Chapter 109 อะไรนะ มีสถานที่แบบนั้นด้วยเหรอ

ข้าสามารถตรวจสอบได้ทุกสรรพสิ่ง I Can Track Everything

เมื่อได้ฟังการแจ้งเตือนของระบบ เฉินเฉินก็มีชีวิตชีวาขึ้นมา

 

มันปรากฏขึ้นแล้ว! ในที่สุดก็มีโอกาสสำหรับการตรวจจับวางกว้าง และมันก็มีระยะ 20,000 เมตร แถมไม่มีข้อจำกัดด้วย!

 

ซึ่งนี่ก็หมายความว่าเฉินเฉินสามารถไปที่อื่นเพื่อใช้โอกาสนี้ได้

 

พูดตามตรง เฉินเฉินยังค่อนข้างรู้สึกดูถูกสำนักงานใหญ่ของสำนักอสูร

 

แม้ว่าพิษจะเป็นสมบัติประเภทหนึ่งเหมือนกัน แต่มันส่งผลเสียมากเกินไป ยกตัวอย่างเช่น เห็ดเวทมนตร์ที่จะลดอายุขัยของคนถ้าเข้าไปใกล้ มันไม่สามารถพกพาไปด้วยได้เลย

 

ในขณะที่เขากำลังครุ่นคิดอยู่นั้นเอง ผู้อาวุโสสำนักอสูรทั้งสองก็คุกเข่าลงพร้อมกัน

 

“พวกเรา อันเฉินกับอันซิง ผู้อาวุโสของสาขาสองแห่งสำนักอสูรมีเรื่องสำคัญอยากจะขอพบเจ้าสำนักครับ!”

 

ในทันทีที่พวกเขาพูดจบ หน้าผาตรงหน้าก็สั่นขึ้นมาอย่างกะทันหัน เผยให้เห็นประตูยักษ์บานนึง

 

ภายในประตูยักษ์นั้นเป็นสีดำสนิท และมีกลิ่นเลือดอ่อนๆโชยมาจากด้านใน ทำให้มันดูวังเวงและน่ากลัวเป็นพิเศษ

 

เฉินเฉินรู้สึกกังวลมากๆขึ้นมาอย่างกะทันหัน

 

เขาคิดไม่ถึงเลยว่าสจะได้เจอกับเจ้าสำนักอสูรในเร็วๆนี้!

 

เจ้าสำนักอสูรคือคนที่ใหญ่ที่สุดของสำนักอสูร แม้กระทั่งผู้อาวุโสสำนักอู๋ซินและท่านบรรพบุรุษก็ยังด้อยกว่าเขาในแง่ของสถานะและอำนาจ

 

ถึงยังไง เจ้าสำนักอสูรก็ไม่เพียงแค่จะควบรวมทั้ง 36 สาขาของสำนักอสูรให้เป็นปึกแผ่นได้ แต่ยังเป็นพระราชาของรัฐโจวด้วย

 

“อย่ากลัวไป ท่านเจ้าสำนักไม่ทำร้ายเจ้าหรอก” ผู้อาวุโสสำนักอสูรทั้งสองเตือนด้วยน้ำเสียงเย็นชา

 

จากนั้นพวกเขาก็เดินนำเฉินเฉินเข้าไป ยิ่งพวกเขาเข้าไปลึกเท่าไหร่ กลิ่นเลือดก็ยิ่งรุนแรงขึ้นเท่านั้น

 

ในตอนที่พวกเขามาถึงส่วนลึกสุด กลิ่นเลือดก็ฉุนมากจนแทบอ้วก

 

“เขาไม่ใช่ปีศาจที่ดูดเลือดมนุษย์ใช่ไหมครับ?” เฉินเฉินกังวลและเขาก็กลัวจะถูกกินในตอนที่เข้าไปข้างใน

 

อย่างไรก็ตาม เรื่องมันเกินกว่าที่เขาคาดเอาไว้

 

มันไม่ได้มีภูเขาศพที่เต็มไปด้วยเลือดอยู่ข้างใน หรือมีปีศาจที่ชั่วร้าย มันมีแค่ชายแก่สวมเสื้อคลุมคนนึงที่มีผมยาวพาดบ่าอย่างไม่เป็นทรงนั่งอยู่บนแท่นหิน

 

มีโซ่แสงสี่เส้นอยู่รอบๆแท่นหินซึ่งได้พันธนการชายแก่คนนี้เอาไว้อยู่ โซ่สองเส้นได้เจาะทะลุหัวไหล่ของเขาและกลิ่นเลือดก็แผ่ออกมาจากเขา

 

‘นี่คือโจวเหรินหลง เจ้าสำนักอสูรที่อาจารย์พูดถึงอย่างนั้นเหรอ? เขามีช่วงเวลาที่ยากลำบากขนาดนี้เลยเหรอเนี่ย’

 

เฉินเฉินบ่นในใจ

 

เซี่ยวอู่โยวเคยบอกเขาว่าเจ้าสำนักอสูรโจวเหรินหลงคือสุดยอดฝีมืออันดับหนึ่งของสองประเทศที่มีความแข็งแกร่งอย่างเหลือเชื่อ แต่เขาไม่ได้บอกว่าโจวเหรินหลงคนนี้เป็นนักโทษ

 

‘ในสองอาณาจักรนี้มีคนที่สามารถพันธนาการเจ้าสำนักอสูรได้ด้วยเหรอ หรือว่าเป็นคนที่อยู่นอกเหนือจากสองอาณาจักรนี้?’

 

 

“ท่านเจ้าสำนัก! ฉิงเทียนทำภารกิจสำเร็จครับ…แต่เขาเจออุบัติเหตุระหว่างทางกลับและทะเลแห่งจิตสำนึกของเขาก็ถูกทำลาย ท่านเจ้าสำนัก ได้โปรดช่วยฟื้นฟูทะเลแห่งจิตใต้สำนึกของเขาด้วยเถอะครับ!”

 

ผู้อาวุโสสำนักอสูรที่พาเฉินเฉินมาชี้ไปยังหยวนฉิงเทียนที่ยืนอยู่ตรงนั้นเหมือนกับคนโง่ และคำพูดของเขาก็น่าเศร้ามาก

 

“ได้สิ แต่ถ้าให้ข้าฟื้นฟูทะเลแห่งจิตสำนึกของเขา สาขาสองก็จะเสียโอกาสนั้นไปนะ”

 

เฉินเฉินไม่เห็นปากของเจ้าสำนักอสูรขยับเลยแต่เสียงก็ดังมาจากเขาแล้ว อย่างไรก็ตาม มันน่าขนลุกสุดๆและเขาก็ให้ความรู้สึกเหมือนปีศาจจากนรก

 

อันเฉินกับอันซิงคุกเข่าอีกครั้งด้วยน้ำตาที่เอ่อล้น

 

“ท่านเจ้าสำนัก! ครั้งนี้ นายน้อยได้รับบาดเจ็บหนัก พวกเราขอความเมตตาด้วย! โปรดให้โอกาสเขาเถอะ! และครั้งนี้พวกเราก็ไม่ได้กลับมามือเปล่าด้วย พวกเราพาคนๆนี้กลับมาครับ!”

 

หลังจากที่พูดออกมาแบบนั้น ผู้อาวุโสอันเฉินก็ชี้ไปทางเฉินเฉิน

 

ทันใดนั้นเอง โจวเหรินหลงที่ถูกพันธนาการอยู่ ก็เงยหน้าขึ้นแล้วจ้องไปที่เฉินเฉิน

 

เฉินเฉินรู้สึกได้ว่ามีแรงกดดันอันมหาศาลกำลังกดมาที่ร่างกายของเขาในทันทีซึ่งมันรู้สึกหนักเหมือนกับของหลายร้อยกิโล ทำให้เขาอยากจะคุกเข่าลงในทันที

 

อย่างไรก็ตาม ในท้ายที่สุดเขาก็ยืนหยัดสู้เอาไว้ได้และไม่ได้ใช้พลังปราณเลยซักนิด

 

“ท่านเจ้าสำนัก เด็กหนุ่มคนนี้ชื่อจางเฉิน ถึงแม้ว่าเขาจะมาจากรัฐจิน แต่เขามีร่างกายไร้เทียมทานอันหายาก! ถ้าเขาเข้าร่วมสาขาขัดเกลาร่างกาย พวกเราจะสร้างสุดยอดฝีมือในรัฐโจวได้อีกคนนึงแน่นอนครับ!”

 

เมื่อได้ยินคำพูดของเขา สายตาของโจวเหรินหลงมีความประหลาดใจเล็กน้อย แต่มันก็แค่นั้น

 

เมื่อเทียบกับปฏิกิริยาของเซี่ยวอู่โยวในตอนที่เขาพบเฉินเฉิน โจวเหรินหลงนั้นใจเย็นกว่ามาก

 

เห็นได้ชัดว่าเขาคือสุดยอดฝีมือที่จะรักษาความเยือกเย็นเอาไว้ได้ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น

 

“หืม ร่างกายไร้เทียมทานเหรอ? น่าสนใจ แต่ถึงกระนั้น ฉิงเทียนที่ได้รับการรักษาอาจจะไม่มีความทรงจำเหลืออยู่ก็ได้ เจ้ายังอยากจะให้เขาแข่งชิงบัลลังก์ของเจ้าชายรัชทายาทแห่งรัฐโจวในสภาพนั้นอยู่อีกเหรอ?”

 

“ครับ!”

 

ทั้งสองคนส่งเสียงออกมาพร้อมกัน

 

หยวนฉิงเทียนได้ทำการเสียสละเป็นอย่างมากเพื่อลอบสังหารฉงเย่ ถึงขนาดที่เขายอมแทรกซึมเข้าไปในรัฐจินเป็นเวลากว่าสิบปี ดังนั้น ต่อให้อายุจิตของหยวนฉิงเทียนจะกลับไปเป็นเด็กทารก พวกเขาก็ยังจะปล่อยให้เขาต่อสู้เพื่อบัลลังก์

 

“โอเค ถ้าอย่างนั้นพวกเจ้าทั้งสองกลับไปได้แล้วทิ้งฉิงเทียนไว้ที่นี่ซะ” โจวเหรินหลงพูดด้วยน้ำเสียงราบเรียบ

 

ผู้อาวุโสอันเฉินกับอันซิงมองหน้ากันก่อนที่จะบินออกไป

 

ไม่นานนักก็เหลือแค่โจวเหรินหลง เฉินเฉิน และหยวนฉิงเทียนที่ไม่ได้สติอยู่ในภูเขาลึก และบรรยากาศก็อึมครึมขึ้นมาอย่างกะทันหัน

 

เฉินเฉินได้ยินแม้แต่เสียงหัวใจเต้นของตัวเอง

 

ในขณะที่มองเฉินเฉินซึ่งถูกครอบงำด้วยความกังวล โจวเหรินหลงก็พูดอย่างเฉยเมย “คนของรัฐจินที่เข้าร่วมสำนักอสูรของเราจะต้องสาบานต่อหน้ารูปปั้นเทพอสูรเพื่อพิสูจน์ความจริงใจ”

 

หลังจากที่ได้ยินเช่นนั้นเฉินเฉินก็สังเกตเห็นรูปปั้นเทพอสูรขนาดยักษ์อยู่ข้างหลังโจวเหรินหลง

 

ในขณะที่มองรูปปั้น หัวใจของเฉินเฉินนั้นเต็มไปด้วยความสิ้นหวัง

 

‘เขาอยากให้ข้าสาบานอะไรกัน?’

 

‘โจวเหรินหลงไม่ได้บอกข้าด้วย เขาพยายามกดดันให้ข้าตกอยู่ในจุดที่ยากลำบากเหรอ?’

 

เมื่อเห็นว่าบรรยากาศอึมครึมขึ้นเรื่อย ๆ เฉินเฉินผู้มีจิตใจที่กล้าแกร่งให้คำสาบานต่อรูปปั้นเทพอสูรอย่างจริงจัง “ท่านเทพอสูร ข้า จางเฉินขอสาบานเอาไว้ ณ ที่นี้ว่าจะทำลายสำนักอู๋ซินให้หมดสิ้นภายในเวลาสิบปี ไม่อย่างนั้นขอให้ข้าตายโดยไม่มีแม้แต่ที่ฝังและจะไม่มีวันกลับมาเกิดใหม่ตลอดกาล!”

 

เมื่อได้ฟังคำสาบานนี้ โจวเหรินหลงที่อยู่บนแท่นก็ตัวสั่นเล็กน้อย หลังจากผ่านไปพักใหญ่ๆ เขาก็พูดออกมาในที่สุด “คำสาบานของเจ้ามันมากเกินไปหน่อยนะ การทำลายสำนักอู๋ซินไม่ใช่เรื่องง่ายๆ สิบปีเหรอ? คำกล่าวอ้างของเจ้าช่างกล้าหาญจริงๆ”

 

เฉินเฉินยิ้มแล้วเกาหัว เขาไม่ค่อยเข้าใจเรื่องแนวคิดของเวลาซักเท่าไหร่ เอาเถอะ ก็เข้าพึ่งฝึกตนมาได้แค่ไม่กี่เดือนเท่านั้นเอง

 

ถ้าเขามีเวลาซักสิบปี เขาจะไม่กลายเป็นผู้ไร้เทียมทานเลยเหรอ? แบบนั้นการทำลายสำนักอู๋ซินก็เป็นเรื่องง่ายๆสำหรับเขาไม่ใช่รึไง?

 

ในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อเช่นนี้ เขาทำได้แค่สาบานโดยใช้สำนักอู๋ซินเท่านั้น ถึงยังไง พวกนั้นก็เป็นพวกเลวทรามอยู่แล้วดังนั้นการฆ่าพวกเขาคงไม่มีอันตรายอะไร

 

“ข้าแก้คำสาบานดีไหม? ซักสิบสองปีเป็นยังไงครับ?” เฉินเฉินพูด ด้วยความมั่นใจที่น้อยกว่าตอนแรก

 

ในตอนที่ได้ยินเช่นนี้ปากของโจวเหรินหลงขยับจริงๆ เขาดูค่อนข้างโกรธ

 

“เจ้าคิดว่าการสาบานต่อหน้าเทพอสูรเป็นเรื่องตลกรึไง? ถ้าเจ้าผิดคำสาบาน เจ้าจะถูกเทพอสูรสาปแช่ง”

 

เขาเคยเห็นพวกที่สาบานจะยอมภัคดีด้วยมาก่อน แต่มันเป็นครั้งแรกที่เขาเจอคนที่สาบานว่าจะทำลายสำนักอู๋ซินภายในสิบปี

 

‘นั่นมันก็แค่การหาเรื่องตายเท่านั้น’

 

เฉินเฉินมีสีหน้าบูดบึ้ง ‘คำสาบานมีผลจริงๆเหรอ? มันเป็นครั้งแรกเลยที่เขาได้ยินเรื่องแบบนี้’

 

เขาคิดว่ามันเป็นแค่เรื่องไร้สาระ

 

“ช่างมันเถอะ ในเมื่อเจ้ากล้าสาบานถึงขนาดนั้น อย่างน้อยมันก็พิสูจน์ได้ว่าเจ้าเกลียดสำนักอู๋ซิน แค่นั้นก็เพียงพอแล้ว นับจากนี้ไป เจ้าจะเป็นศิษย์อนาคตไกลของสายขัดเกลาร่างกายแห่งสำนักอสูร”

 

“สำนักอสูรนั้นแตกต่างจากรัฐจิน ไม่ว่าเจ้าจะมีพรสวรรค์แค่ไหน เจ้าก็จะไม่ได้รับการปฏิบัติที่พิเศษกว่าคนอื่น เจ้าจะต้องสรรหาทุกอย่างด้วยตัวเอง”

 

“แม้กระทั่งเรื่องตำแหน่งเจ้าสำนักอสูร ข้าเองก็จะต้องยอมสละมันถ้ามีคนจากสาขาอื่นที่แข็งแกร่งกว่าข้า”

 

คำพูดของโจวเหรินหลงทำให้เฉินเฉินรู้สึกผิดหวังเล็กน้อย

 

เขาคิดว่าเขาจะได้รับยศผู้สืบทอดเจ้าสำนักหรืออะไรประมาณนั้นแต่ดูเหมือนว่าเขาจะเพ้อฝันมากเกินไปเพราะสถานที่โกโรโกโสแบบนี้ไม่ได้มีไว้สำหรับอัจฉริยะอย่างเขาจริงๆ

 

อย่างไรก็ตาม สิ่งที่โจวเหรินหลงพูดถัดจากนี้ได้สร้างความตกตะลึงให้เขา!

 

“สามสาขาแรกของสำนักอสูรล้วนมีดินแดนลับของตัวเอง ซึ่งเก็บมรดกต่างๆเอาไว้ มรดกพวกนี้ต้องการการทดสอบที่แตกต่างกัน และศิษย์เริ่มต้นทุกคนจะได้เข้าไปในสถานที่นั้นเป็นเวลาสิบวันเพื่อหาวิชาที่เหมาะสมกับตัวเองมากที่สุด”

 

“ตอนนั้น หยวนฉิงเทียนได้ผ่านการทดสอบต่างๆและได้พบวิชาซ่อนเร้นศักดิ์สิทธิ์จนสร้างความตกใจให้กับทั้งสาขาที่ 2 และในทำนองเดียวกัน เจ้าเองก็ต้องหาวิชาของตัวเอง”

 

“แต่ว่า ข้าคงต้องขอเตือนเจ้าหน่อยว่าพื้นที่ลับของสาขาขัดเกลาร่างกายนั้นยับยั้งพลังเหนือธรรมชาติทั้งหมด ใครก็ตามที่เข้าไปจะกลายเป็นมนุษย์เพื่อที่จะตามหาวิธีฝึกตนที่เหมาะสมที่สุด ปัจจัยทางกายภาพเป็นแค่เรื่องรอง สิ่งที่สำคัญยิ่งกว่าคือเจตจำนงค์ที่ไม่ย่อท้อของเจ้า! ในระหว่างการฝึกตน พลังใจคือสิ่งที่สำคัญที่สุด แม้ว่าเจ้าจะมีร่างกายมนุษย์ แต่เจ้าจะสามารถสังหารยอดฝีมือได้ตราบใดที่จิตใจของเจ้าแน่วแน่!”

 

“อะไรนะครับ? มีสถานที่แบบนั้นด้วยเหรอครับ?”

 

เฉินเฉินยิ่งกว่าตกตะลึง มรดกทุกรูปแบบอยู่ในดินแดนลับ มีสถานที่แบบนั้นด้วย!

 

‘หรือว่านี่คือสถานที่ที่ข้า…ใฝ่ฝันเอาไว้?’

 

“แน่นอนว่ามีสิ ถ้าเจ้าไม่ได้มรดกอะไรกลับมาเลย มันก็หมายความได้แค่ว่าเจ้าไม่ได้มีจิตใจที่แข็งแกร่ง และถ้าเจ้าไม่มีจิตใจที่แข็งแกร่ง เจ้าก็จะเป็นแค่ก้อนหินให้คนอื่นเหยียบเพื่อกลายเป็นบุคคลที่มีชื่อเสียงในอนาคต แม้ว่าเจ้าจะมีร่างกายไร้เทียมทานก็ตาม! และถ้าเป็นเช่นนั้น มันก็หมายความว่าเจ้าไม่มีคุณสมบัติในการเข้าเป็นศิษย์สาขาขัดเกลาร่างกายของสำนักอสูร”

 

น้ำเสียงของโจวเหรินหลงฟังดูเข้มงวด และในท้ายที่สุด มันก็เต็มไปด้วยจิตสังหาร

 

หลังจากที่เขาพูดจบ รูปปั้นเทพอสูรก็ขยับไปทางขวาอย่างช้าๆ เผยให้เห็นประตูบานนึง

Chapter 142: ไล่ล่า Chapter 141: อย่ารังแกคนหนุ่มสาวที่ยัง อ่อนแอ Chapter 140: ก้าวสู่เมืองหลวงของรัฐจีน Chapter 139: หัวหน้าสาขาอาวุธผู้บ้าคลั่ง Chapter 138: แปรธาตุ Chapter 137 ความลับของสํานักอสูร Chapter 136 เป็นรองแค่คนๆเดียว Chapter 135 เข้ารับการทดสอบเป็นนายน้อยส่านัก Chapter 134 ฝันไปเถอะ Chapter 133 พักผ่อนให้สงบนะ ศิษย์พี่ Chapter 132 การเข้าใจผิดอีกครั้งหนึ่ง Chapter 131 ความแตกต่างของระดับลูกศิษย์ Chapter 130 ชายแก่ที่เกรี้ยวกราด Chapter 129 พลังที่แท้จริง Chapter 128 นี่แหละยา Chapter 127 แก่นเต๋าทองคำศักดิ์สิทธิ์ Chapter 126 หุ่นศพอสูรหยิน Chapter 125 พลังแห่งวิถีสำนักอสูร Chapter 124 ตื่นขึ้นมาด้วยความตกใจ Chapter 123 หลอกลวงคนซื่อตรงอยู่บ่อยๆ Chapter 122 นี่คือนรกเหรอ Chapter 121 ร่วมมือครั้งแรก Chapter 120 เต่าดำทำลายการยับยั้ง Chapter 119 เป้าหมายคือจักรวาล Chapter 118 จะไม่หยุดจนกว่าจะจบ Chapter 117 การต่อสู้ที่ยิ่งใหญ่ได้ถือกำเนิดขึ้น Chapter 116 อาจารย์และลูกศิษย์ได้พบหน้ากัน Chapter 115 เจ้าต้องการกลับไปยังรัฐจิน Chapter 114 สามสิบหกสาขาของสำนักอสูร Chapter 113 ลูกศิษย์เพียงคนเดียว Chapter 112 เจ้าคือใครกัน Chapter 111 ขอโทษนะ ข้าไม่ได้ Chapter 110 มีมรดกอยู่ทั่วทุกที่ Chapter 109 อะไรนะ มีสถานที่แบบนั้นด้วยเหรอ Chapter 108 สำนักงานใหญ่สำนักอสูร Chapter 107 ร่างกายไร้เทียมทาน Chapter 106 ยอดฝีมือที่แท้จริงคืออะไร Chapter 105 ความโกลาหลครั้งใหญ่ในเมืองหลวง Chapter 104 ข้าแพ้ส่วนเจ้าตาย ความเปลี่ยนแปลงอันน่าตกใจ Chapter 103 การปรากฏตัวที่ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลง Chapter 102 ผู้ฝึกตนชั้นยอดในรัฐจิน Chapter 101 การเนืองเลือดที่บ้านดอกไม้พระจันทร์ Chapter 100 ตายอย่างแน่นอน Chapter 99 ไม่ฆ่าบนสังเวียน Chapter 98 ทำให้เขาพิการซะ Chapter 97 เจ้าเป็นคนต่อไป Chapter 96 เสียหาย Chapter 95 เหมือนกับหักแขน Chapter 94 โอกาสในการรีดไถมาถึงแล้ว Chapter 93 พลังแห่งสวรรค์อันยิ่งใหญ่ Chapter 92 ถึงเวลาแก้แค้น Chapter 91 ไม่มีข้อยกเว้น Chapter 90 ทำไม่ได้ Chapter 89 มีเรื่องแบบนั้นด้วยหรอ Chapter 88 กับดักมือเปล่า Chapter 87 วิชาที่เลือกมาเพื่อเอาชนะ Chapter 86 การพัฒนาการที่ก้าวกระโดด Chapter 85 ยินยอมที่จะเข้าร่วมกับสำนักอู๋ซิ่นไหม Chapter 84 อันดับของผู้สืบทอด Chapter 83 ข้าดูเป็นคนแบบนั้นเหรอเนี่ย Chapter 82 มีเพียงคนหน้าด้านเท่านั้น Chapter 81 ทำไมถึงมีความแตกต่างกันมากระหว่างผู้คน Chapter 80 ใครก็ตามที่รับใช้ข้าจะเติบโต ส่วนคนที่ไม่ยอมจะรับใช้ข้าจะต้องตาย Chapter 79 ผู้สืบทอดพยัคฆ์ขาว Chapter 78 มีอะไรต้องกลัวด้วย Chapter 77 ทดสอบ Chapter 76 เรือยักษ์ที่ลอยเหนือฟากฟ้า Chapter 75 เดียวดาย Chapter 74 ท่านผู้สืบทอดเป็นคนดีจริงๆ Chapter 73 ปรับปรุงสำนักเทียนหยุน Chapter 72 ตรวจจับความโชคดี Chapter 71 ศิษย์เอ๋ย นี่สำหรับเจ้า Chapter 70 ฝากฝังเด็กคนนึง Chapter 69 นองเลือด Chapter 68 นี่มันยุ่งเหยิงกันชะมัด Chapter 67 ไปซะ ไปยกกระถางได้แล้ว Chapter 66 ผ่อนคลายมาก Chapter 65 พลังปราณกว่าหนึ่งร้อยล้านปี Chapter 64 การเป็นชายที่ยอดเยี่ยมก็สร้างปัญหาเหมือนกันนะ Chapter 63 ของพิเศษ Chapter 62 ค้นหาในภูเขาเทียนหยุน Chapter 61 เจ้ากำลังดึงดูดปัญหา Chapter 60 หัวหน้า เรามาคุยเรื่องนี้กันเองดีกว่า Chapter 59 หินวิญญาณ 8000 ก้อน ก้มหน้ารับกรรม Chapter 58 คุกคาม Chapter 57 สั่งให้มาสร้างปัญหา Chapter 56 สายลับของสำนักอู๋ซิน Chapter 55 ฟู่ ฟู่ ฟู่ ฟู่ ฟู่ Chapter 54 วิญญาณดินเหลืองหนึ่งหมื่นปี Chapter 53 ความเข้าใจผิดที่งดงาม Chapter 52 สำนักเทียนหยุนนี่มันช่างยอดเยี่ยม Chapter 51 นี่คือประเทศของข้า Chapter 50 เลื่อนระดับภายในเวลาครึ่งวัน Chapter 49 สำนักเทียนหยุน Chapter 48 ขอบคุณมาก อาจารย์ Chapter 47 แล้วเจ้าจะทำอะไรได้ Chapter 46 พายุกำลังก่อตัวขึ้น Chapter 45 ตื่นตระหนก Chapter 44 เจ้าคือใครกัน Chapter 43 มาถึงเมืองจี่โจว Chapter 42 ไล่ตามเส้นทางอื่น Chapter 41 ท่านหญิงมู่หลง Chapter 40 ใครสามารถอธิบายได้บ้าง Chapter 39 พล่ามตลอดเวลา Chapter 38 ขอร้องหล่ะ ฆ่าข้าเถอะ Chapter 37 ฝันไปเถอะ Chapter 36 โลกที่ชอบธรรม Chapter 35 หมดเวลาเล่นกับพวกเจ้าแล้ว Chapter 34 คิดซะว่าเป็นน้ำอมฤตหมดอายุ Chapter 33 การเดินทางที่เต็มไปด้วยความยากลำบากและอันตราย Chapter 32 เจ้าผักบุ้งน้อย Chapter 31 เดินทางออกจากบ้านเพื่อไปฝึกตน Chapter 30 ข้าตามใจมากเกินจนทำให้เขาบาดเจ็บขา Chapter 29 ต้องการที่จะทำตัวเรื่อยเปื่อยและเสียเวลาไปเรื่อยงั้นเหรอ ไม่มีทางเสียละ Chapter 28 น้ำอมฤตลมปราณและหินลมปราณ Chapter 27 ห้องลับ Chapter 26 ท่านรู้ไหมว่าสาวงามนั้นเป็นสิ่งอันตราย Chapter 25 ก่อนหน้านี้เจ้าสาบานอะไรออกมากันนะ Chapter 24 ข้าคือพี่ใหญ่ของจางจี Chapter 23 ไร้สมอง Chapter 22 สัญญาณแก้วแตก Chapter 21 ให้เสี่ยวหยาแต่งงานกับเขา Chapter 20 ทำลายตระกูลหวัง Chapter 19 มาถึงตระกูลหวัง Chapter 18 โปรดรับความเคารพจากข้าด้วย Chapter 17 มีสุสาน Chapter 16 ผลกรรมย้อนเข้าหาตัวเอง Chapter 15 เจ้ามีสิทธิรึไง Chapter 14 เปิดเผยเจตนาที่แท้จริง Chapter 13 ขี้วัวเป็นเหตุถึงแก่ความตาย Chapter 12 ข้าเจอเซียน Chapter 11 โคตรซวย Chapter 10 ไปที่ว่าการกับข้า Chapter 9 สมบัติโลก Chapter 8 เดี๋ยวก่อนพวก Chapter 7 ซุปปลาคาร์ฟ เสิร์ฟพร้อมเห็ดพิษ พืชทะเล และก้อนหิน Chapter 6 ‘องค์ประกอบแถม’ วิธีเสริมพลัง Chapter 5 สุกรตัวหนึ่งที่มีความฝัน Chapter 4 จิตใจที่ต่ำตม Chapter 3 ชีวืตแห่งการเก็บของหาย Chapter 2 ใครรักข้าในรัศมีสิบเมตร Chapter 1 ตรวจสอบทุกสิ่งทุกอย่างในระยะสิบเมตร

Prev Next

แทงหวยออนไลน์