ตอนที่ 672 ขอโทษ / ตอนที่ 673 รถแข่งที่บ้าคลั่ง

กับดักรักในรอยแค้น

ตอนที่ 672 ขอโทษ  

 

 

“ขอโทษค่ะคุณย่า” ภายใต้สายตาที่เปี่ยมด้วยความคาดหวังของทั้งสองคน คำตอบของฉู่เจียเสวียนเป็นเหมือนคำสั่งตาย ทำให้หัวใจของพวกเขาแตกสลาย

 

 

ตอนนี้สิ่งเดียวที่เธอสามารถพูดกับพวกเขาได้คือคำขอโทษเท่านั้น เรื่องของเธอกับกงจวิ้นฉือก็เป็นไปไม่ได้นานแล้ว

 

 

จู่ๆ คุณย่ากงก็มีสีหน้าเปลี่ยนไปกะทันหัน เธอรีบพูดขึ้นว่า “เธอไปซะ ไปเลย ฉันไม่อยากเห็นหน้าเธออีก”

 

 

“คุณย่าคะ ย่าตื่นเต้นสิคะ ฉันไปค่ะ ฉันจะไปเดี๋ยวนี้” ฉู่เจียเสวียนพูดจบ ก็รีบหมุนตัวออกไปจากห้องคนไข้ เธอกลัวจริงๆ ว่าคุณย่ากงจะเป็นอะไรไป

 

 

กงจวิ้นฉือเอ่ยปากปลอบโยนคุณย่ากง ความเจ็บปวดผุดขึ้นในดวงตาของเขา แม้ว่าคำตอบของฉู่เจียเสวียนจะเป็นไปตามที่เขาคิดไว้ แต่เขาก็ยังรู้สึกเสียใจ

 

 

เธอไม่มีความรู้สึกต่อเขาจริงๆ ตอนนี้เธอไม่อยากโกหกด้วยซ้ำ

 

 

หลังจากปลอบประโลมคุณย่ากงแล้ว กงจวิ้นฉือก็เดินออกไปจากห้องคนไข้ แต่ไม่คิดว่าเขาจะได้เห็นร่างที่เขาเฝ้าคิดถึงทั้งวันคืน เธอกำลังนั่งอยู่บนเก้าอี้พักผ่อนในเวลานี้

 

 

ฉู่เจียเสวียนเงยหน้าขึ้นเห็นกงจวิ้นฉือออกมาจากห้องคนไข้ เธอรีบเดินเข้าไปหาเขาทันที “คุณย่าหลับไปแล้วเหรอ”

 

 

กงจวิ้นฉือพยักหน้า สายตามองสำรวจเธออย่างละเอียด เขาสังเกตใบหน้าของเธออย่างระมัดระวังทุกกระเบียดนิ้ว มองดูดวงหน้าที่ปรากฏอยู่ในความฝันของเขานับครั้งไม่ถ้วน

 

 

“เจียเสวียน พวกเราจะเลิกกันจริงๆ หรือ คุณคิดดีแล้วจริงๆ เหรอ” กงจวิ้นฉือเอ่ยปากถามอีกครั้งอย่างตัดใจไม่ได้

 

 

“จวิ้นฉือ ตอนนี้ฉันคิดดีแล้ว ตอนนี้คนที่ฉันรักคือเผยหนานเจวี๋ย ถ้าเราเป็นแบบนี้ต่อไปก็มีแต่จะทำร้ายกันมากขึ้น ฉันไม่อยากให้พวกเราเป็นไม่ได้แม้กระทั่งเพื่อน ในเมื่อคุณย่าก็รู้เรื่องนี้แล้ว พวกเราก็ควรมีความสุขมากขึ้น” ครั้งนี้ฉู่เจียเสวียนไม่มีความกังวลใดๆ แล้ว ก่อนหน้านี้เธอกังวลว่าคุณย่ากงจะรับไม่ได้ ตอนนี้ในเมื่อคุณย่าก็รู้เรื่องแล้ว เช่นนั้นเธอก็ไม่ควรยืดเยื้ออีกต่อไป

 

 

“ผมรู้ คุณให้เวลาผมหน่อยไม่ได้เหรอ” กงจวิ้นฉือเอ่ยปากด้วยความเจ็บปวด เขาไม่อยากยอมแพ้

 

 

“จวิ้นฉือ ถ้าฝืนต่อไปแบบนี้จะไม่เป็นผลดีต่อใครทั้งนั้น” ฉู่เจียเสวียนกล่าวอย่างจริงจัง

 

 

“คุณดูแลคุณย่าให้ดีเถอะ ฉันกลับก่อน” ฉู่เจียเสวียนไม่ต้องการอยู่ต่อนานเกินไป แม้ว่าจะรู้สึกผิดต่อกงจวิ้นฉือ แต่ก็ไม่ควรเอาความรักและมิตรภาพมาปะปนกัน

 

 

“เจียเสวียน” กงจวิ้นฉือยื่นมือคว้าแขนของฉู่เจียเสวียน เขาไม่อาจปล่อยวางอย่างสง่างามได้

 

 

“จวิ้นฉือ ให้อิสระกับฉันเถอะ ฉันไม่เคยชอบคุณเลย” เธอถอนมือออกจากมือของกงจวิ้นฉือ ฉู่เจียเสวียนมองไปที่ความเจ็บปวดในดวงตาของเขา หัวใจของเธอก็รู้สึกเศร้าตามไปด้วย เธอไม่เคยมีเขาอยู่ในหัวใจเลย

 

 

เธอรู้ว่าทำแบบนี้มันโหดร้ายกับกงจวิ้นฉือ แต่ว่าเจ็บในตอนนี้ก็ดีกว่าปล่อยให้จํบในระยะยาว ความรู้สึกไม่ใช่เรื่องสนุก มันสามารถทำลายชีวิตคนได้ ดังนั้นเธอจำต้องตัดขาดความรักที่มีต่อเขาอย่างโหดร้าย ก่อนที่เธอจะสร้างความเสียหายที่ถลำลึกมากกว่านี้

 

 

กงจวิ้นฉือคลายมือของฉู่เจียเสวียนออกทีละน้อย เพราะคำพูดของเธอเป็นเหมือนมีดคมที่ทิ่มแทงหัวใจของเขาอย่างรุนแรง ทำให้เขาเจ็บปวดจนไม่สามารถหายใจได้ เขาเจ็บปวดจนอยากจะตาย

 

 

มองดูแผ่นหลังของฉู่เจียเสวียนที่ยิ่งไกลออกไป กงจวิ้นฉือรู้สึกว่างเปล่า ความเจ็บปวดแผ่ซ่านไปทั่วทั้งร่างกาย เสียดแทงทุกเส้นประสาทของเขา

 

 

จู่ๆ เขาก็รู้สึกเกลียดเผยหนานเจวี๋ยขึ้นมา เขามีสิทธิ์อะไรที่ได้รับความรักของฉู่เจียเสวียนไปง่ายๆ แบบนี้ ในขณะที่เขาร้องขอแต่กลับไม่ได้? มันไม่ยุติธรรมเลย ไม่ยุติธรรม

 

 

ทั้งๆ ที่เขาทำเพื่อเธอขนาดนั้นแล้ว ทำไมเธอถึงคิดจะเลิกก็เลิกแบบนี้?

 

 

เขาจะไม่ปล่อยให้พวกเขาได้อยู่ด้วยกัน ไม่มีทางแน่นอน! เขาหลับตาลงด้วยความเจ็บปวดและทรุดตัวลงบนเก้าอี้อย่างอ่อนแรง

 

 

เขาไม่มีทางให้ตัวเองยอมแพ้ ยิ่งไม่มีทางที่จะทนให้ฉู่เจียเสวียนได้อยู่ด้วยกันกับเผยหนานเจวี๋ย

 

 

 

 

ตอนที่ 673 รถแข่งที่บ้าคลั่ง  

 

 

ในโรงพยาบาล หลังจากกงจวิ้นฉือป้อนอาหารให้คุณย่าแล้วก็พาเธอเข้านอน และโทรศัพท์มือถือของเขาดังขึ้นอีกครั้ง

 

 

“คุณย่าพักผ่อนก่อนนะครับ ผมจะออกไปรับโทรศัพท์” น้ำเสียงอบอุ่นของกงจวิ้นฉือดังขึ้น

 

 

คุณย่ากงพยักหน้า มองดูประตูห้องปิดลง เธอทอดถอนใจอย่างแรง รู้สึกเสียใจที่ฉู่เจียเสวียนกับกงจวิ้นฉือเลิกกัน

 

 

เมื่อมาถึงสถานที่ที่เหมาะสมไม่มีใครได้ยินแล้ว กงจวิ้นฉือก็รับสาย “ฮัลโหล”

 

 

“คุยกับเธอเป็นยังไงบ้าง” เสียงที่ชัดเจนดังขึ้นในโทรศัพท์

 

 

“ไม่ราบรื่นเท่าไหร่” กงจวิ้นฉือหัวเราะขมขื่น เธอไม่ยอมให้โอกาสเขาเลยสักนิด

 

 

“เธอปฏิเสธคุณซะแล้วเหรอ” หลี่เซียนเซียนคิดไว้แล้วว่าผลลัพธ์ต้องเป็นแบบนี้ ดูเหมือนว่าตอนนี้ฉู่เจียเสวียนกับเผยหนานเจวี๋ยจะรักกันมากทีเดียว เมื่อเธอคิดถึงตรงนี้ดวงตาของเธอก็เต็มไปด้วยความเกลียดชัง

 

 

หลี่เซียนเซียนกลับประเทศวันเดียวกันกับกงจวิ้นฉือ ทว่าทั้งสองคนไม่ได้กลับเที่ยวบินเดียวกัน

 

 

กงจวิ้นฉือกลับมาเร็วกว่า เธอกลับมาช้ากว่า

 

 

“อืม ในใจของเธอไม่มีผมอยู่เลยจริงๆ” กงจวิ้นฉือเอ่ยปากอย่างเจ็บปวด หัวใจแตกสลาย

 

 

“ผู้ชายคนนั้นก็ไม่ได้ชอบเธอ คุณไม่กลัวว่าเธอจะเจ็บปวดอีกเหรอ” หลี่เซียนเซียนเอ่ยปากต่อ เธอต้องการให้กงจวิ้นฉือหยุดยั้งไม่ให้ฉู่เจียเสวียนกับเผยหนานเจวี๋ยอยู่ด้วยกัน

 

 

“กลัวสิ เอาเถอะ คุณไม่ต้องมายุ่งเรื่องของผมหรอก ผมจัดการเองได้” ทำไมกงจวิ้นฉือจะไม่รู้ถึงจุดประสงค์ของหลี่เซียนเซียน เธอชอบเผยหนานเจวี๋ย ส่วนเขาชอบฉู่เจียเสวียน พวกเขาทั้งสองคนต่างไม่อยากให้พวกเขาอยู่ด้วยกัน

 

 

หลี่เซียนเซียนได้ยินสัญญาณโทรศัพท์มือถือตัดไป ริมฝีปากแดงก็ยกยิ้ม เดินไปที่หน้าต่างยาว ชมทิวทัศน์อันยิ่งใหญ่ของเมือง A

 

 

ราตรีย่างกรายเข้ามาอย่างเชื่องช้า เมือง A สงบเงียบเป็นอย่างยิ่งราวกับคลื่นใต้น้ำ ค่ำคืนนี้ดูเหมือนจะหนาวขึ้นมาก หญ้าแห้งทั้งสองข้างทางล้วนมีน้ำค้างแข็งเกาะอยู่

 

 

ทั้งๆ ที่เทศกาลตรุษจีนผ่านพ้นไปแล้ว ทว่าเมือง A ก็ยังดูแปลกประหลาด

 

 

เผยหนานเจวี๋ยกำลังนอนอยู่บนเตียงอย่างสบายๆ มีเสียงดนตรีไพเราะดังอยู่ภายในห้อง และเขารู้สึกผ่อนคลายมากในขณะนี้

 

 

ในเวลานี้บวกกับอากาศหนาวจัด ทุกคนควรจะอยู่ในความฝันถึงจะถูก แต่ว่ารถคันหนึ่งกำลังแล่นอยู่บนทางด่วนด้วยความเร็วสูง

 

 

กงจวิ้นฉือขับรถอยู่บนทางด่วนด้วยความเร็ว ระยะหลังมานี้เขารู้สึกหดหู่มากอยู่เสมอ เขาจำเป็นต้องระบายและจำเป็นต้องปลดปล่อย

 

 

ด้วยความเร็วระดับนี้ ทำให้รถเคลื่อนตัวเร็วปานสายธนู ทำให้ดูแล้วรู้สึกหนาวเหน็บในใจ ต่อให้คราวนี้เขาต้องประสบอุบัติเหตุอีกครั้ง เขาก็ไม่สนใจเลยสักนิด

 

 

เขากำลังคิดว่าถ้าเขาประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์ ฉู่เจียเสวียนจะอยู่เคียงข้างเขาเพื่อดูแลเขาหรือเปล่า

 

 

ความคิดที่แวบขึ้นในหัวของเขาทำให้เขาเกือบตัดสินใจที่จะทำแบบนั้น แต่ในท้ายที่สุดความมีเหตุผลก็ได้ยับยั้งความคิดที่บ้าคลั่งเอาไว้ อุบัติเหตุคราวที่แล้วยังไม่สามารถรั้งเธอไว้ได้เลย ต่อให้เขาเกิดอุบัติเหตุอีกครั้งแล้วอย่างไร?

 

 

สุดท้ายผลลัพธ์ก็เหมือนกัน สู้ไม่ยอมแพ้เสียดีกว่า บางทีการเข้าไปพัวพันกับเธอ อาจจะทำให้เธอหวั่นไหวกับเขาก็ได้

 

 

มีความคิดมากมายในใจของเขาที่จะป้องกันไม่ให้ฉู่เจียเสวียนกลับไปคืนดีกับเผยหนานเจวี๋ย เขารู้สึกว่าเขาแทบจะควบคุมตัวเองไม่ได้แล้ว เขาใกล้จะเสียสติไปแล้ว

 

 

ขณะนี้รถกำลังแล่นด้วยความเร็วสูงสุด แต่เขายังคงกระแทกคันเร่ง พร้อมมองไปที่ด้านหน้าถนนด้วยสีหน้าเย็นชา

 

 

ท้องฟ้าเริ่มสว่างขึ้นแล้ว กงจวิ้นฉือขับรถอยู่บนทางด่วนตลอดทั้งคืน จนกระทั่งฟ้าสว่าง เขาจึงกลับไปที่โรงพยาบาล

 

 

หลังจากซื้ออาหารเช้าและให้คุณย่ากงทานเรียบร้อย เขาก็ตัดสินใจไปหาฉู่เจียเสวียน เขาต้องการจะบอกเธอว่าเขาขาดเธอไม่ได้จริงๆ

 

 

ขณะที่ออกจากโรงพยายาล กงจวิ้นฉือก็ได้จ้างพยาบาลให้มาดูแลคุณย่ากง