ตอนที่ 1771 เยว่เย่ (2)
“อืมข้ากลับมาแล้ว” เยว่อี้ก้มหน้าลงมองน้องสาวตัวน้อยของเขาด้วยสายตาอ่อนโยน เด็กผู้หญิงตรงหน้าเป็นความผูกพันเดียวในชีวิตของเขา เป็นคนเดียวในโลกที่มีสายเลือดเดียวกับเขา
เยว่เย่โอบแขนรอบเอวของเยว่อี้อย่างยิ้มแย้มเยว่อี้เงยหน้าขึ้น ดวงตาของเขาสบเข้ากับดวงตาของผู้อาวุโสเยว่ สายตาคู่นั้นทำให้เลือดในร่างของเยว่อี้กลายเป็นน้ำแข็งทันที
ผู้อาวุโสเยว่จงใจทำ……
เยว่อี้แอบสูดหายใจเข้าลึกพยายามข่มความโกรธในใจลง
“ครั้งนี้พี่ชายเจ้าได้รับบาดเจ็บกลับมาเขาต้องพักผ่อนรักษาตัวให้ดี เย่เอ๋อร์ ถ้าไม่มีอะไรสำคัญ เจ้าต้องไม่ไปรบกวนพี่ชายของเจ้า เข้าใจไหม? ถ้าเจ้าเบื่อก็มาหาปู่ที่นี่ได้” ผู้อาวุโสเยว่กล่าวด้วยน้ำเสียงใจดีขณะมองใบหน้าซีดขาวของเยว่อี้ คำพูดนั้นทำให้เยว่อี้ขนพองสยองเกล้า
เยว่เย่อยากหันกลับไปพูดอะไรบางอย่างแต่ถูกเยว่อี้กอดเอาไว้แน่น
“ข้าไม่เป็นไรครั้งนี้เกิดเรื่องหลายอย่างขึ้นในวิหารจิงหง ข้ามีเรื่องต้องพูดกับท่านผู้อาวุโสนานหน่อย……”
ผู้อาวุโสเยว่มองเยว่อี้ด้วยรอยยิ้มแปลกๆ
“ท่านพี่บาดเจ็บหรือ?หนักมากไหม?” เยว่เย่เงยหน้าขึ้นมองเยว่อี้ด้วยความเป็นห่วงอย่างมาก
หัวใจของเยว่อี้แทบละลายด้วยสายตานั้นเขารีบส่ายหน้าทันที
“ข้าไม่เป็นไรแค่เจ็บเล็กน้อยเท่านั้น”
“เอาล่ะเย่เอ๋อร์ไปวิ่งเล่นก่อนไป ข้ายังมีเรื่องต้องคุยกับพี่ชายของเจ้า” ผู้อาวุโสเยว่กล่าวด้วยรอยยิ้มที่เป็นมิตรอย่างมาก
เยว่เย่มองเยว่อี้จากนั้นก็หันไปมองผู้อาวุโสเยว่ ก่อนจะออกจากห้องไปอย่างไม่เต็มใจ
หลังจากเยว่เย่ออกไปแล้วและเหลือเพียงผู้อาวุโสเยว่กับเยว่อี้อยู่ในห้อง ผู้อาวุโสเยว่ก็เชิดหน้าขึ้นและตบที่ต้นขาของตัวเอง
เยว่อี้สูดหายใจเข้าลดสายตาลงและคุกเข่าลงข้างๆขาของผู้อาวุโสเยว่ เขากำหมัดจนข้อนิ้วขาวและนิ้วจิกเข้าไปในเนื้อ จากนั้นก็ทุบลงไปที่ขาของผู้อาวุโสเยว่อย่างต่อเนื่องเพื่อนวดให้เขา
“เกิดอะไรขึ้นที่วิหารจิงหง?ทำไมมีคนตายเยอะนัก? แล้วเจ้ากับฉางฮวนกลับมาได้ยังไง? ข้าเห็นฉางฮวนสบายดีไม่ได้รับบาดเจ็บเลย เจ้าได้รับบาดเจ็บหนักขนาดนี้ได้ยังไง?” ผู้อาวุโสเยว่เอนหลังพิงเก้าอี้และมองลงมาจากตำแหน่งที่สูงกว่า
ผู้อาวุโสเยว่ไม่สนใจการตายของศิษย์คนอื่นๆไม่ว่าจะมีคนตายกี่คนเขาก็ไม่สน แค่เยว่อี้กลับมาก็พอแล้ว
แต่ฉางฮวนเด็กของผู้อาวุโสอิ่งก็กลับมาด้วยทำให้ผู้อาวุโสเยว่ไม่ค่อยพอใจนัก
“ฉางฮวนเป็นคนของผู้อาวุโสอิ่งเด็กนั่นก็แค่ขยะไร้ประโยชน์ เกิดเรื่องใหญ่โตขนาดนั้น เขากลับมาแบบไร้รอยขีดข่วนได้ยังไง?” ผู้อาวุโสเยว่ถามด้วยความไม่พอใจ ตอนนี้สุขภาพของประมุขทรุดโทรมลงทุกวัน เรื่องต่างๆของวิหารก็เป็นเขาและผู้อาวุโสอิ่งที่คอยดูแลจัดการ
ถึงแม้ว่าการมีดอกไม้บนกิ่งเดียวกันจะเป็นเรื่องดีแต่มันจะเทียบกับการเด่นอยู่ดอกเดียวได้อย่างไร?
ตอนนี้ผู้อาวุโสคนอื่นๆของวิหารเงาจันทราแบ่งออกเป็น3 ฝ่าย ฝ่ายหนึ่งสนับสนุนเขา อีกฝ่ายสนับสนุนผู้อาวุโสอิ่ง และอีกหลายคนก็ยังทำตัวเป็นกลางอยู่ ใครก็ตามที่คำพูดมีอำนาจมากที่สุดในหมู่ผู้อาวุโสของวิหารเงาจันทราก็จะกุมอำนาจได้มากกว่าด้วย ไม่ว่าจะเป็นใครก็ตาม นี่เป็นสิ่งที่ยั่วใจอย่างมาก
ปลาใหญ่กินปลาเล็กใช้ได้กับทุกที่วิหารเงาจันทราเองก็เช่นเดียวกัน การกำจัดในระยะยาวเป็นวิธีการที่ดีที่สุด ถ้าการเดินทางไปวิหารจิงหงครั้งนี้สามารถกำจัดฉางฮวนเด็กของผู้อาวุโสอิ่งได้ มันก็ย่อมเป็นผลลัพธ์ที่ดีที่สุดที่ผู้อาวุโสเยว่หวังเอาไว้
สำหรับคำถามของผู้อาวุโสเยว่เยว่อี้มีคำตอบเตรียมเอาไว้แล้ว เขาตอบไปตามคำแนะนำของจวินอู๋เสีย สรุปเหตุการณ์ทั้งหมดได้อย่างไร้ที่ติ แม้ว่าผู้อาวุโสเยว่จะยังสงสัยอยู่เล็กน้อยหลังจากฟังเขาเล่า แต่ก็ไม่พบช่องโหว่ใดๆ ยิ่งไปกว่านั้น เขาไม่เชื่อว่าเยว่อี้จะกล้าหลอกลวงเขา
ตอนที่ 1772 เยว่เย่ (3)
จวินอู๋เสียนั่งอยู่ในห้องได้ไม่นานก็มีคนมาเคาะประตูห้องของนาง
เมื่อเปิดประตูออกดูนางก็เห็นเด็กหนุ่มสองสามคนสวมเครื่องแบบของวิหารเงาจันทรา พวกเขาดูอายุมากกว่า “ฉางฮวน” เล็กน้อย
“เฮ้ฉางฮวน เจ้ากลับมาซะที มาๆๆ พวกพี่มีอะไรให้ดู” ขณะที่พูด เด็กหนุ่มคนหนึ่งก็เข้ามาจะดึงแขนของจวินอู๋เสีย
จวินอู๋เสียหลบมือของเขาในใจเกิดความสงสัยขึ้นมา จากที่เยว่อี้บอกนาง ฉางฮวนไม่มีเพื่อนที่สนิทสนมด้วยมากนัก แต่จู่ๆเด็กหนุ่มสองสามคนนี้ก็ปรากฏตัวขึ้นมา ความเป็นไปได้เพียงอย่างเดียวก็คือเยว่อี้ไม่รู้จักฉางฮวนดีนัก ดังนั้นข้อมูลที่เขาให้มาจึงไม่แม่นยำ
สิ่งที่เกิดขึ้นแตกต่างจากที่นางเตรียมไว้เล็กน้อยจวินอู๋เสียจึงตอบสนองโดยไม่แสดงความลังเลใดๆออกมา เพื่อให้นางเข้าใจสถานการณ์ในวิหารเงาจันทราได้ดีขึ้นโดยเร็วที่สุด นางจึงไม่ได้ปฏิเสธคำชวนของเด็กหนุ่มพวกนั้น แต่ก้าวตามพวกเขาออกไปทันที
ระหว่างทางพวกเด็กหนุ่มพูดคุยกันเล็กน้อย ส่วนใหญ่เป็นเรื่องเล็กๆน้อยๆที่เกิดขึ้นในขณะที่ฉางฮวนไม่อยู่ และเรื่องความขัดแย้งเล็กๆน้อยๆภายในวิหารเงาจันทรา
“เจ้าไม่รู้หรอกแต่ตอนที่เราได้ยินจากผู้อาวุโสอิ่งว่าเจ้าจะไปวิหารจิงหงกับเยว่อี้ มันทำให้พวกเรากลัวมาก ข้ากลัวว่าเยว่อี้จะพบบางอย่างผิดปกติกลางคันและทำร้ายเจ้าขึ้นมา” เด็กหนุ่มคนหนึ่งพูดเสียงเบาด้วยสีหน้าหวาดกลัว
“โชคดีที่หมอนั่นมันโง่ไม่สังเกตเห็นอะไรเลย เห็นเจ้ากลับมาอย่างปลอดภัย พวกเราก็โล่งอก”
[เยว่อี้จะเจออะไรที่ผิดปกติงั้นหรือ?]
จวินอู๋เสียหรี่ตาเด็กหนุ่มพวกนี้เอ่ยถึงเยว่อี้แค่นิดเดียว จากวิธีพูดดูเหมือน “ฉางฮวน” คนนี้กับเยว่อี้จะมีเรื่องอะไรบางอย่างอยู่ แต่พวกเขาก็พูดคลุมเครือมาก จวินอู๋เสียจึงยังไม่สามารถเข้าใจความหมายของพวกเขา
เด็กหนุ่มพวกนี้พูดคุยกันอย่างสนุกสนานแล้วพวกเขาก็สังเกตเห็นความเงียบของจวินอู๋เสีย พวกเขามองหน้ากันแล้วจากนั้นเด็กหนุ่มคนหนึ่งก็พูดขึ้นว่า “ฉางฮวน เจ้าเลอะเลือนไปแล้วหรือ? เรื่องนี้เจ้าสัญญากับพวกเราก่อนไปแล้วนะ เจ้าคงไม่กลับคำพูดใช่ไหม?”
“หือ?ข้าสัญญาอะไรกับพวกเจ้าหรือ?” จวินอู๋เสียเลิกคิ้วถาม แกล้งทำท่าทางดูถูกเหยียดหยาม
สีหน้าของเด็กหนุ่มพวกนั้นเปลี่ยนไปทันที
“ฉางฮวน!นี่เจ้าวอนโดนกระทืบอีกแล้วใช่ไหม? อย่าคิดนะว่าแค่เพราะผู้อาวุโสอิ่งปกป้องเจ้าแล้วพวกเราจะไม่กล้าทำอะไรเจ้าน่ะ! ในเมื่อเจ้าอยากฝึกฝนกับพวกเรา อย่างน้อยเจ้าก็ควรแสดงความจริงใจให้เราเห็นบ้าง อย่าทำตัวขี้ขลาดแค่เพราะตัวเจ้าดูเหมือนผู้หญิง!” พวกเด็กหนุ่มที่เป็นมิตรและช่างพูดในตอนแรกเปลี่ยนท่าทีไปทันทีเมื่อได้ยิน “ฉางฮวน” พูดว่าเขาลืมที่สัญญาเอาไว้แล้ว
จวินอู๋เสียเข้าใจทันทีว่าพวกเด็กหนุ่มตรงหน้าไม่ได้มาหาฉางฮวนเพราะมีความสัมพันธ์ที่ดีกับเขาแต่เพราะพวกเขาทำข้อตกลงพิเศษกันเอาไว้ นั่นคือสาเหตุที่พวกเขาเป็นมิตรมากขนาดนี้
และจากที่พวกเขาได้พูดไว้ก่อนหน้านี้จวินอู๋เสียแทบจะมั่นใจได้ว่าสัญญาที่พวกเขาตกลงกันเอาไว้เป็นสิ่งที่เกี่ยวข้องกับเยว่อี้
แต่มันคืออะไร?
“ข้าเตือนเจ้านะข้าได้ไปถามรอบๆมาแล้ว ตอนนี้เยว่อี้กำลังคุยกับผู้อาวุโสเยว่อยู่ในห้อง ยัยเด็กนั่นเพิ่งกลับไปที่ห้องของนาง ตามปกติเวลานี้นางจะต้องแช่ตัวในอ่างยา ดังนั้นเจ้าอย่ามาทำเป็นความจำเสื่อมกะทันหันจะดีกว่า!” เด็กหนุ่มตัวสูงยกกำปั้นขึ้นข่มขู่