ตอนที่ 455 สูญเสียแหล่งอาหาร

บุตรอสูรบรรพกาล

ตอนที่ 455

สูญเสียแหล่งอาหาร

“…….”หลี่เย่ยังคงพูดไม่ออก แต่ในใจของนางนั้นกลับมีแต่คำชื่นชมเต็มไปหมด แต่หาดพูดออกไปตอนนี้เกรงว่าจะไปทำลายสมาธิของไป๋หลินเข้า แต่ไม่ว่าจะมองอย่างไรการผ่าตัดของไป๋หลินก็ยอดเยี่ยมจริงๆ การเคลื่อนไหวมือนั้นแทบไม่มีความสูญเปล่าเลย แถมความละเอียดยังสูงกว่าตนเองมากอีกต่างหาก เพียงพริบตาเดียวรอยแผลที่เปิดขึ้นเพื่อผ่าตัดก็โดนเย็บติดกันเสียแล้ว รวดเร็วจนน่าตกใจจริงๆ หากเป็นนางละก็คงต้องใช้เวลามากกว่านี้ร่วมครึ่งชั่วโมงแน่ๆ

“หลี่เย่…”ไป๋หลินยิ้มพลางหันมามองหลี่เย่ที่กำลังกะพริบตาปริบๆ เหมือนนางจะลืมหน้าที่ตัวเองไปเสียแล้ว

“จะ เจ้าค่ะ”หลี่เย่เห็นไป๋หลินมองมาที่ถ้วยยาในมือของตนเองก็เกิดนึกออกทันทีว่าตัวนางมีหน้าที่ป้อนยาให้องค์รัชทายาท ทำให้หลี่เย่รีบเดินเข้ามาใกล้ๆไป๋หลินก่อนจะกรอกยาที่ละลายน้ำแล้วให้องค์รัชทายาทดื่มช้าๆ ปริมาณที่เด็กคนหนึ่งสามารถรับได้นั้นนางคำนวณมาอย่างดีแล้วไม่มีทางผิดพลาดอย่างแน่นอน

“ดีมาก จูล่งพอแล้ว”ไป๋หลินเห็นหลี่เย่ป้อนยาเสร็จก็หันทางน้องชายเพื่อบอกให้มันเลิกใช้ยาสลบได้แล้ว ซึ่งจูล่งเองก็แทบจะปล่อยมือตอนที่ไป๋หลินสั่งพอดิบพอดี

“เท่านี้ก็น่าจะเรียบร้อยแล้ว พี่จะไปบอกเทียนหมิงก่อนนะ”ไป๋หลินว่าพลางเดินออกไปจากห้องขององค์รัชทายาท

“พี่หลิน เป็นเช่นไรบ้าง”เทียนหมิงแทบจะพุ่งเข้ามาถามทันทีที่ไป๋หลินเดินออกมาจากประตู แม้จะมั่นใจในฝีมือของไป๋หลินได้เต็มร้อยแต่ก็ไม่ใช่ว่าเทียนหมิงจะสามารถทำตัวเฉยเมยกับอาการของบุตรชายคนแรกได้อย่างไร

“เรียบร้อยดี องค์รัชทายาทปลอดภัยแล้ว”ไป๋หลินตอบด้วยท่าทีสบายๆ นึกว่านางเป็นใครกัน

“เช่นนั้นหรือขอรับ”เทียนหมิงถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก แน่นอนมันสามารถไว้ใจฝีมือของพี่สาวคนนี้ได้อยู่แล้ว

“พี่หลิน ข้าจะตอบแทนท่านแน่ๆ ไม่ว่าจะ…..”เทียนหมิงยังไม่ทันได้พูดจบไป๋หลินก็วางมือลงบนหัวของเทียนหมิงเสียก่อน พร้อมขยี้เส้นผมของมันจนเสียทรงในทันที

“เจ้าคิดว่ามีอะไรที่เจ้าหาได้แล้วข้าจะหาไม่ได้หรือไง ไม่ต้องมาตอบแทนข้าหรอก”ไป๋หลินหัวเราะพลางขยี้ผมของเทียนหมิงอย่างสนุกมือ เจ้านี่ตอนเด็กไม่ยอมให้นางจับตัวเลย แม้จะโตแล้วก็ไม่ชอบอยู่ดี แต่พอนางไม่มีพลังมารแล้วท่าทีเหมือนจะถอยหนีของมันก็ลดลง แต่ก็ยังไม่หายไปเสียทีเดียวคงเพราะเคยชินกระมัง

“แต่ จะให้พี่รักษาฟรีได้อย่างไรกัน”เทียนหมิงถามพลางจัดทรงผมตัวเองใหม่ด้วยท่าทีช่วยไม่ได้ แม้จะเป็นองค์จักรพรรดิ แต่ตอนนี้ก็อยู่ในเขตพักของบุตรชาย แค่ให้พี่สาวคนนี้ลูบหัวหน่อยก็คงไม่เสียหายอะไรหรอก

“เรื่องตอบแทนเจ้าตอบแทนให้กับหลี่เย่ก็แล้วกัน ถ้าไม่ใช่เพราะจูล่งเอายามาใช้นางคงรักษาให้องค์รัชทายาทด้วยตัวเองได้อยู่แล้ว”ไป๋หลินตอบออกมาตามตรง แม้ให้ไป๋หลินรักษาจะดีกว่า แต่ให้หลี่เย่รักษาก็ไม่ได้ต่างกันมากมายอะไร ผลสุดท้ายองค์รัชทายาทก็จะได้รับการรักษาจนหายดีแน่ๆนางมั่นใจทีเดียวหลังจากได้เห็นฝีมือของนางตอนรักษาเด็กบนรถไฟ

“ขอรับ ข้าตั้งใจจะตอบแทนนางอยู่แล้ว ว่าแต่….จูล่งนี่ใครหรือขอรับ”เทียนหมิงถามพลางกะพริบตาปริบๆ เพราะก่อนหน้านี้มัวแต่ห่วงเรื่องการรักษาเลยไม่ได้ถามถึงเรื่องของจูล่งเลย

“จะพูดยังไงดีล่ะ ชื่อเต็มของมันคือไป๋จูล่ง เป็นน้องชายของข้ายังไงล่ะ”ไป๋หลินตอบด้วยรอยยิ้ม เพราะนางทราบดีว่าเทียนหมิงต้องมีท่าทีตกตะลึงอย่างแน่นอน

“น้องชาย?!! ท่านน้าไป๋กับท่านน้าเหม่ยหลินมีลูกอีกคนแล้วหรือขอรับ”เป็นไปตามคาด เทียนหมิงตกใจอย่างมาก เพราะมันก็ทราบเรื่องที่เกิดขึ้นเช่นกัน

“จะว่าไปพี่ชิวเองก็อยู่กับท่านนี่นา พวกท่านจัดการปัญหากันเรียบร้อยแล้วหรือ”เทียนหมิงว่าเบิกตากว้าง ชิงชิวก็ยืนอยู่ตั้งแต่ต้นจนจบ นี่มันพึ่งสังเกตงั้นหรือ

“เรียบร้อยแล้ว ตอนนี้พี่ชิวก็ยังเป็นคู่หมั้นของข้าอยู่”ไป๋หลินตอบพลางหัวเราะออกมา แม้จะฟังดูเป็นคำพูดง่ายๆ แต่สำหรับคนที่ทราบความเป็นมาก่อนหน้านี้กลับสร้างความตกใจให้อย่างมากทีเดียว

“งั้นหรือขอรับ ยินดีด้วยขอรับ”เทียนหมิงว่าพลางยิ้มออกมาอย่างจริงใจ ทำให้ไป๋หลินและชิงชิวอดส่ายหน้าช้าๆไม่ได้

“จริงสิ ข้าต้องบอกท่านพ่อ เรื่องนี้ท่านพ่อจะรู้หรือยังนะ”เทียนหมิงมีท่าทีร้อนรนอย่างเห็นได้ชัด ก่อนจะสั่งให้ลูกน้องของมันไปนำเครื่องมือบางอย่างออกมา

“ท่านพ่อ ตอนนี้ท่านอยู่ที่ไหนหรือขอรับ”เทียนหมิงหยิบเครื่องมือชิ้นนั้นขึ้นมาก่อนจะกดปุ่มบนเครื่องไม่กี่ปุ่มก็สามารถติดต่อกับอู๋หมิงได้เสียแล้ว ทำเอาทั้งไป๋หลินทั้งชิงชิวรวมถึงไป๋ไป่และหยงเวยต่างมีท่าทีตกใจอย่างมาก

“ดีจริงๆที่ท่านพ่อยังไม่ออกจากเขต 3 อาณาจักร ท่านพ่อรีบกลับมาด่วนเลยขอรับ มีข่าวใหญ่หลายเรื่องเลยขอรับ”เทียนหมิงว่าพลางยิ้มกว้าง ไม่ทราบว่ามันจะบอกข่าวไหนก่อนดี เรื่องลูกชายคนใหม่ของไป๋จูเหวิน ชิงชิวกับไป๋หลินกลับมาคบหากันแล้ว หรือเรื่องพลังมารของไป๋หลินกับท่านลุงหยงเวยหายไปแล้วดี

“ท่านลุงเวย ท่านจะกลับไปที่วัดบนเขาเลยใช่หรือไม่ขอรับ”เทียนหมิงหันมาถามหยงเวยช้าๆทำเอาหยงเวยงงไปชั่วอึดใจ แต่ก็พยักหน้าตอบช้าๆเพราะมันตั้งใจจะทำเช่นนั้นจริงๆ

“ใช่ขอรับ พวกท่านลุงเวยจะเดินทางไปที่วัดกันเลยขอรับ”เทียนหมิงพูดกับปลายสายเหมือนกำลังนัดหมายอะไรบางอย่าง ก่อนจะวางหูไป

“……”เหล่าคนที่ไปเดินทางที่อาณาจักรรอบนอกมามองเครื่องมือของเทียนหมิงด้วยท่าทีตกใจ มันทำราวกับกำลังคุยกับอู๋หมิงอยู่อย่างนั้นล่ะ ทั้งๆที่รอบๆนี้ไม่มีกลิ่นอายหรือพลังวิญญาณของอู๋หมิงอยู่เลย

“อะ อ๋อ พวกท่านไม่ได้กลับมานานเลยยังไม่ทราบสินะขอรับ สิ่งนี้เรียกว่าโทรศัพท์ขอรับเป็นสิ่งประดิษฐ์ใหม่ที่พึ่งมีใช้ใน 3 อาณาจักร อู่ ไป๋ และ ชินเท่านั้นขอรับ แต่อีกไม่นานอาณาจักรเพื่อนบ้านอย่างอาณาจักรชูก็คงได้ใช้ด้วยแล้วแน่ๆ”เทียนหมิงตอบพลางยิ้มออกมา

“มันเป็นอุปกรณ์ที่ใช้ติดต่อกับผู้อื่นในระยะไกลด้วยเสียงขอรับ เจ้านี่จำเป็นต้องติดตั้งเสาส่งสัญญาณเอาไว้ด้วย คงต้องใช้เวลาอีกพักใหญ่ๆกว่าจะส่งไปให้อาณาจักรห่างไกลใช้ได้”เทียนหมิงหัวเราะพลางให้ลูกน้องเก็บโทรศัพท์ไป

“เฮ้อ ข้าเองก็ตามโลกไม่ทันงั้นหรือ”ไป๋หลินส่ายหน้าพลางถอนหายใจออกมา

“พูดอะไรแบบนั้นล่ะขอรับ ทุกอย่างก็เริ่มมาจากท่านน้าไป๋ทั้งนั้น”เทียนหมิงตอบพลางยิ้มออกมา หากไม่ใช่เพราะไป๋จูเหวินออกทุนให้ห้องทดลองของรูบี้ วิทยาการคงไม่เดินหน้าเร็วขนาดนี้แน่ๆ ทุกวันนี้หลายๆอาณาจักรก็เริ่มเปิดห้องทดลองของตนเองแล้ว พอไม่มีสงครามทุกคนก็เริ่มแข่งกันเรื่องวิทยาการมากขึ้น ทำให้เทคโนโลยีก้าวไปไวมากจนน่าตกใจเลยทีเดียว แถมในโลกนี้ยังมีแร่แปลกประหลาดมากมายที่มีคุณสมบัติพิเศษต่างกันออกไป ทำให้สามารถสร้างของเหลือเชื่อได้มากมายเลยทีเดียว ไม่เหมือนเมื่อก่อนที่ของพวกนี้ถูกใช้เพื่อทำอาวุธวิเศษแต่เพียงอย่างเดียวอีกต่อไปแล้ว

“ถ้าเมื่อครู่เจ้ากำลังติดต่อกับอู๋หมิงอยู่ ก็หมายความว่าเจ้านั่นจะมาหาพวกเราที่วัดสินะ”หยงเวยถามพลางมองไปที่ทางเหนือของอาณาจักรอู๋

“ขอรับ”เทียนหมิงตอบ แม้จะอยากรั้งพวกไป๋หลินให้อยู่ในวังอีกหน่อย แต่จากนิสัยของหยงเวยแล้วมันไม่ยอมอยู่ในวังนานๆอย่างแน่นอน

“ดี งั้นเราเดินทางกลับกันเถอะ”เป็นไปตามคาดหยงเวยหาเรื่องกลับทันทีที่เสร็จธุระ ทำให้ทั้งไป๋หลิน ชิงชิว ไป๋ไป่ รวมทั้งจูล่งพากันออกเดินทางต่อทันที

.

.

วูบ!!ร่างของไป๋ไป่ทะยานเพียงไม่กี่อึดใจก็มาถึงวัดบนยอดเขาเสียแล้ว และดูเหมือนที่วัดบนยอดเขาจะมีคนมารอพวกหยงเวยอยู่พอดี เพียงแต่คนที่รออยู่ไม่ใช่อู๋หมิงเสียอย่างนั้น

“ไป๋ไป่ หลินเอ๋อ พวกเจ้ามาด้วยงั้นหรือ”ร่างของหญิงสาวคนหนึ่งเดินเข้ามาทันทีพร้อมยกมือทั้งสองข้างขึ้นทักทายก่อนที่ไป๋ไป่จะลงถึงพื้นเสียอีก

“พี่หลินหลิน…”ไป๋หลินกะพริบตามองร่างของหลินหลินที่กำลังยืนอยู่ในลานของวัด ร่างมนุษย์ของนางยามนี้กลายเป็นสาวขึ้นมากทีเดียว แถมพลังของนางยังสูงขึ้นมากอีกด้วย อีกไม่นานนางก็คงก้าวเข้าระดับบรรพกาลแล้วกระมัง

“ไป๋ไป่ หลินเอ๋อ คิดถึงจังเลย”หลินหลินว่าพลางเข้ามากอดสองสาวเอาไว้แน่น นางไม่ได้ตามไป๋จูเหวินไปด้วย ก็เลยมาช่วยงานหงเยว่อยู่ที่กลุ่มนักล่าอสูรเช่นเดียวกับปิงปิง โดยปิงปิงไปดูแลสาขาอาณาจักรชิน ส่วนนางเองดูแลสาขาอาณาจักรอู๋นั่นเอง

“พี่หลินหลิน พี่มาทำอะไรที่นี่?”ไป๋หลินถามพลางมองหลินหลินด้วยท่าทีงุนงง นางไม่น่าจะทราบนี่นาว่าพวกนางจะมา หรือว่านางจะมาที่นี่บ่อยๆกัน?

“หลินหลิน….”ยังไม่ทันถามไถ่อะไรกัน อยู่ๆหยงเวยก็มองมาทางหลินหลินด้วยสายตาดุๆเสียอย่างนั้น

“พี่เวย ดีใจจังเลยท่านกลับมาแล้ว”หลินหลินว่าพลางยิ้มกว้างออกมา

“กำแพงวัด กับรูปปั้นหายไปไหน”หยงเวยถามพลางจ้องมาทางหลินหลินนิ่ง ถ้าจำไม่ผิดก่อนมันจะเดินทางไปกับไป๋หลิน วัดบนยอดเขานั้นมีสภาพเหมือนวังหยกไม่มีผิด เพราะหยงเวยสร้างของต่างๆด้วยพลังของโทสะ แต่ยามนี้อย่าว่าแต่สิ่งของเลย แม้แต่เรือนเองยังไม่เหลือ

“ขะ ข้าก็ไม่รู้”หลินหลินยิ้มเจื่อนๆออกมาพลางหลบสายตาของหยงเวยช้าๆ

“เจ้าคิดว่าข้าจะเชื่องั้นหรือ”หยงเวยถามพลางปล่อยพลังวิญญาณออกมา แม้ตอนนี้มันจะทำอะไรหลินหลินไม่ได้ แต่มันก็อยากจะลงโทษนางสักเพี๊ยจริงๆ

“กะ ก็พี่เวยทิ้งวัดไปตั้งนานนี่นา ข้าก็เลยแวะมาดูแลให้….ข้าก็แค่ชิมไปนิดหน่อยเท่านั้นเอง”หลินหลินตอบพลางก้มหน้าหงุดเหมือนเด็กหนีความผิด แม้ภายนอกนากจะโตขึ้นแต่ท่าทางภายในจะไม่เปลี่ยนไปเท่าไหร่สินะ

“เจ้านี่…คิดว่าข้าเสียเวลาแค่ไหนกว่าจะสร้างของพวกนั้นขึ้นมาได้กัน….”หยงเวยยามนี้ไม่จำเป็นต้องเก็บอารมณ์อีกต่อไปแล้วเพราะมันไม่ต้องกลัวพลังมารเข้ามาครอบงำอีกต่อไป มันเลยจัดหยิกแก้มย้อยๆของหลินหลินเสียเต็มแรง แน่นอนมันสร้างความเจ็บปวดให้หลินหลินไม่ได้หรอก

“อ้า อ๋อ โอ๊ดดดด”หลินหลินพูดด้วยน้ำเสียงอู้อี้ออกมา ทำให้หยงเวยได้แต่ปลงแล้วปล่อยนางไป

“แต่พี่เวยก็สร้างใหม่ได้ไม่ใช่หรือไง”หลินหลินว่าพลางลูบแก้มตนเองเบาๆ

“ไม่ได้แล้ว ข้าทำลายพลังมารในร่างไปหมดแล้ว ไม่สามารถสร้างหยกหรือมรกตได้เหมือนก่อนแล้ว”หยงเวยตอบพลางยกแขนข้างที่ทำจากพลังธาตุดินขึ้นมา ยามนี้หยงเวยทำได้แค่แขนดินเท่านั้น แต่หากฝึกต่อไปก็ไม่ทราบเหมือนกันว่าจะสามารถสร้างมรกตขึ้นมาได้อีกครั้งหรือไม่

“เอ๋……..สร้างไม่ได้แล้ว”หลินหลินพูดด้วยท่าทีตกใจ หยกที่หยงเวยสร้างรสชาติดีกว่าหยกธรรมดามากเลย นั่นคือเหตุผลที่ทำให้นางชอบเข้ามาในวัดแห่งนี้มาก

“แบบนั้นไม่ได้นะ แล้วข้าจะหากินหยกแบบนี้ได้จากไหนล่ะ”หลินหลินทำท่าเหมือนจะร้องไห้ ทำเอาหยงเวยกุมขมับด้วยความปวดหัว ถ้ามันฝึกจนสร้างได้อีกนางก็จะมากินอีกอยู่ดีสินะ