บทที่ 384 หอคอยแห่งความปรารถนา (4)
……
(เว้นไว้)
…
เฟนริล หรือที่รู้จักกันในนามผู้ที่แข็งแกร่งที่สุดในหอคอยขณะนี้กำลัง
ถูกตรวจสอบโดยสื่อและกลุ่มพันธมิตร ไม่มีฮีโร่คนใดที่อยากถูกปืนของเขาฆ่าตาม พวกเขาไม่อยากเป็นคนอ่อนๆเหมือนในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 หรือสงครามโลกเกาหลีหรือประชาชนทั่วไปในยุคปัจจุบัน
พวกเขาไม่อยากถูกคุกคามโดย ‘กระสุนเวทมนต์’ ที่มีราคาเพียง 200,000 วอน กระสุนปกติยิงพวกเขาไปก็ไม่เกิดอะไรขึ้นเพราะความแตกต่างกันของค่าสถานะแต่อย่างน้อยกระสุนของ เฟนริล เป็นข้อยกเว้น
===
มันเป็นบทความที่โดดเด่นเกี่ยวกับ เฟนริล เขียนโดยหน่วยงานข้อมูลของ ห้องจัดเลี้ยงสีม่วง สรุปจุดแข็งของเฟนริลเอาไว้ได้อย่างละเอียด เขียนได้น่ากลัวแต่ก็จบลงด้วยการประชดประชันเพราะสันนิษฐานว่าฮีโร่ต่างๆไม่ได้กลัวต่อปืนของคิมฮาจินกันทุกคน
“…ชิ.”
เธอรู้ว่าห้องจัดเลี้ยงสีม่วงมีอคติต่อต้านกิลด์ต่างๆ แต่บทความเช่นนี้? มันจะเริ่มก่อไฟอย่างแน่นอนแม้ว่าจะไม่มีอะไรในตอนแรก แต่มันก็เห็นได้ชัดเช่นกันว่ามีการเคลื่อนไหวบ้างอย่าง
“เฮ้อออออออออออออ… .”
ไม่ว่าจะในกรณีใดๆ เฟนริล เป็นผู้มีชื่อเสียงที่สุดในตอนนี้ ต้องขอบคุณสถานะใหม่ของเขาเพราะเขาสังหารปีศาจไปเป็นจำนวนมากจนที่ผ่านมาเขาได้รับ ‘ใบอนุญาตล่าปีศาจ’ จากบางประเทศรวมถึงสหรัฐอเมริกาเองก็ได้เปิดเผยต่อสาธารณชน ยูยอนฮา ลูบปากของเธอขณะที่เธอมองดูบทความ
[เฟนริล เป็นคนที่ทำลาย ปราสาทแห่งโซโลมอน ได้ด้วยมือเดียว]
[เขาเพียงแค่เหนี่ยวไก…กระสุนของเขานั้นมีประสิทธิภาพแม้จะห่างกว่า 10 กม. บาเรียเวทย์มนตร์และการป้องกันทางกายภาพทุกประเภทนั้นไม่ได้ผลกับเขา]
[ระยะการยิงที่ไกลที่สุดของ เฟนริล นั้นคือ 14 กม.]
[ความสำเร็จในอดีตของ เฟนริล โผล่ขึ้นทีละหน้า…มันเป็นร่องรอยของ สัตว์ประหลาด]
บทความมากมายเช่นนี้ได้รับความนิยมและทุกวันนี้ไม่เพียง แต่ปีศาจเท่านั้น แม้แต่ฮีโร่เองก็ยังหวาดกลัวต่อเฟนริลด้วยเช่นกัน
แน่นอนว่าเพราะมีฮีโร่มากมายที่ไม่ต่างจากปีศาจ หลายคนคิดว่าเมื่อการปีนหอคอยสิ้นสุดลงเฟนริลจะเริ่มกำหนดเป้าหมายเป็นฮีโร่ที่ชั่วร้ายไปพร้อมกับๆปีศาจ
“เฮ้ออออออออออ.”
ยูยอนฮา เองก็คิดเช่นนั้น ถ้าคิมฮาจินไม่พอใจใครก็คง ‘ผู้คน’ มากกว่า
ปีศาจ
ต๊อก ต๊อก—
เสียงเคาะหยุดความคิดของเธอ
ยูยอนฮา ทำลายหนังสือพิมพ์ที่กระจัดกระจายออกไปทันทีและโยนเครื่องดื่มชูกำลังที่เธอเก็บไว้ลงไปในถังขยะ
“เข้ามา.”
เมื่อทำลายล้างข้อมูลทั้งหมดใช้เวลาเพียง 2 วินาที เธอก็จัดระเบียบให้ตัวเองและเชิญแขกเข้ามา
ต๊อก —
“หัวหน้าทีม ยูยอนฮา”
“…หืม?”
แขกที่ไม่คาดคิดเดินเข้ามาแชนายอนเดินมาพร้อมรอยยิ้มเล็กๆที่ไม่สามารถซ่อนความตั้งใจบางอย่างเอาไว้ แชนายอน เดินเข้ามาและยืนอยู่ตรงหน้า ยูยอนฮา
“เกิดอะไรขึ้นนายอน? ฉันคิดว่าเธออยู่ในหอคอย”
“…ฉันมาที่นี่เพื่อส่งเรื่องนี้”
แชนายอน มอบบางอย่างให้กับ ยูยอนฮา มันเป็นซองจดหมายที่เขียนว่า…ลาออก
“นะ-นี่มันอะไร?”
“ก็….ฉันอยากได้เวลาสักพักน่ะ”
“จริงเหรอ? ทำไม?”
คำถามของ ยูยอนฮา ไม่มีจุดมุ่งหมาย เธอแค่อยากรู้ว่าทำไม แต่ว่า
คำตอบที่ตามมาก็ทำให้เธอใจสลาย
“ฉันจะเริ่มตรวจสอบอย่างจริงจัง”
“…ตรวจสอบ?”
“ใช่แล้ว เกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกี่ยวข้องกับพี่ชายของฉัน ฉันรู้สึกว่า
ฉันพยายามจัดการทุกอย่างด้วยตัวเองมานานแล้ว … ฉันคิดว่าจะลองขอความช่วยเหลือจากคนในครอบครัวของฉันดูบ้างน่ะ”
สมองของเธอแข็งค้างทันทีที่เธอได้ยินคำพูดเหล่านั้น แม้แต่
[วงจรความคิด] ที่คอยกระตุ้นสมองของเธอจนถึงตอนนี้ก็ไร้ประโยชน์
ในความเป็นจริงเธอคิดอะไรไม่ออก เธอพยายามคิดอย่างรวดเร็วใน และเริ่มคิดและถึงข้อสรุป
ครอบครัวของแชนายอน ซ่อนร่างของแชจินยูนเอาไว้เพราะมันเป็น
หลักฐานที่แสดงว่าเขาได้กลายเป็นมาร มันเป็นเหตุผลที่พวกเขาต้องโยนความผิดให้ปีศาจสำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นและละเลยที่จะทำการสอบสวนอย่างละเอียด ดังนั้นจึงไม่น่าเป็นไปได้ที่ครอบครัวของ
แชนายอนจะช่วยสืบสวนหรือพวกเขาอาจหลอกเธอให้คิดไปทางอื่น
… แต่
หากมีใครบางคนที่สามารถรู้ความจริงทั้งหมดได้โดยไม่มีอันตรายจะต้องเป็นแชนายอนทายาทเพียงคนเดียวของตระกูลแชเท่านั้น!!!
เธออาจเป็นเพียงคนเดียวในโลกที่สามารถขุดลึกลงไปในความลับได้โดยไม่ถูก แชจูชึล ถูกคุกคาม
“… นายอน.”
ยูยอนฮาคิดจนเสร็จแล้ว เธอก็ให้ยืมเครื่องมือที่เธอต้องการ และด้วยเครื่องมือเหล่านี้ แชนายอน ก็จะเปิดเผยความจริงได้ด้วยตัวเธอเอง
หลักฐานที่สำคัญที่สุดต่อความจริงที่ไม่สนใจไม่ได้ก็คือร่างกายของ
แชจินยุน ที่ซ่อนอยู่ที่ไหนสักแห่ง
“อะไรเหรอ?”
แน่นอนว่าคงโกหกถ้าเธอบอกว่าเธอไม่กังวลยามที่ แชนายอน รับรู้ถึงความจริง แต่เธอจะต้องเข้มแข็งพอที่จะตัดสินใจได้ด้วยตัวเอง เธอต้องทนต่อความเป็นจริงแม้ว่าอาจจะโหดร้ายขนาดไหนก็ตาม
“ฉันจะช่วยเธอเอง.”
“…ฮะ? ไม่ ฉันไม่เป็นไร”
“ฉันจะให้ข้อมูลที่ดีที่สุดกับเธอ ใน Essence of the Strait เธอสามารถใช้สัญญาเวทมนต์ เพื่อปิดปากพวกเขาหากความจริงมันยิ่งใหญ่เกินกว่าจะเปิดเผย”
ยูยอนฮา ตัดสินใจจะให้ แชนายอน ยืมผู้ให้ข้อมูลที่ดีที่สุดของเธอ
เพื่อที่จะโน้มน้าวใจ แชนายอน ซึ่งตอนนี้ยูยอนฮาก็มองดูรายชื่ออย่างรวดเร็ว อันดับแรกคือ… ‘คิมโฮซุบ’
“คิมโฮซุบ เขาเป็นผู้มีความสามารถที่มีค่าที่สุดในยุคนี้เพราะเทคโนโลยีเป็นทุกสิ่งทุกอย่าง”
เงินเดือนของเขาสูงถึง 5000 ล้านวอน เขายังได้รับโบนัสอื่นๆเช่นเกมและอนิเมะก่อนที่พวกมันจะวางแผนในตลาด เขาเป็นหัวใจสำคัญของ บุษผาร่วงโรยอย่างแท้จริง แต่ถึงกระนั้น ยูยอนฮา ก็ไม่ได้คิดมากก่อนตัดสินใจส่งเขาไปให้ แชนายอน
*************************************************************************
[รถไฟมาสู่ชั้น 24]
พวกเราผ่านชั้น 22 และชั้น 23 จากรถไฟ จริงๆแล้วพวกเราไม่ทราบด้วยซ้ำว่าพวกเรามาถึงที่ชั้น 22 หรือ 23 เพราะทุกคนอยู่ในห้องพักของผมแทนที่จะเป็นห้องในรถไฟ
“ทำไมห้องพักของฮาจินถึงสบายดีแบบนี้นะ~?” เจน ถามด้วยน้ำเสียง
ง่วงนอนขณะที่เธอนอนบนโซฟาพิเศษที่ผมทำขึ้นมา
“เพราะฉันใช้ความพยายามอย่างมากในการตกแต่งและปรับปรุงที่นี่” ผมอธิบายขณะที่หันความสนใจไปที่ชุดข้างๆ
[ชุดเดรสสีม่วงของเมเดีย Lv.13]
ชุด Lv.13 นี้ทำด้วยผ้าไหมสีม่วงและอัญมณีซึ่งทั้ง 2 อย่างเป็นไอเท็มโปรดของ เมเดีย มันเกิดจากการผสมผสานระหว่าง สายตาอันงดงามของเอเธอร์,ความเชี่ยวชาญของคนแคระและพลังเวทมนต์ของรอยสักซึ่งเป็นผลงานชิ้นเอกที่แท้จริงมัน Lv. ถึง 13 ซึ่งล้ำค่ามากจริงๆ
“ว้าว สวยมาก จะมอบมันให้กับผู้หญิงบ้าๆแบบนั้นช่างน่าขยะแขยง~”
“นั้นสิ แต่มันคุ้มค่านะ”
“ใช่~ ฉันไม่นึกเลยว่าแล้วเธอจะยอมมอบ 40% ของ prestige~”
ผมยิ้มเล็กน้อยให้กับเจนและเรียกสปาร์ตันออกมา
สปาร์ตันบินมาหาผมแล้วนั่งบนไหล่ของผม
“พาฉันไปที่ห้องประชุม VIP ที่ชั้น 15”
“แล้วเจอกันนะ ฮาจิน ~”
“โชคดี”
ทันทีที่ผมผงกหัวให้เจนและบอส สปาร์ตันกับผมก็เคลื่อนที่ไปยังพื้นที่อื่นของหอคอย
[ชั้น 15 เรือของ Genkelope]
ผมกลับมาถึงชั้น 15 ต่อหน้าผมคือ เมเดีย ที่ทำท่าทางน่าตื่นเต้น
“นะ-นายไปอยู่ที่ไหมมา~? ฉันรอนายอยู่นะ”
เมเดีย ยิ้มอย่างงดงามและเข้าหาผมอย่างประหม่า
“เอ่อ อ้อ เดี๋ยวฉันให้ดูชุดก่อน “
ผมยกชุดขึ้นกลางอากาศโดยใช้รอยสัก ชุดนี้มันดูน่าทึ่งแม้แต่ในสายตาของผม ผลงานศิลปะที่สวยงามนี้เกินกว่าที่จะสวมใส่เมื่อเห็นมันลอยอยู่กลายอากาศ เมเดีย เหมือนถูกมนต์สะกดอย่างสมบูรณ์
“นี่คือชุดของฉัน….”
“ช่ายยยยย แล้วข้อตกลงละ?”
“…นี่ไง.”
ผมสะกิด เมเดีย และเธอก็ส่งกระดาษให้ผม มันเป็นสัญญาที่ เมเดีย ระบุไว้ว่าจะมอบ 40% ของ Prestige ให้ผม
[คุณอยากเปิดใช้งานสัญญาหรือไม่]
แน่นอนผมคลิก ‘ใช่’
ซ่าาาา, ซ่าาาา.
ฉันได้ยินเสียงแปลกๆเมื่อหันกลับมามอง ที่นั่น เมเดีย ถอดเสื้อผ้าของเธอด้วยเวทมนต์ เธอพยายามใส่ชุดนั้นทันที เธอถูกครอบงำอย่างสมบูรณ์แบบ ผมหันกลับมาอย่างรวดเร็ว
“ว้าว….”
ไม่นานเธอก็เปลี่ยนเสร็จ เธอร้องอุทานออกมาด้วยความดีใจ ผมหันกลับไปมองโดยไม่ตั้งใจทันใดนั้นหัวใจของผมก็เกือบจะหยุดเต้น
เธอเป็นแม่มดในตำนาน เมเดีย ในชุดของผมงดงามเป็นพิเศษ
เธอไม่ได้ถูกบดบังด้วยชุดที่สวยงามแต่กลับผลักดันให้เธอเด่นจนไม่อาจบรรยาย สถานะการดำรงอยู่ของเธอดูเหมือนจะเปล่งประกายออกมาด้วย ถ้าให้อธิบายก็คือเปล่งออร่า
“…เป็นยังไงบ้าง? ฉันน่ารักไหม?”
ผมแกล้งทำเป็นไม่สนใจและพยักหน้าให้กับ เมเดีย
“ฉันชอบชื่อชุดมากที่สุดเลยละ ชุดเดรสสีม่วงของ เมเดีย ….งั้นเหรอ”
‘ด้วยสิ่งนี้ปรากฏการณ์นั้นอีกไม่นานก็คง…’ เมเดีย ยิ้มอย่างมีความสุข
“ถ้าอย่างนั้น ทุกอย่างก็เรียบร้อยแล้วสินะ ฉันไปก่อนละนะ”
“รอเดี๋ยว พี่ชาย เมื่อนายมอบชุดสวยๆให้ฉันแล้วฉันจะแจ้งให้นายรู้ถึงข่าวที่น่าสนใจ ฉันคิดว่านายคงทราบแล้วว่าเจ้าชายถูกสังหารใช่ไหม”
แม้ว่าผมจะส่งชุดให้เธอไปแล้ว แต่เธอก็ยังคงสุภาพเหมือนเดิมจริงๆแล้วผมเริ่มรู้สึกอึดอัดเล็กน้อย เธอคาดหวังให้ผมทำเครื่องประดับให้เธอแต่งตัวด้วยเหรือเปล่า?
“ใช่ เรื่องนั้นฉันรู้แล้ว”
“นั่นคือฝีมือของเจ้าหญิงองค์ที่ 5 พร้อมกับลิโป้”
“… .”
ผมรู้สึกประหลาดใจ แต่มันก็สมเหตุสมผล เจ้าหญิงองค์ที่ 5 อราฮา และฮีโร่ผู้ทรยศ ลิโป้ พวกเขามีความทะเยอทะยานมากพอที่จะกระทำความผิดดังกล่าว
“แต่ทำไมเธอถึงบอกฉันละ”
“เพราะนายดูเหมือนจะมีความเห็นอกเห็นใจต่อ NPC มากกว่าคนอื่นๆ”
เมเดีย พูดและยิ้ม
“เอาล่ะฉันจะคิดถึงเรื่องนั้นด้วย แต่ตอนนี้ฉันต้องไปชั้น 24 แล้วและไม่มีเวลาจัดการกับเรื่องแบบนี้…ถ้างั้น ฉันไปละนะ”
“เข้าใจแล้ว พี่ชาย ฉันขอให้คุณโชคดี กลับมาอย่างปลอดภัยด้วยละ”
เมเดีย พูดกับผมด้วยมารยาทที่เหมือนขุนนาง มันเป็นคำพูดคลาสสิก
‘ถือว่าชุดของนายดีมาก เพราะงั้นฉันจะนับถือนายสักนิดก็แล้วกัน’