หลิงตู้ฉิงไม่พอใจกับผลงานเมื่อครู่ของซือโถวเหวินหยวน
ในฐานะที่เขาเป็นถึงคนจากสำนักเต๋าสวรรค์ เขาจะไม่รู้วิธีการใช้ภาพวาดแบบนี้ได้ยังไง?
ฉะนั้นการชดใช้ค่าความเสียหายทั้งหมด หลิงตู้ฉิงจึงปล่อยให้ซือโถวเหวินหยวนที่ไม่ใช่เด็กแล้ว ซึ่งเขาควรจะมีความรับผิดชอบจัดการเอาเองเพียงคนเดียว หรือต่อให้เขาจะจัดดารไม่ได้และถูกผู้คนที่อยู่ข้างนอกรุมทึ้งจนตายเขาก็จะไม่เข้าไปช่วย
จงขุยมองไปยังด้านนอกพลางส่ายหัว เขาหันกลับมาหาหลิงตู้ฉิงและพูดว่า “ที่แท้ท่านหลิงก็มีภาพวาดอันแสนวิเศษอยู่กับตัวนี่เอง ตอนแรกข้าก็เป็นห่วงท่านแทบแย่ แต่ตอนนี้มันดูเหมือนว่าท่านคงจะไม่เป็นอะไรแล้วสินะ”
ในฐานะที่จงขุยเป็นคนของสำนักอักขระศักดิ์สิทธิ์ เขารู้เป็นอย่างดีว่าภาพวาดพวกนี้มันมีอำนาจมากขนาดไหน
แต่เขาก็นึกไม่ถึงจริง ๆ ว่าหลิงตู้ฉิงจะมีภาพวาดแบบนี้ไว้ในครอบครอง
อันที่จริง ถึงแม้การใช้อักขระเวทย์และภาพวาดจะเป็นการดึงพลังแห่งกฎสวรรค์และโลกมาใช้เหมือนกัน แต่วิถีการบ่มเพาะของทั้งคู่นั้นแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง
“ตอนนี้หมู่ตึกหยูอี่เป็นของข้าแล้วใช่ไหม?” หลิงตู้ฉิงถามขึ้น เพื่อยืนยันกับจงขุยอีกครั้งหนึ่ง
“แน่นอน” จงขุยพยักหน้าพร้อมกับส่งเหรียญตราหมู่ตึกหยูอี่ เพื่อให้หลิงตู้ฉิงประทับเลือดผูกพันธะเป็นเจ้าของ “หลังจากนี้ข้าจะกลับไปยังสำนักของข้าเพื่อรายงานเกี่ยวกับเรื่องของท่านให้บรรดาผู้อาวุโสรับทราบ จากนั้นสำนักของข้าจะส่งผู้เชี่ยวชาญที่แข็งแกร่งกว่าข้ามาปกป้องท่านให้ปลอดภัยโดยเร็วที่สุด”
“แต่ถ้าหากท่านหลิงต้องการ ท่านก็สามารถตามข้ากลับไปที่สำนักอักขระศักดิ์สิทธิ์ได้เช่นกัน ข้ารับประกันว่าเมื่อท่านไปยังที่สำนักของข้า ท่านจะได้รับการดูแลเป็นอย่างดี ทางเราจะจัดหาทรัพยากรให้ท่านในทุก ๆ อย่างที่ท่านต้องการจนกว่าท่านจะแข็งแกร่งพอที่จะช่วยทางเราได้”
หลิงตู้ฉิงส่ายหัวและตอบกลับ “ข้าได้ให้คำสัญญาไว้กับผู้อื่นไปก่อนหน้านี้แล้ว ข้าจำเป็นต้องรั้งอยู่ที่นี่ต่อไปอีก 5 ปี”
จงขุยส่ายหัวเช่นกัน และพูดขึ้นด้วยสีหน้าเสียดาย “ถ้าอย่างนั้นก็ช่วยไม่ได้ ข้าคงต้องขอลาท่านตรงนี้เลยก็แล้วกัน คนจากสำนักของข้าจะถูกส่งมาถึงที่นี่แน่นอนก่อนถึงเวลา 5 ปี”
“อืม ไปเถอะ” หลิงตู้ฉิงพยักหน้า
จงขุยโค้งคำนับหนึ่งครั้งก่อนที่จะหันหลังจากไป
หลังจากจงขุยจากไป มี่ไลและหลิวเฟ่ยเฟ่ยต่างก็ทนไม่ไหวจนถามขึ้นว่า “สามี ท่านหมายความว่ายังไงที่ท่านบอกว่าได้ทำสัญญาอะไรไว้? และไอ้เจ้ายันต์สั่งสวรรค์อันนั้นมันทำอะไรได้กันแน่?”
หลิงตู้ฉิงเผยรอยยิ้มและตอบกลับว่า “เรื่องพวกนั้นเราค่อยคุยกันทีหลัง ตอนนี้พวกเจ้าไปช่วยกันนับเหล่าสิ่งของที่ถูกเก็บอยู่ในหมู่ตึกหยูอี่นี่กันก่อน ส่วนข้าจะได้ไปทำการปรับแต่งค่ายกลของที่นี่ใหม่อีกที ที่นี่จะกลายเป็นที่อยู่ใหม่ของเรานับแต่นี้เป็นต้นไประหว่างที่เราอยู่ที่นี่”
มี่ไลหลิวเฟ่เฟ่ย และคนอื่น ๆ ต่างพยักหน้าและรีบไปทำการนับสมบัติต่าง ๆ
ส่วนหลิงตู้ฉิงก็เริ่มทำการปรับแต่งค่ายกลใหม่ทั้งหมดที่อยู่ทั้งในบริเวณหมู่ตึกและสวนที่อยู่ด้านหลัง
ถึงแม้หมู่ตึกหยูอี่จะเป็นหอการค้า แต่เพราะการมีอยู่ของยันต์สั่งสวรรค์ ส่วนของค่ายกลที่ปกป้องบริเวณหมู่ตึกและด้านหลังที่เป็นสวนจึงถูกแยกออกจากันอย่างสิ้นเชิง หลิงตู้ฉิงจึงต้องปรับแต่งมันใหม่ให้หลอมรวมเป็นหนึ่งเดียวกัน
ซึ่งการปรับแต่งลักษณะนี้หลิงตู้ฉิงต้องลงแรงเป็นอย่างมาก และเมื่อมันเสร็จสมบูรณ์เขาก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอก
“มี่ไล เดี๋ยวเจ้าส่งข้อมูลที่อยู่ใหม่ของเราแห่งนี้ไปให้กับพ่อของเจ้าด้วย” หลิงตู้ฉิงพูดไปทางมี่ไล
มี่ไลพยักหน้า “สามี ตอนนี้พ่อของข้ายังไม่สามารถขยายหอการค้าของเขาไปได้ทั่วทะเลชางหมางเลย ข้าคิดวาามันคงต้องใช้เวลาอีกนานกว่าที่พ่อของข้าจะมาที่นี่ แต่ไม่ว่าจะยังไงข้าก็ต้องขอขอบคุณท่านแทนพ่อของข้าด้วยที่ท่านนังคงนึกถึงเขาอยู่”
“อืม หลังจากที่เราไปจากที่นี่ ข้าจะมอบที่นี่ไว้ให้กับพ่อเจ้าดูแลมันต่อ” หลิงตู้ฉิงพยักหน้า “ส่วนเฟิง เจ้าจงไปเก็บธงค่ายกลที่อยู่ในสวนอี้หลานมาไว้ที่นี่ซะ ข้าจะย้ายพวกมันมาตั้งไว้ที่นี่ในสวนด้านหลังแทนเพื่อที่จะทำให้การป้องกันของที่นี่แข็งแกร่งขึ้น และจะวางค่ายกลวิญญาณบรรจบเพื่อให้พวกเจ้าได้บ่มเพาะพลังวิญญาณกันได้ง่ายขึ้น”
เสี่ยวเยว่เฟิงพยักหน้าและบินจากไปยังทิศทางสวนอี้หลานทันที
ทางมี่ไลและคนอื่น ๆ ต่างก็นับสมบัติกันต่อ ซึ่งมันใช้เวลาอยู่สักพักจนกว่าที่พวกเขาจะนับกันเสร็จ
“สามี พวกเรารวยแล้ว!” มี่ไลตะโกนขึ้นด้วยสีหน้าเบิกบานพร้อมกับเดินเข้ามาหาหลิงตู้ฉิงโดยถือแหวนมิติมากมายมาจนเต็มมือนาง
ภายในแหวนเหล่านี้ มันมีสมบัติมากมายไม่ว่าจะเป็น ยันต์ผิวหยกถึง 35 แผ่น เหรียญคริสตัลระดับสวรรค์กว่าแสนเหรียญและสมบัติวิเศษทั้งระดับราชวงศ์และระดับวิญญาณที่ใช้ได้เฉพาะผู้เชี่ยวชาญอักขระเวทย์ แถมยังมีบางส่วนที่อยู่ในระดับสวรรค์ก็มี
สมบัติเหล่านี้นับได้ว่าเป็นสมบัติในฝันของผู้เชี่ยวชาญอักขระเวทย์โดยแท้
แต่สิ่งที่มีค่ามากที่สุดก็เห็นจะเป็น ยันต์ผิวหยกทั้ง 35 แผ่นนี้
เนื่องจากทั้งอสูรกลืนสวรรค์และสุดยอดธนูที่ถูกวาดโดยหลิงตู้ฉิง นั้นจะไม่มีอำนาจมากขนาดนั้นแน่นอนหากปราศจากยันต์ผิวหยกที่ใช้ในการสำแดงอำนาจ
ตราบใดที่หลิงตู้ฉิงยอมเจียดเวลามาวาดมันบ้าง เขาก็จะสามารถวาดอะไรต่อมิอะไรได้เป็นจำนวนมาก และมันจะกลายเป็นเครื่องป้องกันชั้นเลิศให้กับผู้คนที่อยู่ข้างกายเขาในตอนนี้
เมื่อชื่นชมเหล่ายันต์ผิวหยกจนพอใจ เขาจึงเก็บมันเข้าไปในแหวนมิติของตัวเองโดยไม่มีความคิดที่จะขายมัน ส่วนสมบัติอื่น ๆ ที่เหมาะกับผู้เชี่ยวชาญอักขระเวทย์นั้น เขาก็ไม่มีความคิดที่จะขายเช่นกัน ในเมื่อตอนนี้เขามีเงินอยู่มากมายแล้วเขาก็ไม่มีความคิดที่จะขาย และเลือกที่จะเก็บมันไว้กับตัวเองไปก่อน
นอกจากเหล่าสมบัติที่ได้มาจากหมู่ตึกหยูอี่แล้ว หลิงตู้ฉิงก็ยังตรวจสอบแหวนของจื่อคง และเมื่อเขาได้เห็นจำนวนสมบัติที่อยูในแหวนนั่น เขาก็ต้องยิ้มกว้างอีกครั้ง
เนื่องจากตาแก่ขอบเขตหลุดพ้นสามัญผู้นี้ เก็บสะสมสิ่งของล้ำค่าต่าง ๆ ไว้ในแหวนมากมายจริง ๆ มูลค่าของสิ่งของในแหวนของตาแก่นี่ หากไม่นับรวมยันต์ผิวหยกแล้วล่ะก็ มันมีมูลค่ามากกว่าความมั่งคั่งของหมู่ตึกหยูอี่เสียอีก!
เอาแค่เหรียญคริสตัลระดับสวรรค์อย่างเดียวก็มีเป็นพันเหรียญแล้ว ซึ่งทำให้กระเป๋าของเขาตุงขึ้นทันที
และนอกเหนือจากเหรียญคริสตัลระดับสวรรค์แล้ว มันยังมีวัสดุระดับสวรรค์อีกหลายอย่าง รวมไปถึงวัสดุระดับราชวงศ์อีกมากมาย
“ข้าจะให้ของพวกนี้กับเจ้า” หลิงตู้ฉิงยิ้มพลางแจกจ่ายเหรียญคริสตัลระดับสวรรค์ให้กับคนอื่น ๆ แม้แต่กงหนิวและเสี่ยวเยว่เฟิงเองก็ยังได้รับไปคนละเป็นสิบเหรียญ ซึ่งจำนวนขนาดนี้สำหรับพวกเขาแล้วมันถือว่าเป็นลาภก้อนโต
นอกเหนือจากบรรดาวัสดุ เหรียญคริสตัล โอสถ หลิงตู้ฉิงยังได้สมบัติวิเศษระดับสวรรค์ที่เหลืออยู่เพียงครึ่งหนึ่งของจื่อคงมาด้วย ซึ่งมันมีความสำคัญเป็นอย่างมาก
“ตาแก่นั่นบ่มเพาะกฎแห่งสายลม สมบัติวิเศษระดับสวรรค์ที่เหลืออยู่ครึ่งหนึ่งของเขานั้นตอนนี้คงไม่มีสามารถนำมันไปใช้ได้ รอหลังจากที่เรากลับออกมาจากเขตแดนวิญญาณผู้ล่วงลับก่อน แล้วข้าจะหลอมสมบัติวิเศษอันใหม่ให้พวกเจ้า” หลิงตู้ฉิงพูดกับมี่ไลและหลิวเฟ่ยเฟ่ย
เมื่อได้ยินเช่นนี้ทั้งคู่ต่างพยักหน้าด้วยความตื่นเต้น
ไม่นานต่อมา เสี่ยวเยว่เฟิงก็กลับมาพร้อมกับธงค่ายกล และหลังจากที่หลิงตู้ฉิงนำมันไปติดตั้งที่บริเวณรอบ ๆ สวนด้านหลังแล้ว พลังวิญญาณที่ด้านหลังนั้นก็มีความหนาแน่นเพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
เมื่อเห็นว่าทุกอย่างเสร็จเรียบร้อย มี่ไลต่างก็ถามขึ้นด้วยความสงสัย ซึ่งผู้คนที่อยู่รอบ ๆ ต่างก็ให้ความสนใจเช่นกัน “สามี ท่านให้พวกเราดูหน่อยได้ไหมว่ายันต์สั่งสวรรค์นั่นหน้าตามันเป็นยังไง? และช่วยบอกพวกเราหน่อยว่าที่จริงแล้วมันเอามาทำได้กันแน่?”
“ได้สิ” หลิงตู้ฉิงหยิบยันต์สั่งสวรรค์ขึ้นมาและส่งให้กับทุก ๆ คนดู
มี่ไลและทุก ๆ คน เมื่อได้รับมันมา พวกเขาก็สัมผัสได้ถึงความแปลกประหลาดของมันทันทีเมื่อพวกเขาถือมันไว้ในมือ
ลักษณะของมันก็เหมือนแผ่นกระดาษธรรมดา ๆ แต่สิ่งที่แตกต่างก็คือเวลาที่พวกเขาถือมันไว้มันเหมือนกับว่ากระดาษแผ่นนี้มันไม่มีตัวตน?
“นายท่าน นี่มันคือยันต์สั่งสวรรค์จริง ๆ งั้นเหรอ?” ทุกคนต่างถามขึ้นด้วยความงุนงง “ทำไมไอ้ยันต์อันนี้มันเหมือนของปลอม? แล้วมันทำอะไรได้กันแน่?”