กลลวง นายสุดเท่ห์ ชาร์ลี เวธ บทที่ 846
เอเลนรู้ดีว่านี่เป็นการข่มขู่ ตราบใดที่เธอเริ่มที่จะกินและตราบใดที่เธอเอื้อมมือไปแตะกล่องอาหาร เธออาจจะต้องทนกับการถูกทุบตี
ดังนั้น เอเลนจึงร้องไห้ออกมา เธออ้อนวอนขอร้อง “พี่เจนนิเฟอร์ พี่ทุบตีและดุด่าฉันไปมากเท่าที่พี่ต้องการเมื่อวานนี้แล้ว ได้โปรดเมตตาฉันและปล่อยฉันไปในวันนี้ได้ไหม?”
เจนนิเฟอร์ยักคิ้วก่อนจะพูดว่า “คือถ้าฉันปล่อยแกไป แม่ที่ตายของฉันจะฟื้นขึ้นมาเหรอ? แกรู้ไหม ว่าแม่ของฉันต้องทรมานแค่ไหนตอนที่แม่กินยาฆ่าแมลงและนอนหายใจไม่ออกตายอยู่บนเตียงในโรงพยาบาล”
เอเลนร้องไห้ขณะที่เธอพูดว่า “พี่เจนนิเฟอร์…ฉันรู้ว่าพี่เป็นลูกสาวที่กตัญญู แต่ฉันไม่ได้ทำร้ายแม่ของพี่แต่อย่างใดเลย…”
เจนนิเฟอร์ตอบอย่างโกรธเคือง “แกยังจะพูดเรื่องไร้สาระกับฉันอยู่อีกเหรอ? ให้ฉันบอกอะไรแกสักอย่างเถอะ แม่ของฉันถูกฆ่าตายเพราะลูกสะใภ้เนรคุณ! นั่นคือเหตุผลที่ฉันรู้สึกแย่เมื่อเจอคนแบบแก! แกควรจะดีใจที่ในตอนนี้ เราไม่ได้อยู่ในสมัยโบราณ ไม่อย่างนั้นฉันคงจะสับแกเป็นชิ้น ๆ แล้ว!”
คุณท่านวิลสันตอบอย่างอิ่มอกอิ่มใจ “เจนนิเฟอร์ คุณพูดถูก! ผู้หญิงแบบนี้ในสมัยโบราณจะถูกขังอยู่ในกรงหมู! เราควรขังเธอไว้ในกรงไม้ไผ่ที่มีหินก้อนใหญ่อยู่สองสามก้อน ก่อนที่จะโยนลงไปในแม่น้ำให้จมน้ำตาย!”
เอเลนตกใจมากจนไม่กล้าพูดอะไรเลย เธอไม่กล้าแม้แต่จะก้าวไปข้างหน้าเพื่อหยิบข้าวกล่องของตัวเอง เธอทำได้เพียงคุกเข่าต่อหน้าเจนนิเฟอร์เหมือนเด็กที่กระทำความผิด
เจนนิเฟอร์กินข้าวต้มจนช้อนสุดท้ายเสร็จแล้ว และที่เธอใช้ซาลาเปากวาดเก็บเม็ดข้าวที่เหลือในกล่องอาหารก่อนที่เธอจะกินมันทั้งหมดในคำเดียว
หลังจากนั้นเธอก็อุทานออกมาว่า “โอ้.. ฉันรู้สึกว่าฉันยังหิวอยู่นิดหน่อย”
ในเวลานี้ ผู้ต้องขังหญิงอีกคนหนึ่งชี้ไปที่ตะกร้า ก่อนจะพูดว่า “พี่เจนนิเฟอร์ ยังมีกล่องอาหารเหลืออยู่ในตะกร้าอีก พี่ควรกินมัน!”
เจนนิเฟอร์มองที่เอเลนและเธอยิ้มและจงใจพูดว่า “นี่ เอเลน แกจะรังเกียจไหม ถ้าฉันกินข้าวเช้าของแก?”
“ไม่ ฉันไม่รังเกียจ ฉันไม่รังเกียจเลย!” เอเลนจะกล้าพูดอย่างอื่นได้ยังไง? เธอทำได้เพียงพยักหน้าซ้ำ ๆ
เจนนิเฟอร์ยิ้มก่อนจะพูดว่า “ฉันดีใจที่แกไม่รังเกียจหรือวิจารณ์อะไรทั้งนั้น แกเห็นไหม ว่าฉันชอบออกกำลังกายเป็นอย่างมาก ดังนั้นแล้ว ฉันจึงมีความอยากอาหารมากกว่าคนทั่วไป เมื่อวานฉันใช้แรงและพลังงานไปมากเพื่อทุบตีแก ดังนั้นวันนี้ฉันต้องกินมากขึ้นอีกเพื่อชดเชยมันซะหน่อย”
หลังจากนั้น เจนนิเฟอร์ก็เดินไปที่ตะกร้าก่อนจะหยิบกล่องอาหารออกมา หลังจากเปิดกล่องอาหาร เจนนิเฟอร์ก็หยิบซาลาเปาชิ้นหนึ่งไว้ในมือของเธอและถือกล่องข้าวข้าวต้มในมืออีกข้าง
เนื่องจากเจนนิเฟอร์ต้องการจงใจทรมานเอเลน เธอจึงจงใจซดข้าวต้มให้ดังที่สุดเท่าที่จะทำได้ เสียงอาหารเข้าปากของเจนนิเฟอร์ทำให้ขาของเอเลนอ่อนและเธอรู้สึกว่าท้องของเธอปั่นป่วนเพราะความหิว
เจนนิเฟอร์กินซาลาเปาจนหมดและเธอกินข้าวต้มไปหนึ่งในสามของทั้งหมด ก่อนที่เธอจะตั้งใจปล่อยกล่องอาหารลงกับพื้น ในเวลานี้ ข้าวต้มทั้งหมดหกลงพื้นทันที
เจนนิเฟอร์แสร้งทำเป็นหงุดหงิด เธอถอนหายใจและพูดว่า “อ้า! ฉันทำข้าวต้มหก ช่างน่าเสียดาย…”
ขณะที่เธอพูด เจนนิเฟอร์โบกมือไปที่เอเลนก่อนจะพูดว่า “ไปเอาไม้ถูพื้นในห้องน้ำ มาเช็ดตรงนี้ให้ฉัน”
เอเลนไม่เคยเป็นคนที่รู้สึกหวงอาหารมาทั้งชีวิต เธอไม่เคยกินข้าวของตัวเองจนหมดชามมาก่อน อย่างไรก็ตาม ในเวลานี้ เธอรู้สึกเป็นทุกข์อย่างมาก เมื่อมองดูข้าวต้มที่หกลงบนพื้น
เมื่อเจนนิเฟอร์เห็นเอเลนจ้องมองไปที่ข้าวต้มที่หกบนพื้น ก่อนที่เธอจะยิ้มและพูดว่า “เอเลน ถ้าแกหิวมาก แกก็คุกเข่าแล้วเลียมันซะสิ”
เมื่อเอเลนได้ยินคำเหล่านี้ เธอรู้สึกผิดและอับอายจนอยากตายจริง ๆ
คุกเข่าแล้วเลียมันเหรอ? พื้นตรงนี้สกปรกมาก! มีกี่คนแล้ว ที่เหยียบพื้นนี่? นอกจากนี้ไม้ถูพื้นในห้องน้ำก็ยังดำและเน่ามาก เธอจะก้มเลียข้าวต้มบนพื้นได้อย่างไร?
เธอจะไม่เลียข้าวต้มที่พื้น ต่อให้เธอจะต้องอดตายก็ตาม!
ขณะที่เธอคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้ เอเลนก็รีบพูดว่า “ฉันจะเอาไม้ถูพื้นมาทำความสะอาด”
เจนนิเฟอร์เย้ยหยันก่อนจะพูดว่า “แกจะทำอะไรก็ทำเถอะ แต่ในไม่ช้าก็เร็ว แกจะเลียอาหารที่พื้นแน่นอน! คอยดูเถอะถ้าไม่เชื่อฉัน!”