บัญชามังกรเดือด บทที่ 721 น้ำตาคลอเบ้า
ในวินาทีที่เห็นชินเทียนปรากฏตัวออกมา รอยยิ้มบนใบหน้าของเหลิ่งหยุนเปรียบเสมือนดอกไม้ที่ผลิบานแล้ว
ในดวงตาสวยงามที่แวววาวคู่นั้น ทำให้ทั้งตัวเธอดูเปล่งประกาย
“ต้องขอบคุณฟ้าดินที่นายสามารถมาได้แล้ว ถ้าไม่มาอีกก็จะไม่ได้เจอศิษย์น้องเล็กที่น่ารักตลอดไปแล้วนะ”
เมื่อพูดจบ เขาก็แกล้งทำเป็นตบหน้าอก จีบปากจีบคอพร้อมหัวเราะ “เจ้าอ้วน ฟังให้ดีนะ”
“เขาคือผู้สืบทอดของบัญชาพญายม ยิ่งไปกว่านั้นก็ยังเป็นเจ้าของแห่งวิหารเทพ”
“เขาก็คือศิษย์พี่ของฉัน ฉินเทียน”
“ตอนนี้ฉันจะถามนาย คิดหรือยังว่าจะตายยังไง?”
“นายคือฉินเทียน”
“ฉินเทียนที่ใช้กลยุทธ์กดดันนักบวชกู้ให้ถอนตัว ที่ช่วยเถียโถวปลอมเป็นราชาเถียสิบสามแห่งวิหารเทพคนนั้น?”
“นายไม่ได้ถูกขังไว้ในคุกของมังกรซ่อนรูปหรอกหรือ?”
“ไม่ใช่สิ นายคือหัวหน้าแห่งวิหารเทพ ? ” เจ้าอ้วนหมีเล่อเบิกตากว้าง แสดงสีหน้าที่ไม่อยากเชื่อ
ก่อนหน้านี้ รวมทั้งหยางต้าวและคนอื่นๆในที่อยู่ข้างใน ทั้งหมดไม่อยากจะเชื่อเท่าไรว่า เถียโถวจะเป็นราชาเถียสิบสามจริงๆ
เขารู้สึกได้ว่า นี่ก็คือฉินเทียน เพื่อชำระแค้นให้กับตระกูลหูเฟยของพวกเขา จงใจปลอมตัวเพื่อแสดงฐานะออกมา
แต่แค่ฉินเทียนใช้กลยุทธ์ ก็สามารถเอาชนะนักบวชกู้ต่อหน้าสาธารณะได้ กดดันจนนักบวชยอมอับอายถอนตัวออกจากการประลอง ดังนั้นด้วยศักยภาพของฉินเทียนพวกเขายังคงหวาดกลัวอย่างมาก
ถ้าไม่เช่นนั้น ดำจากภายนอกก็ไม่สามารถญาติดีกันได้ ในความเงียบนั้นก็กดดันให้หวังเหล่าหู่ออกหน้า
แต่ว่าฉินเทียนได้ถูกคนของมังกรซ่อนรูปจับไปแล้ว ขังไว้ที่ในคุก ทำไมถึงมาปรากฎตัวอยู่ที่นี่
เจ้าอ้วนหมีเล่อสีหน้างุนงง
ฉินเทียนยิ้มอย่างเยือกเย็น “ตอนนี้ ฉันจะให้โอกาสนายอีกครั้ง”
“เมื่อ 3 ปีที่แล้ว หยางต้าวร่วมมือกันกับเว่ยเทียนเหอและจ้าวคง ลอบเผาทั้งตระกูลหูตายอย่างไร นายคงจะรู้ข้อเท็จจริงนี้นะ”
“เพียงแค่นายเต็มใจที่จะเป็นพยานให้ ไปชี้ตัวหยางต้าวและพวกเขา นายก็จะมีชีวิตรอดต่อไปได้”
“เป็นยังไง?”
เจ้าอ้วนหมีเล่อจากที่ตกอยู่ในภวังค์ก็ดึงสติกลับมา หัวเราะเสียงดัง ในตาของเขา ปรากฏนัยน์ตาที่ชั่วร้ายอีกครั้ง
“กูไม่สนว่ามึงจะเป็นพยายมหรือราชาเทพ วันนี้ได้พบกับฉัน นายมีแค่เพียงทางเลือกเดียว นั้นก็คือ ตาย!”
“อยากจะรู้ว่าคนของตระกูลหูถูกเผาตายยังไงไหม? ไปถามพวกเขาที่นรกเถอะ”
พูดอยู่ เขาก็ระเบิดพลัง หิ้วถังออกซิเจน เดินก้าวยาวๆไปยังฉินเทียน
“พี่เทียน ระวัง”
ในสายตาของหูรั่วหลันที่เต็มไปด้วยความกังวล อดไม่ได้ที่จะพูดออกไป
ฉินเทียนพูดพร้อมหัวเราะ : “รั่วหลัน ก่อนหน้านี้ที่ฉันไปหาเธอที่ญี่ปุ่น ไม่คิดว่าเธอจะกลับมาแล้ว”
“ไม่ต้องห่วง เรื่องนี้ฉันได้วางแผนมาพอประมาณแล้ว”
ในระหว่างที่คุยเล่น เจ้าอ้วนหมีเล่อที่ทำท่าทางชั่วร้ายอยู่ฝั่งตรงข้าม ก็ไม่ได้อยู่ในสายตาเขาแต่ไหนแต่ไรอยู่แล้ว
“ตายซะ!” เจ้าอ้วนหมีเล่อตะโกนออกมาเสียงดัง ใช้พลังทั่วทั้งร่างกาย ยกถังออกซิเจนที่หนัก 50 กว่ากิโลขึ้นมา ไปยังบนศีรษะฉินเทียนที่มีชะตากรรมที่ต้องตาย
ถ้าหากว่าถูกกระแทกแล้ว ก้อนหินล้วนออกดอกได้แล้วนะ
แต่ภายใต้แรงกระแทกขนาดมหึมา ถังออกซิเจนก็อาจจะระเบิดได้ เจ้าอ้วนหมีเล่อแสดงนิสัยชั่วร้ายออกมา แม้แต่ความปลอดภัยของตัวเขาเองก็ไม่สน
สมแล้วที่เป็นฆาตรกรอันดับ 1 ในฮั่นจง
การต่อสู้ที่ต้องเผชิญหน้ากับความรุนแรง ไม่เพียงแต่ฉินเทียนจะไม่ถอย แต่กลับพร้อมพุ่งเข้าไป
ในทันใดนั้นร่างกายของเขา เร่งความเร็วหลบการจู่โจมจากถังออกซิเจน ชั่วพริบตาเดียวเขาก็ไปถึงหน้าเจ้าอ้วนหมีเล่อ
ทันทีที่เห็นใบหน้าของฉินเทียนเข้ามาอยู่ตรงหน้า ที่ยิ้มให้กับเขา เจ้าอ้วนหมีเล่อตกใจอย่างมาก ยังไม่ทันให้เขาได้ตั้งตัวมือของฉินเทียนก็ประทับลงบนใบหน้าแล้ว
แค่รู้สึกว่าว่าข้อมือชา เจ้าอ้วนหมีเล่อก็รีบกระโดดหนี นึงไม่ถึงเลยว่าถังออกซิเจนในมือเขาก็ไปอยู่ในมือของฉินเทียน
“หัวของนายแข็งมากใช่ไหม?”
ฉินเทียนสบถฮึอย่างเยือกเย็น เหวี่ยงมืออย่างลวกๆ เล็งตรงเข้าไปที่หัวล้านของเจ้าอ้วนหมีเล่อ
ปัง!
เสียงแท่งเหล็กกระทบกันสะท้อนกลับมาในอากาศ
ในเวลานั้นสมองของเจ้าอ้วนหมีเล่อก็ว่างเปล่า จ้องตาเหมือนอยากจะพูดอะไร เขาก็เซไปเซมาและล้มลงเป็นลมไป
“เศษสวะจริงๆ ไม่คิดเลยว่าจะต่อสู้ไม่ได้แบบนี้”
ฉินเทียนทิ้งถังออกซิเจนในมือเสร็จ ดูเหมือนว่าจะยังไม่พอใจเล็กน้อย
ข้างๆนั้น ยังดีที่เหลิ่งหยุนรู้ศักยภาพของฉินเทียนเป็นอย่างดี หวังเหล่าหู่และหูรั่วหลันช็อกนิ่งไปแล้ว
นี้คือจัดการปัญหาเสร็จแล้วเหรอ?
ทำไมรู้สึกว่า ตอนที่เจ้าอ้วนหมีเล่ออยู่ต่อหน้าพวกเขาเป็นเสือคลั่งที่ไม่มีวันล้ม เมื่ออยู่ต่อหน้าฉินเทียนเหมือนกับเด็กที่ไม่รู้วิธีการต่อสู้อะไรเลยอย่างไหนอย่างนั้น?
“ฝากพวกคุณด้วย”
“อยู่ที่นี่นานไม่ได้ มีเรื่องจะพูดกลับมาก่อนค่อยว่ากัน”
ฉินเทียนรีบพูดออกมาหนึ่งประโยค แล้วพุ่งตรงไปยังหน้าต่างที่อยู่ไกลออกไป เสียงดังปัง ทั้งตัวเขากระโดดพุ่งชนหน้าต่างพังออกไป
“พี่เทียน!”หูรั่วหลันช็อกอีกครั้ง
เหลิ่งหยุนหัวเราะอย่างมีความสุข : “เขาต้องมีเรื่องด่วนแน่นอน ดังนั้นเขาถึงเป็นแบบนี้”
“วางใจเถอะ ไม่เป็นอะไรหรอก”
“ตอนนี้ ถึงตาพวกเราจัดการแล้ว”
ในตอนนี้ เจ้าอ้วนหมีเล่อที่เป็นลมไปสักพัก คิดไม่ถึงว่าจะมีสติกลับมา เขาร้องตะโกนด้วยความโกรธ และพยายามที่จะลุกขึ้นมา
ในสายตาของหูรั่วหลันแสดงถึงความอาฆาตอย่างเยือกเย็น มือกำมัดแน่นแล้วเดินเข้าไป
……
ฉินเทียนกระโดดลงมาจากชั้น 7 ดิ่งตรงลงมาอย่างต่อเนื่องมากกว่า 10 เมตร แล้วถึงจะใช้มือยืมแรงบนหน้าต่าง เสมือนแมวดาวโบยบินในยามวิกาล เร่งความเร็วกระโจนออกไปที่ไกลออกไป
ขณะนี้ นักฆ่าที่แฝงตัวเป็นยามเฝ้าประตูคนนั้นกำลังต่อสู้กับฉินชวน ก็เข้าถึงช่วงเวลาที่รุนแรงดุเดือดที่สุด
ในช่วงนักฆ่าคำราม ก็ปรากฎเคียวในมือ
เคียวสองเล่มส่องแสงแวววับบอนว่อนเป็นเส้นโค้ง ราวกับว่าเป็นวิญญาณของคนตายผุดออกมาจากในนรก
ฉินชวนตกใจมาก ถูกบีบจนต้องค่อยๆก้าวถอยหลัง แค่ตามองอยู่ก็บาดเจ็บได้
ในเวลาที่สำคัญ ขณะที่ฉินเทียนคำราม ตัวก็อยู่ที่กลางอากาศแล้ว โบกมือแล้วปรากฎของขึ้นมาอย่างหนึ่ง
เสียงปังปังสองครั้ง สิ่งนั้นลอยปะทะกับเคียว ร่วงลงต่อหน้านักฆ่า
เดิมทีนักฆ่ายังต้องการโต้กลับ แต่ว่าทันใดนั้นก็มองเห็นป้ายที่อยู่ต่อหน้า ตัวก็สั่นสะท้าน
ป้ายสีดำมืด ภายใต้การสะท้อนเพียงเล็กน้อย ก็ปรากฎตัวอักษรสีแดง 3 ตัว :บัญชาพญายม
“บัญชาพญายม……บัญชาพญายมของเถ้าแก่ใหญ่ นี่เป็นไปได้ยังไง……นายเป็นใคร?”
เขาจ้องมองฉินเทียนด้วยความตกใจอย่างมาก
เพราะว่าสงครามนองเลือดกับฉินชวน เสื้อผ้าข้างของนักฆ่า มีรอยถูกกรี๊ดเป็นรูหนึ่งรอย เผยให้เห็นถึงเสื้อสีแดงที่อยู่ข้างใน
ฉินเทียนยิ้มอย่างเยือกเย็น : “นอกจากสี่อิมพ์แห่งนรกบัญชาพญายม ที่ลึกลับที่สุดก็คือกลุ่มที่มีศักยภาพในการฆ่ากลุ่มหนึ่ง นั่นก็คือเสื้อเลือดสิบแปด”
“พูดมาเถอะ นายคือคนไหนในเสื้อเลือดสิบแปด?
นักฆ่าช็อกอีกครั้ง เข้าจ้องฉินเทียนอย่างหน้าตาย กัดฟันควบคุมอารมณ์ความตื่นเต้นของตัวเองอย่างหนักแน่น :“บอกฉันมาก่อนนายคือใคร?”
“นายทำไมถึงมีบัญชาพญายม!”
ฉินเทียนยิ้ม : “ให้นายดูคนคนหนึ่ง”
เขาได้เปิดวีดีโอคลอกับฉานเจี้ยน
อีกฝั่งหนึ่งฉานเจี้ยนและผีหวูฉาง ยังมีชุยหมิงนั่งกินเบียร์อยู่ที่ใต้ต้นไม้เก่าแก่ในสวนสัตว์ร้าย
“เจ้าสำนัก ทางซีเป่ยนั้นเป็นยังไงบ้างครับ?”
“มีเรื่ออะไรวุ่นวายไหม ต้องการให้บรรดาพี่น้องออกโรงหรือไม่?”
“เท่าที่ฉันรู้ ห้าพญายมแห่งนรกช่วงนี้ไม่มีภารกิจอะไร วันวันทำแต่เรื่องวุ่นวายให้ฉันต้องไปออกหน้าแทนพวกเขาจากเว็บมืด โดยเฉพาะถงชวนกับเถียปี้สองคนนี้”
เสียงหัวเราะอย่างสบายใจ นั้นก็หมายความว่าอารมย์ของฉานเจี้ยนดีมาก
“ฉานเจี้ยน ฉันให้นายดูคนคนหนึ่ง”
ฉินเทียนหัวเราะแล้วพูดหนึ่งประโยค เอาหน้าจอโทรศัพท์หันกลับไปทางนักฆ่า
“ท่านอิมพ์แห่งนรก ผีหวูฉาง ผีเร่งชีวิต?เป็นพวกคุณจริงๆ” นักฆ่าพุ่งเข้ามาใกล้ข้างหน้า
“นายเป็นใคร?”ทางด้านฉานเจี้ยน หวูฉางและชุยหมิง ล้วนตระหนกตกใจลุกขึ้นยืน
นักฆ่าถอดหน้ากากที่อยู่บนใบหน้าออก ถอดเสื้อคลุมข้างนอกออก เผยให้เห็นชุดอาบาย่าสีแดงเลือดหมูข้างใน
“ชิงเฉิน!”
“ฉันคือชิงเฉิน!”
ปากของเขาสั่น ตาทั้งสองข้างนั้นได้น้ำตาคลอเบ้าแล้ว