ตอนที่ 674 จะไม่ยอมแพ้
สายลมหนาวในยามเช้าของฤดูหนาวยังคงพัดปะทะใบหน้า ลมหายใจแห่งฤดูใบไม้ผลิได้แพร่กระจายเต็มท้องฟ้าเมือง A แล้ว ตอนนี้ต้นไม้มีหน่อเขียวงอกขึ้นมาใหม่ ทุกอย่างดูมีชีวิตชีวาอย่างเห็นได้ชัด
หลังจากฉู่เจียเสวียนกินอาหารเช้าที่บ้านเสร็จแล้วเธอก็ไปที่ร้านชุดแต่งงานทันที เพิ่งจะจอดรถตรงหน้าประตูร้าน ก็เห็นคนรูปร่างสูงยาวคนหนึ่ง
เธอหยุดเดินโดยไม่รู้ตัว มองดูแสงอาทิตย์ที่ตกกระทบคนคนนั้นซึ่งทำให้ตัวเขามีชั้นสีทองบางๆ ใบหน้าหล่อเหลานั้นยิ่งดูดีมากยิ่งขึ้น เสื้อคลุมยาวสีดำทำให้เขาดูหรูหรามีระดับ ผมดำสนิทถูกลมพัดยุ่งเล็กน้อย
ลมหายใจหดหู่เศร้าสร้อยแผ่ซ่านไปทั่วทั้งร่างกายของเขา
ฉู่เจียเสวียนก้าวเดินไปหาคนคนนั้นโดยไม่ลังเล “จวิ้นฉือ คุณมานี่ได้ยังไง”
คนคนนั้นก็คือกงจวิ้นฉือ เขาตรงดิ่งไปที่ร้านชุดแต่งงานจากโรงพยาบาล
กงจวิ้นฉือได้ยินเสียงที่คุ้นเคย เขาเหลือบสายตาขึ้น เมื่อหันไปก็ประสานสายตากับเจียเสวียนทันที
เมื่อไม่ได้ยินคำตอบจากกงจวิ้นฉือ ฉู่เจียเสวียนก็เอ่ยขึ้นอีกครั้ง “คุณไม่ต้องดูแลคุณย่าที่โรงพยาบาลเหรอ คุณย่าออกจากโรงพยาบาลแล้วเหรอคะ” มีความกังวลลึกๆ ในดวงตาของเธอ
พอเห็นสีหน้าตื่นตระหนกของเธอแล้วเขาก็ส่ายศีรษะ ริมฝีปากบางยกยิ้ม “คุณย่าไม่เป็นไรแล้วครับ”
“อ่อ…” เธอถอนหายใจออกมาอย่างแผ่วเบา เธอตกใจแทบแย่ เธอนึกว่าเกิดเรื่องอะไรกับคุณย่าเสียอีก ในเมื่อไม่ใช่ อย่างนั้นเธอก็ไม่มีอะไรต้องเป็นห่วงแล้ว
“พวกเราเข้าไปกันก่อนเถอะ” ริมฝีปากของฉู่เจียเสวียนยกยิ้ม ก้าวเท้าเข้าไปในร้าน ยืนอยู่ที่ประตูนั้นมันไม่ดี
แม้เธอกับกงจวิ้นฉือจะไม่ใช่คู่รัก แต่ดีร้ายอย่างไรพวกเขาก็ยังเป็นเพื่อนกัน ไม่จำเป็นต้องแข็งกระด้างจนเกินไป
กงจวิ้นฉือพยักหน้า ก่อนที่จะตามหลังฉู่เจียเสวียนไป
เขาจ้องเขม็งไปที่แผ่นหลังที่เรียวและสูงของเธอ ผมหยิกสยายของเธอพริ้วไหวเล็กน้อยเพราะแรงลม ทำให้กลิ่นหอมฟุ้งออกมา กลิ่นหอมเฉพาะตัวนั้นทำให้หัวใจของกงจวิ้นฉือเต้นไม่เป็นจังหวะชั่วครู่
ฉู่เจียเสวียนพากงจวิ้นฉือไปยังห้องรับแขก “จวิ้นฉือ คุณนั่งก่อนนะ เดี๋ยวฉันมา”
กงจวิ้นฉือพยักหน้า เมื่อเห็นแผ่นหลังของฉู่เจียเสวียนที่เดินจากไป ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความเจ็บปวด
เขาสัมผัสได้ถึงความรู้สึกแปลกหน้าของเธอที่มีต่อเขา รู้สึกถึงความแปลกแยกในห้องของเธอ ความรู้สึกนี้ทำให้เขาอึดอัดมาก
ทำไมเธอถึงสามารถยิ้มอย่างมีความสุขขนาดนั้นต่อหน้าเผยหนานเจวี๋ย
“จวิ้นฉือ นายมาแล้วเหรอ” จู่ๆ น้ำเสียงสดใสก็ดังมาจากหน้าประตู กงจวิ้นฉือเงยหน้าขึ้นก็เห็นถังถังยืนอยู่ที่ประตูด้วยรอยยิ้มบนใบหน้า รอยยิ้มนั้นสดใสเป็นอย่างมาก
“อืม ไม่เจอกันตั้งนาน” เสียงอบอุ่นของกงจวิ้นฉือดังขึ้น เขากับถังถังก็ยังเป็นเพื่อนกันมาหลายปี
“ใช่แล้ว ปีนี้นี่เป็นครั้งแรกที่นายมาสินะ? ได้ยินว่าคุณย่าป่วย ตอนนี้หายดีแล้วหรือยัง” เมื่อวานถังถังได้ยินว่าคุณย่ากงเข้าโรงพยาบาลแล้ว เดิมทีเธออยากจะไปเยี่ยมพร้อมกับฉู่เจียเสวียน แต่ว่าตอนนี้มีเรื่องให้ทำเยอะมากจริงๆ จึงปลีกตัวไปไม่ได้
“ไม่เป็นไรแล้ว เที่ยงนี้ก็ออกจากโรงพยาบาลได้แล้วล่ะ” กงจวิ้นฉือหัวเราะเบาๆ วันเวลาที่ไม่มีฉู่เจียเสวียน เขาไม่มีความรู้สึกดีใจกับเรื่องอะไรทั้งนั้น
เมื่อเห็นท่าทีทุกข์ใจของกงจวิ้นฉือ ถังถังก็รู้ว่าเขายังลืมฉู่เจียเสวียนไม่ได้ จึงถอนหายใจออกมาอย่างแผ่วเบา
เธอเคยหวังว่ากงจวิ้นฉือและฉู่เจียเสวียนจะสามารถลงเอยกันได้ด้วยดี และมองพวกเขาทั้งคู่ในแง่ดีมาก แต่ว่าเรื่องของความรักบังคับกันไม่ได้จริงๆ
ฉู่เจียเสวียนไม่ได้ชอบเขา นี่คือความจริงที่เปลี่ยนแปลงไม่ได้ แต่เธอก็ไม่ต้องการให้กงจวิ้นฉือไม่สบายใจ
“จวิ้นฉือ…” ถังถังเรียกชื่อเขา ทว่าไม่รู้ว่าจะพูดอะไร
กงจวิ้นฉือเงยหน้าขึ้นยิ้มน้อยๆ ความเศร้าโศกในแววตานั้นเห็นได้อย่างชัดเจน
“ผมรู้ว่าคุณอยากจะพูดอะไร ผมจะไม่ยอมแพ้หรอก ผมชอบเธอ” กงจวิ้นฉือเหลือบตาขึ้นมองถังถังโดยตรง น้ำเสียงแน่วแน่
ตอนที่ 675 รบกวนอยู่ให้ห่างเธอหน่อย
ฉู่เจียเสวียนเพิ่งจะมาถึงหน้าประตูก็ได้ยินคำยืนยันของกงจวิ้นฉือเข้าพอดี
เธอเม้มริมฝีปากแดง แววตาที่มองกงจวิ้นฉือนั้นเปี่ยมไปด้วยความรู้สึกผิด
“จวิ้นฉือ ฉันขอโทษ” ตอนนี้สิ่งที่เธอพูดได้คือคำขอโทษ เธอตัดสินใจที่จะอยู่กับเผยหนานเจวี๋ย และไม่ต้องการที่จะยุ่งเกี่ยวกับเขาอีก
“เจียเสวียน ผมไม่อยากได้ยินคำนี้ของคุณ ผมชอบคุณมากจริงๆ” รูปร่างสูงใหญ่ของกงจวิ้นฉือลุกขึ้นยืน เดินก้าวเท้ายาวๆ เข้าไปหาเธอ เอ่ยปากด้วยความตื่นเต้น
ฉู่เจียเสวียนถอยหลังไปก้าวหนึ่ง รักษาระยะห่างระหว่างเธอกับเขา ใบหน้าน้อยๆ ที่ขาวประณีตเงยขึ้นมองเขา “จวิ้นฉือ คุณจำเป็นต้องทำแบบนี้ด้วยเหรอ ต่อไปพวกเราเป็นได้แค่เพื่อนเท่านั้น”
“ไม่ ผมไม่อยากเป็นแค่เพื่อนกับคุณ ทำไมคุณถึงให้โอกาสเผยหนานเจวี๋ยได้ แต่ไม่ให้โอกาสผม?” เขาไม่พอใจ ไม่พอใจจริงๆ
เขาสามารถยกชีวิตของเขาเพื่อเธอได้เหมือนกัน เพราะอะไรเผยหนานเจวี๋ยขวางมีดเพื่อเธอเพียงสองครั้ง เธอก็ยกโทษให้เขาแล้ว? ทั้งๆ ที่เมื่อก่อนเขาทำเพื่อเธอมากมายขนาดนั้น
ก่อนหน้านี้เธอบอกอย่างชัดเจนว่าไม่ได้รักเขาแล้วแต่มีเพียงความเกลียดชัง ทำไมทุกอย่างถึงเปลี่ยนไปภายในระยะเวลาสั้นๆ?
“จวิ้นฉือ ฉันได้ให้โอกาสพวกเราสองคนแล้ว แต่ว่า ฉันไม่สามารถรักคุณได้จริงๆ ทุกคนต่างก็เป็นผู้ใหญ่กันแล้ว พวกเราคุยกันด้วยเหตุผลได้หรือเปล่า” ฉู่เจียเสวียนขมวดคิ้ว ไม่เข้าใจว่าทำไมจู่ๆ กงจวิ้นฉือก็กลายเป็นคนดื้อรั้นแบบนี้
“ไม่” กงจวิ้นฉือเอื้อมมือไปจับไหล่ของฉู่เจียเสวียนด้วยอารมณ์เดือดพล่าน “เจียเสวียน ผมรู้ว่าคุณชอบผม ใช่ไหม?”
“จวิ้นฉือ คุณปล่อยนะ…” ฉู่เจียเสวียนดิ้นรน คิ้วสวยงามขมวดกัน
ถังถังอยู่ข้างๆ ตลอดเวลา เธอรู้ว่าไม่ควรเข้าไปก้าวก่ายเรื่องระหว่างฉู่เจียเสวียนกับกงจวิ้นฉือ ดังนั้นจึงนิ่งเงียบไม่ส่งเสียง แต่ครั้งนี้เมื่อเห็นว่าเขากลายเป็นคนละคน คอยบีบคั้นฉู่เจียเสวียน เธอจึงรีบเดินเข้าไป
“จวิ้นฉือ นายใจเย็นหน่อยได้ไหม มีอะไรก็ค่อยๆ คุยกัน” ถังถังคว้ามือของเขาไว้ ต้องการจะดึงฉู่เจียเสวียนออกมาจากมือของเขา
“เจียเสวียน…”
“ปล่อยเธอนะ!” เสียงเย็นชาที่เจือปนความโกรธดังขึ้น น้ำเสียงนั้นเยือกเย็นจนทำให้อากาศที่ไหลวนเย็นลงตามไปด้วย
ทั้งสามคนหันมา เห็นเผยหนานเจวี๋ยยืนอยู่ที่ไม่ไกลด้วยลมหายใจอาฆาตแค้น สีหน้าแข็งกระด้าง แววตาเย็นเยียบมองตรงไปที่กงจวิ้นฉือ ความเยือกเย็นในแววตานั้นเพียงพอที่จะฆ่าคนได้
ความยินดีปรากฏขึ้นในดวงตาของฉู่เจียเสวียน ความเกลียดชังวูบผ่านในดวงตาที่กงจวิ้นฉือมองเขา ส่วนแววตาของถังถังมีความซับซ้อน
เผยหนานเจวี๋ยเดินเข้าไปหาพวกเขาทั้งสามคนทีละก้าว ภายใต้สายตาที่ข่มขู่ของเขา มือของกงจวิ้นฉือค่อยๆ คลายออกโดยไม่รู้ตัว พลังงานของเผยหนานเจวี๋ยทำให้เขาปล่อยมือโดยไม่รู้ตัวแล้ว
หลังจากฉู่เจียเสวียนได้รับอิสระก็รีบเดินไปหาเผยหนานเจวี๋ยทันที “คุณมาได้ยังไงกัน”
เผยหนานเจวี๋ยจับมือของฉู่เจียเสวียนอย่างเป็นธรรมชาติ ก้าวเข้าไปใกล้กงจวิ้นฉือ
เมื่อเห็นภาพที่ทั้งสองคนประสานมือกัน กงจวิ้นฉือมีความต้องการที่จะแยกมือของพวกเขาออกเสีย ฉากนั้นเสียดแทงสายตาของเขาอย่างล้ำลึก
“ถ้าผมไม่มา คุณก็ถูกคนอื่นเอาเปรียบสิ?” เผยหนานเจวี๋ยหันไปมองฉู่เจียเสวียน มีความนุ่มนวลในดวงตา แต่คำพูดที่เขาพูดนั้นเย็นชามาก
“เขาแค่มาหาฉัน” ฉู่เจียเสวียนเอ่ยปากอย่างไม่พอใจ ไม่พอใจอย่างมากกับคำพูดที่ไร้ความปรานีของเผยหนานเจวี๋ย
ในใจของเธอแม้ว่าเธอจะไม่ได้เป็นคนรักของกงจวิ้นฉือแล้วก็ตาม อย่างน้อยพวกเขาก็ยังเป็นเพื่อนกัน กงจวิ้นฉือเคยช่วยเหลือเธอมากขนาดนี้ เธอจะทำตัวไร้ความรู้สึกได้อย่างไร
“ประธานกง ตอนนี้เจียเสวียนเป็นแฟนของผมแล้ว ต่อไปรบกวนคุณอยู่ห่างจากเธอหน่อย” เผยหนานเจวี๋ยเดินตรงไปยังกงจวิ้นฉือ และหยุดมองเขาด้วยสีหน้าไร้อารมณ์