บัญชามังกรเดือด บทที่ 729 สามเรื่อง
จะเป็นไปได้ยัง?
ได้รับข่าวมาสามปีที่แล้วหูรั่วหลันอยู่ต่างประเทศ เพราะว่ารีบร้อนกลับประเทศ และสติไม่สมประกอบ ถูกรถยนต์ชนตายบนถนนแล้ว
การตายของเธอ ตระกูลหูได้คากการณ์ล่วงหน้าและถูกตัดขาดไปแล้ว คนมากมายคิดว่า ตระกูลหูได้จากโลกใบนี้ไปแล้ว
คาดไม่ถึงว่าการปรากฎตัวตอนนี้ ก็คือตัวแทนวิญญาณของตระกูลหู
ตระกูลหูยังเหลือทายาท
ทุกคนล้วนมีสีหน้าช็อก แต่หยางต้าว เว่ยเทียนเหอและจ้าวคง สีหน้าน่าเกลียดถึงขั้นสุด
ตั้งสติกลับมา หยางต้าวยิ้มอย่างเย็นชา : “คุณหนู่ใหญ่ คุณหมายความว่ายังไง?”
“คุณมีชีวิตกลับมาได้ คือเป็นเรื่องที่ดีที่ใหญ่มากๆ พวกเราล้วนรู้สึกถึงความสุขแทนคุณและตระกูลหูด้วย”
“ฉันจะผิดหวังได้ยังไงล่ะ”
“ฉันดีใจจนไม่ทันได้ตั้งตัว”
“คุณหนู่ใหญ่ลำบากแล้ว ถ้างั้นฉันจัดการให้เองคุณไปพักเถอะ”
“เข้ามา——”
จากที่ไกลๆ ลูกน้องใกล้ชิดสองสามคน รีบวิ่งเข้ามาทันที
หยางต้าวพุดอย่างหนักแน่น : “พาคุณหนู่ใหญ่ไปโรงแรมที่ดีที่สุด รักษาความปลอยภัยให้เธออย่างเคร่งครัด”
“เจ็บแม้แต่ปลายผม ฉันจะตัดหัวพวกนาย”
“ครับ!”
ลูกน้องหวาดกลัวและวิ่งไปทางหูรั่วหลัน เมื่อเทียบรูปร่างกับชายรูปร่างใหญ่ หูรั่วหลันที่บอบบางดูเหมือนว่าจะไม่มีแรงต่อต้านอะไร
“คุณหนู่ใหญ่ เชิญไปกับพวกเราเถอะ”
“วางใจ พวกเราจะปกป้องคุณเอง”
ลูกน้องคนหนึ่งพูดออกมาหนึ่งประโยค เมื่อเห็นหูรั่วหลันมองหน้าไม่พูดอะไร จู่ๆเขาก็อืมมือไปคว้าแขนของหูรั่วหลัน
เขาคือคนสนิทของหยางต้าว รู้ว่าวันนี้เรื่องสำคัญแบบนี้ หูรั่วหลันอยู่ต่อที่นี่ แน่นอนว่าเป็นอันตราย
ดังนั้น พูดว่าเชิญให้ไปพัก อันที่จริงแล้วความหมายมันคือการบังคับให้ออกจากจริงนั้น
สำหรับผู้หญิงที่สูญเสียครอบครัวที่ปกป้องดูแลคนหนึ่ง พวกเขาแสดงออกถึงความเคารพ ที่จริงแล้วในใจนั้นไม่ได้เป็นอย่างนั้นเลย
ในใจของพวกเขานั้น ผู้ที่มีฐานะสูงส่งที่ตกลงสู่พื้นดิน ดังนั้นตระกูลนี้ ถึงกล้าที่จะลากหูรั่วหลันมา
“นายมีสิทธิอะไร ยังกล้าแตะต้องฉัน!”
สายตาของหูรั่วหลันเปลี่ยนเป็นดุดัน ทันใดนั้นก็ก้าวขาออกมา เตะที่รวดเร็วและเฉียบคม เสียงดังปัง ทำให้สารเลวทั้งสองคนที่อยู่ตรงหน้าถูกเตะลอยออกไป
นี่มันเรื่องอะไร?
ทุกคนล้วนตกตะลึง นักเลงที่เหลือไม่กี่คนตอบสนองกลับมา ลงมือตามสัญชาตญาณ แผดเสียงด้วยความโกรธ พุ่งไปทางหูรั่วหลันในเวลาเดียวกัน
หูรั่วหลันโค้งเอวหมุนไป ขายาวโบยบิน ปังปังปังปัง เพียงชั่วพริบตาเดียว ทั้งหมดก็ถูกเตะลอยออกไป
ในตอนนี้บรรยากาศในงานวุ่นวายมาก
ผู้หญิงที่ร่างบอบบาง นึกไม่ถึงเลยว่าเป็นปรมาจารย์ที่ปิดบังไว้?
ในสายตาหยางต้าวปรากฏสายตาที่รุนแรง ยิ้มอย่างเยือกเย็น : “คุณหนู่ใหญ่ที่หายไปตั้งนาน ที่แท้ไปเรียนวิชาการต่อสู้กับปรมาจารย์มานี่เอง”
“แต่ฉันไม่เข้าใจอยู่อย่างหนึ่ง คุณหนู่ใหญ่ พวกเราล้วนเป็นคนจิตใจดี ทำไมจู่ๆคุณถึงเปลี่ยนหน้าล่ะ?”
“แม้ว่าเหล่าพี่น้องมีต้นกำเนิดที่ต่ำต้อย แต่ก็ต้องไว้หน้ากันบ้าง?”
คำพูดของเขา กลิ่นของการแก้แค้นก็ชัดเจนเป็นอย่างมาก บริเวณรอบๆพวกบอดี้การ์ดเหล่านั้น มีศัตรูคนเดียวกัน พร้อมกันกรูเข้ามาโดยไม่ได้นัดหมาย
เผชิญหน้ากับอะไรแบบนี้ หูรั่วหลันไม่กลัวแต่อย่างใด เธอโกรธแล้วพูดด้วยความเยือกเย็น : “ที่ฉันกลับมาในครั้งนี้ มีสามเรื่องที่ต้องสะสาง”
“เรื่องแรก มาเพื่อเซ่นไหว้พ่อแม่และพี่ชายของฉัน รวมไปถึงครอบครัวเหล่านั้น”
“เรื่องที่สอง สามปีที่แล้วพวกเขาตายไปโดยไม่มีความชัดเจน ฉันต้องหาความจริงเพื่อแก้งแค้นให้พวกเขา”
“ฆาตกรได้หนีกฎหมายมานานมากแล้ว ถึงตอนนั้นให้พวกเขาได้รับบทเรียนที่แสนแพง!”
ตอนที่พูดประโยคนี้ เขามองหยางต้าวอย่างหน้าตาย ดวงตาที่สวยงามแดงก่ำ
หยางต้าวใบหน้าเปลี่ยน ยิ้มอย่างเยือกเย็นโดยไม่พูด
คนอื่นๆได้ฟัง เกิดความวุ่นวายครั้งใหญ่ พวกเขาปรึกษาแบบกระซิบกระซาบกัน
คดีของตระกูลหูผ่านไปตั้งนานแล้ว ขณะนี้มีคนมากมายที่ตั้งข้อสงสัยต่อในส่วนของคดีนี้ แต่เรื่องก็ถูกกำหนดไว้ตั้งแต่แรกแล้ว
คิดไม่ถึงว่า ระยะเวลาสามปี ลูกสาวของตตระกูลหู ในฐานะที่เป็นทายาทคนเดียวที่เหลืออยู่ ก็ต้องสืบหาความจริงเพื่อแก้แค้นให้ตระกูล
“คุณหนู่ใหญ่ คุณเตรียมจะมาสืบหายังไงล่ะ?”
“ถ้าหากมีเส้นสาย รีบพูดออกมา ยินดีช่วยเหลือเจ้าของตระกูลหูอย่างดี เรื่องก่อนหน้านี้ยังถือว่าเชื่อถือผมอยู่”
“สถานที่ของผมใช้ได้ไหม คุณหนู่ใหญ่พูดออกมาได้เลย!”หยางต้าวยิ้มอย่างเย็นชา
เว่ยเทียนเหอและจ้าวคงที่อยู่ข้างๆ เพื่อปิดบังเรื่องราวก็รีบแสดงออก
ปากก็พูดคำพูดที่น่าเชื่อ แต่ในใจนั้นมีคำดูเหยียดหยามเป็นร้อย นอกจากพวกเขาแล้ว หลักฐานเดียวที่มีก็คือหวังเหล่าหู่ที่ถูกเผาตายในกองเพลิงแล้ว
โดยที่คุณเป็นตุ๊กตาผู้หญิงคนหนึ่ง ยังคิดที่จะแก้แค้น คุณจะแก้ยังไง?
แปลกคนจริงๆ
“จริงเหรอ?”
“ไม่คิดเลยว่าหยางต้าวมีความความห่วงใยและเป็นธรรมขนาดนี้ งั้นก็ต้องขอบคุณคุณแล้ว”
“ในเมื่อเป็นเช่นนั้น ฉันก็จะไม่เกรงใจแล้วนะ ดูแล้วยังมีเรื่องหนึ่งที่ต้องให้คุณช่วยเหลือ”
อืม?
มองดูหูรั่วหลันมีการวางแผนอยู่อย่างไงอย่างนั้น หยางต้าวอดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้ว
เขาดื้อดึง : “มีเรื่ออะไร ขอให้คุณหนู่ใหญ่บอกมาเถอะ”
ในสายตาของทุกคนที่อยู่ที่นั้น ล้วนจับจ้องไปบนตัวของหูรั่วหลัน ทุกคนอยากรู้ว่าคุณหนู่ใหญ่วที่นอกเหนือจากความคาดหมายคนนี้ จะให้หยางต้าวไปทำอะไร
หูรั่วหลันถอนหายใจ หลังจากนั้นตะโกนเสียงสูง : “ที่ฉันกลับมาครั้งนี้ ต้องการทำเรื่องที่สาม!”
“นั้นก็คือ รับช่วงต่อพ่อแม่ฉัน เป็นผู้นำใหญ่ในธุรกิจฮั่นจง!”
“อะไรนะ?”
“เธออยากเป็นผู้นำใหญ่?”หยางต้าวอึ้งไปสักพัก เขาคิดว่าหูรั่วหลันเพื่อที่จะทำให้เขาตกที่นั่งลำบาก อาจจะมีความต้องการที่ไม่สมเหตุสมผลอยู่บ้าง
แต่ก็ไม่คิดเลยแม้แต่น้อย ว่าต้องการเป็นผู้นำใหญ่
นี้ต้องการ สกัดขาของเขา?
กลับกัน เขาโกรธจนหัวเราะ
“คุณหนู่ใหญ่ คุณต้องรู้นะว่าตำแหน่งผู้นำใหญ่สำคัญมากแค่ไหน?”
“คุณเป็นแค่ตระกูลหญิงสาวคนหนึ่ง จะสามารถโน้มน้าวในประชาชนได้อย่างไร”
“ถึงแม้ผมจะสนับสนุนคุณ เถ้าแก่ทั้งหลายที่อยู่ตรงนี้ ก็ไม่มีทางเอาชะตากรรมของอนาคตฮั่นจง ไปอยู่ในมือคุณหรอก”
“ใช่ไง นี้ก็แค่ล้อเล่นเอง!”
“พูดจาเรื่อยเปื่อยจริงๆ ไร้สาระไม่สมเหตุสมผล”
คนหลายคน ต่างหัวเราะเยาะขึ้นมา พวกเขารู้สึกว่า หูรั่วหลันเป็นคนบ้าเพ้อฝัน
“ฉันกลับรู้สึก คุณหนู่ใหญ่จะมีเหตุผลมากกว่านี้นะ”
“น้องสาวรั่วหลันเกิดในตระกูลหู ถึงแม้เป็นทายาทของอดีตผู้นำใหญ่ มีแค่เขาที่รับช่วงต่อ และได้ผู้นำใหญ่คนใหม่ เชื่อมั่นถูกต้องและสมเหตุสมผล”
“คะแนนของผม โหวตให้คุณหนู่ใหญ่!”
“ผมสนับสนุนให้เธอเป็นผู้นำใหญ่”
ในที่สุดจงโฮ่วก็พูดออกมา อย่าได้มองแค่อายุเยอะ ผมขาวโพลน แต่มีสติครบถ้วน พลังเสียงดังก้อง
ฟังจากหูของทุกคน คำพูดที่ทำให้เกิดการสั่นสะเทือนครั้งใหญ่
“คุณพูดอะไร?”
“นายท่านจง คุณ——”หยางต้าวสีหน้าเปลี่ยน
ไม่ได้รอให้เขาพูดจบ รองผู้นำทั้งสามคนที่เพิ่งจะถูกบีบให้ลาออกมาลุกขึ้นที่ข้างๆจงโฮ่ว ก็พูดออกมาด้วยน้ำเสียงทุ่มต่ำ
“แม้ว่าพวกเราจะลาออกจากตำแหน่งแล้วแต่สิทธิในการโหวตของเรายังอยู่”
“พวกเรามีความคิดเห็นเหมือนกับนายท่านจง สนับสนุนคุณหนู่เป็นผู้นำใหญ่”
“คุณหนู่ใหญ่เกิดมาจากครอบครัวที่มีชื่อเสียง รับหน้าที่ผู้นำใหญ่แทนพ่อ แน่นอนว่าธุรกิจวิชาบู๊ของฮั่นจงเจริญรุ่งเรือง”
ในคนที่มีสิทธิออกเสียง สี่คนที่มีอำนาจบารมีที่สุด คาดไม่ถึงว่าจะมีการสนับสนุนรั่วหลันอย่างต่อเนื่อง!
การเปลี่ยนแปลงอย่างกะทันหัน ทำให้บรรยากาศในงานดูวุ่นวายอย่างมาก
หยางต้าวสีหน้าซีด เขากำหมัดแน่นทั้งสองข้าง กัดฟันจ้องไปที่จงโฮ่วและคนอื่นๆ ตอนนี้เขาก็ได้เข้าใจแล้ว ทำไมจงโฮ่วต้องการให้ฉันพาพวกเขามาที่นี่
ที่เรียกกว่าไหว้ก่อนแล้วค่อยเลือก เดิมที่มันก็เป็นข้ออ้างเท่านั้น
จงโฮ่วและรองผู้นำใหญ่ทั้งสามคน หักหลังเขามาตั้งนานแล้ว พวกเขาต้องการอยู่ฝ่ายเดียวกับหูรั่วหลัน มาสู้กับเขา