1783 vs 1784 โดย Ink Stone_Romance

ตอนที่ 1783

หลินเฟิงซุกซ่อนอะไรไว้ในแววตา อวิ๋นหู่ย่อมเห็น รวมถึงเรื่องที่เจ้าคนแบ๊วบื้อรีบแจ้งข่าวแก่เฟิงอี้ที่อยู่ในบริษัททันที่ที่รู้ข่าว “จิ้งจอกเฟิง รู้หรือยังว่า มือของหัวหน้าหายแล้ว ฮ่าๆๆๆๆ มือของหัวหน้าหายแล้ว ต่อไปถ้าพวกจ้าวซานพั่งกล้าโม้ในกรุ๊ปแชทอีกนะ ฉันจะปิดประตูแล้วปล่อยหัวหน้ามาตีมัน”

พวกท่านเทพมีกรุ๊ปแชทกันเอง โดยเฉพาะพวกที่เล่นกันจนลือมวันลืมคืนอย่างพวกเขา

อวิ๋นหู่คิดว่า เจ้านี่ลืมไปแล้วหรือเปล่าว่า ตอนนี้หัวหน้าสูญเสียความทรงจำ เล่นไม่ได้ แต่ไม่ได้ขัดคอ แค่เห็นหลินเฟิงคุยกับเฟิงอี้ ก็เติมแค่ ‘รู้สึกว่าเล่นอีกสิบปียังไหวเลย’ เมื่อมาอยู่รวมกัน ก็เหมือนมีพลังบางอย่างที่ทำให้รู้สึกว่า พวกเราสามารถเป็นวัยรุ่นได้อีกสิบปี

เฟิงอี้เห็นข้อความในวีแชท ในระหว่างที่กำลังจัดการปัญหาในโลกออนไลน์ เขาไม่ได้นอนมาวันหนึ่งเต็มๆ ทั้งยังต้องไปกินเลี้ยงกับพวกนักข่าวอีก เจ้าตัวคลุมเสื้อสูทไว้บนไหล่ มีท่าทีอ่อนล้าตามประสานักธุรกิจ ผู้ช่วยที่อยู่ข้างๆ ยังว่า “ผอ.เฟิงคะ คุณพักสักหน่อยดีไหม ที่เหลือพวกเราจะเฝ้าให้” แต่กลับเห็นเขามองดูมือถือแล้วพลันหัวเราะขึ้นมา ไม่รู้ว่าไปเห็นอะไรเข้า

เขายกมือขึ้นนวดต้นคอ ราวกับฟื้นสภาพของจิ้งจอกหน้ายิ้มแล้ว “ฉันเฝ้าเอง ไปซื้อกาแฟมาเลี้ยงทุกคนหน่อย ก่อนการแข่งชิงแชมป์เอเชีย พวกเราคงต้องเหนื่อยหน่อยนะ”

ผู้ช่วยอยากบอกว่าไม่เหนื่อยหรอก เธอลอบมองเขา ก่อนหน้านี้เธอไม่รู้ว่าบริษัทอีสปอร์ตเป็นยังไง คิดว่าแค่เล่นเกม ขอแค่สมาชิกในทีมแข่งให้เต็มที่เป็นพอ

เวลานี้เธอเข้าใจแก่นแท้ของมันแล้ว ทีมที่ดีเยี่ยม ไม่เพียงต้องมีสมาชิกที่กล้าสู้ไปข้างหน้า ยังต้องมีคนแบบนี้ค่อยสนับสนุนอยู่ด้านหลัง

เขาจะต้องรอบรู้ทุกสิ่ง ต้องป้องกันปัญหาล่วงหน้า อะไรที่นึกไม่ถึงก็แก้ไขไปตามสถานการณ์ เพราะโลกอินเทอร์เน็ตสื่อสารกันไวมาก ซึ่งหากเป็นปัญหาเล็กๆ ยังพอว่า แต่น่ากลัวที่สุดก็ตรงที่พวกกลับขาวให้เป็นดำ เช่นในเวลานี้

มีคนที่อ้างว่าเป็นแฟนคลับของทีม กลับทำลายทีมในทุกประโยคที่เอ่ยขึ้น เพราะประสงค์จะไม่ให้แบล็กพีช Z กลับมา โดยโวยวายต่อฝ่ายประชาสัมพันธ์ว่าเสียใจต่อการกระทำของทีมที่ทำลายความรู้สึกของเธอ โดยเอาความประสงค์ดีของเธอไปโยนให้หมากิน

สิ่งเหล่านี้ หากคุณเปิดฉากโต้ตอบ ก็จะกลายเป็นว่าทีมไม่มีเหตุผล ซึ่งปกติเฟิงอี้จะดูแลเรื่องพวกนี้เป็นพิเศษ เขานั่งหน้าคอมพิวเตอร์ สูบบุหรี่บ้าง แล้วจัดการปัญหา ก่อนจะกลับมาดูงานในมือ เพราะคงมีแต่วิธีนี้ที่อาจทำให้แบล็กพีช Z กลับมา

อาจเป็นเพราะเหตุที่ประกาศข่าวดีออกมา บรรยากาศบนโต๊ะจึงดีมากมาตลอด จนกระทั่งเหราหรงลุกขึ้นมองฉินมั่ว “ในเมื่อมือก็หายแล้ว งั้นมาเล่นกันสักตา จะได้ดูว่าเล่นเข้ากันขนาดไหน” ส่งผลให้มือที่ถือแก้วเหล้าของหลินเฟิงถึงกับชะงัก โคโค่ก็เงียบ

เวลานี้ห้องตกอยู่ในความสงบ มีเพียงฉินมั่วที่ยังใช้มีดเฉือนเนื้อแพะด้วยกิริยาดูดี ก่อนจะส่งเข้าปาก รอจนกินหมด ก็ค่อยๆ แย้มมุมปาก “ฉันไม่สนเรื่องเล่นเกม”

ห้วงเวลานั้น บรรยากาศในห้องเปลี่ยนไปสู่ความเย็นชาอย่างเงียบๆ หลินเฟิงรีบหันไปมองเหราหรง สื่อความหมายว่า ก่อนมาก็คุยกันแล้วไม่ใช่เหรอ ทำไมอยู่ๆ นายถึงเปลี่ยนใจวะ

เหราหรงทำเหมือนกับไม่เห็นสายตาของอีกฝ่าย ยิ้มขึ้น ก่อนเอ่ยออกมาด้วยเสียงที่ไม่บ่งบอกอารมณ์ “ถึงจะสูญเสียความทรงจำไป แต่ความสามารถเดิมต้องยังอยู่ ฉินมั่ว นายไม่สนใจจริงๆ หรือกำลังต่อต้านตัวเองในอดีต?”

…………………………………

ตอนที่ 1784

เหราหรงรู้ดีแก่ใจว่า สิ่งที่เอ่ยขึ้น คงมีแค่เขาคนเดียวที่กล้าพูดต่อฉินมั่ว คนในทีมไดมอนด์ล้วนแต่ถูกชายหนุ่มปั้นขึ้นมา ย่อมไม่กล้า เว้นแต่คนเดียวที่ไม่กลัวฉินมั่ว ทั้งยังโอ๋จนแทบจะฝังเข้าไปในกระดูกตัวเอง

แต่ถ้าไม่คุยแล้วจะเปลี่ยนสถานการณ์อย่างไร ยิ่งคนอย่างฉินมั่ว ย่อมไม่ทิ้งความชอบไปอย่างที่พูดออกมาหรอก

ไม่เพียงแต่คนในทีมเดียวกัน กระทั่งคนที่เคยเป็นคู่แข่งอย่างเขา ยังรอให้ชายหนุ่มเอาความสามารถทั้งหมดมาใช้ในการแข่งระดับเอเชีย หากเวลานี้ต้องการคนชั่วช้า งั้นเหราหรงจะรับหน้าที่เอง

“ว่าไง?” เขาหัวเราะเบาๆ เอ่ยต่อ “เล่นไหม? หรือนายคิดว่าตัวเองไม่เก่งแล้ว กระทั่งจะรวมกลุ่มแข่งแบบอยู่คนละที่ก็ยังไม่กล้า?”

บรรยากาศตกดิ่งสู่จุดเยือกแข็งในทันทีที่พูดจบ ฉินมั่ววางมีดในมือลง สบตาอีกฝ่าย พูดเสียงกระด้างว่า “โดนดูถูกเข้าให้แล้ว ว่าแต่จะเล่นกันคนละที่อีท่าไหนล่ะ?” ใช่ ฉินมั่วไม่เข้าใจกระทั่งคำว่าเล่นคนละที่

“ฉัน นาย หลินเฟิง อวิ๋นหู่ เฮียเย่า รวมกลุ่มเล่นกันห้าคน ดูว่าเล่นกันได้ผลยังไงบ้าง” เหราหรงพูดมาถึงตรงนี้ก็มองป๋อจิ่ว “Z ไม่ต้องลง เพราะถ้าลง มีหวังพาทีมชนะแน่ แถมมีเขาคอยปกป้องนายไว้ รับรองวัดระดับฝีมือนายไม่ได้หรอก”

“โอเค” ฉินมั่วตอบสั้นๆ แล้วหยินเสื้อนอกพลางลุกขึ้นยืน เรียวปากยังบิดยิ้ม ดูเหมือนอารมณ์จะไม่เปลี่ยนแปลงสักเท่าไร มองไม่ออกว่ารู้สึกอย่างไร

ห้องรวมชั้นบนมีคอมพิวเตอร์วางเต็มไปหมด เหมาะที่จะรวมทีมเล่นมาก ทว่าป๋อจิ่วกลับไม่ขยับ ฉินมั่วมองเธอแวบหนึ่ง “ทำไม? กลัวว่าฉันเปราะบางจนรับไม่ได้?”

“เปล่า” ป๋อจิ่วจึงลุกขึ้นบ้าง “ฉันกำลังคิดว่า เดี๋ยวฉันจะนั่งข้างพี่ตอนที่พี่เล่นได้ไหม ตอนนี้พี่น่าจะไม่ค่อยรู้เรื่องสกิลของตัวละคร”

ฉินมั่วได้ยินแล้ว แววตาอ่อนโยนขึ้น ยัยนี่ยังพอจะมีมโนธรรมอยู่บ้าง เจ้าหล่อนวางแผนในวันนี้ก็เพราะอยากให้เขาได้สัมผัสเกมไม่ใช่เหรอ? ชายหนุ่มก้มหน้า ส่งเสียงขึ้นจมูก ก่อนจะเงยหน้าเปลี่ยนไปหัวเราะแทน “เธอเป็นสายเปย์ของฉันนี่นา ไม่นั่งข้างฉันแล้วจะไปนั่งที่ไหน? นั่งตักฉันเรอะ?”

“ไม่ได้ เดี๋ยวจะรบกวนตอนพี่เล่นเกม” ป๋อจิ่วตอบจริงจัง

หลินเฟิงกลับไปยินแล้วแทบกระอักเลือด ถ้าไม่รบกวน นายก็จะนั่งงั้นสิ? แล้วเรียกอะไรกันวะ สายเปย์

เจ้าแบล็ก นายอยากให้หัวหน้าเรียกตัวเองว่าป๋าใช่ไหม? นายไปเล่าอะไรให้หัวหน้าฟังในช่วงที่คนเค้าสูญเสียความทรงจำวะ

หลินเฟิงอยากหาจังหวะคุยกับแบล็กพีชเสียหน่อย แต่จนปัญญาด้วยหัวหน้ากันไว้อย่างกับเขาเป็นหมาป่า ทิ่มแทงใจเสียจริงว่ะ แต่อุตส่าห์ได้รวมทีมเล่น ทุกคนย่อมตื่นเต้น

เหยาเย่ากับหลินเฉินทาวก็เปิดคอมพิวเตอร์เช่นกัน ถึงไม่ได้แข่งแต่ดูก็ยังดี ส่วนเหราหรงนั่งลง สวมหูฟังไว้บนศีรษะ “ฉันจะไปพัฒนาที่เลนกลาง”

“ของฉันเลนบน” เฮียงับบุหรี่

หลินเฟินเลิกเลือกเป็นตัวแม่นมคอยสนับสนุน “ฉันเอาอันนี้ไว้ฝึกมือ”

“ฉันจะเล่นเป็นตัวสกิล adc” อวิ๋นหู่เอียงศีรษะวาดตาดูสถานการณ์ในอินเทอร์เน็ต

พวกเขาใช้ไอดีหลัก และผลจากการใช้ไอดีหลักก็คือ ในทันทีที่ออนไลน์ก็เรียกความสนใจจากแฟนคลับทั้งหลายได้อยู่หมัด!

ธรรมดาแล้วแค่ออกมาคนเดียว คลื่นก็โหมซัด แต่นี่ดันออนไลน์พร้อมกันสี่คนยิ่งเหมือนระเบิดที่จู่ๆ ก็ถูกโยนเข้าใส่ เกิดอำนาจทำลายล้างสูง ขนาดที่คอมเมนต์ทะลักทะลายเข้ามากันใหญ่ และระเบิดลูกสุดท้ายก็คือไอดีที่ป๋อจิ่วช่วยลงทะเบียนเข้าใช้แทนท่านเทพ ฉินมั่ว…

…………………………………..