1728-2 vs 1729 โดย Ink Stone_Romance

ตอนที่ 1728-2

ฉินมั่วมองดูใบหน้าอีกฝ่าย ก่อนจะยื่นมือไปบีบหน้าอย่างยั้งใจไม่อยู่ “ฉันแพงออก เป่าขนสีเงินของเธอให้แห้งก่อน”

“ขนสีเงิน” ป๋อจิ่วหันหน้าไปอีกทาง “สีเงินแบบรุ่นคุณย่าสุดเฟี๊ยสเชียวนะ เท่จะตาย หรือไม่จริง?”

ฉินมั่วมองดูนัยน์ตาดำขลับ ไฝเสน่ห์เด่นชัด จมูก ปาก กระทั่งแอ่งชีพจรยังสวยเหลือเกิน เขาก้มลงไปจูบเรียวปากของเธอด้วยกินบึ้งนัยน์ตาที่ลึกซึ้ง “สวยจริงๆ” เธอยังคงเป็นเหยื่อที่เขาโปรดปรานมาจนถึงเวลานี้

“แต่ไม่สวยเท่าพี่หรอก”  เจ้าหญิงน้อยดูดีมาตั้งแต่เด็กแล้ว

ฉินมั่วลากนิ้วสางเส้นผมเธอ ไดร์เป่าผมยังคงเป่าลมอ่อนออกมา “เธอแน่ใจนะว่าจะชมฉันว่าสวย? ไม่มีผู้ชายคนไหนหรอกที่ชอบคำชมแบบนี้”

“สวยเลิศเป็นหนึ่ง?” ป๋อจิ่วนึกถึงสุภาษิตที่เคยเรียนมา

ฉินมั่วเลิกคิ้วอีก

“งามล่มเมือง?” เหมาะที่สุดเลยล่ะ

ฉินมั่วหัวเราะ ก่อนจะเอ่ยอย่างช้าๆ “ทำไมไม่บอกว่าฉันเป็นต๋าจี[1]ล่มเมืองล่ะ?”

“จะเอาพี่ไปเปรียบกับสนมต่านจีได้อย่างไร?” ป๋อจิ่วหัวเราะ “พี่สวยกว่าต๋าจีเยอะ”

เห็นแก่ที่กอดเธอแล้วรู้สึกสบาย ฉันจะไม่โยนเธอออกจากนอกหน้าต่างละกัน ฉินมั่วเพิ่งคิดได้เช่นนี้ ก็ได้ยินเธอเอ่ยต่อ “พี่มั่ว ถ้าฉันอยู่ในสมัยโบราณก็คงเป็นผู้ครองนครที่มัวเมาในอำนาจ แล้วถ้าพี่เป็นต๋าจีน อยากจะล่มเมืองขึ้นมา ฉันก็คงตามใจพี่ พี่ว่าฉันวู่วามไปไหม ถ้าใครหาว่าพี่ไม่ดี ฉันก็จะอัดมัน มิน่าล่ะตอนเด็กๆ พี่ถึงได้บอกว่าฉันวู่วาม อื้ม ก็วุ่นวายจริงนะแหละ”

ฉินมั่วได้ยินก็กดปิดไดร์เป่าผม เคาะนิ้วบนหน้าเธออย่างเป็นจังหวะ “ฉันว่าเธอไม่ได้วู่วามหรอก”

พูดเสียเหมือนนั่งอยู่ในใจเลยทีเดียว เจ้าเล่ห์จริง

“ก็ยังวู่วามอยู่ดี เช่น อยากปล้ำพี่” ป๋อจิ่วหันไปอีกด้าน เอ่ยเสียงเอื่อยๆ “ฉะนั้น พี่มั่ว ถ้าฉันแตะๆ อะไรพี่ พี่ก็ต้องห้ามฉันนะ ฉันทนกลหนุ่มงามไม่ไหว พี่จะลองใช้กับฉันดูบ่อยๆ ก็ได้”

ฉินมั่วหัวเราะเสียงต่ำ ไม่ได้เสแสร้งอีกแล้ว เขาวางไดร์ลง ทั้งยังทำท่าห่างเหิน “รู้ด้วยว่าฉันใช้กลหนุ่มงาม?”

“แต่น่าเสียดายที่ไม่ใช้ให้ถึงที่สุด” ป๋อจิ่วยิ้มบางๆ พลางจาม ก่อนจะพูด “ไม่ยอมให้ฉันได้แอ้มสักที”

ฉินมั่วกวาดตามองคนตรงหน้า ย่นหัวคิ้ว ก่อนจะอุ้มเธอแล้วพาเดินเข้าห้อง เอาตัวไปวางไว้ใต้ผ้าห่ม

ป๋อจิ่วร้องออกมา “ทำไมต้องห่มหลายชั้น หนักจะแย่” มีแค่ผ้าห่มกางกั้นแค่ผืนเดียว ยังพอจะเลิกออกมาลวนลามเขาได้ เขาไม่ยอมให้เธอแต๊ะอั๋งล่ะสิ

“ยาล่ะ?” ชายหนุ่มเปลี่ยนเรื่อง

เธอถูกกดร่างไว้ ขยับไม่ได้ “ยาอะไร?”

“ยาแก้หวัดไง” ฉินมั่วว่าพลางก็กดศีรษะที่โผล่ออกมาลงในผ้าห่มอีกครั้ง

ป๋อจิ่วจึงถึงบางอ้อ ท่านเทพเป็นห่วงที่เธอจามเมื่อกี้นี้ คงคิดว่าเธอป่วยอีกแล้ว ถึงเรียกหายาใช่ไหม? สุดท้ายก็ยังให้เธอได้หวานนิดหนึ่งอยู่ดี

ป๋อจิ่วโผล่แค่นัยน์ตาออกมา มุมปากที่ซุกในผ้าห่มหยักยิ้ม

ฉินมั่วหันเอียงศีรษะเห็นภาพที่ว่า จึงรู้ว่าเขาแสดงออกชัดเกินไป ถึงกับชะงักนิ้วมือ นั่งลงข้างเตียง ยิ้มอย่างเรียบเรื่อย “ท่าทางจะสมใจเธอนะ”

“เปล่า คือฉันก็หนาวๆ อยู่ ไม่ค่อยสบาย สงสัยเป็นเพราะแช่น้ำในอ่างเมื่อกี้” เธอยกมือกดศีรษะตัวเอง เพื่อให้ดูสมจริง

ฉินมั่วยิ้มหนัก “หนาวเหรอ? เอาผ้าห่มมาเพิ่มละกัน”

ท่านเทพพูดได้ทำได้ ดึงประตูตู้ออกมา แล้วเอาผ้าห่มบางๆ มาคลุมบนร่างเธอ “ตอนนี้อุ่นขึ้นมากไหม?”

“อึ้ม” ป๋อจิ่วจะพูดอะไรได้อีก เธออุตส่าห์สร้างเรื่องขึ้น ฉะนั้นต่อให้ร้อนยังไงก็ต้องแสดงต่อให้จบ “แค่คอแห้งนิดหน่อย” ดื่มน้ำแล้วจะช่วยลดอุณหภูมิได้

ฉินมั่วเลิกคิ้ว “คอแห้งเหรอ? งั้นฉันไปรินน้ำร้อนมาให้เธอแก้วหนึ่ง ดีไหม?”

น้ำร้อน? ป๋อจิ่วโบกมือ “ช่างเถอะ ไม่หิวขนาดนั้น” ท่านเทพโหดหน้ายิ้มจะตาย สู้ปล่อยให้เขาใช้กลหนุ่มงามกับเธอต่อดีกว่า

ฉินมั่วมองดูใบหน้าที่แดงของเธอ โน้มตัวลง ลมหายใจกระชั้น “ขอถามเป็นครั้งสุดท้าย เอาเย็นหรือร้อน?”

……………………………………………………….

ตอนที่ 1729

ท่านเทพพูดด้วยมุมปากที่หยักยิ้ม ลมหายใจรดริมหูเธออย่างเย้ายวนใจ

ป๋อจิ่วเบือนศีรษะไปอีกทาง “ต้องมาเจอน้ำแข็งกับไฟพร้อมๆ กัน ทั้งหนาวทั้งร้อน เกิดโดนอ่อยต่อไป คงไม่ดีต่อร่างกายฉัน”

ฉินมั่วชะงัก คิดไม่ถึงว่าจะได้คำตอบเช่นนี้ ประทับเรียวปากบางบนหน้าผากเธอ “ตอนนี้ล่ะ?”

“ร้อนแล้ว” ป๋อจิ่วพูดยิ้มๆ “พี่มั่ว ฉันเพิ่งกินอมยิ้ม ถ้าจูบอีกครั้ง รับรองว่าหวานแน่”

หลังจากที่ได้ยินเธอพูด ฉินมั่วดึงผ้าห่มออกไปชั้นหนึ่ง เลิกคิ้วอย่างคร้านๆ “ฝันหวานไปละ ยัยจอมเจ้าชู้”

“นอนบนเตียงเดียวกัน แต่จูบไม่ได้ ก็ต้องเจ้าชู้บ้างล่ะ” ป๋อจิ่วผ่อนลมหายใจ หน้าขาวใสออกจะแดงเล็กน้อย เธอยังอยากถีบผ้าห่มอยู่ดี แต่พอจะกระดุกกระดิก ท่านเทพก็กดขาเธอไว้ เอ่ยเสียงบึ้งตึง “อยากเป็นหวัดอีกใช่ไหม?”

“ผ้าห่มหนาออก” ป๋อจิ่วไม่อยากกอดชายหนุ่มผ่านผ้าห่ม เพราะมันห่างเหินไป

ฉินมั่วมองดูกิริยานักเลงโตของเธอ “รู้ทันกลหนุ่มงานของฉันแล้วเสียใจไหม?”

“เสียใจดิ” ป๋อจิ่วมองดูชายหนุ่มรั้งเธอเข้าใกล้ ก่อนเปลี่ยนผ้าห่ม ความหนักบนร่างจะคลายลง ทว่าอุณหภูมิกลับพอเหมาะ เธอเอ่ยพลางกอดเอวชายหนุ่มไปตามครรลอง

ฉินมั่วไม่ปฏิเสธ แต่จิ้มไปยังเหยื่อ “อย่าซี้ซั้วใช้มือสิ”

“ยากอ่ะ” ป๋อจิ่วพูดอย่างจริงจัง “ไม่งั้นให้ฉันเล่นเกมสักนิด พอใช้มือทั้งสองข้างแล้ว จะได้มีแรงควบคุมหน่อย”

ฉินมั่วพูดในลำคอ ดูไม่ออกว่าอยู่ในอารมณ์ไหน

ป๋อจิ่วรู้ว่าเขารู้ทันที่เธอทดสอบเขา หลังจากที่หยิบมือถือออกก็ครุ่นคิดชั่วครู่ ก่อนจะเอ่ยขึ้น “พี่มั่ว”

“อะไร?” ชายหนุ่มพิงหัวเตียง หมุนไพ่ในมือเล่น

ป๋อจิ่วเอียงศีรษะ “พี่อยากดูแอคเคาท์เวยป๋อของตัวเองไหม?”

“อยากให้ฉันดูเหรอ?” นัยน์ตาของเขาหนักอึ้งในระหว่างที่พูด

ป๋อจิ่วพยักหน้า “อยากให้พี่รู้ด้วยว่ามีคนรอพี่เยอะแยะเลย”

ฉินมั่วไม่พูดอีก ละมือข้างหนึ่งมาด้วยสีหน้าเป็นปกติ เขาจะดูหรือไม่ ไม่น่าสนใจหรอก เขาไม่สนใจเรื่องในอดีตสักเท่าไร แค่เห็นท่าทีของเธอที่อยากให้เขาไปดู ทำให้กลิ่นไอของชายหนุ่มเย็นยะเยือก ใช่ เดาว่าคงไม่มีใครชอบเขาในสภาพนี้ รวมถึงเธอด้วย

ป๋อจิ่วแตะนิ้ว ทำให้หน้าจอดับ “ช่างเถอะ”

ฉินมั่วยังคงหล่อไฮโซ “หือ?”

“ถ้าไม่ชอบก็อย่าดู” ป๋อจิ่วพูดยิ้มๆ “ไม่ว่าจะสูญเสียความทรงจำหรือไม่ ก็ไม่ต่างกันหรอก เป็นแบบนี้ยิ่งดีเข้าไปใหญ่ จะได้ไม่มีใครมาแย่งกับฉัน”

แววตาชายหนุ่มสตัน ก่อนจะกลับสู่ปกติอย่างเร็ว เอ่ยขึ้นช้าๆ “งั้นเธอต้องดูฉันให้ดีๆ นะ”

“แน่นอน” ป๋อจิ่วพูดพลางกำมือถือไว้ในมือ

ฉินมั่วมองดูแวบหนึ่ง “ไหนว่าจะเล่นเกม?”

“พี่ไม่ชอบไม่ใช่เหรอ? ไม่เล่นแล้ว” ป๋อจิ่วใช้ลิ้นดุนแก้ม

ฉินมั่วสไลด์จอมือถือของเธอ “ถ้าเธอชอบ ฉันจะดูเธอเล่น เธอจะไม่ได้เอาเวลาไปคิดเรื่องเจ้าชู้”

ป๋อจิ่วเลิกคิ้ว “พี่มั่ว ถ้าไม่พูดประโยคท้ายนะ จะทำให้ป๋าสายเปย์อย่างฉันยิ่งชอบเข้าไปใหญ่”

“งั้นก็น่าเสียดาย ประโยคหลังดันเป็นคำพูดอย่าจริงใจของฉันเสียด้วย” ฉินมั่วตบเบาๆ บนหน้าเธอ น้ำเสียงของเขาเอื่อยๆ น่าฟัง “เริ่มเถอะ  ให้ฉันดูว่าเธอเล่นยังไง”

ป๋อจิ่วยิ้มมุมปาก “ดูฉันเล่นเกมแล้วพี่จะหลงรักฉัน เพราะเวลาอยูในเกมฉันจะหล่อเป็นพิเศษ”

………………………………………….

[1] สนมต๋าจีเป็นสนมในพระเจ้าโจ้วหวังแห่งราชวงศ์ซาง ได้รับความโปรดปรานมากจนได้รับแต่งตั้งเป็นพระมเหสีในที่สุด พระเจ้าโจวหวังหลงรักและเชื่อฟังนางมาก ถึงขั้นไม่สนใจกิจการบ้านเมือง ต่อมาเมื่อราชวงศ์นี้สิ้นสุดลง นางถูกมองว่าเป็นต้นเหตุทำให้ราชวงศ์ล่มสลาย