ตอนที่ 390

The Novel’s Extra

บทที่ 390 การเคลื่อนไหวของแต่ละบุคคล (4)

[โลก อีเวนเดล ศูนย์ฝึกใต้ดิน]

 

ผมมาศูนย์ฝึกใต้ดินทันทีที่ผมกลับมาสู่โลก อาแฮอิน อยู่ในระหว่างการฝึกให้ อีเวนเดล เธอหยุดบทเรียนของเธอลงชั่วคราวครู่หนึ่งแล้วเดินมาหาผม

 

“เป็นไงบ้าง?” ผมถาม

 

“…เธออยู่ในระดับจอมเวทย์อัญเชิญ 6 ~ 7 ดาว”

 

“หา จริงเหรอ?”

 

“ใช่ แต่นั่นเพียงเวทมนต์ ‘อัญเชิญ’ จำนวนที่เธอสามารถควบคุมได้นั้นน้อยกว่าฉันเพียงเล็กน้อยเท่านั้น”

 

“… .”

 

อีกนัยหนึ่ง อีเวนเดล อยู่ที่ระดับ 6-7 ดาวในแง่ของคุณภาพของการอัญเชิญและเทคนิคการบังคับบัญชา แต่ดธออยู่ที่ระดับ 7 ~ 8 ดาวในแง่ของปริมาณการอัญเชิญ

 

“น่าตกใจจริงๆ”

 

“มันยอดเยี่ยมมาก มันสุดยอดมากโดยเฉพาะหมาป่ากับเสือ”

 

หมาป่าหัวหน้าของสุนัขและเสือหัวหน้าของสุนัข ‘เฟนรีล’ ที่มีขนสีดำสนิทนั้นเหมือนซามูไรพเนจรและ ‘เกรทไทเกอร์’ เสือทองคำที่สง่างามราวกับเป็นราชาแห่งสนามรบ

 

“ทั้ง 2 แข็งแกร่งขึ้นพร้อมกับอีเวนเดลตอนนี้พวกมันยังไม่อยู่ในระดับสูงแต่ก็เป็นเพียงเรื่องของเวลาก่อนที่พวกมันจะไปถึงระดับสูง”

 

“ฉันเข้าใจ…”

 

“ตอนนั้นฉันไม่รู้ว่านายทำยังไง แต่ดูเหมือนว่านายจะทำให้เธอดีขึ้น”

 

“… อะแฮ่ม.”

 

อีเวนเดลและผมใช้เวลาอยู่ด้วยกันมานานแต่ผมไม่คิดว่าผมจะเลี้ยงดูเธอได้ดี ในความคิดของผม อีเวนเดล เป็นแบบนี้เพราะตัวของเธอเอง

ไอเท็มระดับสูงที่ผมมอบให้นั่นทำให้อัตราการเติบโตของเธอเพิ่มขึ้นเพียงแค่สวมใส่พวกมัน นั้นเป็นความรับผิดชอบต่อเธอที่เป็นอยู่ตอนนี้

 

ในขณะนั้น อาแฮอิน ก็ลูบคางของเธอแล้วพูดพึมพำ “…เธอดูเหมือนใครบางคนแต่เหมือนมากจริงๆ”

 

“เหมือนใคร?”

 

“เรเชล ฉันได้พบเธอเมื่อไม่นานมานี้”

 

ผมยิ้ม อย่างที่ อาแฮอิน พูด อีเวนเดล และ เรเชล เหมือนกันมากไม่ผิดที่จะบอกว่าเธอเป็นเรเชลรุ่นจิ๋ว ข้อแตกต่างเพียงอย่างเดียวคืออีเวนเดล น่ารักกว่ามาก เนื่องจากเรเชลน่ารัก แต่อีเวนเดลน่ารักกว่านั้นเอง

 

“…อีเวนเดล?”

 

หลังจากจบการสนทนากับ อาแฮอิน ผมเข้าไปหา อีเวนเดล ผู้ซึ่งนอนอยู่บนพื้นและใช้หางของ เฟนรีล เป็นหมอน เมื่อเธอได้ยินผมเรียกหาเธอ เธอก็ลุกขึ้นมาทันที

 

“อู~! ฮาจิน ฮาจินนนนน หนูฝึกอย่างหนักเลยละ! ยากมากจริงๆ!”

 

เธอวิ่งเข้ามาในอ้อมกอดของผมและขออยากจะอยู่ใกล้ๆผม

 

“ฉันรู้ ฉันได้ยินแล้ว ดังนั้นฉันจึงคิดจะ….”

 

ผมเอาปากพูดกับหูของ อีเวนเดล แม้ว่าผมจะยังลังเลอยู่นิดหน่อยแต่มันก็เกี่ยวกับเวลา ในฐานะผู้พิทักษ์ของเธอ ผมต้องทำสิ่งที่ถูกต้อง

ผมกระซิบเบาๆ

 

– ไปพบเรเชลกันเถอะ

 

ทันใดนั้น อีเวนเดล แข็งค้างเธอไม่ขยับนิ้วราวกับว่าเธอกลายเป็นหิน หลังจากอยู่แบบนั้นมาพักหนึ่ง อีเวนเดล ก็พูดคำเดียว

 

“…จริงๆเหรอ?”

 

ผมพยักหน้า อีเวนเดล มองมาที่ผมด้วยดวงตาเบิกกว้าง

 

“จริงๆนะ?”

 

“แน่นอน. ฉันบอกเธอแล้วใช่ไหม ว่าฉันจะให้เธอได้เจอเรเชลถ้าเธอฝึกฝนอย่างหนัก”

 

“จริงเหรอ จริงเหรอ!”

 

“ใช่ แต่เพื่อแลกกับ….”

 

ผมยกนิ้วชี้ของผมขึ้นมา

 

“ให้สัญญากับฉันสักอย่างสิ”

 

*************************************************************************

 

[อังกฤษ, เมอร์ซีย์ไซด์]

 

ผมมาอังกฤษพร้อม อีเวนเดล และ ฮายัง เป็นเวลา 1 วันที่พวกเราเที่ยวชมสถานที่และผมบอก อีเวนเดล เกี่ยวกับวัฒนธรรมอัศวินของอังกฤษ อีเวนเดล วิ่งไปรอบๆจนกระทั่งมันเป็นเวลาเที่ยงคืน

 

“อีเวนเดล ตอนนี้เธอจะนอนแล้วเหรอ?”

 

หลังจากสนุกมาทั้งวันพวกเราก็กลับไปที่โรงแรมของพวกเรา

 

“… .”

 

“อีเวนเดล.”

 

อีเวนเดล หลับไปกับ ฮายัง ในอ้อมแขนของเธอ ดูหมือนว่ามันเป็นเวลาที่ผมจะทำงานของผม ผมเอารายชื่อผู้บริหารของปีศาจออกมา

 

[อังกฤษ, เมอร์ซีย์ไซด์ – คุก เลวิน]

 

คุก เลวิน เขาเป็นผู้บริหารของการล้างสังหารแห่งกลุ่มปีศาจที่เชี่ยวชาญด้านการค้ามนุษย์และการกินเนื้อมนุษย์ ตามเอกสารที่ เจน มอบให้ผม คุก เลวิน ดำเนินธุรกิจของเขาในเมอร์ซีย์ไซด์ ผมถามใน

หนังสือแห่งสัจธรรมเกี่ยวกับที่ตั้งปัจจุบันของเขา

 

[53 ° 32’35.5” N 3 ° 05’34.8” W]

 

หนังสือแห่งสัจธรรมบอกตำแหน่ง ผมเปิดหน้าต่างโรงแรมและกระโดดลงไปทันทีแม้ว่าผมจะอยู่บนชั้นที่ 15 ความสูงมีความหมายเพียง

เล็กน้อยสำหรับผมในตอนนี้

 

ตุ๊บ

 

หลังจากลงจอดบนพื้นเบาๆ ผมก็หยิบ [รถเลื่อนของคนแคระ] ซึ่งผมแปลงเป็นการ์ดออกมา ผมดีดนิ้วของผมและ รถเลื่อนของคนแคระ

ก็ปรากฏขึ้นมา เห็นได้ชัดว่าผมได้เพิ่มคุณสมบัติเวทมนตร์ลงไป

 

“เปลี่ยนร่าง” ผมพึมพำ

 

รถเลื่อนของคนแคระเปลี่ยนร่างเป็นรถมอเตอร์ไซค์ เช่นเดียวกับที่ Desert Eagle สามารถเปลี่ยนรูปแบบได้ผมได้เพิ่มฟังก์ชั่นที่คล้ายกันให้กับ รถเลื่อนของคนแคระ ด้วย SP ที่มีหลังจากกระโดดขึ้นไปผมเปิดใช้พลังธาตุทันที

 

“การท่องเที่ยวในที่มืด”

 

เวทมนต์นี้ทำด้วย ‘แก่นแท้แห่งความมืด’ ที่สกัดมาจากแร่แห่งความมืดและหินมานา ทันทีที่ผมเปิดใช้งานร่างกายของผมและมอเตอร์ไซค์

สีทองก็ละลายไปในความมืด รูปร่างของพวกเราโปร่งแสงเหมือนหมอกราวกับว่าพวกเรากลายเป็นส่วนหนึ่งของความมืดไปแล้ว

 

ฉันเหยียบคันเร่ง

 

บรื่นนนนนนนนน…

 

มอเตอร์ไซค์ขับผ่านความมืดของยามค่ำคืน 5 นาทีก็เพียงพอที่จะไปถึงที่ตั้งของ คุก เลวิน ชานเมืองของเมอร์ซีย์ไซด์ชั้นใต้ดินของอาคารที่น่าสงสัย คุก เลวิน ผู้เป็น ‘นักล้างสังหาร’ ได้ทำการค้ามนุษย์ในสถานที่แห่งนี้

 

– ผู้ชายคนนี้ดูน่าอร่อย เก็บเขาไว้ก่อน

 

ผมเปลี่ยน Desert Eagle เป็นปืนไรเฟิล กระสุนนัดเดียวก็เพียงพอแล้ว กระสุนของผมทะลุทะลวงทุกอย่าง ไม่สำคัญว่าพวกมันอยู่ใต้ดินหรือที่ไหน ผมเพียงแค่ต้องเหนี่ยวไกเท่านั้น

 

“… .”

 

ผมไม่ตกอยู่ในอันตรายจากการถูกพบตัว ปืนของผมไม่สร้างเสียงใด ๆ เมื่อทำการยิงอีกออกไป ผมเหนี่ยวไก กระสุนปืนซุ่มยิงพุ่งไปข้างหน้าอย่างเงียบๆ

 

– ไม่ ไม่ ผู้ชายคนนั้นไร้ประโยชน์ แค่ฆ่าเขา…

 

ประโยคของเขาถูกตัดขาดกลางคันโดยไม่ให้พูดต่อ ผมไม่ได้หยุดแค่นั้น

ผมยิง ปีศาจ ทั้งหมดที่อยู่กับ คุก เลวิน กระสุนแห่งสายฝนตกลงมาจากท้องฟ้าและพุ่งไปใต้ดิน การจู่โจมที่ท้าทายกฎของฟิสิกส์นั้นสามารถฆ่าปีศาจได้ทั้งหมดก่อนที่พวกมันจะมีโอกาสโต้ตอบ ชั้นใต้ดินของอาคารนั้นไม่ใช้ปีศาจทั้งหมด เพราะปีศาจจะไม่ทิ้งศพไว้….

 

*************************************************************************

 

ต่อมาผมออกไปที่เมืองกับ อีเวนเดล พวกเราไปเจอเรเชลตอนอายุได้

6 ขวบและผมอยากเล่นกับ อีเวนเดล ก่อนเพื่อลดความกังวลใจของเธอลง

ผมวางแผนเอาไว้ มีสวนสนุกที่เราไปไม่ได้เมื่อวานนี้ ร้านอาหารมิชลิน ระดับ 3 ดาว หอนาฬิกาบิ๊กเบน พระราชวังบักกิ้งแฮม…พวกเราสนุกไปกับการท่องเที่ยวอังกฤษและในที่สุดก็หยุดที่จุดหมายปลายทางสุดท้ายคือพิพิธภัณฑ์อังกฤษ

 

“อุว้าววววววววว~”

 

ผมไม่รู้ว่า อีเวนเดล ชอบพิพิธภัณฑ์มากๆ เธอวิ่งไปรอบ ๆ อย่างตื่นเต้น ผมยิ้มแล้วตามเธอติดๆ

 

ตอนนี้คือ 5:45

 

เหลือเพียง 15 นาทีจะถึงเวลานัด เนื่องจากพวกเราตกลงที่จะเจอกันที่พิพิธภัณฑ์แห่งนี้ อีเวนเดล และ เรเชล อีกไม่นานจะได้พบกันแล้ว

 

“เฮ้ออออออออออออออ…”

 

หัวใจของผมเต้นรัวๆเมื่อผมคิดถึงเรื่องนี้ผมรู้สึกประหม่าและจับมือของ อีเวนเดลเอาไว้ อีเวนเดล บีบมือผมด้วยรอยยิ้มเขินอาย…และแล้ว

 

“คุณ ฮาจิน?”

 

มีคนเรียกชื่อผม เวลาเหมือนถูกหยุดในเวลานั้น ไม่ใช่แค่ผมที่ตัวแข็ง

อีเวนเดล เองก็เช่นเดียวกัน ผมหายใจเข้าลึกๆแล้วทำให้จิตใจสงบลง

เสียงที่ทำให้หูของผมอื้อและน้ำหอมที่ผมได้กลิ่นเป็นของผู้หญิงที่ผมรู้จักอย่างไม่ต้องสงสัย ไม่มีเหตุผลที่จะกังวล ผมต้องทำตามธรรมชาติ…เป็นธรรมชาติ…

 

ผมหันกลับมาอย่างช้าๆ ตามที่คาดไว้เรเชลยืนอยู่ที่นั่น

 

“สวัสดี เรเชล”

 

“ไม่ได้เจอกันนานเลย”

 

เรเชลมองมาที่ผมก่อน

 

“งั้นคุณอยากจะพูดอะไรเกี่ยวกับ…?”

 

เธอใช้เวลาสักครู่และสุดท้ายก็รู้ว่าผมกำลังกุมมือของใครบางคน ดวงตาของเธอตกลงบนเด็กข้างๆผมซึ่งดูเหมือนเธอ เด็กก็เงยหน้าขึ้นมองเรเชล ดวงตาที่สวยงามของเธอมีความกลัว แต่ก็ความตื่นเต้นและมีความสุข อีเวนเดล หวังสำหรับบางสิ่งเอาไว้

เช่นเดียวกัน เรเชลและ อีเวนเดล จ้องมองกันและกันอยู่นาน……