บทที่ 381 หอคอยแห่งความปรารถนา (1)
– …แชนายอน เป็นยังไงบ้าง?
ในขณะที่กำลังนอนหลับบนผ้าห่มที่นุ่มสบายของเธอ แชนายอน ได้ยินเสียงที่คุ้นเคยทำให้ เธอสะดุ้งลืมตาตื่นขึ้นมา
“ว้ายยย!”
เธอเห็น 2 คนตรงหน้าเธอ
“…พวกนายมาทำอะไรที่นี่?”
“ฉันไม่อยากจะเชื่อเลยว่าเธอหลับ”
เป็นยียอนฮาน และ คิมซูโฮ พวกเขามองเธอและหัวเราะ ใบหน้าของพวกเขาไม่ได้ถูกปิดบังเอาไว้เธอจะไม่รู้ว่าเป็นเพราะ การทดสอบจบลงหรือพวกเขาถอดผ้าคลุมออก
“พวกนายมาทำอะไรที่นี่?”
“…เธอหมายถึงอะไรพวกเราเล่นไพ่กันจนจะจบแล้ว พวกเรากำลังตามหาเพื่อนร่วมทีมของเราที่เหลืออยู่ตอนนี้”
“…อ้อ.”
แชนายอน เก็บลมหายใจของเธอและมองไปรอบๆไม่มีอะไรนอกจากพุ่มไม้และหญิงที่รกร้างรอบๆตัวเธอ เธอรู้สึกเหมือนสิ่งที่เพิ่งเกิดขึ้นคือความฝัน
“งั้นเสื้อคลุมตัวนี้เธอไปได้มายังไงล่ะ” ยียอนฮาน ชี้ไปที่เธอแล้วถาม
แชนายอน เงยหัวเธอ “เสื้อคลุมอะไร?”
“ก็ที่อยู่บนตัวของเธอ”
“นายกำลังพูดถึงอะไร….” แชนายอน มองลงไปที่ร่างของเธอ จากนั้นเธอก็เห็นเสื้อคลุม มันเป็นเสื้อคลุมลึกลับที่อ่อนนุ่มราวกับผ้าไหม
แต่แข็งเหมือนเหล็กและเบาเหมือนขนนก
“อะ-อะไรกัน มันเป็นไอเท็มLV.7!!”
“…จริงเหรอ?”
เมื่อได้ยินเสียงร้องที่น่าตื่นเต้นของ ยียอนฮาน แชนายอน ก็ตรวจสอบคำอธิบายของเสื้อคลุมด้วยความงุนงง
===
[เสื้อคลุม Lv.7 สร้างขึ้นโดยช่างฝีมือหลัก]
○ Lv.7 ดูดซับแรงกระแทก
○ Lv.6 ปรับขนาด
○ Lv.6 ต้านทานพลังเวทมนต์
○ Lv.6 พื้นฟูสภาพ
○ Lv.5 เปลี่ยนความเสียหายเป็นพลังเวทย์ระดับต่ำ
== =
มันเป็นเสื้อคลุม LV.7 จริงๆ เมื่อเห็นสิ่งนี้แชนายอนก็รู้ว่าสิ่งที่เกิดขึ้นมันไม่ใช่แค่ความฝัน
“… .”
แชนายอน ระลึกถึงความทรงจำจางๆจากเสื้อคลุม
– ขอเวลา 3 ปี
คิมฮาจินกระซิบด้วยน้ำเสียงเบาๆจากจิตใต้สำนึกของเธอก่อนที่พลังอันอบอุ่นจะโอบเธอเอาไว้
“เฮ้ เธอได้มันมาจากไหน เธออยากขายให้ฉันไหม? ทำไมเธอไม่ขายละขายมันให้ฉันเถอะ”
“หุบปาก”
แชนายอน ผลัก ยียอนฮาน ออกไปแล้วลุกขึ้นมา
“เสื้อคลุมแบบนี้ไม่เหมาะกับผู้ใช้ที่มีดาบยาวเหมือนเธอ แต่มันสมบูรณ์แบบสำหรับนักสู้ระยะประชิด!”
ในขณะที่ยียอนฮาน ยังคงอยากได้อยู่แต่ในดวงตาของ แชนายอน กลับส่องประกายแสงเจิดจ้า
… 3 ปี
เขาบอกว่าจะให้รออีก 3 ปี
แต่ฉันจะไม่รอต่อไปแล้ว
แม้ว่าฉันจะต้องใช้พลังของครอบครัว ฉันก็จะเปิดเผยความจริงออกมาและไปหาเจ้าบ้านั้นและส่งเสื้อคลุมนี้คืนไป….
“ฉันบอกเธอแล้วว่ามันเหมาะสำหรับนักสู้! ฉันจะให้เงินออมทั้งหมดกับเธอเลย เงินออมทั้งหมดเลยนะ โอ้ยยย ฉันอยากได้หลายอย่างแต่ว่าเจ้านี้ฉันอยากได้เป็น อันดับ 1 เลยตอนนี้!”
“ชิ จะไปไหนก็ไปเลยนะเจ้าบ้า”
*************************************************************************
ผมลืมตาของผมอย่างช้าๆและมองเพดาน สีแดงปักลายทอง มันอาจเป็นเพดานของช่องทางพิเศษ
“นายตื่นแล้วเหรอ?”
เสียงแหบห้าวปลุกความง่วงนอนของผม ผมเอียงศีรษะไปด้านข้าง
เล็กน้อยก็เห็น ชอคจุนกยอง ยืนอยู่ตรงนั่น
“อ๊าก หัวของฉัน….” ผมจับศีรษะแน่นและถามออกมาว่า “เกิดอะไรขึ้น”
“นายหมายถึงอะไรว่า ‘เกิดอะไรขึ้น’”
ชอคจุนกยอง ยกหนังสือขึ้นมา 1 เล่ม
[Lv.1 สุดยอดทักษะพิเศษ – ระเบิดพลัง]
จากรูปลักษณ์ของมัน การทดสอบ คงจะจบลงแล้ว
“นายหมดสติไปเพราะหมดแรง”
“…อ้อ นายได้รับ ระเบิดพลัง แล้วงั้นเหรอ”
ระเบิดพลัง [มันก็คือพลังคลืนเต่านั้นละ] มันเป็นทักษะที่ทุกคนคุ้นเคยจากในการ์ตูนแม้ว่ามันจะฟังดูง่าย แต่มันก็ไม่ควรถูกมองข้ามเพราะ การระเบิดพลัง ใช้ ‘พลังงาน’ ซึ่งรวมถึงพลังเวทมนต์และพลังกายภาพ มันเป็นทักษะระดับสูงที่สมควรได้รับสถานะ ‘สุดยอดทักษะ’ อย่างเต็มภาคภูมิและสามารถแสดงพลังที่น่าตกใจออกมาอย่างไม่อาจประเมินโดยขึ้นอยู่กับผู้ใช้
“ทำไมนายอยากได้มัน?”
“ไม่ นายควรเรียนรู้ทักษะนี้นะ”
คนอย่าง ชอคจุนกยอง นั้นเหมาะกับมันมาก ผมนึกภาพไม่ออกเลยว่าการระเบิดพลังของเขามันจะร้ายกาจขนาดไหน
“…ฉัน?”
“ใช่ มันจะน่าอัศจรรย์เมื่ออยู่ในมือของนาย”
แต่ด้วยความประหลาดใจของฉัน ชอคจุนกยอง มองที่หนังสือทักษะแล้วส่ายหัว
“มันไม่เหมาะกับฉัน”
แม้ว่านั่นคือสิ่งที่เขาพูดแต่เขายังคงเก็บหนังสือทักษะไว้ในคลังของเขา ผมเดาว่าผมจะเห็นเขาตะโกน ‘ระเบิดพลังงงงง~’ ในไม่ช้าละ
“…อ่า.”
ตอนนั้นเองที่ผมจำได้ว่าผมเป็นลมได้ยังไง แน่นอนว่าผมจำคำที่ผมพูดกับบอสได้ ความตกใจที่เธอรู้สึกจะต้องรุนแรงมากสำหรับเธอที่เธอผมเป็นไปลมทันทีแบบนี้ ผมลุกขึ้นมาอย่างรวดเร็ว
“บอสอยู่ไหน”
“ข้างนอก”.
“ข้างนอก?”
“ที่ระเบียงไง”
ชอคจุนกยอง ชี้ไปที่มุมขวาของห้องพิเศษ ช่องพิเศษที่มี 3 ห้องนอนและห้องนั่งเล่นมีระเบียงให้ด้วย
“อืมมมมม… .”
ผมมองไปที่ประตูพร้อมกับมีสัญลักษณ์ [ระเบียง] เขียนอยู่ด้านบน บอสอยู่ข้างนอกหลังประตูมองไปที่ทิวทัศน์ภายนอก
ผมเดินไปอย่างช้าๆ
เคาะ เคาะ
ผมเคาะประตูและสังเกตปฏิกิริยาของเธอ แต่เธอไม่ตอบสนองแม้ว่าจะผ่านไปนาน
เคาะ เคาะ
เพราะเธอไม่ตอบสนองต่อการเคาะครั้งที่ 2 ผมเลยเปิดประตูโดยไม่รอให้เธอบอกผม
“……..”
บอสกำลังนั่งอยู่บนม้านั่งบนระเบียงและมองดูท้องฟ้ายามค่ำคืน
ผมนั่งลงถัดจากเธออย่างระมัดระวังแล้วเงยหน้าขึ้นมองทิวทัศน์เดียวกันที่เธอกำลังดู ดวงจันทร์ถูกซ่อนอยู่หลังเมฆดำมืดและไม่เห็นดาวดวงแม้แต่ดวงเดียวบนท้องฟ้า บอสจ้องมองที่ความมืดมิดอย่างเงียบๆ
“บอส”
ผมเรียกหาเธอ แต่เธอไม่ตอบกลับ
“บอส”
ผมเรียกเธออีกครั้งและอีกครั้งแต่เธอก็ไม่ตอบกลับ
“ผมจะเรียกคุณไปจนกว่าคุณจะตอบผม”
“…………….”
ไหล่ของเธอก็สั่นไหวแล้ว เธอถามด้วยสายตาของเธอจับจ้องอยู่บนท้องฟ้า
“อะไร?”
แค่เพียงคำเดียว แต่ผมรู้สึกได้ถึงความโศกเศร้าของเธอในรู้สึก ผมเลือกคำพูดของผมอย่างระมัดระวังและถามเรื่องที่ธรรมดาๆก่อน
“ผมหลับไปนานแค่ไหนแล้ว”
“…ประมาณ 1 วัน”
“หืมม.”
‘มันค่อนข้างนานเหมือนกันแฮะ’ ผมบ่นกับตัวเองและมองออกไป
ข้างนอกอีกครั้ง ทัศนียภาพภายนอกเปลี่ยนแปลงไปตามการเคลื่อนไหวของรถไฟ แม้ว่าท้องฟ้าจะไม่มีอะไรนอกจากความมืด แต่
ภูมิทัศน์ลึกลับก็แผ่ออกไปด้านล่าง ผ่านภาพลวงตาที่ไม่มีอยู่บนโลกรถไฟจะขึ้นไปที่ชั้น 26 ต่อจากนั้นจะเป็นเวลาที่คิมซูโฮจะเปล่งประกาย
พวกเราที่เหลืออาจจะฆ่ายากขึ้นแม้กระทั่งเจอกับลูกน้องที่อ่อนแอ
ชั้นบนเป็นเวทีที่จัดไว้สำหรับคิมซูโฮผู้ถือดาบศักดิ์สิทธิ์และ
‘ฮีโร่ที่แท้จริง’ ผู้เดินบนเส้นทางแห่งความถูกต้อง
ในขณะที่ผมกำลังคิดเกี่ยวกับสถานการณ์ที่จะเปิดเผยตัวในอนาคตบอสก็ถามออกมาโดยแกล้งทำเป็นไม่สนใจ
“นายจำได้ไหมว่าเกิดอะไรขึ้นก่อนที่นายจะหมดสติ”
อย่างไรก็ตามคำพูดนี้เต็มไปด้วยความปวดร้าวและความทุกข์ทรมาณ ในน้ำเสียงของเธอ ผมพยักหน้าอย่างเงียบๆ
“…นายรู้มานานแค่ไหนแล้ว”
“นานแล้วละ”
“….”
บอสนิ่งเงียบทันที ดูเหมือนว่าเธอไม่สามารถพูดสิ่งที่เธออยากจะพูดออกมาได้ ดังนั้นผมจึงพยายามตอบคำถามที่เธอกลืนลงไปในใจ
“บนชั้นที่ 20 นี่คือสิ่งที่ ด็อปเปิลแกงเกอร์ ของผมบอกว่า
‘ตามหาสาเหตุของความเหงา’ มันสะท้อนถึงตัวผมอย่างชัดเจน”
การซิงโครไนซ์ที่เกิดจากการเจอกับนี้เชื่อมโยงผมกับ คิมชุนดง และส่งผลกระทบต่อจิตใต้สำนึกของผม แน่นอนว่าผมไม่มีแผนที่จะอธิบายเรื่องนี้กับบอส
“ฉันเข้าใจ.”
“จริงสิ…เหตุการณ์กวางโอ้”
ผมยกเหตุการณ์กวางโอ้ ขึ้นมา ในขณะนั้นเองแหล่งกำเนิดของแสงเพียงดวงเดียวก็ปรากฎขึ้นบนท้องฟ้าด้านบน มันคือดาวดวงอันงดงาม
“ผมเป็นผู้รอดชีวิตเพียงคนเดียว”
อย่างที่ผมบอกไปความรู้สึกแปลกๆเกิดขึ้นกับร่างกายของผม แม้ว่าผมจะเป็นคนพูดแต่มันก็รู้สึกเหมือนว่าเป็นตัวผม ด้วยความรู้สึกนี้ผมจึงหยุดพูดแล้วจ้องมองไปที่ดวงตาของบอส
“… .”
ผมอยู่กับบอสมานาน พวกเราแบ่งปันประสบการณ์และความรู้สึก
ทุกอย่าง ดังนั้นผมรู้สึกเหมือนผมเข้าใจในสิ่งที่เธอรู้สึกตอนนี้ เธอกลัว บอสไม่ได้รู้สึกท้อแท้ใจแต่ตอนนี้ผมรู้สึกว่าเธอหวาดกลัว
จากปฏิกิริยาเล็กๆนี้ผมเดาได้เลยว่ามันเกิดอะไรขึ้น มันพอดีกับพล็อต
นิยายหรือหนังต่างๆเช่น บอสน่าจะเป็นคนที่ฆ่าพ่อแม่ของคิมชุนดง…
เมื่อความคิดของผมถึงได้ข้อสรุป ร่างกายของผมก็เริ่มเดือดดาดขึ้นมา ประกายแห่งความแค้นลุกโชนอยู่ภายในตัวผม แต่ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม…
“ไม่ว่าบอสจะทำอะไรในเหตุการณ์กวางโอ้…”
นี่ไม่ใช่ความรู้สึกของผม โลกนี้เป็นนิยายและผมไม่ใช่ตัวละครในนิยาย ผมคือ คิมฮาจิน ไม่ใช่ คิมชุนดง
ดังนั้นผมปฏิเสธไม่ยอมรับความรู้สึกที่ไม่ใช่ของผมทั้งหมด
“…ผมจะไม่เกลียดบอสเพียงเพราะเรื่องแค่นั้นหรอกนะ”
ผมทำให้สิ่งต่างๆ กลายเป็นประโยคเดียวได้ง่ายขึ้น ผมไม่ได้ตำหนิเธอที่เธอฆ่าพ่อแม่ของ คิมชุนดง ผมไม่สนว่ามันจะเย็นชาหรือเลือดเย็นยังไง แม้ว่ามันจะดูไม่ดีแต่ผมก็วางแผนที่จะทำให้มันกลับมาถูกต้องที่สุด
ผมไม่อยากที่จะสูญเสียความสัมพันธ์ที่ผมสร้างขึ้นมาอย่างยากลำบาก
“บอสเองก็ยังอายุน้อยเหมือนกัน”
ผมกุมมือเล็กๆทั้ง 2 ข้างของเธอซึ่งเย็นเฉียบและสั่นเทา
“ดังนั้นอย่ารู้สึกผิดเพราะมันเลย”
บอสพยายามดึงมือเธอกลับแต่ผมไม่ยอม ผมบีบมันแน่นและกุมไว้ในมือของผม จากนั้นผมก็ปลดปล่อยพลังเวทย์ของรอยสักออกมา
วิ้งงงงงงงงงงงงงง…
พลังเวทมนต์ของรอยสักปรากฏขึ้นอย่างนุ่มนวลและรักษามือของบอส
รอยแผลหายไปอย่างไร้ร่องรอย บอสมองมาที่ผมขณะดวงตาเบิกกว้าง
———————2———————-