ตอนที่ 688 ฉวยโอกาสใส่ไฟ / ตอนที่ 689 ไม่มีทางหักหลังเจ้านาย

ชายาหยุดเย้าข้าเสียทีเถิด

ตอนที่ 688 ฉวยโอกาสใส่ไฟ  

 

 

“ข้าไล่หรูเยียนออกไปแล้ว มั่วชิง เจ้าว่าข้าทำเกินไปหรือไม่” 

 

 

พอมั่วชิงเดินเข้ามา หลิงอวี้จื้อก็ถาม 

 

 

มั่วชิงส่ายหน้า 

 

 

“ข้าน้อยคิดว่าพระชายาทำถูกแล้วเพคะ ตอนนี้หรูเยียนไม่เหมาะจะอยู่ในจวนต่อไปจริง ๆ พระชายาให้หรูเยียนไปจากจวน มิได้เป็นการปฏิบัติไม่ดีต่อหรูเยียน” 

 

 

“สุดท้ายเจ้าก็เป็นคนที่เข้าใจข้าที่สุดอยู่ดี ข้าจะไปดูท่านอ๋องสักหน่อย” 

 

 

หลิงอวี้จื้อพูดจบก็ออกไปจากห้อง ไปที่ห้องเซียวเหยี่ยนแล้ว ถึงแม้เขาจะยังไม่ตื่น หลิงอวี้จื้อก็คอยเฝ้าเซียวเหยี่ยนอยู่ข้าง ๆ 

 

 

เมื่อหรูเยียนกลับไปแล้วก็เริ่มจัดเก็บสัมภาระ นางไม่รู้ว่าเมื่อตัวเองไปแล้ว เซียวเหยี่ยนจะส่งคนไปตามนางหรือไม่ น่าขำจริง รู้ดีว่าไม่มีทาง นึกไม่ถึงว่าตนเองจะมีความหวังที่ไม่สอดคล้องกับความเป็นจริงเช่นนี้ 

 

 

เซียวเหยี่ยนปฏิบัติกับหลิงอวี้จื้ออย่างไร นางเห็นอยู่ตำตามาตลอด เข้าใจแจ่มแจ้ง 

 

 

นางคอยจัดการดูแลเรื่องงานบ้านงานเรือในจวนมาโดยตลอด นางไปอย่างกระทันหัน ทุกคนในจวนจะต้องวุ่นวายแน่นอน ถึงตอนนั้นนางอยากจะดูสักหน่อยว่าหลิงอวี้จื้อจะจบเรื่องอย่างไร 

 

 

หรูเยียนกำลังเก็บของอยู่ เลิกตาขึ้นมาเห็นคนที่ยืนตรงประตู ก็ถามอย่างเย็นชาว่า 

 

 

“แม่นมกุ้ย มีเรื่องอะไรหรือ” 

 

 

นางดูแลงานบ้านทั้งหมดในจวน ย่อมรู้จักทุกคนในจวน แม่นมกุ้ยคนนี้เป็นแม่บ้านในห้องซักผ้า ปกติจะพูดคุยทักทายหรูเยียนเป็นประจำ 

 

 

“แม่นาง เหตุใดเจ้าจึงกำลังเก็บของ” 

 

 

แม่นมกุ้ยถามด้วยสีหน้าสงสัย 

 

 

หรูเยียนก้มลงเก็บของต่อ 

 

 

“พรุ่งนี้ข้าจะไปจากจวนเซียวอ๋องแล้ว หากเจ้ามีเรื่องอะไร ต่อไปไปหาพระชายาโดยตรง” 

 

 

“พระ…พระชายาคนนี้ทำเกินไปแล้วจริง ๆ หลายปีที่แม่นางอยู่ที่นี่มาไม่มีความดีความชอบก็มีความขยัน พระชายาเพิ่งกลับมาก็ไล่เจ้าออกไปเสียแล้ว ขอโทษที่ปากมาก พระชายาคนนี้ไม่รู้ว่ามีที่มาที่ไปอย่างไร ท่านอ๋องปล่อยให้คนที่มีที่มาที่ไปไม่ชัดเจนมาทำเหิมเกริมเช่นนี้ได้อย่างไร” 

 

 

“นี่ไม่ใช่เรื่องที่เจ้าควรยุ่ง แม่นมกุ้ย เจ้าทำธุระที่เจ้าต้องทำก็พอ” 

 

 

“ข้าก็แค่รู้สึกไม่ยุติธรรมแทนแม่นาง” 

 

 

แม่นมกุ้ยพูดยิ้ม ๆ 

 

 

“แม่นาง เจ้ายินดีไปจากจวนเซียวอ๋องจริง ๆ หรือ” 

 

 

“คำสั่งของเจ้านาย พวกเราเป็นบ่าวก็ต้องเชื่อฟังและทำตาม” 

 

 

ปากพูดเช่นนี้ แต่ความไม่พอใจและขุ่นเคืองใจในน้ำเสียงชัดเจนอยู่แล้ว นางไม่ได้อยากไปเลย ถึงขนาดเริ่มเกลียดหลิงอวี้จื้อ 

 

 

“เขาก็พูดกันมาเช่นนี้ แต่แม่นางไม่เหมือนกันสาวใช้คนอื่น ท่านอ๋องก็ชื่นชมเจ้าขนาดนี้ หลายปีมานี้ในจวนไม่มีพระชายา เรื่องทั้งหมดเจ้าก็เป็นคนดูแล เห็นได้ชัดว่าพระชายาอิจฉาเจ้า ถึงได้ลงมือกับเจ้า หากไม่มีพระชายา แม่นางก็คงได้อยู่ที่จวนนี้ต่อไปอย่างดี” 

 

 

“เจ้าพูดเช่นนี้หมายความว่าอย่างไร” 

 

 

หรูเยียนไม่ได้โง่ ฟังเจตนาของแม่นมกุ้ยออกอย่างเร็ว 

 

 

“ปกติแม่นางดูแลข้าอย่างดี ข้าสามารถช่วยธุระแม่นางได้ แค่ดูว่าแม่นางจะกล้าหรือไม่” 

 

 

“เจ้าเป็นใคร” 

 

 

หรูเยียนดูแลจวนอ๋องมานาน ไม่ได้เป็นสาวใช้ไร้เดียงสาแล้ว เมื่อได้ยินว่าแม่นมกุ้ยต้องการช่วย นางก็นึกถึงสถานะของแม่นมกุ้ย แล้วพินิจพิจารณาแม่นมกุ้ยอย่างสงสัย 

 

 

แม่นมกุ้ยยิ้มเอาใจ 

 

 

“แหม แม่นางกังวลเกินไปแล้ว ข้าจะเป็นใครได้ ก็เป็นเพียงคนใช้จวนอ๋องคนหนึ่ง เมื่อก่อนแม่นางมีบุญคุณกับข้า ตอนนี้เพียงแต่โกรธแทนแม่นางเท่านั้นเอง” 

 

 

“แม่นมกุ้ย คำพูดเช่นนี้พูดให้ตัวเองฟังคนเดียวก็พอ เอามาหลอกข้า เจ้าดูถูกข้ามากเกินไปแล้ว ถึงแม้พระชายาจะไล่ข้าออกจากจวนเซียวอ๋องไป ข้าก็จะไม่หักหลังจวนเซียวอ๋อง” 

 

 

 

 

 

 

 

 

ตอนที่ 689 ไม่มีทางหักหลังเจ้านาย 

 

 

“แม่นางทำเช่นนี้ก็ไม่มีใครขอบคุณเจ้า วางแผนด้วยตนเองจะดีกว่า” 

 

 

แม่นมกุ้ยกล่อมต่อ 

 

 

“เจ้าสารภาพออกมาเองแล้วใช่หรือไม่ เจ้านายที่อยู่เบื้องหลังเจ้าคือใคร คิดจะทำอะไร” 

 

 

“เช่นนั้นแม่นางยินดีออกไปจากจวนเซียวอ๋องเช่นนี้จริงหรือ ข้ากล้าให้แม่นางทำเรื่องหักหลังจวนเซียวอ๋องเสียที่ไหน เพียงแต่คิดจะช่วยแม่นางยืนอย่างมั่นคงในจวนนี้เท่านั้น พระชายาลงมือกับเจ้าเช่นนี้ได้ ย่อมไม่ปล่อยคนเก่าแก่อย่างพวกเราเช่นกัน 

 

 

ต่อไปเกรงว่าชีวิตของข้าคงจะไปต่อยากแล้ว เบื้องหลังข้าไม่มีเจ้านายอะไร เพียงแค่ขอสถานที่ที่จะปักหลักเท่านั้น” 

 

 

“เช่นนั้นแผนของเจ้าคืออะไร” 

 

 

หรูเยียนวางของทุกอย่างในมือลง ตั้งใจเชิญแม่นมกุ้ยนั่งลง ปิดประตู แล้วถาม 

 

 

“เป้าหมายของพวกเราคือพระชายา ขอเพียงพระชายาไม่อยู่ จวนอ๋องนี้ก็จะเป็นโลกของแม่นาง พวกเราก็จะสามารถทำทุกอย่างได้เหมือนเดิม อายุปูนนี้แล้ว หากไปข้างนอกก็ทำมาหากินอะไรไม่ได้ คิดเพียงแต่จะอยู่ที่จวนเซียวอ๋องนี้ไปจนตาย” 

 

 

แม่นมกุ้ยมีท่าทีจริงใจ 

 

 

นึกถึงความใจดำของหลิงอวี้จื้อ หรูเยียนก็ถูกกล่อมจนหวั่นไหว แต่ไม่ได้พูดอะไรทันที เห็นหรูเยียนลังเล แม่นมกุ้ยก็รีบพูดต่อ 

 

 

“แม่นาง พระชายารังแกกันขนาดนี้ เจ้าไม่สามารถปล่อยให้เป็นไปตามนั้นได้ มิเช่นนั้นสี่ห้าปีมานี้เจ้ามิได้เสียแรงเปล่าหรอกหรือ” 

 

 

จากนั้นแม่นมกุ้ยก็บอกแผนการของนาง สุดท้ายหรูเยียนก็รับปากจนได้ แม่นมกุ้ยออกไปอย่างพอใจ 

 

 

แม่นมกุ้ยเพิ่งไป แววตาของหรูเยียนก็มืดมนลง ถึงแม้จะรู้ว่าแม่นมกุ้ยโกหก เบื้องหลังต้องมีเจ้านายแน่นอน แต่นางก็ไม่อยากไปจากจวนเซียวอ๋อง 

 

 

ตอนนี้คนที่อยากไล่นางออกไปคือหลิงอวี้จื้อ หากนางไม่อยู่ เช่นนั้นก็จะไม่มีใครไล่นางออกไป นางไม่มีทางหักหลังเซียวเหยี่ยน และไม่มีทางหักหลังจวนเซียวอ๋อง นางแค่อยากอยู่ต่อไป 

 

 

กลางคืน หรูเยียนถือกาน้ำชาน้ำผึ้งส้มโอมาให้ที่ห้องเซียวเหยี่ยนกับหลิงอวี้จื้อ สองคนกำลังพูดคุยหัวเราะกัน หรูเยียนโค้งตัว แล้วเอาชาน้ำผึ้งมะนาววางบนโต๊ะ น้ำเสียงแฝงความน้อยเนื้อต่ำใจ 

 

 

“นี่คือชาน้ำผึ้งส้มโอที่ท่านอ๋องให้บ่าวหมักเอาไว้ก่อนหน้านี้ วันนี้หมักได้ที่แล้ว จึงเอามาให้พระชายาลองชิม 

 

 

ท้อแดงในจวนเอามาทำชานี้ได้ วันหลังพระชายาอยากกินก็สามารถหาท้อแดงไปหมักได้เพคะ” 

 

 

คำพูดของนางมีเจตนาให้เซียวเหยี่ยนถาม หลิงอวี้จื้อเข้าใจจุดประสงค์ของนาง ยิ้มให้หรูเยียนพูดว่า 

 

 

“ไม่ได้ดื่มชานี้ตั้งนาน คิดถึงจริง ๆ” 

 

 

“หรูเยียน หลายปีมานี้ลำบากเจ้าแล้ว ปีนี้เจ้าก็อายุไม่น้อย แต่ข้ากลับสะเพร่า ควรจะปล่อยให้เจ้าเป็นอิสระเสียที มิเช่นนั้นจะเสียเวลาเจ้าทั้งชีวิต ถึงเวลาอวี้จื้อจะโทษว่าข้าไม่รู้เรื่องรู้ราว ต่อไปต้องการอะไรก็บอกมาได้ตลอดเวลา พระชายาต้องจัดการอย่างเหมาะสมแน่นอน” 

 

 

คำพูดประโยคเดียวดับความหวังภายในใจของหรูเยียนเสียสิ้น เดิมทีนางหวังว่าเซียวเหยี่ยนจะถามนางมากกว่านี้สักสองสามประโยค เอ่ยปากเก็บนางไว้ คิดไม่ถึงว่าเซียวเหยี่ยนจะสนับสนุนการกระทำของหลิงอวี้จื้อ ผลลัพธ์เช่นนั้นทำให้ใจนางรู้สึกแย่อย่างยิ่ง ราวกับมีคนเอาเข็มทิ่มกลางใจ เจ็บปวดเหลือเกิน 

 

 

“บ่าวควรทำอยู่แล้วเพคะ ท่านอ๋องพูดเกินไปแล้ว” 

 

 

หรูเยียนรับปากอย่างยากลำบาก ที่แท้ทุกอย่างก็เป็นเพียงความหวังลม ๆ แล้ง ๆ 

 

 

หลิงอวี้จื้อลุกขึ้นเดินไปข้างโต๊ะ รินชาน้ำผึ้งส้มโอให้ตนเองหนึ่งถ้วย หรูเยียนโค้งตัวให้ สีหน้าหมองหม่น 

 

 

“บ่าวขอตัวเพคะ” 

 

 

“ไปเถิด” 

 

 

หลิงอวี้จื้อพยักหน้า 

 

 

“อวี้จื้อ รินให้ข้าถ้วยหนึ่ง” 

 

 

“ท่านไม่ใช่ไม่ชอบดื่มชานี้หรอกหรือ” 

 

 

“ห้าปีมานี้ข้าฝึกดื่มชาน้ำผึ้งส้มโอจนเป็นนิสัยแล้ว” 

 

 

หลิงอวี้จื้อพูดงอน ๆ 

 

 

“คนโง่” 

 

 

ปากพูดเช่นนี้ แต่มือก็ไม่ว่าง รินชาน้ำผึ้งส้มโอให้เซียวเหยี่ยนหนึ่งถ้วยทันที