“จะปล่อยให้ข้าเข้าไปทั้งแบบนี้เลยเหรอครับ? ไม่มีช่วงเวลาเตรียมตัวเลยเหรอ?”
ในขณะที่มองเจ้าสำนัก เฉินเฉินก็รู้สึกพูดไม่ออกและพอมองเข้าไปในดวงตาของเขาก็ดูเหมือนจะถูกบอกเป็นนัยให้เฉินเฉินเข้าไปโดยทันที
‘ถ้าอย่างนั้นข้าก็จะเข้าไป ข้าอาจจะไม่ได้เตรียมตัวอะไรเลยแต่ด้วยระบบ มันไม่น่าจะมีปัญหาอะไรหรอก’
เฉินเฉินเดินตรงไปที่ประตูอย่างช้าๆ
ในอีกด้านนึง โจวเหรินหลงได้พึมพำออกมา “ขอแค่เจ้ามีความตั้งใจที่จะท้าทายสวรรค์เท่านั้น เจ้าถึงจะไปได้ไกลบนเส้นทางสายมาร พรสวรรค์และความถนัดส่วนตัวไม่ได้มีความสำคัญขนาดนั้นหรอก”
ก่อนที่เขาจะพูดจบ เฉินเฉินก็ได้เข้าประตูไปแล้ว
ในตอนที่เฉินเฉินหายไปจนไร้วี่แวว โจวเหรินหลงก็เริ่มดูจริงจังเหมือนกัน
“ในที่สุดข้าก็มีสิทธิสายขัดเกลาร่างกายซักทีนะ เห้อ แต่จะมีอะไรให้ท้าทายรึเปล่า?”
โจวเหรินหลงพึมพำกับตัวเอง และมองโซ่ทั้งสี่ด้วยความขุ่นเคืองในดวงตาของเขา
…
ในอีกด้านนึง หลังจากที่ก้าวเข้ามาในประตู เฉินเฉินก็ได้รับการต้อนรับด้วยภาพของหุบเขาลึกลูกหนึ่งที่ดูเหมือนจะไม่มีที่สิ้นสุด มีต้นไม้โบราณนับไม่ถ้วนและมีเสียงอันน่ากลัวของสัตว์ป่าสามารถได้ยินได้
อย่างไรก็ตาม แม้ว่าในความเป็นจริงมันจะดูมีชีวิตชีวา แต่มันไม่มีพลังปราณอยู่ที่นี่เลย
นอกจากนี้ ดูเหมือนว่าจะมีพลังพิเศษอยู่ข้างในที่ทำให้เฉินเฉินรู้สึกกดดันมากๆ
นอกจากนี้ เขายังไม่สามารถใช้แหวนเก็บของได้ด้วยดังนั้นเขาจึงรู้สึกไม่ค่อยปลอดภัยเท่าไหร่นัก
“ตามหามรดกที่นี่ในฐานะคนธรรมดาในสถานที่แบบนี้มันเป็นอะไรที่ยากยิ่งกว่าการถูกปล้นในระหว่างทางไปที่สำนักเทียนหยุนอีก!”
‘ดูเหมือนว่าวิธีที่สำนักเทียนหยุนใช้เกณฑ์คนจะโหดร้ายน้อยกว่านะ’
ถ้าคนธรรมดาอยู่ในดินแดนลับนี้ได้เป็นเวลาสิบวัน พวกเขาก็คงจะต้องรอดในป่านี้และยังมีเวลาหามรดกด้วย แต่ถ้าพวกเขาได้รับบาดเจ็บ พวกเขาก็จะถูกทิ้งไว้คนเดียวโดยไม่มีความช่วยเหลือมาถึง พวกเขาอาจจะบังเอิญถูกสัตว์ร้ายเอาตัวไปก็ได้
การที่สามารถหามรดกดีๆและกลับไปโดยที่ร่างกายยังอยู่ครบได้ภายในเวลาสิบวันนั้นไม่ได้ต้องการแค่พลังใจที่เข้มแข็งแต่ยังรวมถึงโชคด้วย
“แม้กระทั่งยอดฝีมืออย่างข้าก็ยังรู้สึกกดดันเลย จะว่าไปแล้ว ระบบ มีโอกาสอะไรในระยะสามสิบเมตรรอบตัวข้าไหม?”
เฉินเฉินขมวดคิ้วเล็กน้อยและถามระบบในใจ
เขาตั้งใจจะใช้ตรวจจับโอกาส 20,000 เมตร อย่างไรก็ตาม เขาคงจะต้องไปถึงใจกลางของดินแดนเพื่อที่จะขยายระยะการตรวจจับ
“ค่ะ มีทางเดินใต้ดินอยู่ยี่สิบเมตรทางซ้ายและมีมรดกทั่วไปอยู่ที่ปลายสุดของทางเดิน”
เมื่อได้ฟังคำตอบของระบบ เฉินเฉินก็ค่อนข้างตกใจ เขาพึ่งจะเข้ามาในดินแดนลึกลับ และเขาก็ถามแบบไม่ได้ใส่ใจอะไร แต่มันกลับกลายเป็นว่ามีมรดกอยู่จริงๆ!
หรือว่าที่แห่งนี้จะเต็มไปด้วยมรดกจริงๆ?
ด้วยความคิดนี้เอง เขาก็ไม่มีความลังเลแม้แต่น้อยและมุ่งหน้าตรงไปยังสถานที่ที่ระบบบอกในทันที
ตั้งแต่ที่เขาเข้ามาในดินแดนลึกลับนี้ เขาก็ไม่ได้คิดจะหามรดกแค่ชิ้นเดียวอยู่แล้วเพราะมันคงจะเป็นการใช้พรสวรรค์ที่ยอดเยี่ยมของเขาอย่างสูญเปล่า
ในขณะที่มองก้อนหินใหญ่ตรงเท้าของเขา เฉินเฉินก็ดูเหมือนจะเข้าใจอะไรบางอย่างและขยับมันออกไปด้วยพละกำลังทั้งหมดในทันที
ซึ่งก็เป็นไปตามที่คาดเอาไว้ มีอุโมงค์ลับอยู่ข้างใต้และเขาก็เข้าไปในนั้น หลังจากที่เดินเข้าไปเขาก็ได้เห็นโต๊ะสี่เหลี่ยมธรรมดาตัวนึงอยู่ที่ปลายสุดของความมืด
มีหนังสือเล่มนึง ยาขวดนึง และมีดเล่มนึงวางอยู่บนโต๊ะ
ของพวกนี้น่าจะเป็นสิ่งที่เรียกว่ามรดก
เฉินเฉินไม่ได้รีบเข้าไปหยิบเหมือนคนโง่แต่ถามระบบก่อน
“มีกับดักหรือการทดสอบอะไรอยู่ในระยะ 30 เมตรบ้างไหม?”
“ค่ะ มีรังงูอยู่ระหว่างสามเมตรถึงเก้าเมตรข้างหน้า ที่มีงูพิษเป็นพัน ๆตัวซ่อนอยู่”
เมื่อได้ฟังคำตอบนี้ หางตาของเฉินเฉินก็กระตุกและเขาก็อยากสบถออกมา!
‘งูพิษเป็นพันซ่อนอยู่ในระยะหกเมตรเหรอ? นั่นมันถึงตายเลยไม่ใช่รึไง?’
‘นอกจากนี้ ทางเดินที่นี่ก็ไม่ได้สูงด้วย ต่อให้มันจะสร้างมาดี ข้าก็กระโดดไม่ได้อยู่ดี ไม่อย่างนั้นหัวกระแทกแน่’
‘อุโมงค์นี้ก็ลึกเหมือนกันนะ ถ้าไม่มีเครื่องมือ การใช้เครื่องมือพวกนั้นก็คงจะเสียเวลามาก มันไม่คุ้มกับมรดกธรรมดา’
หลังจากที่คิดอยู่ซักพัก เฉินเฉินก็รีบวิ่งออกไปและมองหาหินบางยาว และใช้มันตัดต้นไม้ที่มีเส้นรอบวงพอๆกับน่องของมนุษย์
แม้ว่าเขาจะไม่สามารถใช้พลังปราณได้ แต่ความแข็งแกร่งทางร่างกายของเขาก็เหนือกว่ามนุษย์ทั่วไป ดังนั้นเขาจึงใช้เวลาทำเรื่องพวกนี้ไม่นานนัก
หลังจากตัดลำต้นของต้นไม้และดันส่วนที่ตัดเข้าไปในอุโมงค์ เฉินเฉินก็สร้างสะพานทางเดียวขึ้นมา จากนั้นเขาก็วางหินแบนเอาไว้ใต้ลำต้นเพื่อป้องกันไม่ให้ตรงกลางรับน้ำหนักมากเกินไป
ในขณะที่มองสะพานที่ทำให้เขาหลีกเลี่ยงจากรังงูได้ เฉินเฉินก็รู้สึกทึ่งกับตัวเอง
ในแง่ของการจัดการทรัพยากร เขาคงจะเก่งที่สุดในสองอาณาจักร!
ในขณะที่เดินไปบนสะพานอย่างระมัดระวัง เฉินเฉินก็เดินไปถึงโต๊ะและหยิบหนังสือขึ้นมาไล่อ่านในทันที
“ถ้าเจ้าสามารถทนพิษงูนับพันที่กำลังกลืนกินร่างกายของเจ้าได้ มันก็หมายความว่าเจ้ามีคุณสมบัติในการฝึกพระสูตรพิษห้าสี ข้า อู่ กัง จากสาขาที่หกของสำนักอสูร ข้าอยู่ระดับก่อกำเนิดวิญญาณขั้นกลาง ข้าหวังว่าเจ้าจะไม่ดูถูกวิธีการฝึกตนนี้”
“ในส่วนของขวดยาที่อยู่ข้างๆ มันเก็บยาแก้พิษของข้าเอาไว้ ซึ่งข้าได้พัฒนาขึ้นมาอย่างระมัดระวัง”
“เจ้าหงุดหงิดรึเปล่า? หวาดกลัวไหม?”
“หึหึ ผู้ถูกเลือกเอ๋ย ข้ามีแค่เรื่องเดียวจะบอกกับเจ้า มันไม่มีอาหารฟรีอยู่ในโลกนี้หรอก เพราะฉะนั้นการเผชิญกับความยากลำบากเพื่อให้ได้รับโอกาสจึงเป็นเรื่องที่หลีกเลี่ยงไม่ได้”
“แต่ว่า เจ้าไม่ต้องกังวลไป เมื่อเจ้าดื่มยานี้เข้าไป พิษในร่างของเจ้าก็จะถูกขจัดเหมือนกัน”
“ในส่วนของมีด มันเรียกว่ากริชร้อยพิษ ซึ่งเป็นอาวุธวิญญาณสำหรับป้องกันตัว มันเก็บพิษเอาไว้ 36 ชนิด เจ้าจะเก็บมันเอาไว้ป้องกันตัวก็ได้”
หลังจากอ่านถึงตรงนี้ เฉินเฉินก็ไม่ได้พูดอะไรและกวาดของทั้งหมดที่อยู่บนโต๊ะเข้ากระเป๋าของเขา
จากนั้นเขาก็เหยียบบนสะพานไม้และกลับไปที่ทางเข้าอุโมงค์
‘ผู้อาวุโสจากสาขาที่ 6 ของสำนักอสูรเข้ามาในดินแดนลับนี้ได้ยังไง? ทำไมเขาถึงใช้อุบายมากมายขนาดนี้? เจ้าไม่เหนื่อยเลยเหรอ? เหอะ ข้าพึ่งจะกินอาหารฟรีไปยังไงหล่ะ!’
หลังจากแอบดูถูกในใจ เฉินเฉินก็เดินลึกเข้าไปในหุบเขา
20 กิโลเมตรนั้นไม่ใกล้และไม่ไกลจนเกินไป เฉินเฉินไม่สามารถใช้พลังปราณเพื่อเคลื่อนที่ได้ดังนั้นเขาจึงต้องเดินในหุบเขาที่ขรุขระเป็นเวลาประมาณสามชั่วโมง
เขาเข้ามามือเปล่าแต่ตอนนี้ ช่องกระเป๋าของเขาเต็มไปด้วยสมบัติสวรรค์ทั่วไปที่สามารถใช้สำหรับฟื้นพลังกาย รักษาและล้างพิษ
มีดาบยาว ขวาน แล้วก็เชือกที่ยาวหลายสิบเมตร
พวกมันทั้งหมดคือของที่พบจากศพที่เขาตรวจจับได้
ในส่วนของเรื่องที่ศพพวกนี้เป็นของศิษย์สำนักอสูรที่เข้ามาในดินแดนลับในอดีตรึเปล่านั้น เฉินเฉินไม่สนใจ
“20 กิโลเมตรไม่ใช่พื้นที่น้อยๆเลย!” เฉินเฉินหยุดแล้วพึมพำ
ในจังหวะต่อมา เขาก็ใช้หนึ่งโอกาสที่เขาได้มาในการตรวจจับระยะ 20,000 เมตร
“ระบบ มีโอกาสอะไรบ้างในรัศมี 20,000 เมตร?”
เหมือนกับปกติ มีแจ้งเตือนนับไม่ถ้วนผุดขึ้นมาในหัวของเขาอย่างรวดเร็ว
“400 เมตรข้างหน้าในถ้ำด้านนอก มีมรดกของผู้อาวุโสที่อยู่จุดสูงสุดของก่อกำเนิดวิญญาณ”
“ที่ใต้ทะเลสาบ 2,000 เมตรข้างหน้าในถ้ำด้านนอก มีมรดกของเจ้าสำนักรุ่นที่แปดของสำนักอสูรที่อยู่ระดับวิญญาณแก่นแท้”
“3,500 เมตรทางตะวันตกเฉียงใต้ มีมรดกของเจ้าสำนักรุ่นที่ห้าของสาขาสามแห่งสำนักอสูรที่อยู่จุดสูงสุดของก่อกำเนิดวิญญาณ”
“ใต้ดิน 4,000 เมตร มีมรดกของเจ้าสำนักอสูรรุ่นที่สาม ซึ่งอยู่ระดับวิญญาณแก่นแท้”
…
“8,000 เมตรไปทางเหนือที่กลางลำธาร มีรูปปั้นของเทพอสูร”