ตอนที่ 317 ความสำนึกผิดของเหอปี้อวิ๋น+ตอนที่ 318 ความกังวลของอู่เจิ้งซือ โดย Ink Stone_Romance
ตอนที่ 317 ความสำนึกผิดของเหอปี้อวิ๋น
เหอปี้อวิ๋นสีหน้าเปลี่ยนไปมาก ความเกลียดส่องประกายออกมาในแววตาเธอ อู่เยวี่ยยิ่งแปลกใจ ผู้หญิงที่ชื่อเหยียนซินหย่าคนนี้มีความแค้นอะไรกับแม่ของเธอกันแน่?
“เป็นเด็กเป็นเล็กจะอยากรู้ไปทำไม? ลูกรีบไปโรงเรียน ตั้งใจเรียนหนังสือเถอะ เดือนหน้าพยายามสอบให้สยงมู่มู่เทียบไม่ได้ ระบายความโกรธแทนแม่นะ!”
เหอปิ้อวิ๋นดันอู่เยวี่ยออกไปนอกประตู เหยียนซินหย่าหน้าตาสวยกว่าเธอ ได้รับความนิยมชมชอบจากผู้ชายมากกว่าเธอ ถึงแม้ฐานะในครอบครัวไม่ดี แต่เธอก็ยังแพ้เหยียนซินหย่า เรื่องหน้าอับอายเช่นนี้จะพูดให้ลูกฟังได้อย่างไร?
อู่เยวี่ยจึงทำได้แค่ต้องไปโรงเรียน ก่อนจะไปเธอกำชับ ขอให้เหอปี้อวิ๋นอย่าด่าอู่เหมยอีก อย่างน้อยก็แกล้งทำต่อหน้าคนอื่นและอู่เจิ้งซือ เหอปี้อวิ๋นรับปากต่อหน้าเท่านั้น เพียงแต่ว่าจะทำได้หรือไม่นั้นมีเพียงเธอเท่านั้นที่รู้
หลังเลิกเรียนในตอนบ่าย อู่เหมยกับอู่เชาไปบ้านท่านผู้เฒ่าอู่ อาการบาดเจ็บของอู่เจิ้งซือต้องพักฟื้นอย่างน้อยครึ่งเดือน ไม่สามารถไปทำงานได้ชั่วคราว ทำให้อู่เจิ้งซือที่แต่ไหนแต่ไรทำงานอย่างระมัดระวังรอบคอบและมีจิตใจที่รับผิดชอบจึงหงุดหงิดเป็นพิเศษ ยิ่งเกลียดชังเหอปี้อวิ๋นมากขึ้น
ตั้งแต่เขาเข้าทำงานจนถึงตอนนี้ เขาไม่เคยลางานสักครั้งเดียว ถึงแม้เป็นไข้สูงถึงสามสิบเก้าองศา เขาก็ยังกัดฟันทนไปสอน ทำดีมาตลอดจนถึงตอนนี้ อาชีพการงานอันรุ่งโรจน์ของเขาถูกเหอปี้อวิ๋นเอาแท่นทับกระดาษทุบหัวทำลายหมดสิ้น จากนี้ไปสิ่งนี้ก็จะถูกบันทึกลงในประวัติการทำงานของเขา
เขา อู่เจิ้งซือ ต้องลางานครึ่งเดือน เพราะว่าเหตุทะเลาะเบาะแว้งในครอบครัวทำให้ศีรษะได้รับบาดเจ็บ
ทั้งหมดนี้จะบอกว่าเรื่องอะไรล่ะ!
ระหว่างทางอู่เชาถามอู่เหมยหลายคำถาม ล้วนเป็นคำถามที่เกี่ยวข้องกับการบาดเจ็บของอู่เจิ้งซือ อู่เหมยก็ไม่ปิดบังเขา เล่ารายละเอียดทั้งหมดที่เมื่อคืนคุยกับเหยียนหมิงซุ่นอีกรอบ และเน้นย้ำว่าเหอปี้อวิ๋นเห็นอู่เจิ้งซือใกล้ตายแล้วไม่ช่วย
เพียงแต่ว่า ความสนใจของเจ้าอ้วนมุ่งไปที่แท่นทับกระดาษชิ้นนั้น เขาส่ายหน้าไม่หยุด พลางเอ่ย “อาสะใภ้รองเสื่อมเสียเพราะแท่นทับกระดาษนั่นจริงๆ หยิบอย่างอื่นทุบไม่ได้ จงใจหยิบแท่นทับกระดาษ เฮ้อ!”
อู่เหมยมองเจ้าอ้วนเหมือนมองผี ไม่มีสมองคิดล่ะสิ?
“ศีรษะพ่อของฉันโดนทุบเป็นรูใหญ่ขนาดนั้น นายจะไม่มีปฏิกิริยาอะไรสักนิดเหรอ? อู่เหมยตบเขาแรงๆ หนึ่งฝ่ามือ
อู่เชาทำหน้าบิดเบี้ยวด้วยความเจ็บปวด เขาถูแขนไม่หยุด ทำเสียงฮึดฮัดพลางเอ่ย “ทำไมจะไม่มีปฏิกิริยาล่ะ? เมื่อคืนฉันฝันร้ายตลอดทั้งคืน อุ๊ย! เธอบอกว่าอาการทางประสาทของอู่เยวี่ยถ่ายทอดจากอาสะใภ้รองไม่ใช่เหรอ? ทำไมผู้หญิงสองคนนี้ชอบใช้ความรุนแรงทำร้ายคนล่ะ? แย่จริงๆ ฉันต้องคุยกับแม่ว่า ต่อไปต้องให้อู่เยวี่ยมาที่บ้านของฉันน้อยลง”
อู่เหมยยิ้มอย่างพอใจ นี่สิถึงจะเป็นปฏิกิริยาที่ถูกต้อง!
อู่เยวี่ยเป็นโรคประสาท ทั้งแม่และลูกล้วนมีอาการทางประสาท
ปัจจัยอย่างหลังยิ่งทำให้คนอย่างเธอมีความสุขโดยปริยาย!
พวกเขาเพิ่งจะถึงได้ไม่นาน เหอปี้อวิ๋นก็มา อู่เยวี่ยพาเธอเข้ามา ท่านผู้เฒ่าอู่กับท่านแม่เฒ่าต่างไม่สนใจเธอ ไม่แม้แต่จะมอง
“คุณย่าคะ แม่รู้ตัวว่าตัวเองทำผิดแล้ว” อู่เยวี่ยช่วยพูดเรื่องดีๆ
ท่านแม่เฒ่าอู่สีหน้าเย็นชา กล่าว “เยวี่ยเยวี่ยไปทำการบ้านสิ เดี๋ยวถึงเวลากินข้าวย่าจะไปเรียกเธอเอง”
ชัดเจนแล้วว่าไม่ยอมให้อู่เยวี่ยยื่นมาเข้าเกี่ยวกับเรื่องนี้ อู่เยวี่ยมองเหอปี้อวิ๋นอย่างลำบากใจ บ่งบอกว่าเธอไม่มีกำลังพอที่จะช่วยอะไรได้ ถ้าเกิดว่าเพราะเธอช่วยเหอปี้อวิ๋นพูด แล้วทำให้แม่เฒ่าไม่ประทับใจเธอล่ะ?
แต่ว่าท่านแม่เฒ่าอู่สนับสนุนเธอที่สุดในบ้านนี้ สำคัญกว่าเหอปี้อวิ๋นอีก!
อู่เหมยคุยเป็นเพื่อนอู่เจิ้งซือพลางเงี่ยหูฟังเหอปี้อวิ๋นพูด เหอปี้อวิ๋นระมัดระวังตัว ท่าทางถ่อมเนื้อถ่อมตัวที่สุด เธอร้องไห้สะอึกสะอื้น พูดว่าเธอ ถูกครอบงำด้วยความคิดชั่วร้าย ทำเรื่องที่ผิดพลาดที่ไม่น่าให้อภัย เห็นอยู่ทนโท่ว่าเป็นการเล่นละคร อู่เหมยฟังจนมุ่นคิ้ว
…………………………………………………………………..
ตอนที่ 318 ความกังวลของอู่เจิ้งซือ
“คุณแม่คะ ฉันมารับอู่เจิ้งซือกลับบ้านค่ะ ฉันจะดูแลเขาเป็นอย่างดีแน่นอน คุณแม่กับคุณพ่อสบายใจได้ค่ะ” เหอปี้อวิ๋นวิงวอน
ท่านแม่เฒ่าอู่กล่าวอย่างเย็นชา “พวกเราจะวางใจได้อย่างไร? ยอมให้เธอรับอู่เจิ้งซือกลับบ้านไป แล้วก็ทำให้เขาหัวแตกอีก ครั้งนี้เจิ้งซือดวงดี ครั้งหน้าไม่รู้ว่าจะยังโชคดีหนีรอดจากอันตรายได้หรือเปล่า!”
ท่านแม่เฒ่าอู่ที่เมื่อตอนสมัยสาวๆ ก็มีนิสัยอารมณ์ร้อน ปากร้ายยิ่งกว่าเหอปี้อวิ๋น หลังจากพูดฉีกหน้าครั้งนี้ เหอปี้อวิ๋นก็หน้าซีด เธอทำตัวไม่ถูก จึงทำได้แค่ยิ้มเข้าสู้
อู่เจิ้งซือสีหน้าเรียบเฉย เหมือนกับเขาไม่ได้ยินคำพูดของเหอปี้อวิ๋น เมื่อคืนจนถึงตอนนี้ เขาพิจารณาชีวิตแต่งงานของตัวเองกับเหอปี้อวิ๋นมาโดยตลด เส้นทางที่เดินจนมาถึงตอนนี้เป็นเขาเองที่ไม่ยอมมองดูมัน เมื่อกระจกแตกแล้วย่อมคืนสู่สภาพเดิมไม่ได้ เขากับเหอปี้อวิ๋นก็เช่นกัน เกิดรอยร้าวขนาดใหญ่ขึ้น เป็นไปไม่ได้ที่จะทำให้เหมือนว่าไม่มีเรื่องอะไรเกิดขึ้น
สิ่งที่ทำให้เขาไม่อยากที่จะอดทน คือ การทรยศทางความรู้สึกของเหอปี้อวิ๋น ผู้หญิงคนนี้ในใจคิดถึงแต่ชายคนอื่นมาโดยตลอด นอนเตียงเดียวกับเขา แต่ในใจกลับคิดถึงคนอื่น เรื่องนี้ไม่ว่าสำหรับผู้ชายคนไหนแล้ว ล้วนเป็นความอัปยศที่ยากจะอดทน
ทว่าในเวลานี้อู่เจิ้งซือกลับไม่คิดถึงเลยสักนิด จริงๆ แล้ว ตัวเขานอนอยู่กับเหอปี้อวิ๋น ในเวลาเดียวกันเขาก็กำลังคิดถึงผู้หญิงคนอื่น สองสามีภรรยาคู่นี้ก็พอๆ กัน เป็นคู่ที่เหมาะสมกันอย่างแท้จริง
ทว่าคนอย่างอู่เจิ้งซือเห็นแก่ตัวตั้งแต่ไหนแต่ไรมา เขาทำอะไรย่อมไม่ผิด แต่คนอื่นทำอะไรนิดหน่อยก็ผิดไปหมด ฉะนั้นเขาสามารถคิดถึงเหยียนซินหย่าได้ แต่เหอปี้อวิ๋นไม่สามารถคิดถึงชายอื่นได้
แต่ถึงกระนั้นอู่เจิ้งซือก็ยังลังเล ไม่ใช่ว่าเพราะมีความรู้สึกลึกซึ้งกับเหอปี้อวิ๋น เขามีความกังวลใจอยู่สองเรื่อง เรื่องแรกคือลูก อู่เยวี่ยกับอู่เหมยยังเด็ก หากเขาหย่ากับเหอปี้อวิ๋น ลูกๆ ต้องได้รับผลกระทบอย่างแน่นอน ตอนนี้ผลการเรียนของอู่เยวี่ยก็ไม่คงที่ อีกอย่างสภาพจิตใจก็ไม่ค่อยดี หากมีอะไรมากระทบกระเทือนจิตใจ ก็ยังไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้น!
ส่วนอู่เหมย เขากลับไม่เป็นกังวล เด็กคนนี้ ไม่แน่ว่า อยากให้เขากับเหอปี้อวิ๋นหย่าร้างกันจะตายไป!
อีกสาเหตุหนึ่งคือ ตัวเขาเอง นับตั้งแต่ได้รับเลือกเป็นครูบุคคลต้นแบบประจำจังหวัดเมื่อหกปีที่แล้ว และเขาก็ได้รับตำแหน่งนี้หกปีติดต่อกัน ปีนี้หากไม่มีข้อยกเว้นคงจะไม่มีปัญหาอะไร รายงานก็ส่งไปหมดแล้ว การประเมินครูตัวอย่างประจำอำเภอไม่ได้ดูเฉพาะผลการทำงาน ความประพฤติและคุณธรรมส่วนตัวก็พิจารณาด้วย เขาเชื่อว่าไม่มีผู้นำคนใด จะยอมเลือกครูบุคคลต้นแบบที่มีประวัติหย่าร้าง
ถึงแม้ว่าผู้นำจะไม่มีความคิดเห็น แต่คนอื่นๆ ก็สามารถไปคัดค้านได้ อย่าคิดว่าเขาไม่รู้ ภายในนั้นก็มีหลายคนที่คอยดูเขาล้มลง!
อู่เจิ้งซือคิดใคร่ครวญหนึ่งวันหนึ่งคืน ผู้เฒ่าอู่กับอู่เจิ้งต้าวก็เตือนเขาว่าไม่ต้องหย่า ผู้ชายต้องให้ความสำคัญกับอาชีพ ผู้หญิงเป็นเพียงเรื่องเล็ก หากเธอเชื่อฟังก็ปลอบประโลมเล็กน้อย แต่หากไม่เชื่อฟังก็ลงโทษ
จะลงโทษเหอปี้อวิ๋นอย่างไรบ้าง อู่เจิ้งต้าวกับท่านผู้เฒ่าอู่ก็ให้ข้อคิดเห็นแก่อู่เจิ้งซือมากมาย เมื่อก่อนอู่เจิ้งซือใจอ่อนเกินไป ต่อไปต้องแสดงความน่าเกรงขามออกมา ลงโทษเหอปี้อวิ๋นให้เชื่อฟังแต่โดยดี
ช่วงหลายวันนี้คือกุณแจสำคัญ ต้องทำให้เหอปี้อวิ๋นกลัว เธอกลัวการหย่าร้างยิ่งกว่าอู่เจิ้งซือ อู่เจิ้งซือหย่าแล้วอย่างมากก็ไม่ได้รับการยกย่องเป็นครูบุคคลต้นแบบ ดูจากการทำงานและลักษณะหน้าตาของเขา หากต้องการหาผู้หญิงดีๆ มีเยอะแยะไป
แต่เหอปีอวิ๋นกลับไม่เป็นเช่นนั้น ผู้หญิงวัยกลางคนที่ไร้เกียรติและความงดงามแห่งวัย ยังสามารถแต่งงานกับผู้ชายดีๆ ได้หรือ?
คำพูดเหล่าอู่เจิ้งต้าวเป็นคนกล่าว เขาสมควรที่จะเป็นศาตราจารย์มหาวิทยาลัยอย่างที่สุด มองคนได้แม่นย่ำ แต่ก็เข้าใจความคิดของเหอปี้อวิ๋นได้อย่างทะลุปรุโปร่ง
เหอปี้อวิ๋นอยู่ที่นี่ก็ล้มเหลวจึงต้องกลับ คนตระกูลอู่ไม่มีใครสนใจเธอ ข้าวก็ไม่เก็บไว้ให้เธอกิน เหอปี้อวิ๋นจะหน้าด้านแค่ไหนก็อยู่ไม่ได้ ทำได้เพียงจากไป
เหอปี้อวิ๋นในเวลานี้รู้สึกหวาดกลัวจริงๆ เห็นท่าทางของคนตระกูลอู่แล้ว ก็เกิดกลัวว่าตระกูลอู่จะปั่นหัวอู่เจิ้งซือให้หย่ากับเธอจริงๆ เหอปี้อวิ๋นที่จิตใจว้าวุ่น กลับไปบ้านตัวเองอย่างรีบร้อน เธอต้องหาใครสักคนปรึกษา
………………………………………………………………………