บทที่ 435 สวัสดีครับคุณยายจ

ข้าคือเขยผู้ยิ่งใหญ่

“จากข้อมูลที่เราได้มาจากสายตำรวจ คนที่ซ่อนตัวอยู่ในโกดัง ล้วนเป็นผู้สมรู้ร่วมคิดของผู้ก่อการร้ายที่จี้เครื่องบินครั้งก่อน อีกทั้ง……”

“จอห์น นักฆ่าสากลที่ทั่วโลกต้องการตัวก็อยู่ในนั้นด้วย!”

ภายในบ้านพักส่วนตัวใกล้ท่าเรือ จี้เยียนหรันบอกสถานการณ์ในตอนนี้ให้เย่เทียนฟังด้วยสีหน้าเคร่งขรึม

หลังจากจี้เยียนหรันโทรมาเป็นครั้งที่สอง และอธิบายสถานการณ์คร่าวๆให้ฟัง เย่เทียนก็พูดอะไรกับเฉินหวั่นชิงนิดหน่อยแล้วรีบมาทันที

แน่นอน ระหว่างทางเย่เทียนก็ไม่ลืมที่จะบอกให้ตี๋ต้าจื้อมาทำหน้าที่แทนเขา

ส่วนดาราดังอย่างแซ่เจีย แน่นอนว่าถูกส่งให้พวกเหอเชิ่ง เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยทั่วไปดูแล

นี่เป็นเรื่องที่ช่วยไม่ได้ ใครใช้ให้เฉินหวั่นชิงคนในใจของเย่เทียนสำคัญกว่ากันล่ะ!

“โจเซฟก็อยู่ในนั้นด้วย?”

เย่เทียนได้ยินแล้วพยักหน้าเล็กน้อยอย่างอดไม่ได้ แม้เขากับเจ้าหมอนี่ไม่เคยคุยกันมาก่อน แต่ก็เคยได้ยินชื่อเสียงเรียงนามของเจ้าหมอนี่มาไม่น้อย

ถึงขนาดเย่เทียนยังจำได้คร่าวๆ ว่าเมื่อชาติก่อนเจ้าหมอนี่ติดอันดับ20แรกของรายชื่อนักฆ่าสากล ค่าหัวพุ่งไปกว่า100ล้าน เป็นบุคคลที่ชั่วช้าสามานย์อย่างสุดขั้ว!

เพียงแต่สิ่งที่ทำให้เย่เทียนงงงวยก็คือ ชายหัวรุนแรงที่ทำเอาผู้คนหวาดกลัวคนนี้ จู่ๆก็มาเจียงหนาน? แถมยังอยู่กับกลุ่มพวกก่อการร้าย?

คิดถึงตรงนี้ เย่เทียนก็ถามขึ้นอย่างอดสงสัยไม่ได้:“พวกคุณได้ข้อมูลมาจากไหน?”

จี้เยียนหรันเลิกคิ้ว “มีอะไรเหรอ? คุณสงสัยว่าจะเกิดปัญหางั้นเหรอ?”

ต้องมีปัญหาแน่ๆ!

เย่เทียนตอบอืมเบาๆ ไอ้คนที่ชื่อจอห์นนี่ยังไงก็เป็นถึงนักฆ่ายอดฝีมือ ปกปิดที่กบดานตลอด แต่มาจีนครั้งนี้ทำไมถึงปล่อยให้จี้เยียนหรันพวกเขารู้ที่กบดานได้ง่ายๆ?

ถ้าแพร่งพรายออกไป คงเป็นที่หัวเราะเยาะของพวกทำอาชีพเดียวกัน?

ชาติก่อนเย่เทียนเป็นทหารรับจ้าง ไม่ต่างอะไรกับนักฆ่ามากนัก รู้หลุมพรางเกี่ยวกับเรื่องนี้ดี

ไม่ใช่ว่าเขาดูถูกตำรวจของเจียงหนาน แต่นักฆ่านั้นซ่อนตัวเก่งมาก แล้วนี่ยิ่งเป็นคนเก่งอย่างจอห์น?

แม้ถูกตรวจเจอจากฝ่ายตำรวจจริง แต่ในแง่ประสิทธิภาพนั้นเป็นไปไม่ได้ที่จะเร็วขนาดนี้!

“ที่จริง พวกเราได้ข้อมูลมาจากสายตำรวจแล้ว……”

ขณะนั้นเอง เจ้าหน้าที่ตำรวจนายหนึ่งรีบอธิบายขึ้นทันที

เย่เทียนได้ยินเช่นนั้น ดวงตาสีดำขลับฉายแววเย็นยะเยือก และรู้สึกตื่นตัวมากขึ้นไปอีก

“เย่เทียน คุณไม่ต้องห่วง! ที่มาของข้อมูลนี้เชื่อถือได้ ฉันรับรองว่าไม่ใช่กับดักแน่นอน!”

ทว่าเย่เทียนยังไม่ทันได้พูด จี้เยียนหรันก็พูดตบอกรับประกันขึ้นมา

เห็นสีหน้าเต็มไปด้วยความมั่นใจของจี้เยียนหรัน ความกังวลที่ติดอยู่ในลำคอของเย่เทียนก็หายไป แล้วถามกลับไป:“ว่ามาเถอะ คุณอยากให้ผมทำอะไร?”

“เอ่อ?!”

จี้เยียนหรันชะงัก แต่ก็ได้สติกลับมาอย่างรวดเร็ว กลอกตามองบนอย่างไม่สบอารมณ์ “แน่นอนฉันหวังว่าคุณจะช่วยเราจับพวกมันทั้งเป็น! ไม่งั้นทำไมถึงฉันไม่เรียกขอกำลังเสริม ให้กองกำลังใหญ่มาแล้วทำให้พวกมันไหวตัวทัน? ”

“ที่คุณพูดก็ถูก แม้ไม่มีที่ซ่อนรอบๆโกดังที่พวกมันซ่อนตัวอยู่ แต่คนที่อยู่ใกล้ๆก็พบได้ง่าย แต่เป็นเช่นนี้ พวกมันคิดจะหนีก็ยากเหมือนกัน”

“ถ้าไม่ติดข้อเสนอก่อนหน้านี้ที่ต้องไว้ชีวิตพวกมันเพื่อสอบปากคำ พวกมันไปไหนไม่รอดแน่ ”

เย่เทียนโผล่หน้าออกไปดูรอบๆโกดังที่ไกลออกไปอย่างระมัดระวัง แล้วพยักหน้าเหมือนคิดอะไรอยู่ “ผมบอกคุณไว้ก่อนนะ เดี๋ยวถ้าลงมือแล้วผมไม่กล้ารับประกันว่าจะเกิดอะไรขึ้น ผมจะพยายามไว้ชีวิตสัก2-3คน ”

“หัวหน้าจี้ ฝ่ายตรงข้ามมีการเคลื่อนไหวแล้ว!”

ขณะนั้นเอง เจ้าหน้าที่ตำรวจที่รับผิดชอบการสังเกตการณ์หันหน้ามาอย่างรวดเร็ว พลางตะโกนเบาๆมาทางจี้เยียนหรัน

ทำให้เย่เทียนกับจี้เยียนหรันหยุดพูดคุยกัน แล้วโผล่หน้าออกไปนอกหน้าต่างอย่างระมัดระวัง พลางส่องมองโกดังที่ไกลออกไปด้วยกล้องส่องทางไกล

เห็นชายต่างชาติสองคนเดินออกมาจากโกดัง ตรงไปขึ้นรถที่จอดอยู่หน้าโกดัง ค่อยๆสตาร์ทเครื่องยนต์ไม่รู้จะออกไปไหน

“ตอนแรกผมกังวลนิดหน่อย แต่ในเมื่อพวกแกกล้าออกมา งั้นก็จัดการง่ายหน่อย!”

เย่เทียนเห็นเช่นนั้น ก็ยิ้มยกมุมปากอย่างชั่วร้าย

“เย่เทียน คุณมีไอเดียดีๆอะไร?”

จี้เยียนหรันที่อยู่ข้างๆได้ยินเช่นนั้น ก็รีบหันมามองเย่เทียนด้วยความสงสัย

“ง่ายมาก!”

เย่เทียนดีดนิ้วอย่างที่ชอบทำเป็นนิสัย พลางพูดด้วยความมั่นใจสุดๆ :“คุณส่งคนไปจับไอ้สองคนนั้น ส่วนพวกที่เหลืออยู่ในโกดัง ปล่อยให้ผมจัดการก็พอ!”

“ให้คุณไปจัดการคนเดียว?”

จี้เยียนหรันชะงัก มองเย่เทียนตั้งแต่หัวจรดเท้าอย่างเป็นกังวล

แม้เธอรู้ดีว่าเย่เทียนนั้นไม่ธรรมดา แต่พวกที่อยู่ในโกดังก็ไม่ใช่พวกที่จะหาเรื่องได้ง่ายๆเช่นกัน โดยเฉพาะคนที่มีชื่อเหม็นฉาวโฉ่อย่างจอห์นนั้นยิ่งน่ากลัวสุดๆ

เย่เทียนเข้าไปคนเดียว ถ้าเกิดอะไรไม่คาดคิดขึ้น งั้นก็ต้องตายอย่างไม่ต้องสงสัยเลย?

“เราสนิทกันขนาดนี้ คุณคงไม่ไม่เชื่อใจผมหรอกใช่ไหม?”

เมื่อสังเกตเห็นแววตาแปลกๆของจี้เยียนหรัน เย่เทียนก็เบ้ปากอย่างเหยียดๆ “เสียแรงที่ผมช่วยคุณมาตั้งหลาย คิดไม่ถึงว่าคุณไม่เห็นความสามารถของผม ”

“อีกอย่างถึงแม้ผมสู้พวกมันไม่ได้ แต่ผมก็ไม่ได้โง่ คิดว่าไม่หนีเหรอ?”

จี้เยียนหรันก็ยังไม่ค่อยวางใจ “เย่เทียน คุณแน่ใจนะว่าไม่เป็นอะไร?”

“ได้! ในเมื่อคุณไม่เชื่อผม งั้นคุณให้ผมมาทำไม? ผมไปล่ะ พวกคุณจัดการกันเอาเองเถอะ!”

เย่เทียนพูดพลางทำท่าจะเดินออกไป

“อย่าๆๆ!”

มีหรือที่จี้เยียนหรันจะปล่อยให้เย่เทียนไป รีบเอื้อมมือไปดึงเย่เทียนไว้ “แล้วแต่คุณ แล้วแต่คุณหมดเลยโอเคไหม?”

“พูดแบบนี้ตั้งแต่แรกก็จบ?”

เย่เทียนยิ้มพอใจพลางมองกวาดจี้เยียนหรันตั้งแต่หัวจรดเท้ารอบหนึ่ง “คุณเอาใจเก็บไว้ในท้องเถอะ! ผมจะไม่ตายจนกว่าจะเปลี่ยนให้คุณมาเป็นนางแบบได้สำเร็จอย่างแน่นอน!”

จี้เยียนหรันกลอกตามองบนใส่อย่างเอือมระอา แล้วดึงปืนพกออกจากเอวส่งให้ “เอาไป ถ้าเกิดอะไรไม่คาดคิดขึ้นจริงๆได้ใช้แน่”

แม้มันไม่ได้ใช้หรอก แต่เย่เทียนไม่ปฏิเสธความหวังดีของจี้เยียนหรัน รับปืนพกมาแล้วควงเล่น

“ทำไมผมรู้สึกว่าวันนี้คุณจู้จี้จุกจิกเป็นพิเศษ? แตกต่างจากเมื่อก่อนที่เด็ดเดี่ยว เหมือนเป็นคนละคนเลย!”

“คุณยายจี้ คุณกำชับเสร็จรึยัง? ถ้ายังกำชับไม่เสร็จก็รีบพูดให้หมด อย่าบีบทีละนิดๆเหมือนบีบหยอดยาสีฟัน”

“ถ้ากำชับเสร็จแล้ว ก็รีบตามไอ้สองคนที่ออกไปก่อนหน้านี้ นี่มันผ่านไปนานแค่ไหนแล้ว? ระวังพวกมันจะหนีไปแล้วจริงๆ!”

“พวกคุณสองคนอยู่ที่นี่ ถ้าเกิดอะไรขึ้นกับเย่เทียนจริงๆ พวกคุณเข้าไปหนุนทันที!”

จี้เยียนหรันส่ายหน้าไปมาอย่างจนปัญญา พลางชี้นิ้วสั่งเจ้าหน้าที่ตำรวจสองนาย แล้วจึงจะยืนขึ้น “ส่วนคนอื่นๆไปกับฉัน ไปจับสองคนที่เพิ่งออกไปก่อนหน้านี้!”

เมื่อเห็นกลุ่มจี้เยียนหรันออกไป เย่เทียนก็ไม่รอช้า รีบเดินลิ่วไปด้านนอกทันที……