ตอนที่ 670 เลิกกันแล้ว / ตอนที่ 671 เธอมาทำไม

กับดักรักในรอยแค้น

ตอนที่ 670 เลิกกันแล้ว  

 

 

กงจวิ้นฉือออกมาจากสนามบิน มองดูผืนฟ้าที่เป็นสีเทา ขึ้นรถที่จอดรออยู่ข้างทางทันทีโดยไม่รีรอ

 

 

เขาได้รับโทรศัพท์จากคุณย่ากง บอกว่าต้องการให้เขากลับมาทันที เขาคิดว่าบางทีย่าของเขาอาจจะรู้เรื่องของเขากับฉู่เจียเสวียนแล้วก็ได้ แม้ว่าเขาจะไปต่างประเทศเป็นเวลาหนึ่งสัปดาห์ แต่เขาก็ยังไม่ได้เดินออกมาจากโลกที่ไม่มีฉู่เจียเสวียน

 

 

“ประธานกง กลับบ้านคุณย่าเลยไหมครับ” คนขับถามขึ้นขณะที่สตาร์ทรถ

 

 

“อืม” กงจวิ้นฉือตอบเสียงเบา ยื่นมือออกมานวดคลึงขยับ ไปต่างประเทศเป็นเวลาหนึ่งอาทิตย์ เขาทำงานทั้งวันทั้งคืน ต้องการให้ตัวเองเป็นอัมพาตด้วยเรื่องงาน

 

 

คนขับรถได้ยินดังนั้นก็เปลี่ยนเส้นทางรถ แล้วตรงไปที่บ้านคุณย่ากงทันที

 

 

กงจวิ้นฉือกำลังคิดอยู่ในใจว่าจะอธิบายเรื่องนี้ให้คุณย่ากงฟังได้อย่างไร เดิมทีคิดว่าถ้าเขาไปต่างประเทศเพื่อซ่อนตัวสักพัก ทุกอย่างก็จะดีขึ้นและเขาก็คงจะคิดถึงฉู่เจียเสวียนน้อยลง

 

 

แต่ว่าตอนนี้คิดๆ ดูแล้วเขาก็คิดผิด ทันทีที่เขาหยุดทำงาน น้ำเสียงและรอยยิ้มของฉู่เจียเสวียนก็ผุดขึ้นมาในสมองโดยไม่ได้ตั้งใจ เขาลืมเธอไม่ลง

 

 

เขาคิดไม่ถึงเลยว่าคุณย่ากงจะพบว่าเกิดปัญหาขึ้นระหว่างเขากับฉู่เจียเสวียน ตกลงว่าเขาควรจะทำอย่างไรกันแน่

 

 

ขณะที่กำลังเหม่อลอยอยู่นั้น รถก็ได้กลับมาถึงบ้านของคุณย่าแล้ว กงจวิ้นฉือลงจากรถ เดินเข้าไปในบ้านทันที เขาเดินเข้าบ้านด้วยเนื้อตัวที่หนาวเย็น เครื่องทำความร้อนในบ้านทำให้ร่างกายของเขาอบอุ่นขึ้น แต่ไม่สามารถทำให้หัวใจที่แตกสลายของเขาอบอุ่นได้เลย

 

 

เมื่อเข้ามาในห้องโถงแล้วกงจวิ้นฉือก็เห็นคุณย่ากงนั่งอยู่บนที่นั่งหลักด้วยสีหน้าขึงขัง ทันทีที่เห็นเขากลับมาดวงตาของก็เปี่ยมไปด้วยความโกรธ

 

 

“คุณย่า เป็นอะไรไปครับ” กงจวิ้นฉือนั่งลงทางด้านซ้ายมือของคุณย่ากง มองเธอพร้อมกับพูดขึ้น สายตาเหลือบไปเห็นนิตยสารธุรกิจฉบับล่าสุดบนโต๊ะ ด้านบนมีรูปภาพของฉู่เจียเสวียนและเผยหนานเจวี๋ย ทั้งสองมองหน้ากัน เผยหนานเจวี๋ยมีสีหน้าอ่อนโยนและฉู่เจียเสวียนดูเขินอาย

 

 

เขาฝืนยิ้ม ความรักของพวกเขาสองคนมาถึงขั้นนี้แล้วหรือ เขาทำผิดไปหรือเปล่า ทันทีที่เขาจากไป ไม่เท่ากับเป็นการให้โอกาสพวกเขาได้อยู่ด้วยกันหรอกหรือ

 

 

ทว่า หากเขาไม่จากไป ก็จะทนดูท่าทางที่พวกเขาสองคนรักกันได้หรือ?

 

 

“หลานยังจะมีหน้ามาถามย่าอีกอย่างนั้นหรือ? ย่าอยากถามหลานมากกว่าว่าเป็นอะไรไป” คุณย่ากงพูดอย่างโกรธเคือง มองเขาด้วยสายตาเฉียบคม

 

 

กงจวิ้นฉือเอ่ยปากออกมาอย่างขมขื่น “ผมไม่ได้เป็นอะไรนี่ครับ”

 

 

“ยังคิดที่จะหลอกย่าอีก เกิดอะไรขึ้นระหว่างหลานกับฉู่เจียเสวียน ทำไมเธอถึงได้สนิทกับคนบ้านเผยขนาดนั้น” คุณย่ากงเอ่ยปากด้วยความจริงจัง

 

 

ฉู่เจียเสวียนหย่ากับผู้ชายคนนี้แล้วไม่ใช่หรือ แล้วทำไมตอนนี้พวกเขาถึงอยู่ด้วยกันอีกล่ะ กงจวิ้นฉือกับฉู่เจียเสวียนบอกว่าเดือนพฤษภาคมปีนี้จะแต่งงานกันไม่ใช่เหรอ

 

 

ตอนนี้มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่

 

 

“ผมเลิกกับเขาแล้วครับ” กงจวิ้นฉือเอ่ยออกมาด้วยความเจ็บปวด แม้ว่าเขาจะไม่อยากยอมรับ แต่ตอนนี้มียังเหตุผลอะไรที่เขาจะไม่ยอมรับได้อีกล่ะ?

 

 

“ว่าไงนะ มันเกิดขึ้นตั้งแต่เมื่อไหร่?” หัวใจของคุณย่ากงเหมือนมีหินก้อนใหญ่มาทับไว้ เธอหายใจหอบอย่างรุนแรง

 

 

เมื่อกงจวิ้นฉือเห็นเช่นนั้นก็รีบลุกขึ้นทันที เขากลัวว่าจะคุณย่ากงจะเป็นอะไรไป

 

 

“คุณย่า คุณย่าใจเย็นๆ นะครับ ใจเย็นๆ” กงจวิ้นฉือกล่าวด้วยความเป็นห่วง ยื่นมือลูบๆ หลังของคุณย่า

 

 

“หลานว่ามาซิ พวกหลานเลิกกันตั้งแต่เมื่อไร” คุณย่ากงปัดมือของกงจวิ้นฉือออกไป พร้อมเอ่ยถาม

 

 

“ปีที่แล้วครับ ก่อนวันที่ผมจะเกิดอุบัติเหตุ”

 

 

“ว่ายังไงนะ? นี่หลานปิดบังย่ามาตลอดเลยเหรอ ไม่น่าล่ะยังไม่ทันฉลองตรุษจีนเธอก็อยากจะกลับแล้ว ก็ได้ ในเมื่อหลานหลอกย่า…” คุณย่ากงตบๆ หน้าอกด้วยสีหน้าเจ็บปวด

 

 

 

 

ตอนที่ 671 เธอมาทำไม  

 

 

เธอคิดไม่ถึงว่าฉู่เจียเสวียนกับกงจวิ้นฉือจะเลิกกันตั้งแต่ปีที่แล้ว แต่ว่าพวกเขายังคงแสดงละครต่อหน้าเธอ

 

 

เธอควรจะคิดได้ตั้งแต่แรกแล้วไม่ใช่หรือ ไม่น่าล่ะเวลาที่ฉู่เจียเสวียนอยู่ที่บ้านเธอถึงได้เกรงใจกงจวิ้นฉือขนาดนั้น อีกทั้งยังแยกห้องนอนกัน ที่แท้พวกเขาก็เลิกกันนานแล้ว

 

 

“คุณย่า อย่าโกรธเลยนะครับ ผมผิดไปแล้ว คุณย่าใจเย็นๆ นะครับ คุณย่าไม่ต้องสนใจเรื่องของผมดีไหมครับ ตอนนั้นเพราะพวกเราเป็นห่วงสุขภาพของคุณย่าก็เลยไม่กล้าบอกความจริง คิดว่าจะรอให้คุณย่าแข็งแรงมากกว่านี้ขึ้นหน่อยแล้วค่อยบอก” เมื่อเห็นว่าคุณย่ากงรู้สึกตื่นเต้นมากขึ้น กงจวิ้นฉือก็รีบอธิบาย

 

 

“จวิ้นฉือ ถ้าอย่างนั้นตอนนี้ฉู่เจียเสวียนก็อยู่กับเผยหนานเจวี๋ยแล้วเหรอ” คุณย่ากงถามด้วยความเจ็บปวด เธอยังยินดีที่จะช่วยพวกเขาเตรียมงานแต่งงานอยู่เลย

 

 

ถ้าหากเธอไม่ได้อ่านนิตยสาร เขาก็ยังไม่คิดที่จะบอกความจริงกับเธอใช่ไหม

 

 

เธอนึกมาตลอดว่าความรักระหว่างกงจวิ้นฉือกับฉู่เจียเสวียนนั้นยังดีอยู่ คิดไม่ถึงว่าพวกเขาจะเลิกกันแล้ว

 

 

กงจวิ้นฉือพยักหน้า “ใช่ครับคุณย่า”

 

 

ตอนที่ตอบประโยคนี้ หัวใจของกงจวิ้นฉือก็ยิ่งเจ็บปวด การที่เขาต้องยอมรับเรื่องแบบนี้ด้วยตัวเอง มันก็เจ็บปวดเกินไปแล้วสำหรับเขา เขาไม่อยากจะยอมรับเลย

 

 

แต่นั่นคือความจริงที่เถียงไม่ได้ไม่ใช่หรือ? ฉู่เจียเสวียนบอกเขาอย่างชัดเจนแล้วว่าคนที่เธอชอบคือเผยหนานเจวี๋ย ไม่ใช่เขา

 

 

“หลาน…” เมื่อคุณย่ากงได้ยินคำตอบของเขาก็หายใจไม่ออก หลับตาลงแล้วหมดสติไป

 

 

กงจวิ้นฉือตกใจจนใบหน้าถอดสี รีบพาคุณย่ากงไปที่โรงพยาบาลทันที

 

 

 

 

ในโรงพยาบาล กงจวิ้นฉือรออยู่นอกห้องอย่างร้อนใจ เดินกลับไปกลับมาไม่หยุด

 

 

ติ๊ด ติ๊ด ทันใดนั้นจู่ๆ โทรศัพท์มือถือในกระเป๋าของเขาก็ดังขึ้น กงจวิ้นฉือหยิบโทรศัพท์มือถืออกมา มองดูสายเรียกเข้า ประกายไฟเล็กๆ พลันไหววูบอยู่ในแววตา

 

 

“ฮัลโหล” กงจวิ้นฉือกดปุ่มรับสาย น้ำเสียงสั่นเครือเล็กน้อย

 

 

“จวิ้นฉือ คุณกลับมาแล้วเหรอ” เสียงที่คุ้นเคยดังอยู่ในโทรศัพท์

 

 

“อืม” กงจวิ้นฉือกล่าวเสียงเบา

 

 

“ตอนนี้คุณอยู่ที่ไหน” ฉู่เจียเสวียนเอ่ยถาม

 

 

“โรงพยาบาลครับ” กงจวิ้นฉือตอบตามตรง

 

 

ทันทีที่ฉู่เจียเสวียนได้ยินคิ้วของเธอก็ขมวดกัน “ทำไมคุณอยู่ที่โรงพยาบาลล่ะ เกิดอะไรขึ้นอย่างนั้นเหรอ”

 

 

“คุณย่าเข้าโรงพยาบาล” กงจวิ้นฉือไม่คิดจะปิดบังฉู่เจียเสวียน โดยส่วนตัวเขายังคงหวังว่าฉู่เจียเสวียนจะสามารถมาที่โรงพยาบาลได้ บางทีเขาอาจจะสามารถใช้ความเห็นใจของเธอทำให้เธออยู่ด้วยกันกับเขาอีกครั้ง

 

 

“โรงพยาบาลไหน ฉันจะรีบไปเดี๋ยวนี้” ฉู่เจียเสวียนกังวลเกี่ยวกับอาการของคุณย่ากง เธอต้องการจะไปพบเธอ

 

 

หลังจากกงจวิ้นฉือบอกที่อยู่กับฉู่เจียเสวียนแล้วเขาก็วางสาย เพราะคุณหมอเพิ่งออกมาจากห้องคนไข้ เขาจึงรีบก้าวเข้าไปหา “คุณหมอครับ คุณย่าของผมเป็นยังไงบ้างครับ”

 

 

“เพราะว่าคนไข้ได้รับความกระทบกระเทือนทางใจมากเกินไป ก็เลยทำให้หมดสติ คนไข้มีโรคเกี่ยวกับหัวใจอยู่แล้ว ครั้งหน้าก็ระวังอย่าให้ท่านกระทบกระเทือนใจอีกนะครับ”

 

 

“ได้ครับๆ ขอบคุณครับคุณหมอ” กงจวิ้นฉือพยักหน้าติดๆ กัน

 

 

“ตอนนี้คุณเข้าไปเยี่ยมท่านได้แล้วครับ” พูดจบ คุณหมอก็ก้าวเท้าจากไป

 

 

กงจวิ้นฉือผลักประตูเข้าไป ในห้องคนไข้เต็มไปด้วยกลิ่นของยาฆ่าเชื้อ เขามองไปที่คุณย่ากงที่นอนอยู่ข้างใน ยามนี้ใบหน้าของเธอซีดขาว ไร้ซึ่งชีวิตชีวา ศีรษะขาวโพลนยิ่งทำให้เธอแก่ลงกว่าเดิมอย่างเห็นได้ชัด

 

 

เขาเดินเข้าไปหาเธอแผ่วเบา นั่งลงที่ข้างเตียงแล้วจับมือเธอเบาๆ “คุณย่าครับ ผมขอโทษ”

 

 

เขาปวดใจมากที่ต้องเลิกกับฉู่เจียเสวียน เขาไม่สามารถยอมรับความจริงที่ว่าฉู่เจียเสวียนเลิกกับเขาได้ ทั้งๆ ที่เขารักเธอมากขนาดนั้น ทำไมเธอบอกจะเลิกก็เลิกง่ายๆ แบบนี้

 

 

หญิงชราบนเตียงผู้ป่วยค่อยๆ ลืมตาขึ้นมา มองดูสีหน้าของกงจวิ้นฉือที่ฉายแววตำหนิตนเองด้วยความเจ็บปวด คุณย่ากงเอ่ยปากอย่างอ่อนแรงว่า “จวิ้นฉือ…”

 

 

เมื่อได้ยินเสียง กงจวิ้นฉือเงยหน้าขึ้น พูดด้วยความตื่นตระหนก “คุณย่า คุณย่าเป็นยังไงบ้างครับ รู้สึกไม่สบายตรงไหนหรือเปล่า”

 

 

คุณย่ากงส่ายหน้า “พยุงย่าลุกขึ้นที”

 

 

กงจวิ้นฉือรีบยื่นมือประคองคุณย่ากงให้ลุกขึ้นนั่ง วางหมอนไว้ข้างหลังเพื่อให้เธอเอนตัวได้สบายขึ้น

 

 

“จวิ้นฉือ เรื่องหลานกับฉู่เจียเสวียนเป็นไปไม่ได้แล้วจริงๆ หรือ” คุณย่ากงเอ่ยปาก พร้อมมองดูกงจวิ้นฉือด้วยสีหน้าจริงจัง

 

 

กงจวิ้นฉือเม้มริมฝีปาก เขาไม่รู้ว่าจะตอบคำถามของเธออย่างไร ในจิตใต้สำนึกเขาก็ไม่อยากจะปล่อยเธอไป

 

 

ฉู่เจียเสวียนเป็นผู้หญิงเขาที่รักมาทั้งชีวิต เขาไม่สามารถปล่อยไปง่ายๆ แบบนี้

 

 

“คุณย่า ผม…”

 

 

ก๊อกๆ

 

 

กงจวิ้นฉือยังไม่ทันพูดจบ จู่ๆ เสียงเคาะประตูก็ดังขึ้น

 

 

“เข้ามา” เสียงที่ทุ้มต่ำของกงจวิ้นฉือดังขึ้น จากนั้นประตูของห้องคนไข้ก็เปิดออก

 

 

ฉู่เจียเสวียนเดินเข้ามาด้วยท่าทางเป็นกังวล เธอเดินเข้าไปหาคุณย่ากงพร้อมเอ่ยปากว่า “คุณย่าคะ คุณย่าเป็นยังไงบ้าง เป็นอะไรมากหรือเปล่าคะ”

 

 

เมื่อเห็นฉู่เจียเสวียนปรากฏตัวอยู่ตรงหน้า สายตาของกงจวิ้นฉือก็มองเธอด้วยความปรารถนา

 

 

เธอสวยขึ้นอีกแล้ว ตัวเธอเปี่ยมไปด้วยกระแสธารแห่งความสุข บุคลิกของเธอยิ่งโดดเด่นขึ้นกว่าเดิม ขาเรียวตรงถูกห่อหุ้มด้วยถุงน่องสีดำรัดรูป เสื้อคลุมยาวสีเบจทำให้ร่างสูงของเธอดูเพรียวขึ้นอย่างเห็นได้ชัด

 

 

ผมเป็นลอนยาวปล่อยสยายอยู่ด้านหลัง ผมม้าบนหน้าผากยุ่งเหยิงเล็กน้อยเพราะความเร่งรีบ เขาอยากจะเอื้อมมือไปลูบผมยุ่งเหยิงของเธอเหลือเกิน

 

 

เห็นได้ชัดว่าคุณย่ากงไม่ได้คาดหวังว่าฉู่เจียเสวียนจะมา ขณะที่เห็นเธอ ท่านอึ้งไปครู่หนึ่งจากนั้นก็ดึงสติกลับมาได้ในทันใด แววตาที่มองเธอนั้นมีความเกลียดชัง

 

 

“เธอมาทำไม” คุณย่ากงเอ่ยอย่างไม่เกรงใจ เพียงแค่เธอคิดว่าตอนนี้ฉู่เจียเสวียนเป็นผู้หญิงของเผยหนานเจวี๋ย เธอก็รู้สึกโมโหขึ้นมา

 

 

“คุณย่าคะ…” ฉู่เจียเสวียนตะลึงงันเล็กน้อย ไม่เข้าใจว่าเธอเป็นอะไรไป ทำไมสายตาที่มองเธอถึงได้เฉียบคมแบบนั้น

 

 

“คุณย่าครับ เจียเสวียนมาเยี่ยมคุณย่า คุณย่าไม่ดีใจเหรอครับ” กงจวิ้นฉือเอ่ยปาก บีบมือของคุณย่ากงแน่น

 

 

“หึ ฉันไม่จำเป็นต้องให้เธอมาเยี่ยม เธอออกไปซะ ต่อไปนี้ฉันก็ไม่อยากเห็นหน้าเธออีก” คุณย่ากงพูดมาถึงตรงนี้ อารมณ์ก็ถูกกระทบกระเทือนอีกครั้ง

 

 

“คุณย่า อย่าโกรธสิครับ คุณหมอบอกแล้วว่าคุณย่าจะตื่นเต้นไม่ได้” กงจวิ้นฉือรีบเอ่ยปาก ปลอบประโลมอารมณ์ของคุณย่ากงไม่หยุด

 

 

เขาไม่ต้องการให้เธอตื่นขึ้นมาและเป็นลมอีก เขาส่งสายตาให้ฉู่เจียเสวียน บอกให้เธอออกไปก่อน ฉู่เจียเสวียนเห็นด้วยและพยักหน้าเบาๆ

 

 

เธอคิดว่า อาจจะเป็นเพราะคุณย่ากงรู้เรื่องของเธอและกงจวิ้นฉือแล้ว ไม่อย่างนั้นท่านก็คงไม่ปฏิบัติต่อเธอแบบนี้

 

 

“คุณย่าพักผ่อนเยอะๆ นะคะ” ฉู่เจียเสวียนพูดอย่างรู้สึกผิด เธอรู้สึกเสียใจมากสำหรับเรื่องระหว่างเธอกับกงจวิ้นฉือ

 

 

“เดี๋ยวก่อน” เห็นว่าฉู่เจียเสวียนกำลังจะไป จู่ๆ คุณย่ากงก็เอ่ยปากรั้งเธอไว้

 

 

ฉู่เจียเสวียนหันกลับมา มองคุณย่ากงด้วยความสงสัย

 

 

คุณย่ากงสูดหายใจเข้าลึกๆ หลังจากทำลมหายใจให้สงบแล้ว ก็เอ่ยขึ้นเชื่องช้า “เธอเลิกกับจวิ้นฉินแล้วจริงเหรอ”

 

 

ในใจลึกๆ เธอยังต้องการให้ฉู่เจียเสวียนอยู่กับกงจวิ้นฉือ สุดท้ายแล้วตอนที่กงจวิ้นฉือประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์ เธอก็เห็นแล้วว่าเธอปฏิบัติต่อเขาและดูแลพวกเขาสองเขาย่าหลานอย่างไร

 

 

กงจวิ้นฉือมองดูฉู่เจียเสวียน เขาก็รอคำตอบของเธอเช่นกัน เขายังคงหวังว่าฉู่เจียเสวียนจะไม่ไปจากเขา หัวใจเต้นแรงขึ้นด้วยความตื่นเต้น ดวงตาจับจ้องเขม็งที่อารมณ์บนใบหน้าของเธอ