บทที่ 549 เจ้าคิดจะทำลายล้างหุบเขาหรือ

อัจฉริยะแพทย์สาว ข้ามภพรักอ๋องเทพสงคราม

อัจฉริยะแพทย์สาว ข้ามภพรักอ๋องเทพสงคราม บทที่ 549 เจ้าคิดจะทำลายล้างหุบเขาหรือ?
“รองหัวหน้าเผ่าซือคง ผู้อาวุโสและเหล่าสุดสุดยอดผู้อาวุโสทุกท่าน ลั่วเอ๋อร์อายุน้อย พลั้งปากไปชั่วขณะ หุบเขาตันหุยของพวกเราไม่ได้มีเจตนาจะดูหมิ่นเผ่าเทียนเฟิ่นแน่นอน” เจ้าหุบเขาใหญ่น่าหลันจ้องเขม็งไปทางน่าหลันหลิงลั่ว

เจ้าลูกเนรคุณนี่ คิดจะทำลายล้างหุบเขาตันหุยหรือไง?

เผ่าเทียนเฟิ่นเป็นกองกำลังอำนาจอะไร?

นั่นเป็นถึงเผ่าโบราณที่มีที่มีเรื่องราวมานับพันปีเชียวนะ ในเผ่ามียอดฝีมือมากมายก่ายกอง ทั้งยังมีบรรดาสุดยอดผู้อาวุโสบัญชาการด้วยตนเอง หุบเขาตันหุยของพวกเขาจะล่วงเกินได้ที่ไหนกัน

น่าหลันหลิงลั่วกล่าวว่า “ยืนข้างกู้ชูหน่วนทางนั้น เป็นเพียงการกระทำของข้าคนเดียวเท่านั้น ไม่ได้เกี่ยวข้องกับหุบเขาตันหุย”

“เจ้าหุบปาก ยังไม่รีบกลับมาอีก”

“ท่านพ่อ ตั้งแต่เด็กท่านก็บอกว่า หากว่าจิตใจเป็นห่วงเป็นใยผู้ใด ก็จะต้องพยายามปกป้องนางไว้ให้ได้ด้วยชีวิต อย่าให้นางได้รับบาดเจ็บแม้แต่น้อย วันนี้ แม้ว่าลูกจะสละชีวิตนี้ ก็จะต้องปกป้องให้นางออกไปจากเผ่าเทียนเฟิ่นอย่างปลอดภัยให้ได้”

เจ้าหุบเขาใหญ่น่าหลันแทบอยากจะอุดปากเขาไว้

ไม่รู้เรื่องรู้ราวจริงๆ

เผ่าเทียนเฟิ่นเป็นสถานที่อะไร แม้ว่าจะมีจอมมารและเย่จิ่งหานเพิ่มมาอีกสองสามคน ก็จนปัญญาที่จะออกไปจากเผ่าเทียนเฟิ่นอย่างปลอดภัย วิทยายุทธของเขาเทียบกับพวกเขาแล้วจะนับอะไรได้?

หรือเขาดูไม่ออกงั้นหรือว่าเผ่าเทียนเฟิ่นตั้งใจแน่วแน่แล้วว่าจะสังหารนาง?

กู้ชูหน่วนเป็นนักหลอมยาที่มีพรสวรรค์ หุบเขาตันหุยของพวกเขาก็ขาดแคลนผู้ที่มีพรสวรรค์เช่นนี้ และยอมที่จะใช้ทั้งหุบเขาตันหุยเพื่อปกป้องนาง

แต่ทว่า……

ความเป็นจริงช่างโหดร้ายนัก

หุบเขาตันหุยเผชิญหน้ากับเผ่าเทียนเฟิ่น สามารถพูดได้ว่าโอกาสที่จะชนะก็ไม่มี พวกเขาคิดอยากจะทำลายล้างก็ทำลายล้าง

ไม่กี่ปีมานี้ เผ่าเทียนเฟิ่นล้างบางกองกำลังเล็กๆทิ้งไปยังไม่มากพออีกงั้นหรือ?

พวกเขายังไม่ทันจะได้กู้ชูหน่วนมา ทั้งหุบเขาก็โดนทำลายล้างแล้ว

การแลกเปลี่ยนนี้จะคิดอย่างไรก็ไม่คุ้ม

“ข้าสั่งให้เจ้ามานี่”

“ขอโทษ หลิงลั่วทำไม่ได้”

เจ้าหุบเขาใหญ่น่าหลันทั้งโมโหทั้งร้อนใจ วิ่งเข้าไปลากเขาออกมาโดยไม่คำนึงถึงฐานะ

เย่จิ่งหานเหลือบมองไปที่กู้ชูหน่วน ใช้สายตาแสดงเจตนาถาม “เจ้ากับเขามีความสัมพันธ์อะไรกัน?”

กู้ชูหน่วนผายมือออก สีหน้าไม่รู้เรื่องรู้ราว

จะมีความสัมพันธ์อะไรได้อีก?

นางก็ไม่ได้สนิทกับเขาสักหน่อย

เพียงแค่เคยพบกันที่ทะเลโลหิตแห่งภูเขาน้ำเต้าครั้งหนึ่งเท่านั้น ต่อจากนั้นก็คือหุบเขาตันหุยแล้ว เขาตามเกาะแกะนางอย่างไร้เหตุผล นางจะทำอะไรได้?

กู้ชูหน่วนกล่าว “เจ้าหุบเขาน้อย น้ำใจของท่านข้ารับไว้แล้ว นี่เป็นเรื่องความแค้นเคืองของข้ากับเผ่าเทียน ไม่เกี่ยวข้องกับท่าน ท่านรีบตามท่านพ่อของท่านออกไปเถอะ”

“ได้ยินหรือไม่ นางก็ให้เจ้าไปแล้ว เจ้ายังจะอยู่ที่นี่ทำอะไรอีก?”

เจ้าลูกไม่รักดีคนนี้ ถูกใจใครไม่ว่า บังเอิญมาถูกใจผู้หญิงคนนี้ซะได้

เขาไม่ได้ตาบอด กู้ชูหน่วนไม่ได้เป็นเพียงพระชายาหลวงของเย่จิ่งหาน และเป็นคนที่จอมมารถูกใจ ที่สำคัญที่สุดคือ กู้ชูหน่วนไม่ได้ชอบลูกบุญธรรมของเขาโดยสิ้นเชิง

ก่อนหน้านี้หลิงลั่วยังโกหกเขา บอกว่าเขากับนางรักใคร่กัน

รักใคร่อะไรกัน ทั้งหมดล้วนเป็นเรื่องเพ้อเจ้อ

หากพวกเขาทั้งสองรักกัน เขาก็สามารถล่วงเกินเย่จิ่งหานได้ ล่วงเกินจอมมารได้ แต่ความจริงไม่ใช่โดยสิ้นเชิง

เพื่อผู้หญิงที่ไม่ได้ชอบตัวเองคนเดียว เอาชีวิตตัวเองพ่วงไปด้วย ยังจะเอาทั้งหุบเขาตันหุยพ่วงเข้าไปอีก เขาโง่ไปแล้วหรือ?

“ท่านพ่อ……หากท่านกลัวว่าเผ่าเทียนเฟิ่นจะทำเรื่องไม่ดีต่อหุบเขาตันหุย ตอนนี้ลูกก็จะออกจากความสัมพันธ์ของหุบเขาตันหุย”

“เจ้า…..เจ้าต้องการจะให้ทำให้ข้าโมโหตายหรือไง?”

เจ้าหุบเขาใหญ่น่าหลันสองพ่อลูกกำลังคุยกันจอแจ กลุ่มเทียนเฟินรู้สึกรำคาญมาก

กู้ชูหน่วนก็รู้สึกรำคาญมากเช่นกัน

ถือโอกาสขณะที่น่าหลันหลิงลั่วไม่ได้ป้องกันตัวเพี้ยะเสียงหนึ่ง ตีให้เขาสลบไป

“นี่ ท่านสามารถแบกไปได้แล้ว”

พูดพลาง กู้ชูหน่วนก็ปรบมือ บุ้ยปากไปทางเจ้าหุบเขาใหญ่น่าหลัน บอกใบ้ให้เขารีบจากไป

เจ้าหุบเขาใหญ่น่าหลันรู้สึกผิดเล็กน้อย “ขออภัย…..”

“ไม่เป็นไร เดิมทีข้ากับท่านก็ไม่ใช่ญาติหรือเพื่อนสนิท”

เขาเป็นเจ้าหุบเขาของหุบเขาตันหุย เพื่อประชาชนทั้งหุบเขา ไม่กล้าล่วงเกินเผ่าเทียนเฟิ่นก็เป็นธรรมดา ยิ่งไปกว่านั้นพวกเขาก็ไม่ได้มีมิตรภาพที่ลึกซึ้งกันขนาดนั้นด้วย