ตอนที่ 601 ช่างน่าหวาดกลัวเกินไปแล้ว

ท่านอ๋องผู้โหดร้ายกับหมอปีศาจ

มังกรเพลิงกลืนกินเหล่ามนุษย์โลหะตรงหน้าอย่างบ้าคลั่ง มนุษย์โลหะเหล่านี้ดูเหมือนว่าได้เจอกับมัจจุราชแล้วก็มิปาน ภายใต้การแผดเผาของเปลวไฟนี้ได้เริ่มหลอมเหลวกลายเป็นหลุมเป็นบ่อ มิอาจขยับตัวได้

ปัง ปัง ปัง!

พวกเขาพังทลายตกลงมาสู่พื้น กระบี่ในมือมู่เฉียนซีก็มีเสียง แกร๊ง! ดังขึ้นเช่นกัน กระบี่เล่มนี้หักอีกแล้ว

มู่เฉียนซีหยิบคมกระบี่ขึ้นมา ดูเหมือนว่านางจะรับรู้ได้ถึงความเหนื่อยล้าของมัน เพื่อสังหารมนุษย์โลหะสิบคนภายในลมหายใจเดียว ครั้งนี้มันได้ใช้ความพยายามและกำลังไปเยอะมาก และสิ้นเปลืองพลังไปมากเช่นกัน

“หมดเวลา……”

“สำเร็จร้อยหลอม!”

สองเสียงนี้ดูเหมือนว่าจะดังขึ้นพร้อมกัน อาจารย์ผู้คุมสอบทั้งสองต่างก็หันมามองหน้ากัน ชั่วพริบตาเดียวก็รู้สึกหวาดกลัวและตื่นตระหนกขึ้นมาทันที

“ร้อยหลอม มีนักเรียนทำสำเร็จร้อยหลอมแล้ว นึกไม่ถึงเลยว่าชีวิตนี้ของข้าจะได้เห็นกับอัจฉริยะเช่นนี้” เสียงแก่ชราเสียงหนึ่งดังขึ้น

อาจารย์ผู้คุมสอบหลายคนได้เห็นกับร่างที่ดูเหมือนเทพเซียนร่างหนึ่งปรากฏขึ้น พวกเขากล่าวด้วยความเคารพว่า “ท่านผู้อาวุโสสูงสุด ท่านมาแล้ว!”

การทดสอบรับนักเรียนใหม่ ท่านผู้อาวุโสสูงสุดไม่ได้มีเวลาว่างที่จะมาเข้าร่วมชมได้ ทว่า การที่มีผู้ทดสอบสำเร็จในร้อยหลอมอันยากลำบากนี้ได้นั้น แน่นอนว่าทำให้เขาตกใจเป็นอย่างมาก

“ท่านผู้อาวุโสสูงสุด อยากจะเห็นอัจฉริยะผู้นั้นหรือไม่”

ท่านผู้อาวุโสสูงสุดส่ายหน้าพลางกล่าว “เพิ่งเข้ามาในสำนักศึกษา หากให้ความสนใจกับนางเป็นพิเศษ มันจะไม่ช่วยให้นางเติบโตขึ้น เรื่องที่มีคนทำสำเร็จร้อยหลอมนี้อย่าได้แพร่งพรายออกไปเป็นอันขาด หลักการที่ว่า ไม้เด่นเกินไพร ลมพัดหักโค่น พวกเจ้าน่าจะเข้าใจใช่หรือไม่!”

“เช่นนั้น ไม่ต้องฝึกฝนให้หนักเหรอขอรับ ?” อาจารย์คุมสอบผู้หนึ่งกล่าวถาม

“นางฝึกร้อยหลอมสำเร็จ มีอัจฉริยะเช่นนี้อยู่ คาดว่าคงไม่นานนางก็จะได้กลายเป็นนักเรียนชั้นในของสำนักศึกษา เมื่อถึงตอนนั้น นั่นถึงจะเป็นเวลาที่ต้องฝึกฝนนางอย่างแท้จริง” ผู้อาวุโสสูงสุดกล่าว

“ท่านผู้อาวุโสสูงสุดกล่าวถูก!”

ทรัพยากรของชั้นในนั้น ไม่ใช่สิ่งที่ชั้นนอกจะเทียบได้ ปีศาจที่สามารถฝึกร้อยหลอมได้สำเร็จ การที่จะเข้าเป็นนักเรียนชั้นในนั้น ไม่ว่าจะช้าหรือเร็วก็ต้องเกิดขึ้นอยู่ดี

ผู้อาวุโสสูงสุดกล่าว “ข้าไปก่อน รอให้เจ้าเด็กผู้นั้นออกมา เอาข้อมูลของนางมาให้ข้า เด็กที่สามารถฝึกสำเร็จร้อยหลอมได้นั้น ช่างน่าสนใจยิ่งนัก!”

กล่าวจบ ร่างของผู้อาวุโสสูงสุดก็อันตรธานหายไปต่อหน้าพวกเขาทันที

“ตอนนี้ท่านผู้อาวุโสสูงสุดเป็นถึงมหาจักรพรรดิแห่งภูตระดับสามแล้ว ทั้งสำนักศึกษา นอกจากอาจารย์ใหญ่ผู้ที่ได้ฉายาว่าเป็นเทพเจ้ามังกร เห็นหัวไม่เห็นหาง โผล่หน้าให้เห็นแวบเดียวก็หายไปผู้นั้นแล้ว ก็เป็นเขานี่แหละที่เป็นผู้แข็งแกร่งที่สุด”

“ข้าคิดว่าท่านผู้อาวุโสสูงสุดกำลังจะทะลวงพลังขั้นมหาจักรพรรดิระดับสี่ได้แล้ว ช่างแข็งแกร่งยิ่งนัก! ไฉนเลยจะเหมือนพวกเรา ที่เป็นแค่มหาจักรพรรดิแห่งภูตระดับหนึ่งมาหลายสิบปีแล้ว แต่ก็ยังย้ำอยู่ที่เดิม ไม่ก้าวหน้าใดใดเลย”

หากจะบอกว่าการฝึกฝนให้ก้าวหน้าในขั้นมหาจักรพรรดินั้น เป็นสิ่งที่ยากมากก็คงจะไม่กล่าวเกินไป

พลังในดินแดนสี่ทิศนั้นอ่อนแอเกินไป พรสวรรค์ไม่ได้ยอดเยี่ยมถึงขั้นสูงสุด ถึงแม้ว่าจะทะลวงขั้นมหาจักรพรรดิได้แล้ว แต่ก็ยากที่จะเลื่อนขั้นไปได้อีกระดับ ต่อให้เป็นผู้ที่มีพรสวรรค์ อย่างน้อยก็ต้องใช้เวลาหลายสิบปีกว่าจะเลื่อนขั้นพลังวิญญาณได้

เวลาของการทดสอบได้หมดลงแล้ว หอร้อยหลอมได้เปิดขึ้น

รายชื่อการจัดอันดับออกมาแล้ว ผู้ที่ไม่มีคุณสมบัติที่เหมาะสมก็ได้ถูกส่งตัวไปแล้ว

นักเรียนเหล่านั้นที่ยังคงอยู่ ตอนนี้ใบหน้าเผยรอยยิ้มแห่งความดีอกดีใจออกมา เยี่ยมไปเลย ผ่านแล้ว สอบผ่านแล้ว!

นับจากนี้เป็นต้นไป พวกเขาก็จะเป็นนักเรียนของสำนักศึกษาซวนเสีย สำนักระดับสอง

อาจารย์ผู้คุมสอบก็ยิ้มพลางกล่าวว่า “ยินดีต้อนรับทุกคนเข้าสำนักศึกษาซวนเสีย ตอนนี้พวกเจ้าก็ได้เป็นนักเรียนของสำนักศึกษาซวนเสียอย่างเป็นทางการแล้ว”

“ลำดับต่อไป อาจารย์จะประกาศรายชื่อนักเรียนสิบอันดับแรก และขอให้นักเรียนสิบคนนี้ยืนขึ้น”

“ลำดับที่สิบ ฉินปา!”

“ลำดับที่เก้า……”

“ลำดับที่ห้า โม่ซางคง!”

“ลำดับที่สี่……”

“……”

“ลำดับที่หนึ่ง มู่เฉียนซี!”

ในขณะที่อาจารย์ผู้คุมสอบประกาศชื่ออันดับหนึ่งออกมา ก็รู้สึกตื่นเต้นเป็นอย่างมาก เด็กผู้นี้ได้อันดับหนึ่งมาทั้งสามด่าน

ถึงแม้ว่าสองด่านแรกจะทำลายสถิติไม่ได้ แต่ก็ใกล้เคียงกับสถิติมาก ที่น่ากลัวไปกว่านั้นก็คือด่านที่สามของหอร้อยหลอม นางสามารถทำการทดสอบร้อยหลอมสำเร็จ นี่มันปีศาจชัด ๆ

เมื่อได้ยินชื่อของตัวเอง มู่เฉียนซีก็เดินออกไป

อาจารย์ผู้คุมสอบจ้องมองร่างหญิงสาวชุดม่วงตรงหน้า จ้องมองจนดวงตาแทบจะถลนออกมา

นี่คือหญิงสาวผู้ที่มีใบหน้างดงามเป็นที่สุด แต่ที่สำคัญนั้นมิใช่ใบหน้าที่งดงามของนาง แต่กลับเป็นอายุของนาง

ดูเหมือนว่านางเพิ่งจะบรรลุนิติภาวะได้ไม่นาน!

เป็นไปได้เช่นไร ?

พวกเขากล่าวถามว่า “เจ้าคือนักเรียนมู่เฉียนซีเหรอ ?”

มู่เฉียนซีเลิกคิ้วขึ้นพลางกล่าว “หรือว่ามีใครที่ชื่อเดียวกันกับข้า ?”

“เอาป้ายหยกมาให้อาจารย์ดูหน่อย” อาจารย์ผู้คุมสอบตกอยู่ในความหวาดกลัวแล้ว

“อืม!”

หลังจากที่ตรวจสอบป้ายหยกและข้อมูลเบื้องต้นแล้ว พวกเขาก็ตกใจจนแทบจะเป็นลมล้มไป

เป็นไปอย่างที่คิดไว้จริง ๆ มู่เฉียนซี สิบหกปี เพิ่งจะบรรลุนิติภาวะ

พวกเขามองมู่เฉียนซีราวกับสัตว์ประหลาด หากผู้อาวุโสสูงสุดรู้อายุของปีศาจนางนี้เข้า เกรงว่าจะเสียใจที่รีบกลับไปเช่นนั้น

ผู้อาวุโสสูงสุดน่าจะคิดว่าผู้ที่สามารถสำเร็จร้อยหลอมได้ ถึงแม้ว่าอายุยังไม่ถึงยี่สิบห้า แต่อย่างน้อยก็ไม่น่าจะต่ำกว่ายี่สิบ หากเขารู้ว่าเป็นแค่สาวน้อยที่เพิ่งจะบรรลุนิติภาวะแล้วล่ะก็ คาดว่าจะดึงนางไปเป็นศิษย์อย่างไม่รีรอ

นี่……ช่างน่ากลัวเกินไปแล้ว

มู่เฉียนซีถูกพวกเขาจ้องมองด้วยความตกตะลึง นางก็กล่าวถามว่า “ท่านอาจารย์ มีปัญหาอะไรหรือไม่ ?”

“ไม่มี ไม่มี จะมีปัญหาที่ไหนกันหล่ะ นักเรียนมู่เฉียนซี นี่ป้ายหยกประจำตัวเจ้า เก็บไว้เถอะ!”

“อืม!”

“ส่วนนักเรียนที่นอกเหนือจากสิบคนนี้ ตามอาจารย์มา! ลำดับต่อไปอาจารย์จะพูดถึงขั้นตอนการเข้าเรียนและเรื่องของที่พัก” อาจารย์ที่ท่านอยู่อีกด้านหนึ่งพาพวกเขาออกไป

พวกเขามองมาทางด้านมู่เฉียนซีด้วยความอิจฉาริษยา สิบอันดับแรก เกรงว่าจะได้รับรางวัลไม่เลวเลย!

อาจารย์ผู้คุมสอบที่ยืนอยู่ตรงหน้ามู่เฉียนซีก็กล่าวว่า “พวกเจ้า ก็ตามข้ามาเถอะ!”

พวกเขาเดินเข้าไปในสถานที่ประลองแห่งหนึ่ง และทันใดนั้นเองเสียงหัวเราะก็ดังขึ้น

“เหอะ เหอะ เหอะ! มีศิษย์น้องมาใหม่อีกแล้ว!”

“มีทั้งหนุ่มหล่อรูปงามและหญิงสาวแสนสวย!”

“……”

ด้านหน้ามีคนสิบคนยืนอยู่ พวกเขาต่อแถวเป็นแถวเดียว ทั้งคุณชายผู้สูงศักดิ์ และสาวงามผู้เร่าร้อน

มู่เฉียนซีมองอาจารย์ผู้คุมสอบด้วยความสงสัย นี่จะทำสิ่งใดกัน ?

หรือว่าจงใจจะให้ศิษย์พี่เหล่านี้มารับน้องพวกเขาที่เป็นนักเรียนใหม่ที่ติดสิบอันดับแรก ? เห็นได้ชัดว่ามันไม่ได้ง่ายเช่นนั้น

อาจารย์ผู้คุมสอบไอค่อกแค่กก่อนจะกล่าว “ค่อก ค่อก ค่อก! ต่อไปจะเป็นการทดสอบเพิ่มเติม”

“ทดสอบเพิ่มเติม ?” สอบผ่านแล้ว อีกทั้งพวกเขายังได้สิบอันดับแรก การทดสอบเพิ่มเติมนี้มีเป้าหมายอันใดกัน ?

“พวกเจ้าเลือกที่จะเข้าร่วม หรือไม่เข้าร่วมก็ได้ แต่หากชนะการทดสอบเพิ่มเติมนี้ พวกเจ้าก็จะได้ที่พักส่วนตัวในสำนักศึกษา ไม่เพียงแต่เท่านี้ ที่พักส่วนตัวของพวกเจ้า ยังอยู่ในค่ายกลที่มีพลังวิญญาณอีกด้วย พลังวิญญาณในนั้นมีมากกว่าที่พักธรรมดาทั่วไปถึงสิบเท่า”

“พวกเจ้าอยากได้ที่พักที่ไร้ซึ่งพลังวิญญาณอันหอมกรุ่นและอยู่อัดกันถึงสี่คน หรือว่าอยากได้ที่พักส่วนตัว และเต็มไปด้วยพลังวิญญาณอันเข้มข้น พวกเจ้าก็เลือกเองเถอะ! ถึงแม้ต้องพ่ายแพ้ ก็ไม่ได้มีการลงโทษใดใดสำหรับพวกเจ้า”

เมื่อได้ยินรางวัลนี้แล้ว ดวงตาของพวกเขาก็เปล่งประกายขึ้นทันที ที่พักส่วนตัวอยู่คนเดียว เห็นได้ชัดว่าทั้งกว้างขวาง สะดวกสบาย และเป็นอิสระ อีกทั้งยังมีพลังวิญญาณที่เข้มข้นถึงสิบเท่า สามารถทำให้การฝึกฝนของพวกเขาก้าวหน้าไปได้เร็วขึ้น

นี่ยังต้องเลือกอีกเหรอ ? และในตอนนี้เองน้ำเสียงที่อ่อนโยนเสียงหนึ่งก็ดังขึ้น “ศิษย์น้องทั้งหลาย นี่พวกเจ้าตื่นเต้นกันแล้วใช่หรือไม่! แต่ต้องบอกไว้ก่อนเลยนะ ประเดี๋ยวต่อสู้ขึ้นมา พวกข้าจะไม่มีการยั้งมือให้เด็ดขาด”