งนี้กว้างมากพอ จะเตรียมห้องสักห้องไว้ให้แขกที่มาเยือนก็ไม่ใช่ปัญหาเลย
“จะทำแบบนี้จริงๆ เหรอ…”
วิคก้ายื่นมือไป คิดจะดึงเวร่าที่หมอบอยู่หน้าประตูห้องกลับไป ถึงแม้เขาจะรู้แก่ใจว่าโอกาสสำเร็จแทบเป็นศูนย์ก็ตาม
เธอเป็นสาวที่ชื่นชอบเสี่ยงอันตรายมาตั้งแต่เกิดนี่นะ…ถ้าใช้คำพูดที่รู้มาจากเว็บของประเทศทางฝั่งตะวันออกมาบรรยายก็คือ ‘ชอบรนหาที่ตาย’
เห็นได้ชัดว่าเวร่าไม่ฟัง แล้วเปิดประตูห้องไปเลย…วิคก้าวอร์มเสียงในลำคอทันที ตื่นเต้นกังวลอย่างที่สุด
“มีธุระอะไรหรือเปล่าครับ?”
ชายคนหนึ่งหน้าประตูพูดอย่างเฉยเมย “คุณผู้หญิงครับ การประมูลยังไม่เริ่ม หากคุณต้องการสิ่งใดก็บอกผมมาได้เลยครับ”
เวร่ายิ้มน้อยๆ แล้วเขยิบเข้าไปใกล้ชายที่เฝ้าอยู่หน้าประตู จากนั้นก็ใช้นิ้วมือเกี่ยวปกเสื้อตนเองลงมาเล็กน้อย “เหมือนมีตัวอะไรกัดฉันตรงนี้ ในคฤหาสน์ของพวกคุณมีแมลงแปลกๆ อะไรหรือเปล่า? ช่วยฉันดูหน่อยได้ไหมคะ?”
“คุณผู้หญิงครับ คฤหาสน์ของพวกเราไม่มีแมลงอะไรแบบนั้นหรอกครับ” ชายคนนั้นพูดโดยสายตาไม่วอกแวก “ผมคิดว่าถ้าคุณต้องการแบบนี้จริงๆ เพื่อนร่วมห้องของคุณน่าจะช่วยคุณได้นะครับ”
เวร่าพูดอย่างชื่นชมทันที “คุณเป็นผู้ชายที่ดีมากเลยนะคะ ฉันชักจะเริ่มชอบคุณซะแล้ว…งั้นก็ได้ ไม่เป็นไรแล้วค่ะ”
พูดจบ เวร่าก็ยักไหล่ แล้วหันกลับเข้าห้องไป
ในวินาทีที่ประตูปิดเรียบร้อย ชายที่เฝ้าประตูถึงหันกลับมาอย่างไม่ใส่ใจ แล้วมองดูทางเดินด้านนอกห้อง ทว่าวินาทีนั้นเอง เขากลับได้ยินเสียงฉึกเบาๆ เสียงหนึ่ง
แต่ไม่ทันให้เขาโต้ตอบกลับ เขาก็รู้สึกเหมือนถูกของแหลมบางอย่างแทงที่คอแล้ว แค่ในชั่วพริบตาเท่านั้น เขาก็รู้สึกโลกหมุน ยังไม่ทันส่งเสียงร้องดวงตาทั้งคู่ก็มืดสนิท แล้วล้มพับไปกองกับพื้น
ประตูถึงเปิดออกได้สำเร็จอีกครั้ง เวร่ารีบโผล่มาดูรอบๆ แวบหนึ่ง หลังจากนั้นก็ลากชายคนนั้นเข้ามาในห้อง ก่อนทำเสียงจุ๊ๆ พลางพูดว่า “ผู้ชายแสนดีมักเสียเปรียบ อุตส่าห์ยอมให้เอาเปรียบก็ไม่เอา จะโทษฉันได้ไงล่ะ?”
หลักๆ ก็เพราะ…เธอไม่มีหน้าอกเลยต่างหากล่ะ!!!
วิคก้ารีบมองดูเพดาน ไม่ได้พูดสิ่งที่คิดในใจออกมา
“อย่ามัวอึ้งอยู่ รีบเข้ามาเร็ว เปลี่ยนชุดกับเจ้าหมอนี่” เวร่าพูดพลางเงยหน้ามองวิคก้าที่เหม่อลอยไม่สนใจเรื่องตรงหน้า
หลังจากนั้นไม่นาน เมื่อวิคก้าเปลี่ยนชุดของชายคนนั้นเรียบร้อยแล้ว ก็แง้มประตูด้วยท่าทางลับๆ ล่อๆ แต่กลับถูกเวร่าผลักหลังไปทีหนึ่ง จนเขาเดินโซเซออกมา
ขณะเดียวกันเวร่าที่เปลี่ยนเป็นชุดหนังทั้งตัวแล้วก็ตบบ่าวิคก้า “รอให้งานประมูลเริ่มแล้ว นายก็หาวิธีถ่วงเวลาไว้นะ”
วิคก้าทำหน้าเหมือนจะร้องไห้ทันทีพร้อมพูดว่า “คุณเวร่าที่เคารพครับ คุณคิดว่ายามทุกคนที่อยู่ด้านในคฤหาสน์นี้เห็นอีกฝ่ายบ่อยแค่ไหนกัน จะไม่รู้ว่าผมเป็นคนนอกเลยงั้นเหรอ?”
“นั่นมันก็เรื่องของนายแล้ว” สองมือของเวร่าจับแก้มของวิคก้าส่ายไปมาเล็กน้อย “ไม่งั้นทุกๆ เดือนฉันจะจ่ายเงินเดือนไปตั้งเยอะขนาดนั้นเพื่ออะไรกันล่ะ? ฉันเลี้ยงเพื่อนผู้หญิงไว้สามสี่คนยังดีกว่าเจ้าคนที่ชอบบั้นท้ายผู้ชายอย่างนายเลยจริงไหม?”
“นี่ดูถูกกันนี่!!! ผมจะ…ผมจะขอขึ้นเงินเดือน!!”
“ระวังหน่อย”
เวร่าพูดขึ้นเบาๆ หลังจากนั้นก็สูดลมหายใจเข้าลึกๆ เฮือกหนึ่ง แล้วสวมเซตหน้ากากตัวตลก เปิดหน้าต่างตรงระเบียงทางเดิน แล้วกระโดดโฉบออกไปด้านนอก
…
…
“ตัวตลก?”
ภายในห้องของตนเอง ยูริขมวดคิ้วมองดูภาพที่เกิดขึ้นตรงระเบียงทางเดินของคฤหาสน์…หลังจากนั้นก็มองคนที่นั่งอยู่บนโซฟาตรงหน้าด้วยสีหน้าแปลกๆ
และยังสวมหน้ากากตัวตลกไว้ด้วย
ยูริไม่รู้ว่าเหตุผลคืออะไรกันแน่ แต่หลังจากเขาได้เป็นเจ้าของคฤหาสน์แห่งนี้ชั่วคราว ก็ได้ค้นพบเรื่องเรื่องหนึ่ง นั่นก็คือในห้องเจ้าของคฤหาสน์ตัวจริงมีหน้าจอที่มองเห็นได้ทั่วคฤหาสน์
ยูริไม่รู้ว่าคฤหาสน์แห่งนี้ซ่อนกล้องไว้เยอะขนาดไหนกันแน่ สิ่งเดียวที่เขารู้สึกได้ก็คือเจ้าของคฤหาสน์แห่งนี้ก็คือทายาทตระกูลดีคาปี้ตัวจริงคนนั้น และยังเป็นจอมสอดแนมด้วย
“อ้อ หรือว่าคนนี้ก็คือ F&C ตัวจริง?” ยูริขมวดคิ้ว “ที่แท้ก็เป็นผู้หญิงเองเหรอ? เธอตามมาถึงที่นี่ได้ยังไงกัน?”
“F&C ถูกโยนความผิดมาให้โดยไม่มีใครสามารถอธิบายได้ กลายเป็นหัวขโมยภาพวาดที่มีชื่อเสียงของโลก จะไม่ยอมอยู่เฉยๆ ให้ตัวเองถูกใส่ร้าย ก็เป็นเรื่องปกติไม่ใช่เหรอ” ลั่วชิวพูดด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย
ยูริกัดฟันกรอด ทันใดนั้นเขาก็หรี่ตาจ้องชายที่มอบทุกสิ่งทุกอย่างให้เขา และยังช่วงชิงทุกอย่างไปจากเขาด้วย เขาพูดอย่างอึดอัดใจว่า “ผมเตรียมเรื่องสนุกๆ ไว้ให้คุณดู แต่ก็ไม่อยากให้ใครมาขัดจังหวะ”
“คุณคิดจะจัดการเธอเหรอครับ?” เจ้าของร้านลั่วถามขึ้นทันที
“มีปัญหาเหรอครับ?” ยูริพูดอย่างเฉยเมย
ลั่วชิวยิ้มแล้วพูดว่า “ไม่มีปัญหาครับ…เพียงแต่ ให้ผมจัดการให้เป็นไงครับ? ผมจะพยายามไม่ให้เธอมาทำลายแผนที่คุณเตรียมไว้”
“โอ้? เจ้าของสมาคมผู้ลึกลับเริ่มสนใจสุภาพสตรีหน้ากากตัวตลกผู้นี้เสียแล้วหรือ?” ยูริพูดด้วยน้ำเสียงราบเรียบ
คุณสาวใช้ก็พูดด้วยน้ำเสียงเฉยชาเช่นกัน “คุณยูริคิดว่าพวกเราบริการได้แค่คุณคนเดียวเท่านั้นหรือคะ? อย่าลืมนะคะ ว่าพวกเราให้สิ่งที่คุณต้องการไปแล้ว…”
แววตาของเธอชวนให้หนาวสะท้านไปถึงกระดูก เธอค่อยๆ พูดอย่างเชื่องช้า “เกรงว่าตอนนี้พวกเราจะเป็นเจ้าหนี้ของคุณนะคะ”
“พวกคุณอยากทำยังไงก็ตามสบายเลยครับ” ยูริส่ายหน้า
เขารีบหลบสายตาคู่นี้ แล้วลุกขึ้นทำเป็นกลบเกลื่อน พร้อมพูดอย่างร้อนรนว่า “ผมจะไปเตรียมตัวสักหน่อย ทั้งสองคนตามสบายนะครับ”
…
“สถานการณ์ทางนายเป็นยังไงบ้าง?”
เวร่าที่กำลังย่องอยู่ในคฤหาสน์ก้มหน้า ยกไมโครโฟนอันเล็กที่ติดไว้บนเสื้อขึ้นมาพูด
“ยังโอเคอยู่ครับ…ยังไม่มีคนผ่านมา แล้วสถานการณ์ทางคุณล่ะ?”
“ไม่มีปัญหา ฉันจำเส้นทางที่นี้ไว้หมดแล้วตอนสำรวจเส้นทางครั้งที่แล้ว” เวร่าพูดเสียงเบาๆ ว่า “ไว้ติดต่อกันใหม่”
เธอปิดการติดต่อ จากนั้นก็ปีนขึ้นมาบนระเบียงทางเดินประตูโค้งด้านบนอย่างปราดเปรียว แล้วหลบสาวใช้ในคฤหาสน์ที่กำลังเดินถือของผ่านมา
นี่เป็นประสบการณ์ที่ดีมากอย่างหนึ่งเลย ทุกครั้งเมื่อเผชิญหน้ากับสถานการณ์แบบนี้ ในขณะที่เดินอยู่ในสถานที่อันตรายเพียงลำพัง หัวใจก็จะเต้นเร็วและรู้สึกตื่นเต้น รวมทั้งความรู้สึกฮึกเฮิมที่เกิดจากต่อมหมวกไต* ทั้งหมดทำให้เธอรู้สึกหลงใหลจนยากจะถอนตัว
ถ้าบอกว่ามีคนกลายเป็นหัวขโมยเพราะขโมยจนติดเป็นนิสัย ถ้าอย่างนั้นน่าจะเป็นเพราะเหตุประมาณนี้เหมือนกันล่ะมั้ง?
เวร่าก็หมุนตัวหลบไปหลบมาอยู่ตรงนี้ไม่หยุด
เซลล์ทุกอนูบนร่างกายกำลังกระตุ้นให้เธอรีบปฏิบัติการ ความรู้สึกร้อนผ่าวด้านในผ้าคลุมหัวยิ่งทำให้เธอเหงื่อแตกท่วมตัวเหมือนตอนใกล้ถึงจุดสุดยอด
ยอดเยี่ยมเหลือเกิน
เธอเดินไปอย่างคล่องแคล่วภายในคฤหาสน์แห่งนี้โดยอาศัยความจำของตนเอง…ทว่ากำลังเดินๆ อยู่ก็ต้องหยุดลง
เธอจำต้องหยุดฝีเท้าลง เพราะเธอรู้สึกเหมือนเธอเดินผิดทางเสียแล้ว เพราะภาพสถานที่ตรงหน้ากับภาพในความทรงจำของเธอดูจะไม่ค่อยเหมือนกัน
เธอไม่ควรเดินมาทางนี้เลยต่างหาก!
มันผิดพลาดตรงไหนกันแน่? เวร่าอดหวนคิดทบทวนเส้นทางที่ตนเองเพิ่งเดินมาเมื่อครู่ไม่ได้ แต่ไม่ว่าเธอจะคิดทบทวนอย่างไร ดูเหมือนว่าจะหาจุดผิดพลาดไม่เจอเลย
นี่ทำให้เวร่ารู้สึกได้ถึงความผิดปกติทันที เธอเอาตัวชิดกำแพงโดยอัตโนมัติ และไม่ได้ตัดสินใจปฏิบัติการต่อในทันที แค่พิจารณาบริเวณรอบๆ โดยละเอียด
ตรงนี้เป็นระเบียงทางเดินด้านนอกตรงชั้นสองของคฤหาสน์ที่อยู่ใกล้สวนด้านนอก การออกแบบลักษณะวงแหวนทำให้คนที่เดินอยู่ตรงระเบียงมองเห็นสวนตรงกลางได้ แต่รอบระเบียงทางเดินไม่มีคนเดินอยู่เลย
ฉับพลันนั้นเวร่าก็รู้สึกเหมือนตัวเธอกำลังหงายหลัง…แล้วก็ทะลุเข้าไปในกำแพง?
ในวินาทีที่จะล้มหงายหลังไปนั้น เธอใช้สองมือยันตัวกับพื้น แต่กลับพบว่าตัวเธอไม่ได้ทะลุเข้าไปในกำแพง แต่บังเอิญชนประตูบานหนึ่งเปิดออก
เดี๋ยวก่อนนะ ที่เธอพิงไปเมื่อกี้คือประตู…ไม่ใช่กำแพงหรอกเหรอ?
แปะๆๆ
ฉับพลันนั้นเธอก็ได้ยินเสียงปรบมือดังขึ้น…ยังมีเสียงพูดด้วย “ฝีมือไม่เลวเลยนี่”
เวร่าหันขวับกลับมาทันที
เธอคุกเข่าข้างหนึ่งกับพื้น มือข้างหนึ่งค้ำบนพื้น ส่วนมืออีกข้างชูขึ้น นี่เป็นท่าหลังจากล้มแล้วพยุงตัวขึ้นมา
“อืม ท่าก็เท่มากเหมือนกันนะ”
“คุณเอง!”
แต่เธอแทบจะต้องส่งเสียงตกใจออกมาตามสัญชาตญาณ คนแปลกหน้าคนนี้ที่เธอพบในงานประมูล
ตัวตลกกับตัวตลก
ความรู้สึกฮึกเฮิมที่เกิดจากต่อมหมวกไต*คือความรู้สึกตื่นเต้นจากการหลั่งสารอะดรีนาลีนที่ต่อมหมวกไต