ตอนที่ 448 เป็นคุณได้ยังไง / ตอนที่ 449 ให้ตายฉันก็ไม่กินยานั่น

เสน่ห์รักร้ายคุณบอสเพลย์บอย

ตอนที่ 448 เป็นคุณได้ยังไง 

 

 

           เสียงแหบแห้งของหญิงสาวคนหนึ่งดังขึ้น “ฮัลโหล ได้ข่าวว่าคุณได้เธอแล้วใช่ไหม? รสชาติเป็นไงบ้าง? หวานมากเลยใช่ไหมล่ะ?” 

 

 

           อินรุ่ยดวงตาเข้มจัด กำโทรศัพท์มือถือแน่นราวกับจะบีบมันให้แหลกคามือ “คุณหลอกผม!” 

 

 

           “ฉันจะไปหลอกคุณทำไม? ฉันรู้จักกับคุณตั้งนาน จะทำอย่างนั้นทำไม?” น้ำเสียงของหญิงคนนั้นฟังดูประหลาดใจเกินจริง 

 

 

           “ไม่ต้องพูดให้มันฟังดูดีเลยนะ ระหว่างเราสองคนก็แค่มีผลประโยชน์ร่วมกันเท่านั้น” อินรุ่ยเอ่ยอย่างไม่รักษาน้ำใจ “ข้อมูลที่คุณให้ผมบอกว่าสุขภาพเธอไม่ค่อยดี เพราะมีลูกไม่ได้ถึงถูกตระกูลจิ้นตั้งแง่รังเกียจ ผมจึงสามารถใช้โอกาสนี้ให้เป็นประโยชน์” 

 

 

           “ก็ใช่นะสิ นี่เป็นข้อมูลที่ฉันได้มาอย่างยากลำบากจากคนใช้ในตระกูลจิ้นเลยนะ จิ้นหยวนจับตาดูเธอเข้มงวดขนาดนั้น ถ้าไม่ใช่เพราะฉันมีเส้นสายจนได้ข่าวมาล่ะก็ คุณจะจับตัวเธอได้ง่ายดายแบบนี้เหรอ?” 

 

 

           “ถ้างั้น ไหนลองบอกมาซิ ทำไมตอนนี้เธอถึงกลายเป็นคนท้องไปแล้ว? ตอนนี้มีลูกของจิ้นหยวนอยู่ในท้องของเธอได้ยังไง?” 

 

 

           “อะไรนะ?” เสียงของหญิงคนนั้นฟังดูตกใจมากจนอินรุ่ยหรี่ตาแคบด้วยความระแวง “คุณโกหกฉันใช่ไหม ก็สายของฉันบอกอย่างนั้นจริงๆ นี่” 

 

 

           “หมอเพิ่งตรวจเสร็จ และผลเพิ่งจะออกมาเมื่อครึ่งชั่วโมงที่แล้ว เธอท้อง เป็นลูกของจิ้นหยวน” น้ำเสียงเขาเบาหวิวจนฟังดูน่ากลัว จนหญิงที่อยู่อีกฟากสายแทบจะทนรับความกดดันนั้นไม่ไหว 

 

 

           “คุณเชื่อฉันนะ ข่าวที่ฉันได้มา บอกว่าเธอมีลูกไม่ได้จริงๆ แต่ไม่รู้ทำไมเธอถึงท้องได้ ฉันคิดว่าเป็นเพราะจิ้นหยวนหาคนมารักษาแน่ๆ แต่คุณไม่ต้องโมโหมากขนาดนั้นก็ได้ ถ้าไม่พอใจคุณก็กำจัดเด็กนั่นทิ้งซะก็สิ้นเรื่อง ไหนๆ เธอก็ตกอยู่ในกำมือคุณ และหนีไม่รอดอยู่แล้วนี่…” 

 

 

           “หร่วนเซียงเซียง ผมขอคุณเตือนคุณนะ ไม่ต้องใช้มุกนี้กับผม ผมรู้ว่าคุณเกลียดเธอมากจนอยากให้เธอตาย สุขภาพเธอแย่มาก ถ้าเอาเด็กออก ร่างกายเธอต้องแย่แน่ คุณรอวันนี้จนใจจะขาดอยู่แล้วแล้วใช่ไหมล่ะ?” 

 

 

           คำพูดแทงใจดำของเขาทำให้หร่วนเซียงเซียงกำโทรศัพท์มือถือแน่นอย่างไม่รู้ตัว น้ำเสียงแหบแห้งร้อนรนขึ้นมาทันที “คุณพูดบ้าอะไรน่ะ? ถ้าฉันอยากให้เธอตายจริงๆ ป่านนี้เธอคงตายไปนานแล้ว ไม่เหลือรอดจนตกอยู่ในมือคุณแบบนี้หรอก ฉันจะบอกอะไรให้นะ ตอนนี้คนที่ฉันเกลียดที่สุดคือจิ้นหยวนต่างหาก! หวังว่าคุณจะทำตามสัญญา เล่นงานจิ้นหยวนให้ได้!” 

 

 

           “มันก็ต้องแน่นอนอยู่แล้ว คุณเองก็หุบปากให้ดีก็แล้วกัน ได้เงินแล้วก็รีบไสหัวไปได้แล้ว!” 

 

 

           “ได้! ฉันจะรอข่าวดีจากคุณก็แล้วกัน” หร่วนเซียงเซียงวางโทรศัพท์มือถือลง ใบหน้าเธอเต็มไปด้วยรอยบาดแผล ตามแขนเต็มไปด้วยรอยแผลมากมายจนดูน่าเกลียดน่ากลัว 

 

 

           นัยน์ตาเธอฉายแววบ้าคลั่งระคนเหิมเกริม “เฉียวซือมู่ จิ้นหยวน ในที่สุดฉันก็ได้แก้แค้นพวกแก สะใจจริงๆ การแก้แค้นช่างรู้สึกดีอะไรอย่างนี้…” 

 

 

           เธอหัวเราะเสียงดังสะใจ เธอไม่ได้เห็นเดือนเห็นตะวันนานจนทำให้บาดแผลอักเสบเน่าเฟะจนดูน่าสยดสยอง โชคดีที่รอบกายเธอไม่มีผู้คน มิเช่นนั้น คนที่ได้เห็นสภาพเธอคงตกใจตายไปแล้ว 

 

 

           ขณะที่เธอกำลังหัวเราะเสียงดังอย่างสะใจอยู่นั้น จู่ๆ ใครคนหนึ่งก็ปรากฎกายขึ้น 

 

 

           เธอหมุนตัวหันไปมองผู้มาเยือน ทันใดนั้น เธอมองคนตรงหน้าด้วยอาการตกตะลึงนิ่งอึ้งจนอ้าปากค้าง สีหน้าเธอประหลาดใจจนพูดไม่ออกระคนอาการหวาดกลัวจับใจ “เป็นคุณได้ยังไง?” 

 

 

           ผู้มาเยือนยิ้มบางๆ ให้เธอ เธอรู้สึกเหมือนตกลงไปในบ่อน้ำแข็งก็ไม่ปาน… 

 

 

           อินรุ่ยวางสายแล้วหวนคิดถึงคำพูดของผู้หญิงคนนั้น แค่เอาเด็กออกก็สิ้นเรื่องแล้ว… 

 

 

 

 

 

ตอนที่ 449 ให้ตายฉันก็ไม่กินยานั่น 

 

 

           ใช่แล้ว เอาเด็กออกก็สิ้นเรื่อง เธอจะได้เหลือตัวคนเดียว แต่คำพูดของหมอก็คอยวนเวียนอยู่ในหัวเขา “สุขภาพร่างกายของคุณผู้หญิงท่านนี้แย่มาก ไม่ควรทำอะไรกระทบกระเทือนร่างกายเธออีก เพราะอาจจะส่งผลกระทบร้ายแรงต่อร่างกายเธอได้” 

 

 

           เขาครุ่นคิดไปมาอย่างตัดสินใจไม่ได้เสียที 

 

 

           หรือเขาต้องทนดูเธอคลอดลูกศัตรูต่อหน้าต่อตา? 

 

 

           ไม่ เป็นไปไม่ได้เด็ดขาด! 

 

 

           นัยน์ตาเขาฉายแสงเ**้ยมเกรียม เขาครุ่นคิดพักใหญ่ จากนั้นมองดูภาพกล้องวงจรปิดจากหน้าจอคอมพิวเตอร์ ในนั้น เฉียวซือมู่หลับตานอนอยู่บนเตียง ดูเหมือนคนที่กำลังนอนหลับเท่านั้น 

 

 

           เขาเห็นใบหน้าที่ซีดจนขาวเผือดไร้สีเลือดใดๆ ของเธอแล้วรู้สึกสงสารเธอมาก แต่เมื่อนึกถึงเด็กที่อยู่ในท้องของเธอแล้วก็ใจแข็งขึ้นมาอีก 

 

 

           เขาเม้มริมฝีปากพลางครุ่นคิด ในที่สุดก็ตัดสินใจอย่างเด็ดขาด จากนั้นสั่งให้ลูกน้องตามตัวหมอมาที่นี่ “เอายามาให้ฉัน ยาที่ไม่ทำร้ายร่างกาย” 

 

 

           หมอเข้าใจความหมายของเขาทันที อ้าปากอยากจะพูดอะไรสักอย่าง แต่เมื่อสังเกตสีหน้าของอินรุ่ยแล้วกลับไม่กล้าพูดอะไรออกมาและได้แต่ก้มหน้างุด 

 

 

           เขาเอ่ยกับหมออย่างตัดสินใจแล้ว “ทำทุกวิถีทางไม่ให้ร่างกายเธอได้รับบาดเจ็บ ถ้าต้องการยาอะไรก็บอก ฉันจะหามาให้” 

 

 

           หมอพยักหน้าเล็กน้อยพลางตอบ “ครับ” เบาๆ แล้วได้แต่ถอนหายใจในใจเงียบๆ ในเมื่อให้ความสำคัญกับเธอมากขนาดนี้ เหตุใดจึงต้องทำเรื่องแบบนั้นด้วย? หลังผ่านเรื่องนี้ไปแล้ว เธอจะให้อภัยเขาได้อย่างไร? 

 

 

           เสียดายที่เขาเป็นแค่ลูกน้องของเขาเท่านั้น ไม่มีสิทธิ์มีเสียงพูดอะไร ต่อให้เขาพูดเตือน เจ้านายก็ไม่ฟังเขาหรอก 

 

 

           เขาจึงได้แต่ถอนหายใจอย่างปลงๆ เท่านั้น 

 

 

           เฉียวซือมู่นอนปิดเปลือกตาอยู่บนเตียง ดูภายนอกเหมือนกำลังนอนหลับ แต่ความจริงแล้วไม่ใช่ 

 

 

           เพราะในใจเธอคอยคิดหาวิธีหนีออกจากที่นี่อยู่ตลอดเวลา 

 

 

           เธอสัมผัสได้ถึงความโหดเ**้ยมยามที่เขาพูดกับเธอ เขาไม่ได้โหดเ**้ยมกับเธอ แต่กับเด็กในท้องของเธอต่างหาก 

 

 

           นั่นทำให้เธอหวาดระแวงมาก อยากจะมีปีกสักคู่ จะได้บินหนีจากที่นี่  

 

 

           แต่จะทำอย่างไรได้ ตอนนี้เธอทำอะไรไม่ได้สักอย่าง 

 

 

           เธอนอนพลิกตัวไปมา จนสุดท้ายต้องผุดลุกขึ้นนั่ง 

 

 

           เธอค่อยๆ ลุกออกจากเตียง เริ่มกวาดสายตาสำรวจทุกสิ่งรอบตัว ตั้งแต่เข้ามาในห้องนี้เธอยังไม่ได้สำรวจที่นี่อย่างละเอียด ตอนนี้ถึงพบว่าที่นี่มีข้าวของเครื่องใช้ครบครัน เห็นได้ชัดว่าเขาเตรียมตัวมาอย่างดี 

 

 

           เธอเม้มริมฝีปาก เดินไปเปิดตู้เสื้อผ้าและลิ้นชัก เริ่มลงมือหาอะไรสักอย่าง 

 

 

           เธอควานหาลึกเข้าไปในลิ้นชัก ในที่สุดก็เจอสิ่งที่น่าพอใจจนได้ เธอเก็บมันใส่กระเป๋าพลางตบเบาๆ อย่างพึงพอใจ 

 

 

           ขณะเดียวกัน จู่ๆ เธอก็ได้ยินเสียงฝีเท้าดังมาจากนอกประตูห้อง 

 

 

           เธอตกใจมาก รีบวิ่งกลับไปที่เตียง เธอเพิ่งหย่อนก้นลงบนเตียง ประตูห้องก็ถูกเปิดออกพอดี อินรุ่ยปรากฎตัวขึ้นตรงประตู 

 

 

           เธอตกใจสะดุ้งเฮือก ตอนแรกคิดว่าเขาคงไม่มาที่นี่อีกสักพัก คิดไม่ถึงเลยว่าเขาจะมาเยือนเร็วขนาดนี้ 

 

 

           เธอชักสังหรณ์ใจไม่ดี จ้องเขาสายตาเย็นชา “คุณจะทำอะไรน่ะ?” 

 

 

           อินรุ่ยมองดูท่าทางหวาดระแวงของเธอไม่พูดไม่จา เขายกมือขึ้น ลูกน้องสองคนก้าวไปข้างหน้า ในมือลูกน้องคนหนึ่งถือแก้วน้ำ อีกคนถือขวดเล็กๆ เอาไว้ จากนั้นยื่นไปตรงหน้าเธอ 

 

 

           “อะไรน่ะ?” เธอขดตัวลีบ จ้องพวกเขาตาเขม็ง “พวกแกจะทำอะไร?” 

 

 

           “ยาน่ะ คุณกินเข้าไปเถอะ” อินรุ่ยจับจ้องเธอนิ่ง ไม่ยอมให้เธอบ่ายเบี่ยงเด็ดขาด 

 

 

           “ยาอะไร? ฉันไม่กิน!” 

 

 

           เธอตกใจด้วยความคาดไม่ถึง เห็นท่าทางเขาแล้วรู้ทันทีว่าไม่ใช่ของดีแน่ เธอไม่ยอมกินเด็ดขาด