เมื่อพูดจบ มู่หรงเฟิงก็เหลือบมองใต้เท้าจางอย่างเย็นชา
ใต้เท้าจางเก็บดอกไม้ปีศาจกลับไปด้วยใบหน้าเคร่งขรึม เขานำผ้ามาคลุมไว้อีกครั้งและส่งให้คนนำไปเก็บ
นี่เขากำลังข่มขู่ซูจิ่นซีหรือ?
หากวันนี้ซูจิ่นซีไม่ตอบตกลงเป็นพระชายามหาอุปราช มู่หรงเฟิงจะไม่มอบดอกไม้ปีศาจให้นางหรือ?
อีกทั้งเวลานี้ใกล้จะถึงยามซวีแล้ว ในอีกสองชั่วยาม ดอกไม้ปีศาจจะกลายเป็นยาพิษ
“องครักษ์ เชิญพระชายามหาอุปราชไปตำหนักจื่อเฉิน! ”
มู่หรงเฟิงยกมือ องครักษ์ห้าหกนายจึงรีบมาล้อมอยู่ด้านหน้า และยกซูจิ่นซีขึ้น
นี่เป็นการเชิญที่ใดกัน? เป็นการลักพาตัวชัดๆ เป็นการใช้กำลังบังคับ!
มู่หรงเฟิงสะบัดแขนเสื้ออย่างดุดันจนเกิดลมพัดแรง เขาเดินออกไปจากสวนดอกไม้ของวังหลวง องครักษ์ที่ควบคุมตัวซูจิ่นซีจึงรีบเดินตามไป
แม้ในใจของทุกคนจะเกิดความสงสัย และคาดเดากันไปต่างๆ นานา ทว่าพวกเขาไม่กล้าพูดอันใดให้มากความ
ใต้เท้าจางรีบคลายความกังวลใจของทุกคน
“ใต้เท้าทุกท่าน คณะทูตทุกท่าน โปรดอดทนรอสักครู่อย่าได้ใจร้อน อย่าได้กังวลใจ มหาอุปราชมีพระประสงค์จะอภิเษกสมรสกับปราชญ์แห่งแคว้นในคืนนี้ วันนี้ทุกท่านต่างยุ่งกันมาทั้งวันแล้ว หากยังมีเรี่ยวแรงก็อยู่เพลิดเพลินกับงานอภิเษกสมรสที่จะจัดขึ้นต่อจากนี้ หากรู้สึกเหน็ดเหนื่อย สามารถกลับไปพักผ่อนก่อนได้ แล้วค่อยมาร่วมงานอภิเษกในวันพรุ่งนี้”
ผู้ใดบ้างที่ไม่เข้าใจอุปนิสัยของมู่หรงเฟิง?
แม้จะรู้ดีว่าซูจิ่นซีถูกบีบบังคับด้วยกำลัง ทว่าผู้ใดจะกล้าพูด?
พวกเขาต่างกล่าวคำแสดงความยินดีอย่างต่อเนื่อง
ซูจิ่นซีถูกองครักษ์ของมู่หรงเฟิงควบคุมตัวออกนอกสวนดอกไม้วังหลวงและตรงไปยังตำหนักจื่อเฉิน
ตำหนักจื่อเฉินเป็นที่ประทับในวังของมู่หรงเฟิง เขาคิดจะทำอันใดจึงรีบร้อนให้องครักษ์ควบคุมตัวซูจิ่นซีออกจากสวนดอกไม้วังหลวง และมุ่งตรงไปยังที่พำนักในวังโดยไม่กลับจวน?
หรือที่พูดว่าจะดำเนินการแต่งตั้งนางเป็นพระชายาให้เสร็จสิ้นในค่ำคืนนี้ จะเป็นความจริง?
เดิมทีซูจิ่นซีต้องการดิ้นรนให้หลุดพ้นจากองครักษ์ที่กำลังควบคุมตัวนาง
จากความสามารถของนางในตอนนี้ก็อาจทำได้ อย่างไรก็ตาม แม้นางจะพยายามจนหลุดพ้น แล้วจะเป็นอย่างไรต่อ?
ที่นี่เป็นตำหนักใน ผู้ใดจะรู้ว่ามียอดฝีมือคอยซุ่มโจมตีอยู่มากน้อยเพียงใด?
ต่อให้นางหลุดพ้นจากการควบคุม ก็ยากที่จะออกไปจากวังนี้ได้!
ต่อให้มีความสามารถออกจากวังนี้ได้ ทว่าดอกไม้ปีศาจเล่า?
เมื่อเห็นสิ่งที่อยู่ในมือหลุดลอยไป จะให้นางทำเป็นไม่สนใจอู๋จุนได้อย่างไร?
อย่างไรเสีย ที่อู๋จุนต้องสูญเสียพลังภายในไปทั้งหมดก็เพราะนางเป็นต้นเหตุ ซูจิ่นซีไม่อาจทำเรื่องทรยศเช่นนี้ได้
ภายใต้ความคิดอันหลากหลาย ซูจิ่นซีไม่ได้พยายามต่อสู้ดิ้นรนหรือต่อต้าน นางปล่อยให้องครักษ์ควบคุมตัว และเดินตามหลังมู่หรงเฟิงผ่านเข้าไปยังตำหนักใน
ทว่าความคิดของซูจิ่นซีไม่ได้หยุดนิ่ง นางครุ่นคิดหาวิธีจัดการกับสถานการณ์ที่อยู่ตรงหน้าอย่างฉับไว
เมื่อใกล้ถึงตำหนักจื่อเฉิน ทันใดนั้น ซูจิ่นซีก็ตะโกนเรียกมู่หรงเฟิง
มู่หรงเฟิงหยุดเดินในทันที ทว่าเขาไม่ได้หันหลังกลับมา
“มู่หรงเฟิง แท้จริงแล้ว ท่านไม่ได้โปรดปรานข้า และไม่ได้ปรารถนาให้ข้าเป็นพระชายา ท่านทราบดีว่าผู้ที่อยู่ในใจของข้าไม่ใช่ท่าน ในเมื่อเป็นเช่นนั้น เหตุใดท่านจึงทำเช่นนี้? ปล่อยข้าไปเถิด! มอบดอกไม้ปีศาจให้ข้านำไปช่วยเหลือสหาย ข้ารับรอง ขอเพียงพลังภายในของอู๋จุนฟื้นคืน ข้าจะกลับมา ท่านโปรดเมตตาข้าด้วยเถิด”
มู่หรงเฟิงหันหลังกลับมาทันที แววตาของเขาปรากฏความเย็นชา ก่อนจะเดินเข้ามาหาซูจิ่นซีและบีบคางของนางแน่น
“ซูอวิ๋นคาย เจ้าฉลาดมากจริงๆ เจ้ามองเรื่องต่างๆ ได้กระจ่างชัดยิ่งกว่าผู้อื่น ทว่าเป็นความฉลาดในทางที่ผิด! ความจริงเป็นดั่งที่เจ้าพูด ข้าไม่ได้โปรดปรานเจ้า ยิ่งไม่ได้ต้องการให้เจ้าเป็นพระชายา ทว่าตอนนี้ข้าเปลี่ยนใจแล้ว ข้าต้องการตัวเจ้า! ”
มู่หรงเฟิงพูดพลางสะบัดคางซูจิ่นซีอย่างแรง จากนั้นจึงเก็บมือไว้ในแขนเสื้อกว้าง และหันหลังเดินตรงไปด้านหน้า
เหล่าองครักษ์ไม่มีท่าทีลังเลและไม่กล้าชักช้า พวกเขารีบควบคุมตัวซูจิ่นซีและเดินต่อไป
ดวงตาซูจิ่นซีเปล่งประกาย นางครุ่นคิดอย่างรวดเร็ว
“มู่หรงเฟิง เป็นเพราะหน้าตาของข้าเหมือนนางใช่หรือไม่? แม้หน้าตาเหมือนกัน ทว่าข้าไม่ใช่นาง ในใจของท่าน ข้าเป็นเพียงเงาของนางเท่านั้น ท่านทำเช่นนี้ เป็นการทำผิดต่อนางไม่ใช่หรือ? สิ่งที่ท่านทำ คู่ควรกับการเสียสละของนางแล้วหรือ? ”
คำพูดของซูจิ่นซีดึงดูดมู่หรงเฟิงได้สำเร็จ มู่หรงเฟิงหยุดเดินและหันกลับมาอีกครั้ง
ครั้งนี้ เขาไม่ได้ลงมือกับซูจิ่นซี ทว่าเขาจ้องมองซูจิ่นซีด้วยสายตาเย็นชา
“เจ้าจะเข้าใจอันใด? เข้าใจหรือไม่ว่าสิ่งใดคือการเสียสละ? นางเคยเสียสละสิ่งใดให้ข้า? ”
ไม่ได้เสียสละ หรือว่าทรยศ?
สตรีลึกลับบนภาพวาดที่แขวนไว้ในตำหนักฉินเจิ้ง สตรีผู้ที่มีใบหน้าคล้ายนางและหลิงเซียวจวิ้นจู่มาก นางเป็นใครกันแน่?
ระหว่างนางกับมู่หรงเฟิง มีความเกี่ยวข้องกันอย่างไร?
แม้ซูจิ่นซีจะครุ่นคิดอย่างรวดเร็ว ทว่าไม่อาจทันต่อเหตุการณ์ที่อยู่ตรงหน้า
มู่หรงเฟิงไม่พูดอันใดอีก เขาสั่งให้คนปิดปากซูจิ่นซี และจับนางโยนเข้าไปในตำหนักจื่อเฉิน
ร่างของซูจิ่นซีถูกโยนลงพื้นอย่างรุนแรง นางไม่รับรู้ถึงความเจ็บปวดใด ความคิดของนางคอยเตือนอย่างหนักแน่นว่า นางไม่อาจอยู่ที่นี่ได้ ไม่อาจเป็นพระชายาของมู่หรงเฟิง ยิ่งไม่อาจเสียเวลาในการนำดอกไม้ปีศาจไปฟื้นฟูพลังภายในให้อู๋จุน ไม่เช่นนั้น นางคงไม่อาจให้อภัยตนเองไปตลอดชีวิต ดังนั้น นางจึงรีบลุกขึ้น
“มู่หรงเฟิง ท่านบ้าไปแล้วหรือ? ท่านเห็นอย่างชัดเจนว่าข้าคือซูอวิ๋นคาย หาใช่สตรีที่ท่านรอคอย มู่หรงเฟิง ท่านมีสติหน่อยเถิด”
ซูจิ่นซีพยายามคว้าเสื้อของมู่หรงเฟิงไว้แน่น
ทว่ามู่หรงเฟิงกลับมองซูจิ่นซีด้วยสายตาเย็นชา
“เจ้ากับนางแตกต่างกันอย่างไร? ”
ซูจิ่นซียังไม่ทันได้ตอบโต้ มู่หรงเฟิงก็สะบัดมือซูจิ่นซีออก และผลักประตูเดินจากไป
“ปรนนิบัติพระชายาเปลี่ยนเป็นชุดอภิเษก หากเกิดความผิดพลาด ประหารไม่เว้น! ”
“เพคะ! ”
นางกำนัลที่ยืนอยู่ด้านนอกตำหนักรีบตอบรับอย่างระมัดระวัง
เดิมที ซูจิ่นซีต้องการตามไปอธิบายกับมู่หรงเฟิงอีกครั้ง ทว่านางเพิ่งเดินไปได้สองก้าว ทันใดนั้นก็หยุดฝีเท้าลง
เรื่องในวันนี้เหมือนมีบางอย่างผิดปกติ
เช่น… หลิงเซียวจวิ้นจู่มีวรยุทธ์ได้อย่างไร?
ในเมื่อเรื่องที่นางเป็นวรยุทธ์ถูกปกปิดมานานหลายปี เหตุใดวันนี้นางจึงเปิดเผยและลากซูจิ่นซีลงน้ำไปด้วย?
นอกจากนั้น… ยังมีนางกำนัลทั้งสามคนในห้องแต่งตัวสตรีที่มีท่าทางน่าสงสัย แม้ซูจิ่นซีจะระมัดระวังอย่างมาก ทว่านางไม่อาจป้องกันกลอุบายอันซับซ้อนที่ถูกวางแผนไว้อย่างดี
ในที่สุด ซูจิ่นซีก็ตกหลุมพรางของนางกำนัลทั้งสาม และสวมชุดที่เหมือนกับสตรีในภาพวาดซึ่งแขวนไว้ที่ตำหนักฉินเจิ้ง
ทั้งหมดนี้ ราวกับมีผู้บงการอยู่เบื้องหลัง คอยวางแผนให้นางดึงดูดความสนใจจากมู่หรงเฟิง วางแผนให้นางเปิดเผยใบหน้าที่แท้จริงซึ่งเหมือนกับคนผู้นั้น เพื่อดึงดูดมู่หรงเฟิงและทำให้มู่หรงเฟิงเข้าสู่สภาวะบ้าคลั่ง
ตอนนี้ดูเหมือนสถานการณ์กำลังพัฒนาไปตามที่คนผู้นั้นคาดการณ์ไว้ ทว่าเขาวางแผนทั้งหมดนี้เพื่อจุดประสงค์อันใด?
เขาคือใคร?
เมื่อนึกมาถึงจุดนี้ ในใจของซูจิ่นซีก็ไม่ร้อนรนอีกต่อไป
ซูจิ่นซีค่อยๆ ทิ้งตัวนั่งลงบนเก้าอี้ ในความคิดพลันปรากฏภาพผู้คนที่อยู่รอบกาย นางจึงพิจารณาอย่างละเอียดครั้งหนึ่ง
ในโลกนี้ หลายครั้งที่บางสิ่งบางอย่างเกิดขึ้นโดยที่นางไม่สามารถควบคุมได้
บางครั้ง เจ้าไม่ได้ล่วงเกินผู้ใด ทว่าอาจสร้างศัตรูกับอีกฝ่าย ตั้งแต่เข้ามาในแคว้นหนานหลี ซูจิ่นซีได้สร้างศัตรูไว้มากมาย
ตัวอย่างเช่น ท่านแม่ทัพใหญ่จง จงเนี่ย ตัวอย่างเช่น มู่หรงเฟิง หรืออีกตัวอย่างหนึ่งคือหลิงเซียวจวิ้นจู่ ที่ภายนอกดูเข้ากับนางได้ดี ด้วยรูปลักษณ์ที่ไร้เดียงสา ทว่าแท้จริงแล้ว กลับมีความสัมพันธ์ส่วนตัวที่ซับซ้อนดั่งเกลียวคลื่น
อีกตัวอย่างหนึ่ง… วันนี้ ในสวนของวังหลวงมีผู้คนจำนวนมากที่ต้องการแย่งชิงดอกไม้ปีศาจ ศัตรูเหล่านั้น อาจไม่ได้เข้าร่วมต่อสู้โดยตรง ทว่าเป็นผู้ที่อยู่เบื้องหลัง คอยบงการแผนการอันซับซ้อนก็เป็นได้
ผู้ที่อยู่เบื้องหลังแผนการนี้ เป็นผู้ใดกันแน่?