บทที่ 232

ขอร้อง

มือของโม่อ้ายลี่กำแน่นขึ้น สีหน้าของเธอค่อยๆซีดลงเล็กน้อย “ใช่…” แต่ส่วนที่เหลือเธอพูดออกไปไม่ได้

“ฉันหวังว่าพี่ชูจะได้เจอผู้หญิงที่ดีกับเขามากๆ…” มู่หรงเสวี่ยพูด

“เธอไม่ได้ชอบชูอี้เสิ่นงั้นเหรอ?!”

มู่หรงเคาะไปที่หน้าผากของโม่อ้ายลี่ “เธอคิดว่ายังไงล่ะ?! ฉันมีแฟนแล้ว ในชีวิตนี้ฉันจะต้องอยู่กับเขา…” ตอนนี้เธอไม่รู้ว่าฮวงฟูอี้จะกำลังทำอะไรอยู่

“แฟนงั้นเหรอ?! ใครกันเหรอ?” โม่อ้ายลี่ถาม เสี่ยวเสวี่ยไปมีแฟนมาตั้งแต่เมื่อไรกัน เธอไม่รู้เรื่องเลยสักนิด

“ฮวงฟูอี้ไง ครั้งที่แล้วเธอก็เจอเขาที่บ้านฉันไงจำได้ไหม?” มู่หรงเสวี่ยพูด

โม่อ้ายลี่นึกถึงชายเย็นชา รูปร่างหน้าตาสมบูรณ์แบบโผล่ขึ้นมาเบื้องหน้าเธอ ขนาดเธอเองก็ยังรู้สึกชื่นชมใบหน้าของชายคนนั้น “คนนั้นเอง…”

“ใช่! อย่ามาคุยเรื่องฉันเลย วันนี้เธอเป็นอะไรงั้นเหรอถึงได้ร้องไห้แบบนั้น…” มู่หรงเสวี่ยถาม

จู่ๆโม่อ้ายลี่ก็เงียบไป แม้แต่รอยยิ้มบนใบหน้าก็ดูเหมือนจะจางลงไปมากในทันที

“มีอะไรเหรอ?! เธอถูกรังแกอะไรหรือเปล่า?” มู่หรงเสวี่ยถามอย่างเป็นห่วง

ดวงตาของโม่อ้ายลี่เปลี่ยนเป็นสีแดงในทันที “เสี่ยวเสวี่ย ฉัน…ฉันต้องขอโทษเธอด้วย…”

“ทำไมเธอต้องมาขอโทษฉันด้วย?! เกิดอะไรขึ้นงั้นเหรอ?”

“เสี่ยวเสวี่ย ฉัน…ชูอี้เสิ่น…หื้อหื้อ…” โม่อ้ายลี่อดไม่ได้ที่จะร้องไห้ออกมา

“พี่ชูงั้นเหรอ?! เขารังแกเธอเหรอ!!! ฉันจะไปจัดการเขาเอง…” มู่หรงเสวี่ยลุกขึ้นและอยากที่จะไปหาชูอี้เสิ่น

“ไม่นะ อย่าไป!” โม่อ้ายลี่จับแขนมู่หรงเสวี่ยไว้ทันที

“นี่มันเรื่องอะไรกันเนี่ย?” มู่หรงนั่งลงและถามอีกครั้ง

“ฉันชอบชูอี้เสิ่น ฉันขอโทษจริงๆนะเสี่ยวเสวี่ย ฉันควบคุมความรู้สึกตัวเองไม่ได้จริงๆ…” โม่อ้ายลี่พูดในระหว่างที่ร้องไห้

เธอรู้ว่าชูอี้เสิ่นชอบเสี่ยวเสวี่ย แต่เธอก็ยังชอบชูอี้เสิ่นและนี่ทำให้เธอรู้สึกผิดที่ทรยศเสี่ยวเสวี่ย

มู่หรงเสวี่ยตะลึง เธอไม่รู้มาก่อนเลยว่าอ้ายลี่จะชอบพี่ชูจริงๆ

“อ้ายลี่ เธอชอบพี่ชูแล้วจะมาขอโทษฉันทำไมล่ะ? ฉันไม่ได้กำลังคบกับพี่ชูซะหน่อย ฉันแค่กังวลว่าเธอจะเจ็บ…” เธอเองก็รู้ความรู้สึกของพี่ชูด้วยเหมือนกัน ดังนั้นเมื่อโม่อ้ายลี่ชอบพี่ชู เธอก็กลัวว่าเส้นทางความรักคงจะไม่ง่ายเท่าไร เธอมองไปที่อ้ายลี่ที่กำลังร้องไห้โฮและรู้สึกกดดันเล็กน้อย

รักแรกเป็นเรื่องที่เจ็บปวดที่สุดเพราะมันจะถล้ำลึกลงไปในทุกๆวัน และการจะถอนตัวออกมาก็เป็นเรื่องที่ยากมาก

“เสี่ยวเสวี่ย เขาไม่ได้สนใจฉันเลย…หื้อหื้อ…ไม่ว่าฉันจะโทรหรือส่งข้อความไปหาเขามากแค่ไหน…เขาก็ไม่เคยตอบกลับมาหาฉันเลย…หื้อหื้อ…” โม่อ้ายลี่อดไม่ได้ที่จะร้องไห้กับผ้าห่ม

มู่หรงเสวี่ยคิดถึงฮวงฟูอี้แต่เธอก็ไม่เหมือนกับโม่อ้ายลี่ ยังไงซะเธอก็มีประสบการณ์มาสองชีวิตแล้วและความรักไม่ใช่ความตั้งใจแรกของเธอ ดังนั้นเธอจึงรู้ที่จะไล่ตามสิ่งที่เธอต้องการและจะไม่ยอมแพ้ง่ายๆ

เธอตบที่ไหล่ของโม่อ้ายลี่ซึ่งกำลังสะอื้น “อ้ายลี่ เธอชอบเขามากจริงๆเลยใช่ไหม?! ต้องเป็นเขาใช่ไหม?” ถึงแม้เธอจะหวังให้มีคนดีๆมาชอบพี่ชู แต่เธอก็ไม่อยากให้โม่อ้ายลี่หลงรักพี่ชูในตอนนี้ ในตอนที่ความรู้สึกของพี่ชูที่มีต่อเธอยังไม่จางหายไป เธอกลัวว่าอ้ายลี่จะต้องเจ็บปวดเหมือนตอนนี้ที่เธอกำลังมานั่งร้องไห้แบบนี้

“ฉันก็ไม่อยากที่จะ…รักเขา…แต่ฉันควบคุมไม่ได้…หื้อหื้อ…ฉันอยากที่จะเจอเขาแต่ก็ทำไม่ได้…”

ท่าทางของโม่อ้ายลี่ทำให้เธอคิดว่าพี่ชูน่าจะรู้เรื่องความรู้สึกของโม่อ้ายลี่และเธอคิดว่าเขาจงใจที่จะหลบหน้าเธอ…เธอรู้ว่าท่าทางของพี่ชูคือวิธีที่ดีที่สุดที่จะปฎิเสธ ถึงแม้โม่อ้ายลี่จะต้องเสียใจแต่เธอก็จะไม่ต้องหัวใจสลาย

“ร้องเถอะ ร้องออกมาให้หมด…”

“หื้อหื้อ…”

โม่อ้ายลี่ร้องไห้จนกระทั่งเที่ยงคืน เธอเหนื่อยและหยุดไป โชคดีที่ผนังห้องเก็บเสียงได้อย่างดีมากๆ ไม่งั้นคุณปู่โม่กับพี่โม่เองก็คงจะเป็นห่วงด้วยเหมือนกัน มันดีแล้วที่ตอนนี้ครอบครัวจะไม่เข้ามายุ่งกับเด็กสาวคนนี้

มู่หรงเสวี่ยค่อยๆห่มผ้าห่มให้อ้ายลี่แล้วเธอเองก็นอนลงอีกข้างและหลับไปในที่สุด

ค่ำคืนที่ไร้ความฝัน

เมื่อมู่หรงเสวี่ยลืมตาขึ้นมา เธอก็เห็นว่าโม่อ้ายลี่ตื่นขึ้นมาและอาบน้ำเสร็จเรียบร้อยแล้ว

“เสี่ยวเสวี่ย ฉันกำลังจะมาปลุกเธอพอดีเลย ลุกขึ้นไปล้างหน้าแล้วลงไปทานอาหารเช้ากันเถอะ…”

มู่หรงเสวี่ยมองไปที่โม่อ้ายลี่อย่างไม่ตั้งใจและพบว่าเธอดูสดใสมีพลังมากกว่าเดิมอีก เธอรู้สึกโล่งอกเล็กน้อย ในฐานะเพื่อนที่ดีเธอก็อยากที่จะช่วยเธอแต่เรื่องความรู้สึกของบุคคลที่สามเธอก็จะเข้าไปแทรกแซงไม่ได้ อีกอย่างครั้งหนึ่งพี่ชูก็เคยมาสารภาพกับเธอด้วย ตอนนี้เธอก็ยังไม่ควรที่จะโผล่ไปหาพี่ชูดีกว่าซึ่งเป็นวิธีที่ดีที่สุดที่จะรักษาตัวเองและพี่ชูด้วย ซึ่งเป็นทางที่ดีที่สุดสำหรับโม่อ้ายลี่

“ได้! ฉันตื่นแล้ว” มู่หรงเสวี่ยลุกขึ้นและตอบออกไป

ในระหว่างที่มู่หรงเสวี่ยกำลังอาบน้ำอยู่ โม่อ้ายลี่ก็เดินเข้ามาและพูดว่า “เสี่ยวเสวี่ย ช่วยฉันหน่อยได้ไหม?” เธอไม่มีทางอื่นแล้ว ชูอี้เสิ่นไม่อยากที่จะเจอเธอ เธอมีเพียงเสี่ยวเสวี่ยจริงๆ

มู่หรงเสวี่ยกำลังบ้วนปากและมีความรู้สึกไม่ดีอยู่ในใจ หลังจากที่เธอบ้วนปากเสร็จ ก็หันหัวมามองที่มือของโม่อ้ายลี่ซึ่งเกี่ยวพันไว้ด้วยกัน เด็กสาวที่มักจะร่างเริงอยู่เสมอกลายเป็นคนที่ต้องเจ็บปวดเพราะความรัก

“อยากให้ฉันช่วยยังไงเหรอ…” พูดตามตรง มันคงจะดีกว่าถ้าเธอไม่เข้าไปยุ่งเรื่องนี้

หลังจากที่โม่อ้ายลี่เงียบไปสักพัก เธอก็พูดออกมา “เธอช่วยฉันนัดชูอี้เสิ่นออกมาทีได้ไหม?” เธอกัดริมฝีปาก เธอรู้ว่านี่ออกจะหน้าด้านไปหน่อยแต่มีเพียงเสี่ยวเสวี่ยเท่านั้นที่จะช่วยเธอเรื่องนี้ได้ เธออยากที่จะเจอหน้าเขาทุกวันและคิดถึงเรื่องนี้จนแทบจะเป็นบ้า ทุกคืนเธอจะนึกถึงช่วงเวลาตอนที่เขาจูบเธอและหัวใจเธอก็จะเต้นรัวอย่างบ้าคลั่ง

หลังจากที่มู่หรงเสวี่ยล้างหน้าเสร็จ เธอก็จับมือโม่อ้ายลี่และเดินมานั่งด้วยกันที่เตียง

หลังจากที่นั่งไปสักพักมู่หรงเสวี่ยก็ถอนหายใจเล็กน้อย “อ้ายลี่ เธอขอให้ฉันชวนพี่ชูออกมางั้นเหรอ?! เธอแน่ใจงั้นเหรอ? เธอรู้ใช่ไหม…”

“ใช่! ฉันรู้! แต่จะให้ฉันทำยังไงได้ล่ะ? เขาไม่อยากจะเจอฉัน แต่ถ้าเป็นเธอ เขาจะต้องยอมออกมาแน่ๆ…” ถึงแม้เธอจะรู้สึกเศร้าอย่างมาก แต่เธอก็พร้อมที่จะรับความจริงเรื่องนี้

“อ้ายลี่ เธอต้องใจเย็นๆนะ อันที่จริงฉันคิดว่ามันจะดีกว่าที่ฉันจะไม่ไปเจอพี่ชู เพื่อที่เขาจะได้เดินออกไปจากโลกของฉันให้เร็วที่สุด…อ้ายลี่ เธอชอบเขาจริงๆหรือเปล่า?!” แม้แต่วันนี้เธอก็ยังหวังที่จะสงบใจได้ รักแรกดีที่สุดและน่าสบสนที่สุด

โม่อ้ายลี่กัดริมฝีปากและยอมรับว่าความรู้สึกของชูอี้เสิ่นทำให้เธอลำบากใจเล็กน้อยแต่นอกจากเรื่องนี้แล้วเธอก็ไม่อาจจะควบคุมหัวใจตัวเองได้ “ใช่ ฉันชอบเขาจริงๆ…”

“มู่หรงเสวี่ย ช่วยฉันทีนะ ฉันขอร้องล่ะ…” โม่อ้ายลี่เกือบที่จะลดความนับถือของตัวเองลง

หัวใจของมู่หรงแวบประกายเจ็บปวด ไม่รู้ว่าทำไมเธอเหมือนกับเห็นชีวิตที่แล้วของตัวเองแต่พี่ชูเป็นผู้ชายที่ดี บางทีโม่อ้ายลี่อาจจะโชคดีกว่าเธอ

“อ้ายลี่อย่าทำแบบนี้ ฉันจะช่วยเธอ…”

“จริงเหรอ?! ขอบคุณมากเลยนะเสี่ยวเสวี่ย…”

เมื่อมองไปที่สายตาตื่นเต้นของโม่อ้ายลี่ที่อยู่ตรงหน้า เธอไม่ค่อยมีความสุขเท่าไร ด้วยนิสัยใจคอของพี่ชู เธอกลัวแทนคนทั้งสอง

แต่โม่อ้ายลี่บอกว่ามันจำเป็น เธอก็หวังว่าคนทั้งสองจะได้เจอความรักที่แท้จริง

โม่อ้ายลี่มองมู่หรงเสวี่ยด้วยสายตามีความหวัง ที่กำลังโทรหาพี่ชู

“ฮัลโหลมู่หรง!” ชูอี้เสิ่นกดรับสายแทบจะในทันที

เมื่อได้ยินเสียงที่คุ้นเคย มือมู่หรงที่กำลังถือโทรศัพท์ก็สั่นเทิ้ม “พี่ชู นี่ฉันเองนะคะ!”

โม่อ้ายลี่ที่มองเธออย่างใกล้ชิดตลอดเวลาก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกเสียใจ เขารักเสี่ยวเสวี่ยมากจริงๆจนยอมรับสายเธอโดยไม่ลังเลเลย ต่างกับเธอไม่ว่าเธอจะโทรไปมากแค่ไหนเขาก็ไม่รับสายเธอเลย

“เสี่ยวเสวี่ย ไม่เจอกันนานเลยนะ ช่วงนี้เธอเป็นไงบ้างเหรอ?” ตอนนี้ชูอี้เสิ่นเองก็กังวลอย่างมากเช่นกัน ฝ่ามือนี้ชุ่มไปด้วยเหงื่อไปหมด เขาคิดว่าตัวเองจะไม่ได้รับสายจากมู่หรงเสวี่ยอีกไปตลอดชีวิต

เขารู้ว่าเสี่ยวเสวี่ยกำลังคิดเรื่องอะไร เขาหวังว่าตัวเองจะสามารถลบความรู้สึกที่มีต่อเธอให้ได้เร็วที่สุด เขารู้ดีดังนั้นเขาจึงให้ความร่วมมือ เขาไม่ไปเจอเธอเลยสักครั้ง

“ดีค่ะพี่ชู วันนี้พี่ว่างไหมคะ?” มู่หรงเสวี่ยคุยต่อไม่ได้อีกแล้ว เธอจึงตรงเข้าประเด็นในทันที ยิ่งเธอคุยมากเท่าไร เธอก็ยิ่งรู้สึกผิดมากขึ้นเท่านั้น

“ว่างสิ มีอะไรงั้นเหรอ?” เกิดอะไรขึ้นกับเสี่ยวเสวี่ยหรือเปล่า? เมื่อนึกถึงรายงานที่ลูกน้องแจ้งเขามา เขาเองก็รู้สึกกังวลแต่ก็พยายามที่จะไม่ไปเจอเธอ โชคดีที่วันต่อมาเสี่ยวเสวี่ยก็มีท่าทางปลอดภัยดีทุกอย่าง ไม่งั้นเขาเองก็คงไม่รู้ว่าตัวเองจะทนอยู่นิ่งแบบนี้ได้หรือเปล่า