ตอนที่ 690 มั่วชิงตวาด / ตอนที่ 691 พระชายางานยุ่ง

ชายาหยุดเย้าข้าเสียทีเถิด

ตอนที่ 690 มั่วชิงตวาด 

 

 

เซียวเหยี่ยนจากไปชั่วขณะ ก็มีเอกสารราชการค้างเป็นกองพะเนินตั้งนานแล้ว ดื่มชาน้ำผึ้งส้มโอเป็นเพื่อนหลิงอวี้จื้อแล้ว เซียวเหยี่ยนก็กลับไปห้องหนังสือเพื่อจัดการเอกสาร 

 

 

หลิงอวี้จื้อนั่งอยู่ใต้ตะเกียงน้ำมันดูสมุดบัญชีของจวนเซียวอ๋อง หรูเยียนไปแล้ว เรื่องเหล่านี้นางก็ต้องรับมือต่อ ถึงแม้เห็นตัวเลขก็ปวดหัว แต่เธอก็ต้องดูอย่างจริงจัง 

 

 

เพิ่งจะถึงสิบกว่าหน้า ก็มีสาวใช้ตัวน้อยเข้ามาส่งซุปโสมให้หลิงอวี้จื้อ หลิงอวี้จื้อวางสมุดบัญชีลง นวดดวงตาที่บวมเป่ง ไม่มีคอมเพิวเตอร์นี่ยุ่งยากไม่เบาเลยจริง ๆ 

 

 

สาวใช้ตัวน้อยวางซุปโสมบนโต๊ะ โค้งตัวแล้วออกไป 

 

 

เธอลุกขึ้นยกซุปโสมขึ้นมาจากโต๊ะ เห็นซุปโสมปล่อยไอร้อนฉุย เธอก็หยิบช้อนขึ้นมาคน เพิ่งเตรียมจะดื่ม จู่ ๆ ประตูห้องก็มีคนผลักเปิดออกมา คนที่เข้ามาคือหรูเยียนที่สีหน้าขาวซีด 

 

 

“พระชายา อย่าดื่มเพคะ” 

 

 

หลิงอวี้จื้อวางซุปโสมลงบนโต๊ะ มองหรูเยียนด้วยสีหน้าจริงจัง 

 

 

หนูเยียนก็ไม่พูดอะไร เดินไปข้างโต๊ะ ยกซุปโสมขึ้นมาเทลงพื้น ควันสีขาวพวยพุ่งจากพื้นพรม เห็นได้ชัดว่ามีคนวางยาพิษในซุป 

 

 

หรูเยียนวางชามลง คุกเข่ากับพื้นตรง ๆ 

 

 

“พระชายา บ่าวเป็นคนวางยาพิษเองเพคะ” 

 

 

“ดังนั้นตอนนี้เจ้ากลับใจแล้วหรือ” 

 

 

ใจของหลิงอวี้จื้อเหมือนถูกอะไรทุบ เธอคิดไม่ถึงว่าหรูเยียนจะวางยาตนได้ หรูเยียนก็เกิดความคิดเช่นนี้กับตนได้หรือ 

 

 

หรูเยียนย่อมรู้ดี หากเอ่ยปากห้ามไปจะหมายความว่าอย่างไร แต่นางก็ไม่เสียใจ หากนางฆ่าหลิงอวี้จื้อจริง ๆ นางถึงจะเสียใจจริง ๆ 

 

 

ตลอดทางที่วิ่งมา จู่ ๆ นางก็นึกถึงเมื่อห้าปีก่อน ตอนที่ชิวจวี๋ทำเรื่องเหลวไหลเหล่านั้น หลิงอวี้จื้อเห็นแก่หน้านางและให้โอกาสชิวจวี๋ครั้งแล้วครั้งเล่าอย่างไร เข้ามาปลอบใจนางเองอย่างไร 

 

 

เห็นอยู่ว่านางตัดสินใจนานแล้วว่าจะจงรักภักดีหลิงอวี้จื้อตลอดไป และไม่รู้ว่าตั้งแต่เมื่อใด ที่นางมีความคิดอื่น คงจะเป็นตอนที่นางเริ่มดูแลเรื่องในจวนมากมายยิ่งขึ้น ทำให้นางเกิดภาพลวงตาว่า จวนเซียวอ๋องแห่งนี้เป็นของนาง 

 

 

นางไม่ควรมีความคิดเช่นนี้ และไม่ควรหลงรักเซียวเหยี่ยน ทั้งหมดนี้ล้วนเป็นสิ่งต้องห้าม แต่นางกลับทำทุกอย่าง 

 

 

มั่วชิงอยู่ตรงประตูอยู่แล้ว ได้ยินเสียงเคลื่อนไหว ก็รีบวิ่งเข้ามาเช่นกัน เห็นหรูเยียนคุกเข่ากับพื้น พื้นพรมยังมีควันขาวลอยเป็นสาย นางก็เข้าใจทุกอย่าง บันดาลโทสะตวาดว่า 

 

 

“หรูเยียน เจ้าบ้าไปแล้วจริง ๆ ตอนนั้นชิวจวี๋ก็เสียความรู้สึกผิดชอบชั่วดี เดิมข้าหลงคิดว่าเจ้าไม่เหมือนกัน นึกไม่ถึงว่าเจ้าก็ทำเรื่องเช่นนี้ได้ 

 

 

ห้าปีมานี้ท่านอ๋องให้ความสำคัญกับเจ้ามากจริง ๆ เจ้ารู้หรือไม่ว่าเหตุใด ทั้งหมดนั้นก็เพราะพระชายา 

 

 

เพราะเจ้าเป็นคนที่พระชายาเคยไว้วางใจ ท่านอ๋องรักพระชายามาก ดังนั้นจคงปฏิบัติกับคนของพระชายาอย่างดี เขาทำเช่นนี้ไม่ใช่เพราะว่าเจ้าคือหรูเยียน 

 

 

เจ้าก็สำคัญตัวผิดไปเสียแล้วจริง ๆ เจ้ามีความสามารถจริง แต่ในจวนนี้ไม่ได้ขาดแคลนคนมีความสามารถ ที่เจ้าได้ทั้งหมดมานี้ สาเหตุมาจากพระชายาทั้งสิ้น เจ้าไม่รู้จักบุญคุณ ซ้ำยังเกิดความคิดชั่วช้า พฤติกรรมเช่นนี้ต่างกับชิวจวี๋ตรงไหน” 

 

 

หรูเยียนไม่โต้ตอบ นางรู้ว่ามั่วชิงพูดถูกทั้งหมด หากคนอื่นทำเรื่องเช่นนี้ มั่วชิงก็คงไม่พูดมาก แต่หรูเยียนไม่เหมือนคนอื่น พวกนางสองคนล้วนเป็นคนของหลิงอวี้จื้อ สองคนพบหน้ากันทุกวันเช้าเย็น ความสัมพันธ์ก็ดี คนที่เงียบสุขุมมาตลอดอย่างมั่วชิงถึงได้มีอารมณ์ขึ้นมา 

 

 

“พระชายา ฆ่าบ่าวเถิด บ่าวผิดเอง บ่าวไม่ควรคิดจะฆ่าแกง บ่าวขออภัยพระชายาเพคะ” 

 

 

หรูเยียนก้มหน้า น้ำเสียงสำนึกผิด คราวนี้นางรู้สึกขอโทษหลิงอวี้จื้อจริง ๆ 

 

 

“ยังดีที่เจ้ามาเร็วไปก้าวหนึ่ง มิเช่นนั้นข้าคงตายด้วยน้ำมือเจ้า หรูเยียน ข้าไม่โทษเจ้า แต่ข้าผิดหวัง ถึงแม้เราจะเป็นนายบ่าวกัน แต่ข้าก็ปฏิบัติกับเจ้าอย่างดี เจ้ากับมั่วชิงต่างเป็นแขนซ้ายแขนขวาของข้า ขาดคนใดคนหนึ่งไปมิได้ 

 

 

เจ้าเองที่เป็นคนล้ำเส้นข้าก่อน ข้าไม่ฆ่าเจ้า หรูเยียน เจ้าไปเถิด ต่อไปวาสนาการเป็นนายบ่าวของเราสิ้นสุดตรงนี้ เงินที่สัญญาจะให้เจ้าก็ยังให้เช่นเดิม แต่ต่อไปอย่ามาให้ข้าเห็นหน้าอีก” 

 

 

 

 

 

 

 

 

ตอนที่ 691 พระชายางานยุ่ง​​​​​​​ 

 

 

ผ่านประสบการณ์ครั้งนี้ไป หลิงอวี้จื้อรู้ว่าในใจเธอกับหรูเยียนเกิดความบาดหมาง สองคนไม่สามารถเป็นเหมือนเมื่อก่อนได้อีกแล้ว หรูเยียนตาสว่างในวินาทีสุดท้าย ด้วยเหตุนี้เธอจึงยินดีปล่อยหรูเยียนไป เพียงแต่การเป็นนายบ่าวสิ้นสุดลงเท่านี้ 

 

 

“พระชายารักษาตัวด้วยเพคะ ระวังแม่นมกุ้ยให้ดี” 

 

 

หรูเยียนไม่รู้ว่าตนเองจะพูดอะไรได้อีก นางโขกหัวให้หลิงอวี้จื้ออย่างตั้งใจ กลับหลังหันออกไปจากห้อง 

 

 

หรูเยียนไปแล้ว หลิงอวี้จื้อก็สั่งการ 

 

 

“มั่วชิง เจ้าไปตรวจสอบแม่นมกุ้ยคนนั้นให้ดี ตรวจสอบเสร็จแล้วไม่ต้องเก็บเอาไว้” 

 

 

“ข้าน้อยเข้าใจแล้วเพคะ” 

 

 

มั่วชิงขานรับ แล้วออกไปอย่างรวดเร็ว 

 

 

มั่วชิงไปแล้ว หลิงอวี้จื้อก็ให้คนทำความสะอาดยาพิษบนพื้นพรมให้สะอาด ไม่ได้ดูบัญชีมาสักพักแล้ว แม้แต่หรูเยียนที่ไว้ใจได้ก็กลายเป็นไว้ใจไม่ได้แล้ว น่าขนลุกจริง ๆ เมื่อครู่ยังดีที่ตัวเองดวงแข็ง มิเช่นนั้นคงถูกหรูเยียนวางยาพิษตายไปแล้ว หากตายด้วยน้ำมือของหรูเยียน ตายไปเธอก็คงโมโหจนฟื้นขึ้นมาใหม่ได้ 

 

 

เธอไม่อยากให้เซียวเหยี่ยนกังวล ด้วยเหตุนี้ตนเองจึงจัดการเรื่องนี้เอง และไม่ได้คิดจะบอกเซียวเหยี่ยน 

 

 

ผ่านไปสักครู่ มั่วชิงก็กลับมา รายงานเสียงต่ำว่า 

 

 

“พระชายา ถามได้ความชัดเจนแล้วเพคะ แม่นมกุ้ยคนนั้นถูกส่งตัวมาจากทางเมืองหลวง เป็นคนของไทเฮา ข้าน้อยกำจัดนางไปแล้ว” 

 

 

คำตอบนี้หลิงอวี้จื้อคิดเอาไว้แล้ว เธอพยักหน้า ยังดีที่จบทุกอย่างนี้อย่างรวดเร็ว เซียวเหยี่ยนไม่ฆ่าเฉินมั่วฉือได้ แต่มู่หรงกวานเย่ว์จะต้องตาย 

 

 

วันถัดมาตอนเช้า หรูเยียนออกไปจากวังเซียวอ๋อง นางไม่ได้เอาเงิน ออกไปจากจวนเงียบ ๆ คนเดียว 

 

 

เมื่อหรูเยียนไปแล้ว จวนเซียวอ๋องก็กลับสู่ความสงบ เซียวเหยี่ยนธุระยุ่งทุกวัน มีใบหน้าที่ไม่คุ้นเคยเข้าออกห้องหนังสือในจวนไม่ขาดสาย เซียวเหยี่ยนธุระยุ่ง ทางด้านหลิงอวี้จื้อก็ไม่ต่างกัน เธอรับช่วงดูบัญชีทั้งหมด ดูบัญชีทีละเล่ม นอกจากกินข้าวกับนอนแล้ว แทบไม่มีเวลาว่าง 

 

 

เมืองหลวงก็เป็นเช่นนี้เหมือนกัน ผิวเผินดูเงียบสงบ ในความเป็นจริงคลื่นใต้น้ำกำลังพุ่งพล่าน 

 

 

วังกานเฉวียนกงของเฉินมั่วฉือ ทุกวันก็มีขุนนางเข้า ๆ ออก ๆ ราชสำนักเช่นเดียวกัน บางครั้งเฉินมั่วฉือปรึกษาหารือกับพวกเขาจนดึกดื่นเที่ยงคืน ทุกคนต่างเข้าใจดี เซียวเหยี่ยนจะส่งกองทัพออกมาแล้ว 

 

 

มู่หรงกวานเย่ว์ให้จื่ออีเดินทางไปเอาตัวเซียงหนานมาจากจวนมู่หรงด้วยตนเอง บอกกับคนอื่นว่านางคิดถึงมู่หรงเซียงหนาน อยากจะรับมู่หรงเซียงหนานมาพักอยู่ชั่วคราว ปกติมู่หรงกวานเย่ว์รักใคร่เอ็นดูมู่หรงเซียงหนานมาก ด้วยเหตุนี้จึงไม่มีใครแคลงใจสงสัย 

 

 

รู้ว่าจูจิ่นอยากรับมู่หรงเซียงหนานกลับไป แต่ทางวังฉางเล่อกงปฏิเสธด้วยเหตุผลต่าง ๆ นานา ใจนางเริ่มระส่ำระสายอยู่ไม่สุขแล้ว 

 

 

วันนี้จูจิ่นมาที่วังฉางเล่อกงอีกครั้ง มู่หรงกวานเย่ว์ย่อมรู้เจตนาที่จูจิ่นมา แต่แสร้งทำเป็นไม่พูดถึง จูจิ่นไม่เห็นมู่หรงเซียงหนานออกมา รอยยิ้มบนใบหน้าเริ่มจะหดหายไป 

 

 

“ไทเฮา เซียงหนานล่ะเพคะ” 

 

 

“เขาหลับแล้ว อาจิ่น เซียวหนานอยู่กับเราที่นี่ เจ้ายังมีอะไรกังวลใจหรือ เหตุใดเพียงแค่สามวันเจ้าก็มาถึงสองครั้งแล้ว” 

 

 

ความไม่สบายใจของจูจิ่นยิ่งทวีมากขึ้นทุกที สองสามวันมานี้นางนอนไม่หลับเลย ใบหน้าก็เริ่มซีดเซียว 

 

 

“ไทเฮา ข้าไม่ได้หมายความเช่นนี้ เพียงแต่ข้าไม่พบเซียงหนานสักพักแล้ว เริ่มคิดถึงเขาแล้ว ท่านพ่อก็คิดถึงเซียงหนานแล้ว เซียงหนานอยู่ในวังฉลางเล่อกงสามสี่วันมานี้ก็สร้างความวุ่นวายให้ไทเฮา เช่นนั้นวันนี้ให้ข้ารับเซียงหนานกลับไปดีกว่าเพคะ!” 

 

 

“เซียงหนานอยู่ที่นี่สุขสบายดี ให้เราอบรมดูแลเซียงหนานก่อน อาจิ่น เจ้าไม่ดีใจหรือ” 

 

 

จูจิ่นไม่ดีใจแน่นอน มู่หรงเซียงหนานเป็นลูกชายเพียงคนเดียวของนาง ไม่เพียงแต่ไม่ดีใจ เกรงว่ามู่หรงหงก็ไม่ดีใจด้วย สองสามวันมานี้ไม่เห็นมู่หรงเซียงหนาน มู่หรงหงก็บ่นอยู่ทุกวัน 

 

 

ในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อเช่นนี้ มู่หรงกวานเย่ว์พูดเรื่องจะดูแลมู่หรงเซียงหนานขึ้นมา ย่อมมีจุดประสงค์อื่นแน่ เห็นอยู่ว่านางกับหลิงอวี้จื้อตัดขาดความสัมพันธ์กันแล้ว เหตุใดไทเฮายังคงจับจ้องนางอยู่