1782-2 vs 1782-3 vs 1783-1 โดย Ink Stone_Romance
ตอนที่ 1782-2 การลงโทษที่แสนหวาน
“ตอนเด็กๆ ฉันบริสุทธิ์ใจมาก” อยากซื้อตัวพี่อย่างบริสุทธิ์ใจ น่าเสียดายที่พี่แพงหูดับ
ฉินมั่วเลิกคิ้วอย่างไม่รู้สึกรู้สา “เหรอ? ป๋าสายเปย์ที่บริสุทธิ์ใจของฉัน เกิดรักแรกพบกับฉันตั้งแต่ตอนเป็นเด็ก?”
“อื้ม ตอนนั้นฉันแค่สามขวบครึ่ง” ป๋อจิ่วฉวยโอกาสจับมือชายหนุ่ม “พี่เข้าใจความรู้สึกที่หัวใจถูกช็อตไหม?”
ฉินมั่วยอมให้เธอทำแบบนั้นอย่างไม่รู้ไม่ชี้ แล้วยิ้มตามมา “เด็กสามขวบครึ่งเข้าใจความรู้สึกที่หัวใจถูกช็อตแล้วเหรอ ฉันไม่เข้าใจเท่าไรหรอก” ยัยนี่เวิ่นเว้อได้เก่งจริงๆ หัวใจถูกช็อต
ป๋อจิ่วทำหน้าขรึม “นั่นไง ตอนนั้นฉันก็ไม่เข้าใจเหมือนกัน แต่พอมาคิดตอนนี้ ก็รู้แล้วว่าเป็นเพราะชอบพี่มากนั่นเอง”
ฉินมั่วฟังแล้ว ก็กดร่างเธอไว้บนโซฟาอย่างยั้งไม่อยู่ ก่อนจะมองหยิ่งๆ เบือนหน้านิดๆ โน้มตัวเข้าไปหา ลมหายใจรดริมหูเธอ “หยุดเพ้อเจ้อได้แล้ว ส่วนเรื่องชีวิตส่วนตัวของสายเปย์ ฉันขอแค่อย่างเดียว ในเมื่อเลือกฉันแล้ว ก็ต้องเลือกฉันคนเดียวตลอดไป เข้าใจไหม? ถ้าสายเปย์ยังเจ้าชู้หลายใจอีก ฉันก็ไม่แน่ใจหรอกนะว่าจะทำอะไรขึ้นมาได้…”
ป๋อจิ่วอยากจะเถียง แต่ถูกเขาระดมจูบจนลมหายใจวุ่นวายไปหมด ไม่ใช่แค่จูบ ยังรวมถึงมือของเขาที่เลิกชายเสื้อเธอแล้วไต่นิ้วขึ้นไปเรื่อยๆ ด้วยสภาพดังกล่าว
ป๋อจิ่วร้อนรุ่มไปทั้งตัว แต่สลัดความหวิวไหวออกไปไม่ได้ เสื้อผ้าและเส้นผมยุ่งเหยิงกรุ่นไปด้วยไอรัก รวมถึงใบหน้าที่แดงเรื่อ จูบรุ่มร้อนบนใบหน้า ทำเธอขาอ่อนปวกเปียกไปหมด เสียงพลอยขาดๆ หายๆ ตามจังหวะมือของเขา “ข้างนอก ยัง ต้อง เล่นเกมต่อ…”
“เล่นแน่” ฉินมั่วว่าแล้วก็ก้มลงจูบบนด้านข้างลำคอ “แต่ สายเปย์ของฉัน เวลาที่ฉันจะสนุกกับเธอ เธอก็น่าจะตั้งใจหน่อยนะ หืม?”
สนุกที่ไหน เป็นการลงโทษที่ทั้งหวานที่ทรมานชัด ๆ
เขาแทบจะไล้เธอไปทั่วตัว แต่ไม่ยอมกินสักที ร้ายกาจเสมือนจอมมารที่ถนัดด้านการอ่อย เสียงแผ่วต่ำที่ถามข้างหูเธอแหบเครือมาก “ยังจะไปสารภาพรักกับคนอื่นอีกไหม?”
“ไม่ ไม่เคยทำมาก่อน” เสียงเสื้อผ้าที่เสียดสีบนตัวทำให้เธอถอนตัวยาก จึงตัดสินใจเป็นฝ่ายรุกเสียเองด้วยการใช้ขาโอบรัดตัวเขา ก่อนจะยิ้มให้ แล้วจูบที่คอหอย ปล่อยเสน่ห์ไปทั่วร่าง ราวกับเป็นนางเงือกแสนสวยใต้ท้องทะเล “จะว่าไป พี่มั่วก็อดทนเก่งเนอะ”
แววตาของชายหนุ่มขรึมทันทีต่อกิริยาของเธอ คนในอ้อมกอดเขารู้ดีว่าจะทำให้สติเขาหลุดลอยได้อย่างไร
ที่ว่าผู้หญิงสวยต้องสวยลึกถึงกระดูกนั้นไม่ผิดเลย ผิวเนียนลื่นเหมือนเนื้อหยก ยิ่งตอนที่เธอพูด มุมปากและไฝเสน่ห์บริเวณหางตาที่ทำให้เธอเหมือนปีศาจแสนสวย เอาไว้ยั่วยวนพวกบัณฑิตหนุ่มแสนซื่อโดยเฉพาะ ดูเหมือนเธอจะเตรียมตัวไว้พร้อม รอให้คนเก็บเกี่ยว
เสื้อผ้าที่ยู่ยี่ แอ่งชีพจรสวยได้รูป ทรวงอกเว้าโค้งนุ่มนิ่มเผยโฉมออกมา หลังจากที่เขาเลิกเสื้อขึ้น มันมากพอจะทำให้เขาขาดสติ ภาพดังกล่าวเกิดขึ้นจากน้ำมือของเขาเอง รวมถึงแรงเสน่หาจากตัวเธอในเวลานี้
———————————–
ตอนที่ 1782-3 การลงโทษที่แสนหวาน
ฉินมั่วดึงมือกลับมา ยิ้มช้าๆ “เธออยากอยู่บนเตียงทั้งวันเหรอ? ไม่เล่นเกมแล้ว? ถ้าใช่ งั้นก็อ่อยฉันต่อไป”
ป๋อจิ่วเปลี่ยนท่าทีทันทีที่ได้ยินอย่างเป็นคนเจ้าชู้ “น่าเสียดายที่เวลากับสถานที่ไม่อำนวยให้”
“ไม่ต้องเสียดายหรอก ถ้าอยากได้ก็ต่อเลย” ว่าแล้วฉินมั่วก้มตัวลง รอยยิ้มที่มุมบนเรียวปากชัดขึ้น
กว่าจะหยุดชายหนุ่มได้อย่างไม่ง่าย ป๋อจิ่วย่อมไม่โง่พอจะโดนเขาทรมานต่อ “ไม่ล่ะ งานสำคัญกว่า พี่ต้องรู้นะว่าฉันเป็นแฟนที่เข้าใจจิตใจคนอื่น”
ฉินมั่วเลิกคิ้ว แล้วปล่อยตัวเธอ
ป๋อจิ่วจัดแจงเสื้อผ้าให้เรียบร้อย จูงท่านเทพจะออกไป แต่เขากลับไม่ขยับ เอียงคอมองเธอ ปล่อยให้เธอพยายามลากตัวเขา ค้ำมือข้างหนึ่งไว้ที่ใต้คาง พลางเอ่ยเสียงแหบเครือ “เธอจะให้ฉันออกไปทั้งอย่างนี้?”
อย่างนี้มันยังไงเหรอ?
ตอนแรกป๋อจิ่วไม่เข้าใจ จนเมื่อหลุบตา เรียวขาเธอสัมผัส ‘บางส่วน’ ของชายหนุ่มที่เปลี่ยนไป ถึงกับหน้าร้อนฉ่าเลยทีเดียว แต่ท่าทางเขาในเวลานี้ กลับดูสูงส่งต้องห้ามจนอยากละเมิด
ชายหนุ่มในสภาพเต็มไปด้วยแรงเสน่หาอันยวนใจคน คงมีท่านเทพแค่คนเดียว
ผ่านไปครึ่งนาที บรรยากาศในที่นั้นไม่มีท่าทีจะเย็นลง ป๋อจิ่วยังอยู่ในท่าเดิม “ให้ช่วยไหม?”
“ช่วยยังไง” ฉินมั่วหันมามอง
ป๋อจิ่วตอบเสียงเบาๆ
ฉินมั่วหัวเราะ “ใช้มือเหรอ?”
ป๋อจิ่วส่งเสียงยืนยัน แววตาเธอสวยเหลือเกิน “ทำไม? พี่ไม่ชอบ?”
ยัยนี่ช่างกล้า แถมยังตรงไปตรงมาเสียจนรับมือไม่ไหว แต่เมื่อฉินมั่วมองเห็นเธอจะลงมืออย่างปากว่า ก็หลุดคราบที่ปลอมขึ้น ยั้งมือเธอไว้ “ทำแบบนี้จะยิ่งรุนแรงขึ้น ฉันจะคลั่งเอา”
เป็นครั้งที่แรกที่ป๋อจิ่วได้ยินท่านเทพพูดแบบนี้ แววตาเธออึ้ง แล้วโดนลากเข้าห้องน้ำไปเลย
น้ำเย็นถูกเปิดออก เขาให้เธอยืนอยู่นอกกระจกฝ้า แต่แม้จะเป็นเช่นนี้ เธอก็ยังรู้สึกถึงจังหวะลมหายใจของเขา
เวลาห้านาที เร็วกว่าที่เธอช่วยเขาเสียอีก และเมื่อออกมาอีกครั้ง เขาก็เปลี่ยนเสื้อผ้าเรียบร้อย มือหนึ่งกดบนผ้าขนหนูที่อยู่บนศีรษะ เส้นผมสีดำยังมีน้ำเกาะอยู่ กลิ่นสะอาดสะอ้านกรุ่นทั่วตัว
ทั้งสองจึงเดินออกจากห้องไปยังห้องคอมพิวเตอร์ด้วยสภาพเช่นนี้ ส่วนหลินเฟิงที่นั่งกินอยู่ เอ่ยขึ้นในทันทีที่เห็นทั้งสอง “เจ้าแบล็ก พวกนายไปคุยอะไรกันวะ ทำไมนานจัง? แล้วทำไมหัวหน้าถึงอาบน้ำ? นี่พวกเรากินขนมที่คุณตาพ่อบ้านเตรียมให้จนหมดแล้วนะ”
ป๋อจิ่วได้ยินแล้วก็หยิบคุ้กกี้ชอร์ตเบรดมากินเข้าปากอย่างสง่า ก่อนจะยิ้มให้ “พี่หลิน วันนี้พี่อย่าพูดอีกเลยจะดีกว่า”
หลินเฟิงตาโตอย่างไม่เข้าใจ ทำไมถึงไม่ให้เขาพูดล่ะ?
ป๋อจิ่วเห็นแล้วก็เอียงคอถามท่านเทพ “พี่มั่ว เมื่อกี้มีตั้งหลายคนกลับไม่ถาม ทำไมถึงไปถามพี่หลินล่ะ” ถ้าถามคนอื่น ประวัติอันมืดมนของเธอคงจะไม่ถูกรื้อ
“มีอะไรต้องอธิบาย ก็เพราะหัวหน้าเชื่อใจฉันไง” หลินเฟิงกินหมด กำลังยืดอกด้วยความภูมิใจ แต่ถูกหัวหน้าขัดจังหวะอย่างเรียบเรื่อย “เพราะเขามีคุณสมบัติเด่นของการเป็นเพื่อนพาล่มจมชัดมาก”
ห้วงเวลานั้น หลินเฟิงตัวแข็งทื่อ หัวหน้าเสียความทรงจำจริงๆ เหรอ? ทำไมความปากเป็นพิษถึงไม่ลดน้อยถอยลงเลยล่ะ!
น่ากลัวจริงๆ
ถึงจะเสียความทรงจำไปแล้ว แต่ก็ยังเจ้าแผนการอยู่ดี? เขาควรจะร้องได้ที่เมื่อกี้ตกหลุมพรางดี หรือควรจะดีใจที่ได้เห็นโอกาสที่หัวหน้าจะหายดี…
—————————————–
ตอนที่ 1783-1
“เริ่มเถอะ เหลือเวลาไม่มากแล้วไม่ใช่เหรอ?”
ฉินมั่วนั่งลงเอง ค้ำคางด้วยมือข้างหนึ่ง พยักเพยิดไปยังที่นั่งข้างตัว แล้วกวาดตามองป๋อจิ่วด้วยนัยยะที่ชัดเจนว่าให้เธอนั่งข้างกาย
ป๋อจิ่วรู้ดี แต่กลับเลิกคิ้วถาม “ให้ฉันนั่งเหรอ?”
“ทำไม? หรือเธออยากนั่งตักฉันจริง ๆ” ฉินมั่วว่าพลางกดเปิดเครื่องคอมพิวเตอร์ เอียงศีรษะอย่างขบขัน
ป๋อจิ่วรู้สึกว่าเธอไม่มีวันสู้ท่านเทพในเรื่องการพูดได้เลย จึงตัดสินใจเปิดเข้าสู่ห้องแข่ง เลือกประเภทแข่งเดียว โดยสู้กับท่านเทพตัวต่อตัว ซึ่งในแต่ละเกม เธอจะเปลี่ยนตัวละครสู้กับเขาไปเรื่อยๆ ทั้งนี้เธอเล่นพลางแนะนำความสามารถของตัวละครแต่ละตัวให้กับเขา
หลินเฟิงฟังจนตะลึง ส่วนเหราหรงเห็นเหตุการณ์ตรงหน้า ก็ดีดเถ้าบุหรี่ เพราะไม่มีใครคิดหรอกว่า แบล็กพีชจะใช้วิธีที่เพื่อทำให้หัวหน้าจำคุณสมบัติของตัวละคร
แต่ต้องขอบอกว่าวิธีนี้ถือว่าดีที่สุด เพราะไม่เพียงแต่จะทำให้จำแม่น สิ่งสำคัญยิ่งกว่าก็คือความเร็วมือและเซนส์ของแบล็กพีชถือว่าหาตัวจับได้ยากในวงการนี้
เมื่อได้คนแบบนี้มาช่วยซ้อมมือ ก็หมายความว่าขอแค่หัวหน้ารู้คุณสมบัติของตัวละครในเกม พวกคนที่มีฝีมือธรรมดาๆ หรือไม่ธรรมดา ย่อมทำฉุดท่านเทพไว้ไม่อยู่ ถือว่าพอจะมีความหวังก็ว่าได้ ทุกคนต่างเห็นท่านเทพเบือนหน้านิดๆ พร้อมคุมเมาส์เล่นเกม ล้วนแต่มีบางอย่างที่ลุกโชนในดวงตา
สมาชิกคนอื่นๆ ของทีมก็ไม่ปล่อยตัวให้ว่าง ต่างลงทะเบียนเข้าหน้าเกม เริ่มฝึกซ้อมความเร็วมือตามปกติ กระทั่งเซวียเหยาเย่าและเฟิงซ่างที่เป็นตัวสำรอง ยังไม่ผ่อนคลายลงสักนิด
อากาศในห้องคอมพิวเตอร์ย่อมไม่ดีอยู่แล้ว เพราะพวกผู้ชายชอบสูบบุหรี่ในระหว่างเล่นเกม แต่วันนี้พวกเขากลับเลิกสูบ กระทั่งความถี่ในการเข้าห้องน้ำยังลดลง และทุกครั้งที่เล่นจบนัดหนึ่ง ต่างยื่นมือไปนวดต้นคอ ก่อนจะเอนหลัง งับบุหรี่รอเกมนัดต่อไป
เวลาพักผ่อนสั้นๆ แค่นี้ เป็นแค่ช่วงว่างที่เตรียมเล่นเกมในนัดถัดไป
คงเพราะอยากชนะมาก ทุกคนที่เล่นเกมต่างมีความฝันในใจ ล้วนหวังว่า ในวันหนึ่งจะได้ยืนเด่นอยู่ตรงกลาง คลุมธงชาติไว้บนร่าง ดังนั้นต้องบากบั่นทุ่มเทแค่ไหน ยังรู้สึกว่าหอมหวาน เพราะพวกเขารู้ดีว่า พวกเขาไม่เคยอยู่คนเดียว ยังมีเพื่อนร่วมทีมที่นั่งอยู่ข้างๆ ด้วย
เวลาผ่านไปเรื่อยๆ กระทั่งคุณตาพ่อบ้านที่ผลักประตูเพราะอยากเชิญแขกทุกคนไปทานอาหารเย็น ยังถึงกับอึ้งที่เห็นภาพตรงหน้า ด้วยไม่ว่าจะเป็นที่ปราสาทหรือที่อื่นๆ ก็ไม่เคยเห็นห้องที่มีอากาศย่ำแย่เท่านี้มาก่อน ทว่ากลับรู้สึกยินดีชนิดเหนือความคาดหมาย
ตั้งแต่เป็นเด็ก นายน้อยเป็นคนมีเสน่ห์ที่ใครๆ ต่างอยากเข้าหา แต่มีเพื่อนแค่ไม่กี่คน การที่มีคนมาหาเป็นกลุ่มแบบในวันนี้ จึงเป็นสิ่งที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน
จะว่าไปนี่ถือเป็นครั้งแรกที่เขาได้ช่วยนายน้อยต้อนรับแขก บางทีการได้เปลี่ยนสิ่งแวดล้อมก็นับว่าไม่เลว หากไม่เพราะวาสนา นายน้อยอาจจะไม่มีวันได้รู้จักคนพวกนี้ ตอนนี้เขาเห็นแล้วว่า เพราะคนเหล่านี้ ทำให้นายน้อยถึงได้มีชีวิตชีวาขึ้นมาบ้าง
—————————————