บทที่ 385 หอคอยแห่งความปรารถนา (5)
– …ตื่น? งั้นเหรอ?
เสียงที่ไหลเข้ามาในจิตใต้สำนึกของผมทำให้ตื่นขึ้นมา ดวงตาของผมเปิดออกเมื่อผมได้ยินคำพูดแปลกๆ
เวลาปัจจุบันคือ 5:45 น.
ผมกำลังนอนอยู่บนโซฟาในช่องพิเศษของรถไฟ ผมแบ่งปันความรู้สึกของผมกับสปาร์ตัน ที่กำลังจับตาดูสิ่งที่สำคัญที่เกิดขึ้นภายในรถไฟ
– ใช่ ดูเหมือนว่าเขาจะตื่นขึ้นมาแล้ว
– หืม…ดังนั้นในที่สุดพวกเราก็จะได้เห็นมารด้วยตาของพวกเราเอง
มันเร็วกว่าที่ฉันคิดเอาไว้มากนะ
คิมฮัคพโย และ ซีลาเซน พวกเขากำลังพูดถึง หัวข้อการสนทนาของพวกเขาคือ…มาร
ผมกัดริมฝีปาก
หาก ‘มอนสเตอร์รูปร่างมนุษย์’ เป็นเฟตที่ 3 ของเนื้อเรื่อง
‘การถือกำเนิดของมาร’ และ ‘การกำเนิดอาณาจักรมารบนโลก’ จะเป็นเฟตที่ 4 หรือเฟตสุดท้าย ตัดสินจากคำพูดของคิมฮัคพโยดูเหมือนว่าแม้กระทั่งเฟตคสุดท้ายก็ใกล้เข้ามาแล้ว
– พวกเรามีสถานที่เตรียมไว้แล้วเหรอ
– ใช่ เขาอยู่ในวัดที่พวกเราสร้างขึ้นมา แต่ตอนนี้เขาไม่สามารถออกมาได้ จากท่าทางแล้วเขาจะต้องใช้เวลาอีกมากในการเอาชนะกองกำลังของโลก
ซีลาเซน ตอบเมื่อเขาพิมพ์ข้อความในอากาศ ด้วยสายตาของ สปาร์ตัน ผมจ้องมอง [34 ° 51’15.4” N 128 ° 43’50.2” E]
น่าจะเป็นพิกัดของวัด
– …ฉันเข้าใจแล้ว.
– นายวางแผนจะทำอะไร
– ทำไมถึงถามแบบนั้น ฉันวางแผนที่จะทำตามคำสั่งของพระเจ้า
คิมฮัคพโย เอนหลังบนเก้าอี้ของเขา นั่นคือจุดสิ้นสุดของการสนทนาที่มีความหมายและผมก็ตัดความรู้สึกของผมกับสปาร์ตัน
“อืม…เฮ้อออออออออออออ”
ผมคิดขณะที่ถอนหายใจ มารตัวแรกประจักษ์แล้วและผมก็รู้ตำแหน่งของมัน สิ่งที่ผมต้องทำก็ชัดเจน
ฆ่ามันด้วย กระสุนแห่งมิสเทลทีน หรือกระสุนสังหารพระเจ้า
แต่มีเรื่องหนึ่งที่ทำให้ผมกังวล กระสุนเพียงนัดเดียวเพียงพอที่จะฆ่าเขาหรือไม่? แม้ว่า Desert Eagle จะทรงพลังขึ้นมากโดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังจากอัพเกรดแต่คู่ต่อสู้เป็นมารและกระสุนที่ผมสามารถใช้ได้นั้นมี จำกัด
…หลังจากคิดมาซักพักผมก็หยิบหนังสือแห่งออกมา
[หากหน้าที่ทางกายภาพของอันดับ 50 ปีศาจ ‘พลัส’ ตกต่ำกว่า 15% กระสุนสังหารของพระเจ้าจะสามารถดับเขาได้ เปอร์เซ็นต์นี้เพิ่มขึ้น 5% ต่อ 1 Stigma ที่ใช้บนสัญลักษณ์แสดงหัวข้อย่อย]
นี่คือสิ่งที่หนังสือแห่งสัจธรรมบอก พลังของผมตอนนี้ น้อยกว่ามารทั่วไปประมาณ 35% แม้ว่าผมจะใช้การปลดล็อกและเปลี่ยนพลังชีวิตของผมเป็นรอยสักแต่ก็ยังมั่นใจได้ไม่เกิน 50% เรื่องนี้เข้าใจได้เพราะ
“มาร” ไม่ใช่สิ่งที่สามารถดับศูนย์ได้อย่างง่ายดาย สำหรับมารแนวคิดของ ‘ความตาย’ และ ‘ดับศูนย์’ นั้นแยกออกจากกัน มารที่ตายแล้วสามารถฟื้นคืนชีพได้เสมอ เพื่อกำจัดมันอย่างสมบูรณ์แบบจำเป็นต้องมีวิธีการพิเศษหรือไม่ก็….คิมซูโฮ
“ผู้ช่วย….ใช่แล้ว”
นั่นหมายความว่าผมต้องการผู้ช่วย คิมซูโฮ หรือ บอส เป็นคนแรกที่ปรากฏขึ้นในใจของฉัน ตอนนี้มารยังไม่รู้เกี่ยวกับคิมซูโฮเนื่องจากถ้ารู้
พวกมันจะพยายามฆ่ามนุษย์ที่อาจคุกคามพวกมันได้ในทันที
ผมต้องรอจนกระทั่งคิมซูโฮแข็งแกร่งกว่านี้ แต่ผมไม่สามารถบอกเรื่องนี้กับบอสได้ คุณสมบัติพลังเวทมนต์ของเธอคือความมืดเป็นการคู่ต่อสู้ที่ไม่เหมาะสมสำหรับการต่อสู้กับมาร
“…อ่า.”
เมื่อครุ่นคิดอยู่นาน ตัวเลือกของผมก็โผล่ขึ้นมาในหัวของผมอีกคนหนึ่ง เขามีแข็งแกร่งมากพอที่จะปราบปรามมารและเขายังเหมาะสมที่จะต่อสู้กับมารอีกด้วย แม้ว่าเขาจะถูกพวกมารตามล่าแต่เขาก็มีความสามารถที่จะหลบหนีได้อย่างปลอดภัย
เขาคือแชจูชึล
ปัจจุบันผมมีวิธีที่ชัดเจนที่จะพูดคุยกับเขา ผ่านเอเย่นต์แห่งความจริงเนื่องจากมารแพร่เชื้อสายใส่ในร่างกายของแชจินยูน แชจูชึลจึงต้องสนใจในเรื่องนี้อย่างแน่นอน ถ้าผมสามารถดึงให้แชจูชึลขยับได้ละก็….
ติ้งๆๆๆๆ— ติ้งๆๆๆๆ—
ในขณะนั้นเองสัญญาณเตือนของรถไฟก็แจ้งเตื่อนให้ผู้โดยสารทราบว่าเป็นเวลา 6 โมงและเสียงร่าเริงของหัวหน้าขบวนรถไฟก็ดังขึ้น
– ทุกคนสนุกดีไหม ในอีก 9 ชั่วโมงพวกเราจะชั้น 24! ชั้นที่ 24 เป็น
ทะเลทรายขนาดใหญ่โต!
ชั้น 22 และ 23 เป็นส่วนหนึ่งของมหาสมุทรลึกในขณะที่ชั้น 24 เป็นทะเลทรายที่ใหญ่เท่ากับทะเลทรายซาฮารา
– มันเต็มไปด้วยมอนสเตอร์แห่งความตายเช่นแมงป่อง,มัมมี่,สุสาน, สฟิงซ์ฯลฯมันเป็นโอกาสที่ยอดเยี่ยมสำหรับผู้เล่นทุกท่าน! หากพวกคุณพบ ‘โอเอซิสแห่งทะเลทราย’ คุณจะได้รับรางวัลมากมาย!
ผมลุกขึ้นมาเหยียดตัวเอง
พื้นทะเลทรายเป็นชั้นที่ ซันนูรี่ เปล่งประกาย แน่นอนว่าม้าส่วนใหญ่จะไร้ประโยชน์ในทะเลทราย แต่ ซันนูรี่ ไม่ใช่ม้าธรรมดา
– ก๊อกๆ
ในขณะนั้นเองประตูห้องนอนของผมก็เปิดออกและเจนเดินเข้ามา
“สวัสดี ฮาจิน~”
เจนดูเหมือนจะอาบน้ำเสร็จแล้วในขณะที่เธอฮัมเพลงละนั่งลงบนโซฟาด้วยผมที่เปียกเล็กน้อย
“นายได้ยินคำอธิบายของชั้น 24 แล้วหรือยัง?”
“ใช่มันเป็นทะเลทราย”
“~จริงเหรอ? ฉันสงสัยจังเลยว่ารางวัลคืออะไร~”
เจนบ่นอย่างเงียบๆพร้อมแสดงความสนใจออกมา แต่เนื่องจากเธอเกลียดความร้อนเธออาจจะไม่ออกจากรถไฟ
“มันอาจเป็นหนังสือทักษะอีกเล่มหนึ่ง หนังสือทักษะขั้นสูงสุดมีแนวโน้มที่จะเป็นไปได้มากที่สุดสินะ”
“อืม~ ฉันว่าแล้วดังนั้นฉันเลยไม่จำเป็นต้องออกไปข้างนอกสินะ~”
ผมยิ้มและคิดในใจว่ามันเป็นอย่างที่ผมคาดไว้
“นายจะไปใช่มั้ย ~”
“แน่นอน ฉันจะต้องออกไปตามหาทักษะสุดยอดของฉัน”
ถึงเวลาแล้วที่ผมจะเรียนรู้ทักษะขั้นสูงสุดของผม
“ใช่แล้วบอสได้เรียนรู้ทักษะทั้งหมดของเธอแล้วหรือยัง”
“ไม่หรอกนายก็รู้ว่าบอสมีปัญหาในการตัดสินใจ นายรู้จักพีนูลใช่ไหม?”
“ใช่.”
“ชายชราคนนั้นมอบทุกอย่างที่เขาเป็นเจ้าของให้กับบอส แต่เธอก็ยังสงสัยว่าจะเรียนรู้อะไรดี”
“หืมม.”
ดูเหมือนว่าผมจะต้องช่วยเธอเลือกทักษะของเธอสินะ
“อ้าาาาาาา~!”
ทันใดนั้นเจนก็ปรบมือและยืนขึ้นมา
“ฮาจิน นายจะทำงานรับจ้างของนายตอนที่ออกไปออกจากหอคอยใช่ไหม~”
“รับจ้างทำงานงั้นเหรอ?”
“ใช่ นายมีใบอนุญาตฆ่าหลายใบมันน่าเสียดายที่ต้องเสียพวกมันไป~”
ที่เธอพูดหมายถึงใบอนุญาตให้ฆ่าปีศาจ มันเป็นใบอนุญาตให้ฆ่าปีศาจได้โดยไม่ต้องมีเหตุผล
“ฉันไม่แน่ใจ.”
ผมคิดหนัก ผมฆ่าจินน์เพียงเพราะมีคนขอให้ทำมันไม่ได้มาจากความรับผิดชอบหรืออะไรแบบนั้น การทำแบบนั้นไม่ได้ทำให้เรื่องราบรื่นขึ้น
ปีศาจที่ผมต้องฆ่านั้นก็คือ ‘ตัวประกอบ’ ที่ไม่ยืนขวางทางในพล็อตหลัก
ที่เหลือฆ่าได้หมด
“ฟังดูไม่เลวเลยแฮะ”
ฟังดูไม่ดีเลยต่างหาก ทำไมผมไม่คิดเรื่องนั้นจนถึงตอนนี้เลยนะ? ผมดูไอเท็มในคลังของผม
[ไดเรกทอรี Lv.11]
ไดเรกทอรีและหนังสือแห่งสัจธรรม ด้วยความสามารถของหนังสือ
2 เล่มนี้ผมสามารถทำสิ่งมหัศจรรย์ได้ทุกประเภท
ก่อนอื่นผมสามารถกำจัดปีศาจที่จะมีบทบาทสำคัญในอนาคตก่อนที่จะเกิดอะไรขึ้นได้ ตอนนี้ผมมีความมั่นใจ กระสุนวิเศษนัดเดียวก็สามารถสังหารปีศาจระดับผู้บริหารลงได้อย่างง่ายดาย
ประการที่ 2 ผมสามารถฆ่ามนุษย์ที่จะกลายเป็นอุปสรรคต่อแผนการในอนาคต ตัวอย่างเช่นผมสามารถสังหารสมาชิกของสมัชชาแห่งชาติหรือผู้บริหารเลวของสมาคมฮีโร่ แน่นอนว่าสิ่งนี้จะไม่เกิดขึ้นภายใต้ตัวตนของเฟนริล ถ้าผมใช้ปืนฆ่าพวกเขาแม้แต่เด็กธรรมดาก็ยังรู้ว่าเป็นผม
“…ฉันจะฆ่าปีศาจต่อไป”
เมื่อมาถึงจุดนี้การฆ่าคนด้วยปืนหรือคันธนูก็ไม่ได้ลำบากผม ตอนนี้ผมเป็นเหมือนเครื่องจักรที่ปราศจากความรู้สึก ผมฆ่าคนได้อย่างใจเย็น
“แต่ทำไมเธอถึงถามขึ้นมาละ”
“หืม? อ้อ ไม่มีอะไรมากหรอก”
ทันใดนั้นเจนก็ใบหน้าเปลี่ยนไปอย่างจริงจัง
“ถึงเวลาแล้วที่ Chaemeleon Troupe จะเริ่มจริงจัง”
“…จริงจัง?”
“อืม”
เป้าหมายดั้งเดิมของ Chameleon Troupe งั้นเหรอแม้ว่าจะมีการเพิ่มเนื้อเรื่องบางอย่างเพื่อทำให้สิ่งต่างๆให้ซับซ้อนแต่ ภารกิจหลักของมันก็ไม่เปลี่ยนแปลง
“ถึงเวลาขโมยบัลลังก์ของ Pandemonium แล้ว”
เจน พูดคุยเกี่ยวกับเป้าหมายดั้งเดิมที่ผมตั้งค่าไว้สำหรับกลุ่ม
“นรกงั้นเหรอ”
“อืม พวกเราในฐานะมนุษย์จะเป็นผู้ปกครองแผ่นดินของปีศาจ มันไม่น่าสนุกหรือไง?”
“ …จะเป็นไปได้เหรอ”
“ทำไมจะไม่ ปีศาจจะยอมจำนนต่อผู้ที่แข็งแกร่งกว่าพวกเขาตามเป็นเรื่องธรรมชาติ … ”
เจนพึมพำในขณะที่ทำรอยยิ้มชั่วร้ายและในขณะนั้นเองผมก็ได้รับข้อความบน Smart Watch ของผม
“จินซาฮยอค หนีไปแล้ว”
มันมาจาก GenphaGo
“…หา? ได้ยังไง?”
– มีคนช่วยเธอ พวกเราออกหมายจับเธอทันที แต่ดูเหมือนว่าเธอจะหนีไปที่ชั้น 8 ให้พวกเราไล่ล่าเธอโดยใช้ ‘เทเลพอร์ตข้ามขั้น’ เลยไหมครับ?
“ไม่เป็นไร.”
เทเลพอร์ตข้ามขั้น ใช้ 100,000TP ต่อครั้งเป้าหมายเดิมของผมก็ประสบความสำเร็จแล้วด้วยสิ
“ป้องกันไม่ให้เธอไปไกลเกินกว่าชั้นที่ 15”
– เข้าใจแล้ว
ตอนนี้จินซาฮยอคควรยอมแพ้ในการปีนหอคอยเนื่องจากการไปไกลกว่านี้จะเป็นไปไม่ได้ถ้าไม่ผ่านชั้นที่ 15 ซึ่งนั่นก็เพียงพอแล้ว
“ทำงานได้ดีมาก GenphaGo”
*************************************************************************
[ชั้น 8-3 ร้านอาหารชื่อดังใน Crevon]
ทันทีที่เธอหนีด้วยความช่วยเหลือของเบลล์และรูมิ จินซาฮยอคก็วิ่งตรงไปที่ร้านอาหารของ Crevon หลังจากที่ถูกจับมาตั้งนานแล้วเธอก็ดูดอาหารเหมือนเครื่องดูดฝุ่น สเต็ก, หมูสับ, ข้าวผัด, สปาเก็ตตี้…พวกมันเป็นอาหารที่ดีมากเมื่อเทียบกับโจ๊กที่ไม่มีรสชาติที่เธอถูกบังคับให้กิน
“เอิ๊อกกกก~”
หลังจากล้างบาง 13 จานในเวลาเพียง 20 นาทีเธอก็พิงเก้าอี้ของเธอ เธอลูบท้องอย่างมีความสุขจากนั้นกระแทกกำปั้นของเธอลงบนโต๊ะเมื่อเธอคิดถึงชีวิตในคุกที่น่าอับอายที่เธอต้องทนทุกข์ทรมานอยู่นาน
“ทำไมผู้ชายคนนี้ถึงเกลียดฉันมากนักนะ”
จินซาฮยอค รู้แล้วว่า คิมฮาจิน อยู่เบื้องหลังการจับกุม นั่นคือสิ่งที่เบลล์ บอกเมื่อเธอรู้คิมฮาจินก็เป็นเจ้าของยานอวกาศเธอเกือบจะเป็นลมในทันที
“เธอเลือกจะต่อสู้กับเขาก่อนนะ”
“… .”
เธอไม่มีอะไรจะพูดต่อ แม้ว่ามันจะเกิดขึ้นมานานแล้ว แต่เธอก็เป็นคนที่เริ่มก่อนจริงๆ เธอเริ่มรู้สึกผิดและดื่มน้ำไปอีก 1 แก้วลงลำคอของเธอ
“แล้วแผนของเธอต่อจากนี้ไปคืออะไร? เธอจะไปหาคิมฮาจินและพยายามต่อสู้กับเขาอีกครั้งงั้นเหรอ” เบลล์ถาม
จินซาฮยอค สั่นสะท้านเมื่อเธอได้ยินสิ่งนี้ คิมฮาจินยืนอยู่บนจุดสุดยอดของหอคอยอย่างแน่นอน เขาไม่เพียงแข็งแกร่งแต่เขายังมีอำนาจสั่งการ NPC หรือแม้แต่ผู้ดูแลระบบ ข้างในหอคอยเขาเป็นเหมือนราชา ดังนั้นการต่อสู้กับเขาในหอคอยจึงเป็นไปไม่ได้
“…ไม่ใช่…ไม่ใช่ในหอคอย” จินซาฮยอคบ่นด้วยเสียงที่บางและเงียบ
“งั้นเธอจะสู้กับเขาข้างนอกงั้นเหรอ?” เบลล์ถามด้วยเสียงล้อเลียน
จินซาฮยอค มอง เบลล์ อย่างดุร้ายความพ่ายแพ้ก่อนหน้านี้ที่ด้านนอกหอคอยกลายเป็นแผลในใจที่เธอยังไม่สามารถเอาชนะได้ เธอคิดว่ามันจะเบาลงเมื่อเวลาผ่านไป แต่มันเพิ่งจะแย่ลงเมื่อเร็วๆนี้บ่อยครั้งที่เธอฝันร้ายและร่างกายของเธอสั่นเทาเมื่อคิดถึงเขา
“…แก ไอ้สารเลว”
“ฮ่าๆๆ”
เบลล์ หัวเราะเยาะ จินซาฮยอค เมื่อได้ยินอย่างนี้จินซาฮยอค ก็ตะโกนอย่างดื้อรั้น
—————————————2———————————