1730 vs 1731 โดย Ink Stone_Romance

ตอนที่ 1730

 เสียงเอฟเฟกต์ของเกมดังขึ้น ถือเป็นครั้งแรกที่ฉินมั่วได้เห็นคนที่หน้าหนาแล้วยังทำให้คนเอ็นดูได้อีก แต่ก็พอจะเข้าใจได้ เหยื่อที่เลี้ยงในบ้าน ย่อมต้องเป็นที่ชอบมากขึ้นทุกวัน ๆ

เวลานี้ป๋อจิ่วเข้าสู่หน้าเพจเกม ตรงเข้าไปเลือกตัวละคร ทั้งนี้เธอใช้ชื่อแอคเคาท์สำรองที่ไม่เป็นที่รู้จัก และเลเวลที่ไม่สะดุดตา แต่ชื่อไอดี… ทำให้ฉินมั่วเห็นแล้วเลิกคิ้ว “กิ๊กแซ่ฉินเป็นของฉัน?”

ป๋อจิ่วสะดุ้ง “พี่มั่ว อย่าไปสนเรื่องเล็กๆ น้อยๆ สิ”

“จะทำยังงั้นได้ไง ก็เธอเป็นสายเปย์ของฉันนี่นา” ฉินมั่วว่าแล้วก็โน้มตัวไปงับหูเธอ เล่นเอาป๋อจิ่วสะดุ้ง ติ่งหูแดงจัด

ฉินมั่วมองดูด้วยความพอใจ สายตาจับจ้องที่หน้าจออีกครั้ง “มีคนคุยกันด้วย”

ป๋อจิ่วเห็นเช่นกัน เป็นคนที่มาแย่งตำแหน่งล่ามอนสเตอร์ แต่เธอไม่ยอม อีกฝ่ายย่อมไม่พอใจ แต่ไม่ยอมเปลี่ยน จะเอาให้ได้ ซึ่งการใช้อารมณ์เล่นเกมแบบนี้ ย่อมไม่เป็นประโยชน์ต่อการเจริญเติบโตในเกม

ป๋อจิ่วรู้ดีแต่ไม่ได้พูดอะไรมาก เธอสร้างฐานะก่อนแล้วค่อยไล่ฆ่าคน อันเป็นหลักการปกติ แต่เพื่อนร่วมทีมเอาแต่บ่นว่า “คนที่เล่นเป็นนักฆ่าอ่ะ ช่วยดูเวลฉันก่อน แล้วหันมาดูของตัวเอง ดูไม่ออกเหรอว่าฉันสูงกว่าสองเลเวล ยังจะมาแย่งฉันอีก ขอบอกนะ อย่าพาทีมพังก็แล้วกัน เพราะถ้าเป็นอย่างนั้น ฉันจะร้องเรียนนาย”

ฉินมั่วได้ยินเสียงที่ดังออกจากมือถือ นัยน์ตาเครียดทันที จากตอนแรกที่ไม่สนใจจนสายตามาจับจ้องที่คนๆ หนึ่ง “เขากำลังทำอะไรร?”

ป๋อจิ่วรู้ตัวว่าชายหนุ่มสูญเสียความทรงจำอย่างแท้จริง ก็หลังจากที่ได้ยินนี่แหละ ราวกับเป็นคนใหม่เลยทีเดียว

“กำลังล่ามอนสเตอร์ นักฆ่าต้องล่ามอนสเตอร์มาเพิ่มฐานะ ไม่งั้นจะเติบโตต่อไปไม่ได้ นักฆ่าทุกคนอยากจะถึงเลเวลสี่ให้ได้เร็วที่สุด ซึ่งวิธีที่ได้ผลคือต้องล่ามอนสเตอร์”

ฉินมั่วหัวเราะทันทีที่ได้ยิน เขาหัวเราะแล้วยื่นมือให้เธอเปลี่ยนเส้นทาง

“ทำไม?” ป๋อจิ่วงงหน่อยๆ ท่านเทพจะทำอะไร?

ชายหนุ่มจิ้มที่หน้าจอ “ฉันจะเล่น”

“พี่เล่นเป็นแล้วเหรอ?” แววตาของป๋อจิ่วเต็มไปด้วยความประหลาดใจ

ชายหนุ่มตอบเสียงเรียบ “ไม่ ฉันเห็นเธอเล่นแล้ว มันมีปุ่มหนึ่งที่ล่ามอนสเตอร์ได้เลย”

ใช่ แต่ ป๋อจิ่วมองดูท่านเทพที่ยืนอยู่ในพุ่มหญ้าของบลูมอนสเตอร์โดยไม่ขยับ ทั้งยังรอให้คนอื่นล่ามอนสเตอร์ อะไรกันนี่?

แต่ไม่นาน ป๋อจิ่วก็เข้าใจเจตนาของเขา เพราะคนในทีมเดียวกันที่ล่ามอนสเตอร์ส่งเสียงอีกแล้ว “เฮ้ย ฉันอุตส่าห์ล่าบลูมาตั้งนาน”

จากนั้นอีกฝ่ายก็พบว่าไม่ว่าจะเป็นบลูหรือเรด รวมถึงตัวเล็กตัวน้อย ก็ล้วนแต่ถูกแย่งไปอย่างแม่นยำในวินาทีสุดท้ายทั้งนั้น จึงทำให้ฝ่ายโน้นเริ่มด่ามา

ป๋อจิ่วเห็นเพียงท่านเทพขยับนิ้วเล็กน้อย ปิดปุ่มเสียงบนเพจ แล้วแย่งมอนสเตอร์ต่อไปเรื่อย ๆ

“ฉันไม่เล่นแล้วเว้ย! โธ่เว้ย!” ครั้งนี้เป็นการพิมพ์ ซึ่งเพื่อนร่วมทีมคนอื่นๆ ได้แต่ระอา อยากให้ท่านคนนั้นเล่นดีๆ หน่อย แต่เจ้านั่นกลับหัวเราะหยัน ส่งข้อมูลมาสามระลอก “ให้ไอ้เจ้ากิ๊กแซ่ฉินอะไรนั่นอย่ามาแย่งมอนสเตอร์ของฉันดิ แล้วฉันนะเล่นต่อ เดินตำแหน่งแบบนี้ นอกจากมาแย่งมอนสเตอร์ของฉัน แล้วไม่เห็นทำอะไรเป็นสักอย่าง มาเลยพวก เอามันให้ตาย”

ป๋อจิ่วกวาดตามองแวบหนึ่ง หยิบมือถือมากดพิมพ์ออกไป “ไม่ออกมาใช่ไหม? งั้นก็อย่าออกมาเลย” พูดจบ เธอก็บังคับตัวละครเหาะไปยังโซนป่าของฝ่ายตรงข้ามละล่องดั่งสายลมคมกริบ ชายเสื้อสะบัด ดาบสะท้อนแสงขาว

“หาเรื่องตายชัด ๆ” นักฆ่าคนนั้นเพิ่งพูดจบ เสียงเอฟเฟกต์ประจำเกมดังก็ขึ้น

………………………………….

ตอนที่ 1731

ดับเบิ้ลคิล ฆ่าได้สองชีวิต สองชีวิต? ทำไมถึงฆ่าได้ตั้งสองชีวิต? นักฆ่าที่อาละวาดเมื่อครู่ ถึงกับเงียบกริบในทันใด เมื่อหันมาดูหน้าจออีกที ก็เห็นร่างที่ชายเสื้อสะบัด เปิดใช้สกิลหลักกระโดดกลับไปยังที่เดิม โดยหลังจากที่ฆ่าได้ meให้นักเวทย์ของฝ่ายตรงข้ามไล่ฆ่าไม่ลดละ

แต่คนๆ นั้นยังไม่กลับป้อม โดยเข้าไปซ่อนตัวในพุ่มหญ้าหลังจากที่ล่าทีมมินเนี่ยม เวลานี้ เดิมเธอเสียเลือดจนเกือบหมด ได้ฟื้นมามีเลือดครึ่งหนึ่ง ซึ่งหากดูจากแผนที่ คนๆ นั้นข้ามมา นักเวทก็ซัดพลังใส่ในทันทีที่เห็นความเร็ว ทว่าอีกฝ่ายกลับหลบสกิลจับตัวแข็งได้ด้วยการเดินตำแหน่งในรูปตัว Z อย่างคล่องแคล่ว จนท้ายที่สุดก็ได้ยินเสียงเงื้อดาบขั้นเทพอย่างได้จังหวะ

ครั้งหนึ่ง สองครั้ง สามครั้ง ปลายดาบซัดเป็นครั้งที่สี่

ทริปเปิ้ลคิล! ฆ่าได้สามชีวิตติดๆ อย่างไม่ขาดตอน ชนิดที่ยากจะคำนวณเวลา เพราะเร็วมาก ซึ่งในขณะที่คนในทีมกำลังฟื้นคืนชีพอยู่ในบ่อน้ำ แล้วได้มาเห็นแผนที่ ทุกคนต่างตะลึง โดยนักเวทย์ของฝ่ายตรงข้ามที่ตายไป กลับพิมพ์ข้อความแค่ “…”

คงเพราะไม่คิดว่าตัวเองจะโดนฆ่ากลับ เพราะเจ้าตัวยังมีเลือดเต็มอยู่เลย ส่วนฝ่ายตรงข้ามแทบไม่เหลือเลือดแล้ว!

“ดาบดูดเลือด เขาใช้ดาบดูดเลือดหรือเปล่า?” เล่นใช้ดาบดูเลือดตั้งแต่แรกแบบนี้ เกมเมอร์คนนี้จะต้องเชื่อมั่นในฝีมือตัวเองแค่ไหนกัน?

เพื่อนร่วมทีมต่างสบตากัน แต่ยังไม่ทันได้ทำอะไร เสียงเอฟเฟกต์ก็ดังขึ้นอีก “บอสราชาถูกฆ่า ได้ประสบการณ์เพิj,ขึ้นเป็นเท่าตัวทั้งทีม”

คนที่แสดงปฏิกิริยาออกมาก่อนเพื่อนกลับไม่ใช่เพื่อนร่วมทีม แต่เป็นนักฆ่าของฝ่ายตรงข้าม “อ๊า บอสราชาที่ฉันอุตส่าห์ฆ่ามาตั้งนมนาน!”

ทว่าในระหว่างที่พิมพ์อยู่ สิ่งที่ทำให้เขาคิดไม่ถึงก็คือร่างในชุดขาวที่เพิ่งฆ่ามอนสเตอร์ได้สองตัวก็ข้ามกลับมา ซัดพลังสายฟ้าฟาดใส่ด้านหลัง แถมด้วยพลังชุดใหญ่  เล่นเอาเขาตกใจจนต้องถอยหนีกลับเมืองในสภาพเลือดแทบหมดตัว “น้องตกใจหมดเลยอ่ะ เกือบตายแล้ว เกือบตายแล้วไหมล่ะ”

“ฉันจำได้ว่าคนที่ฆ่ามอนสเตอร์มีเลเวลไม่สูงนี่ คนที่เลเวลสูงเป็นอีกคน แต่ทำไมถึงโหดอย่างนี้? ฉันไม่กล้าออกจากป้อมเลยอ่ะ”

“ฉันก็เหมือนกัน เล่นยังไงเนี่ย โคตรเหนือนรกเลย”

หากเทียบกับฝ่ายตรงข้ามที่ประหวั่น นักฆ่าในทีมเดียวกันที่โวยวายว่าจะไม่ออกมาเล่น ถ้าไม่ยอมให้มอนสเตอร์แก่ตัวเอง ก็ได้แต่หน้าแดงสลับซีด กดมือถือส่งข้อความเสียง “หาคนมาเล่นแทนหรือเปล่า?”

ป๋อจิ่วไม่ใส่ใจ กวาดต้อนโซนป่าตัวเองจนเรียบ ซึ่งไม่เพียงเท่านี้ ยังเหาะไปโซนป่าของคู่แข่ง กะจะต้องล่าหมูป่ามาสักหน่อย แล้วประกาศว่า ‘โซนป่าของนายก็คือบ้านของฉัน’ อะไรทำนองนี้

คิดดูละกันว่าฉายา ‘ประมุขฆ่าหมูป่า’ ใช่ว่าจะได้มาง่ายๆ จะต้องมีฐานะสูงที่สุด ทุกที่ที่เหาะผ่าน จะต้องได้ชีวิตมาหนึ่งชีวิตหรืออาจจะได้มอนสเตอร์แทน

ใช่ว่าฝ่ายตรงข้ามจะไม่ไล่ล่าป๋อจิ่ว ทว่าตัวละครที่เธอเลือกคล่องตัวเหลือเกิน แถมเร็วมากหากตามไล่คนเดียว มีหวังโดนฆ่าแน่ เมื่อมาล่ากันสามคน เจ้านั่นก็ทำเหมือนหนีไป โดยล่อให้พวกเขาไล่ตามเป็นรอบ แล้วลอบฆ่าจากด้านหลัง อันเป็นแผนที่ล่อพวกเขาอย่างโหด เพียงแค่กระพริบตา ตัวยิงไกลของพวกเขาหรือตัว ADC ก็ถูกเล่นงานจนอยู่หมัด

คะแนน 0 ต่อ 6 ถือเป็นการพลิกสถานการณ์อย่างเก่ง

เมื่อเล่นกันมาถึงช่วงกลางเกม ฝ่ายตรงข้ามได้เห็นร่างของป๋อจิ่วบนจอก็ไม่กล้าที่จะออกมา สิ่งที่น่าเศร้าที่สุดคือ หากไม่ระวังให้ดี บางครั้งการอยู่ใต้ป้อมเพียงคนเดียวก็ไม่ปลอดภัยหรอก

ร่างในชุดขาวสามารถข้ามป้อมฆ่าได้ แถมยังได้เลือดกลับมาอย่างรวดเร็วเป็นพิเศษ รู้สึกว่าเล่นเกมไม่สนุกแล้ว

เขาเป็นใครกันนะ?

………………………………..